xs
xsm
sm
md
lg

"สุเทพ" ใช้สิทธิ์ ม.3 ทวงคืนอำนาจประชาชน จี้"ปู" ลาออก ไม่รักษาการณ์ เร่งตั้งสภา ปชช. ใน 8-12 เดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สุเทพ” แถลงการณ์ กปปส.ซัดรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ถูก “ทักษิณ” ชักใยให้ทำผิดกฎหมาย ใช้เสียงข้างมากละเมิดรัฐธรรมนูญ แถมประกาศตนอยู่เหนือกฎหมาย ขอใช้สิทธิ์มาตรา 3 ทวงคืนอำนาจประชาชนคืน รับเป็นกบฏแล้ว สับ "ปู" ตอแหลยุบสภา ยื่นข้อเสนอประกาศลาออก ไม่รับรักษาการณ์ ตั้งคนกลางนายกฯ ล้าง กม.เลือกตั้ง สร้างสภา ปชช. 8 - 12 เดือน จ่อเรียก ขรก.รายงานตัว ตั้งกองกำลังอาสารักษาความสงบแทนตร.



วันนี้ (9 ธ.ค.) ที่เวทีนางเลิ้ง เมื่อเวลา 18.00 น.แกนนำ กปปส.ได้ร่วมกันร้องเพลงชาติ ก่อนอ่านแถลงการณ์ โดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.กล่าวว่า ด้วยปรากฏข้อเท็จจริง การบริหารแผ่นดินโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย มีการใช้อำนาจโดยการสั่งการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีอาญา ให้ดำเนินการในเรื่องที่ไม่ชอบในกฎหมาย หลายประการ ใช้อำนาจเสียงข้างมากของรัฐสภา ละเมิดรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักการของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข หรือให้ได้อำนาจผิดวิถีทาง ด้วยการกระทำ 1.ใช้อำนาจรัฐสภาโดยพรรคเพื่อไทย และวุฒิสภา ใช้เสียงข้างมากแก้ไขรัฐธรรมนูญทำลายดุลยภาพและการตรวจสอบ จนศาล รธน.วินิจฉัยว่าการแก้ไขมิชอบ เพราะทำลายการตรวจสอบถ่วงดุล ทรยศความไว้วางใจของประชาชน ด้วยการกระทำใช้สิทธิแทนกัน ใช้เสียงข้างมากตัดสิทธิผู้แปรญัตติ รวมทั้งกลับเร่งนำทูลเกล้าฯ กฎหมายที่มีปัญหา โดยไม่สนใจต่อพระราชอำนาจ เป็นที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ประธานสภา ประธานวุฒิสภา รัฐมนตรีมหาดไทย ไม่ยอมรับคำวินิจฉัยเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญโดยชัดแจ้ง เป็นการประกาศตนอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ

2.ผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่มีการตระบัดสัตย์ล้างผิดให้ผู้กระทำผิดกฎหมายอาญาแผ่นดิน และย้อนหลังไปถึงปี 2547 มุ่งหมายให้ล้มล้างการทำผิดกรณี กรือเซะ ตากใบ และการปราบปรามยาเสพติด จนมีผู้เสียชีวิต 2,873 คน ซ้ำยังรวบรัดการลงมติในเวลา 04.30 น.เป็นการทรยศ ไร้ความเหมาะสม ขาดความชอบธรรม ขัดต่อการนิรโทษกรรมสากล ขัดต่อหลักการประชาธิปไตย โดยเสียงข้างมากเพื่อเอื้อประโยชน์แก่คนบางคน เร่งรีบโดยผิดวิสัยสุจริต ล้มล้างการใช้อำนาจตุลาการ ขัดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจอธิปไตย รัฐบาลไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้

3.รัฐเมินเฉยต่อการใช้กฎหมาย เป็นเหตุให้นักศึกษารามคำแหงถึงแก่ความตาย ตำรวจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ รู้เห็นการปิดล้อมโดยไม่รักษาความสงบ เลือกปฏิบัติให้มีสิทธิพิเศษเยียวยาพวกของตนในเหตุการณ์ปี 2553 เพียงเพื่อหวังผลทางการเมือง ให้ได้รับความชอบธรรมตามหลักการประชาธิปไตย

4.รัฐบาลเสียงข้างมากสร้างความแตกแยกในสังคม ปลุกปั่น ยุยง หลอกลวง ให้กระด้างกระเดื่องต่อกฎหมาย ใช้ความรุนแรงต่อประชาชนและตุลาการ ทำผิดกฎหมายแต่ไม่มีการดำเนินการ แต่ผู้ชุมนุมที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลกลับถูกเล่นงาน เช่นเดียวกับที่รัฐบาลใช้รัฐธรรมนูญต่อผู้อื่นทั้งที่ตัวเองฉีกรัฐธรรมนูญ ทำแต่เรื่องที่ตนได้ประโยชน์

5.ข่มเหงรังแกข้าราชการ ที่สุจริตโดยไม่เป็นธรรม แต่งตั้งผู้ด้อยประสบการณ์ พวกพ้อง ให้ดำรงตำแหน่งระดับสูง เพื่อรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ จนประเทศเสียหาย

6.ทุจริต ประพฤติมิชอบ อย่างกว้างขวาง ใช้ประชานิยมให้เกิดทุจริตเชิงนโยบาย ทำเสียหายทางเศรษฐกิจ ก่อหนี้สาธารณะจำนวนมาก ทำให้ความสามารถในการแข่งขันลดลงอย่างแรง เช่น โครงการจำนำข้าว, โครงการบริหารจัดการน้ำ และโครงการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท โดยการทุจริตต่างๆ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวได้ประโยชน์

กปปส.ไม่อาจยินยอมให้เผด็จการเสียงข้างมาก และทุนนิยมผูกขาด ใช้อำนาจโดยไม่เป็นไปตามครรลอง เมื่อรัฐบาลทรยศประชาชน ทำลายสัญญาประชาคมชัดเจน ประชาชนจึงไม่จำต้องอยู่ภายใต้อีกต่อไป จึงอาศัยอำนาจ รัฐธรรมนูญ มาตรา 3 ขอประกาศว่า ประชาชนมีความจำเป็นต้องพิทักษ์หลักการใช้สิทธิเรียกคืนอำนาจการปกครองแผ่นดินคืนสู่ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจ เป็นการประชาภิวัตน์เพื่อปฏิรูปประเทศให้ทุจริตหมด และให้การเมืองเป็นธรรมแก่ประชาชนทุกภาคส่วน

กปปส.ยืนยันว่า พวกเรามีความจงรักภักดีต่อสถาบัน และจะร่วมพิทักษ์ราชบัลลังก์ด้วยชีวิต กปปส.จะยึดมั่นใจพันธกรณีระหว่างประเทศ และรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ ขอความร่วมมือประชาชนร่วมสร้างอนาคต



ต่อมา นายสุเทพได้กล่าวปราศรัยว่า ต่อไปนี้ประชาชนได้เอาอำนาจคืนเรียบร้อยแล้ว คนชั่วเอาอำนาจที่ประชาชนมอบหมายไปใช้เพื่อประโยชน์ตน และ พ.ต.ท.ทักษิณ และบริวาร ที่เห็นชัดๆ รัฐสภา แทนที่จะตรากฎหมายเพื่อประเทศ แต่กลับไปออกกฎหมายช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่หนีคดี ล้างผิดให้คนยิงทหาร ตำรวจ ประชาชนบริสุทธิ์ เพราะเป็นพวกของมัน มันกระทำการด้วยพฤติกรรมที่เลวทรามทุกขั้นตอน โกงคะแนนให้ชนะ ไม่ฟังเสียงประชาชน พอต่อต้านนายกฯ ก็ออกมาแก้ตัวไม่เกี่ยวกับรัฐบาล แล้วไม่ใช่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือที่กุมเสียง ขณะที่ประชาชนเดินชุมนุมก็ให้วุฒิสภาคว่ำกฎหมายดองไว้ใน 180 วัน เอาอำนาจไปแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อรวบอำนาจทั้งรัฐสภา ต่อไปจะแต่งตั้งองค์กรอิสระก็อยู่ในกำมือพวกมันหมด พอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าผิด แถมกระทำการล่วงพระราชอำนาจทูลเกล้าฯ ร่างกฎหมายที่มีปัญหา

"ตั้งแต่ชุมนุมมาผิดกฏหมายเล็กๆ น้อยๆ แต่ถูกยัดเยียดข้อหากบฏ แต่จากแถลงการณ์เมื่อสักครู่ กูเป็นกบฏแล้ว มาเลย กูไม่ยอมอีกแล้ว จะต้องเป็นจะต้องตายเพื่อแผ่นดินนี้กูยอมโว้ย"นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวว่า กปปส.ตัดสินใจแล้วว่า ถ้าจะเป็นอะไรก็ให้มันเป็นไป และยินดีที่จะเป็น ไม่ถอยหลัง ไม่ประณีประนอมเพราะเรื่องของชาติไม่ใช่เรื่องที่ประนีประนอม แพ้หรือชนะเท่านั้น ถ้าแพ้ก็ก้มหน้าก้มตาเป้นขี้ข้าและจะไม้ร้องไห้เพราะได้สู้แล้ว แต่ถ้าได้สู้ให้แผ่นดินขจัดระบอบทักษิณแผ่นดินจะสูงขึ้น ลูกหลานจะเป็นเสรีชน นี่คือเดิมพันครั้งสำคัญสำหรับประเทศ ใครจะถือหางข้างทักษิณเชิญ ใครถือหางประชาชนมา ไม่มีความเป็นกลางระหว่างความถูกกับผิด วันนี้ประชาชนที่มาเลือกแล้วว่านี่คือข้างที่ถูก มีคนถามตนว่าแล้วยังไง ตนบอกว่า เมื่อตนแถลงการณ์ว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน แปลว่าประชาชนจะเป็นคนจัดการบริหารประเทศเอง นั่นหมายความว่า ต่อจากนี้ประชาชนจะแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลของประชาชน เราจะจัดเวทีสภาประชาชนแทนพวกที่ทรยศ

นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเชื่อว่า ตอนนี้คงสุมหัวว่าจะจัดการกับพวกเรายังไง คนชั่วช้าเลวทรามมันไม่เห็นประชาชนอยู่ในสายตา มันเชื่อแต่อำนาจและเงิน ทั้งนี้เราจะจัดการปฏิรูปเพื่อความสุขของประชาชนทุกสี อย่างเป็นธรรม เราใช้คำว่า ประชาภิวัฒน์ คนบางคนกล่าวหาว่าเป็นกบฏ แต่ไม่ใช่อำนาจเป็นของเรา แต่ผิดเองที่ไปยกไว้ให้มันบำรุงบำเรอพวกพ้อง วันนี้นายกฯ ยุบสภา แล้วอ้างว่าคืนอำนาจให้ประชาชน ถือเป็นเรื่องตอแหลจริงๆ ประชาชนไม่ได้โง่ ให้ไปเลือกตั้งแล้วมีอะไรเหมือนเดิมก็กลับมาเหมือนเดิม ตนไม่กลัวเลือกตั้งเพราะตนไม่ลงอีกแล้ว แต่ตนไม่ต้องการให้คนมาหลอกลวงว่าถ้าคืนอำนาจแล้วมันจะแพ้ แต่คนดีสู้เงินและอำนาจไม่ได้ ไปเลือกตั้งได้แต่ต้องเขียนกฏหมายเลือกตั้งใหม่ ตรวจสอบกลโกง ปฏิรูปพรรคการเมือง ให้เวลาสภาประชาชนเร็วที่สุด 8 - 12 เดือน ให้การเลือกตั้งสะท้อนความต้องการประชาชนจริงๆ ไม่ใช่เป็นบันใดเพื่ออำนาจ และต้องไปจัดการคอรัปชั่น ให้ไม่หมดอายุความไปจนตาย และการกระจายอำนาจให้คนต่างจังหวัดเลือกตั้งผู้ว่าฯ เลิกส่วนภูมิภาคให้มีส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น และปรับโครงสร้างตำรวจให้ตำรวจอยู่ภายใต้ประชาชน รวมถึงเขียนรัฐธรรมนูญห้ามใช้นโยบายประชานิยม เป็นต้น

นายสุเทพ กล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้อ่อนไหว คนที่โลกสวยงาม ก็จะกดดันให้กลับบ้าน แต่ตนจะบอกว่า ถ้าพี่น้องไม่ถอยตนก็ไม่ถอย สู้กันมาขนาดนี้แล้วเอาชัยชนะจอมปลอมกลับไปไม่เอา ตนอยากจะบอกน.ส.ยิ่งลักษณ์ ถ้ามีความจริงใจ พรุ่งนี้ลาออกตอนเช้า แล้วทำหนังสือกราบบังคมทูลไม่ยอมรักษาการณ์ แล้วโอกาสนั้นก็จะหานายกฯ คนใหม่ที่เป็นคนกลางให้ประเทศนับหนึ่ง แม้จะไม่ใช่วิธีที่เราสู้แต่ก็พอรับได้ หลังการแถลงการณ์ถือว่ารัฐบาลเป็นรัฐบาลเถื่อนสั่งการไม่ได้แล้ว แต่ถ้าจะสั่งการต้องมาแย่งชิงอำนาจจากพวกตน และจะได้วัดใจข้าราชการว่าอำนาจเป็นของประชาชนยังจะรับใช้รัฐบาลปาราชิกอีกต่อไปหรืออย่างไร

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า เราสู้กันมาหลายวัน ต่ออีกสัก 5 - 10 วันได้หรือไม่ พวกตนก็ต้องไปหารือให้เข้าใจเพื่อออกมาตรการต่อไป เราจะให้โอกาสกับทุกฝ่าย เราจะนอนรออยู่กลางถนน ทั้งนี้ กปปส.จะเรียกข้าราชการมารายงานตัว ใครมาก็อยู่ใต้อำนาจประชาชน ใครไม่มาก็อยู่ใต้กระโปรงยิ่งลักษณ์ และระบอบทักษิณ หลังจากนี้พวกตนจะทยอยประกาศให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง กปปส.ขอความกรุณาประชาชนจัดตั้งกองกำลังอาสารักษาความสงบรักษากฏหมายแทนตำรวจ ซึ่งกองกำลังนี้จะเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้ต่อไป

คำต่อคำ แถลงการณ์ กปปส.วันที่ 9 ธันวาคม 2556

"ด้วยปรากฏข้อเท็จจริงชัดแจ้งว่า การบริหารราชการแผ่นดิน โดยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อันมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ มีการใช้อำนาจภายใต้การครอบงำและสั่งการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษในคดีอาญา ซึ่งหลบหนีคดีอยู่ในต่างประเทศ และใช้อำนาจเหนือรัฐบาล และรัฐสภา ซึ่งเป็นเพียงหุ่นที่ถูกเชิดให้ดำเนินการในเรื่องที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย หลายประการ

มีการใช้อำนาจโดยเสียงข้างมากของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา อันเป็นการละเมิดต่อรัฐธรรมนูญ กฎหมายและหลักการสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย บิดเบือนการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยไม่เป็นไปตามวิถีทาง ตามรัฐธรรมนูญ ด้วยการกระทำดังต่อไปนี้

ประการที่ 1 การใช้อำนาจของรัฐสภา ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย และสมาชิกวุฒิสภาจำนวนหนึ่ง ซึ่งตกอยู่ภายใต้อำนาจการครอบงำทางการเงินของรัฐบาลหุ่น ได้ร่วมกันใช้อำนาจโดยมิชอบ แบบเผด็จการเสียงข้างมากในรัฐสภา ไม่นำพาเสียงคัดค้านของประชาชน แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อทำลายดุลยภาพของการใช้อำนาจและการตรวจสอบ จนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ทำลายกลไกการตรวจสอบ ถ่วงดุล ระหว่างสภาผู้แทนราษฎรกับวุฒิสภา และระหว่างรัฐสภากับรัฐบาล โดยทำการฉ้อฉลและทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน ด้วยการกระทำที่ไม่ชอบด้วยคุณธรรม และจริยธรรม ทำการลงมติแทนกัน และใช้เสียงข้างมากตัดสิทธิ์ของสมาชิกรัฐสภา ผู้สงวนความเห็นและแปลญัตติ ซึ่งไม่ใช่การใช้เสียงข้างมากโดยชอบธรรมเยี่ยงที่ปฏิบัติกันในนานาอารยประเทศ ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า การกระทำทั้งหมดนั้น เป็นการกระทำที่มีผล เป็นการทำลายหลักนิติธรรม และหลักประชาธิปไตย และเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยไม่เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญ ทั้งๆ ที่รู้ว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล และองค์กรอื่นของรัฐ ตามมาตรา 216 วรรค 5 แต่รัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี กลับเร่งนำร่างรัฐธรรมนูญที่มีปัญหาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย โดยไม่นำพาต่อรัฐธรรมนูญและคำวินิจฉัยของรัฐธรรมนูญ และไม่สนใจว่าจะกระทบกระเทือนต่อพระราชอำนาจ และเป็นที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท

นอกจากนั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นคนของพรรคเพื่อไทย และประธานวุฒิสภา ตลอดจนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นผู้รักษากฎหมายและความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง กลับแถลงชัดเจนว่า ไม่ยอมปฏิบัติตามคำวินิจฉัยดังกล่าว อันเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญโดยจงใจชัดแจ้ง ทั้งที่ตนมีหน้าที่ต้องเคารพและรักษาความเป็นกฎหมายสูงสุดของรัฐธรรมนูญ จึงเป็นการกระทำย่ำยีต่อหลักนิติธรรมที่ร้ายแรงที่สุด และเป็นการประกาศตนอยู่เหนือรัฐธรรมนูญอีกด้วย

ประการที่ 2 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่นำโดยกลุ่มการเมืองเผด็จการเสียงข้างมาก ทำการผ่านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิด เนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง และการแสดงออกทางการเมือง พ.ศ. ซึ่งตอนแรกแถลงว่า จะนิรโทษกรรม เฉพาะผู้เข้าร่วมชุมนุม ไม่รวมผู้สั่งการ แต่ท้ายที่สุด กลับตระบัดสัตย์ รวบรัดแก้ไขร่างกฎหมายดังกล่าว เพื่อประโยชน์ตนและพวงพ้อง โดยล้างผิดให้แก่ผู้กระทำความผิดกฎหมายอาญาแผ่นดิน ที่เป็นความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ หรือคอร์รัปชั่น รวมถึงการกระทำความผิดมหันตโทษ และนิรโทษกรรมย้อนหลังไปถึงปี 2547 โดยมุ่งหมายที่จะให้ลบล้างการกระทำความผิด กรณี กรือเซะ ตากใบ และการกระทำตามนโยบายในการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งการกระทำความผิดครั้งนั้น เป็นนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 2,873 คน อันเป็นการไม่ชอบ ด้วยหลักนิติธรรมตามรัฐธรรมนูญ ทั้งยังรวบรัดลงมติเรื่องสำคัญดังกล่าว ในเวลา 04.30 น. เป็นการทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน เป็นการนิรโทษกรรมแบบไร้เหตุผล ไร้ความเหมาะสม ขาดความชอบธรรม ไม่ยึดหลักคุณธรรมทางกฎหมาย ขัดต่อหลักการนิรโทษกรรมสากล ที่ห้ามมิให้นิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำการทุจริตคอร์รัปชันในวงราชการ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง แม้แต่ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ก็ได้แถลงเตือนเอาไว้ ไม่ให้กระทำการดังกล่าวมาก่อนหน้านั้นแล้ว

นอกจากนี้ ยังขัดต่อหลักการประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง เพราะกล่าวอ้างว่า หลักการประชาธิปไตยโดยเสียงข้างมาก เพื่อเอื้อประโยชน์แก่บุคคลบางคน กระทำการรวบรัด เร่งรีบ ผิดวิสัยของผู้สุจริต เป็นลักษณะของเผด็จการเสียงข้างมาก ไม่รับฟังเสียงข้างนอก โดยไม่มีเหตุผล ทั้งยังเป็นการล้มล้างการใช้อำนาจของฝ่ายตุลาการและองค์กรตรวจสอบ ขัดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจอธิปไตย และบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้ง แม้นายกรัฐมนตรีจะอ้างว่ารัฐบาลไม่ใช่ผู้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว แต่ในความเป็นจริง รัฐบาลนี้คุมเสียงข้างมากในรัฐสภา นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลจึงไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบดังกล่าวได้

ประการที่ 3 รัฐบาลเพิกเฉยต่อการใช้ความรุนแรง ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายของกลุ่มมวลชนที่สนับสนุนรัฐบาล เป็นเหตุให้นักศึกษารามคำแหงถึงแก่ความตาย ให้ตำรวจซึ่งเป็นกลไกของรัฐในการรักษาความสงบเรียบร้อย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปกป้องชีวิตของนักศึกษาผู้บริสุทธิ์ รู้เห็นเป็นใจให้มีการปิดล้อมนักศึกษา โดยไม่คำนึงถึงหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยที่ตนเป็นรัฐบาล

นอกจากนั้น รัฐบาลยังเลือกปฏิบัติ กรณีที่คนของฝ่ายตนได้รับความเสียหายจากเหตุจลาจลในปี 2553 ให้มีสิทธิ์พิเศษเหนือกว่าผู้เสียหายทั่วไป โดยได้รับการเยียวยาเหนือกว่าทหาร ตำรวจ และพลเรือน ที่ปฏิบัติหน้าที่ให้แก่ประเทศชาติ ทั้งที่คนหลายคนเหล่านั้นเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำผิดร้ายแรง เพียงเพื่อหวังผลในทางการเมือง เพื่อให้ตนได้อำนาจรัฐอันไม่ชอบด้วยหลักการในระบอบประชาธิปไตย

ประการที่ 4 รัฐบาลและรัฐสภาที่นำโดยกลุ่มการเมืองเผด็จการเสียงข้างมากในรัฐสภา กระทำการหลายประการ ทั้งทางตรงและทางอ้อม สร้างความแตกแยกในสังคมไทยอย่างรุนแรง ร้าวลึกและกว้างขวาง ทำการปลุกปั่นยุยง และหลอกลวงในหมู่ประชาชน เพื่อให้กระด้างกระเดื่องต่อกฎหมายแผ่นดิน ใช้กำลังมวลชนข่มขู่ และใช้ความรุนแรงต่อประชาชน และผู้ปฏิบัติหน้าที่ในองค์กรตุลาการ อันเป็นการกระทำผิดกฎหมาย แต่รัฐบาลก็ไม่ดำเนินการใดๆ ในขณะที่ผู้ชุมนุม ซึ่งไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล กลับถูกรัฐบาลนี้ใช้กฎหมายเล่นงานอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นการกระทำ 2 มาตรฐานอย่างเห็นได้ชัด เช่นเดียวกับที่รัฐบาลเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมโดยสงบ เคารพรัฐธรรมนูญ และกฎหมายทั้งที่ตนเป็นผู้ฉีกรัฐธรรมนูญก่อนผู้อื่น นับเป็นการเลือกใช้รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย ตลอดจนหลักนิติธรรม เพื่อให้ตนได้ประโยชน์ครั้นตนเสียประโยชน์ กลับไม่ยอมรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกันนั้น อันเป็นการกระทำที่ยิ่งเสียกว่ามือถือสากปากถือศีล

ประการที่ 5.รัฐบาลได้ใช้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดิน เล่นพรรคเล่นพวก ข่มเหงรังแกข้าราชการ แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยไม่เป็นธรรม แต่งตั้งผู้ที่ด้อยประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ และพวกพ้องของตนให้ดำรงตำแหน่งในระดับสูง เข้ามาบริหารราชการในหน่วยราชการ และในหน่วยงานของรัฐ เพื่อรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เจ้าของตัวจริงของรัฐบาล จนทำให้เกิดความเสียหาย แก่หลักคุณธรรม และธรรมาภิบาล นำระบบราชการถอยหลัง ไปสู่ระบบอุปถัมภ์แบบโบราณ

ประการที่ 6.รัฐบาลกระทำการทุจริต และประพฤติมิชอบในวงราชการ และหน่วยงานของรัฐอย่างแพร่หลาย กว้างขวาง มีการใช้นโยบายประชานิยมที่ก่อให้เกิดการทุจริตเชิงนโยบาย นำมาซึ่งความเสียหายของชาติ และประชาชนในด้านเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ทำให้ระบบการเงินการคลัง และการงบประมาณได้รับความเสียหาย มีการก่อหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และทำให้ความเชื่อถือ และความสามารถในการแข่งขันของประเทศลดลงอย่างรุนแรง เช่น โครงการจำนำข้าว ที่มีการทุจริต และก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศ หลายแสนล้านบาท โครงการบริหารจัดการน้ำที่จะต้องกู้เงินจำนวนหลายแสนล้าน และมีการกระทำที่ส่อไปในทางทุจริต และคอร์รัปชันเชิงนโยบาย รวมทั้งการที่จะกู้เงินจำนวน 2 ล้านล้านบาท ที่มีการตรากฎหมายโดยฉ้อฉล การลงมติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่การทุจริตและความล้มเหลวในการดำเนินโครงการ แต่สร้างหนี้ผูกพันให้ประเทศชาติ และประชาชน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร

อนึ่ง การทุจริตดังกล่าว ผู้ได้รับประโยชน์สูงสุดคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว ทั้งมีการกระทำแบบอุกอาจ ซึ่งหน้า หามีความละอายใดๆ ไม่ ดังนั้น คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งประกอบด้วย มวลมหาประชาชน ข้าราชการพลเรือน ทหาร และตำรวจ จึงไม่อาจยินยอมให้กลุ่มการเมืองเผด็จการเสียงข้างมาก และทุนนิยมผูกขาด ร่วมสมคบกันใช้ระบบเผด็จการรัฐสภา ทำการหักหลังต่อความไว้วางใจของประชาชน ทำลายดุลยภาพของการใช้อำนาจอธิปไตย และกระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยไม่เป็นไปตามครรลอง หรือวิถีทางของระบอบประชาธิปไตย เมื่อรัฐบาลซึ่งมีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน เพื่อความมั่นคงผาสุขของปวงชน กลับทรยศประชาชนด้วยการใช้อำนาจที่ได้รับความไว้วางใจมาจากการเลือกตั้ง เพื่อความมั่นคงและผาสุขของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ครอบครัว และบริวาร อันเป็นการทำลายสัญญาประชาคมอย่างชัดแจ้ง ประชาชน เจ้าของอำนาจอธิปไตย จึงไม่จำต้องอยู่ใต้อำนาจของตัวแทน ซึ่งตนเป็นผู้แต่งตั้งนั้นอีกต่อไป

ดังนั้น อาศัยอำนาจของประชาชน ตามมาตรา 3 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งบัญญัติหลักการว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ขอประกาศว่า มวลมหาประชาชน ข้าราชการพลเรือน ทหาร และตำรวจ ผู้รับความเป็นธรรมที่ได้แสดงพลังร่วมกันอย่างที่ไม่เคยปรากฏ มาก่อนในประวัติศาสตร์ มีความจำเป็นต้องกระทำการพิทักษ์หลักการสำคัญในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงใช้สิทธิ์ของมวลมหาประชาชนเรียกคืนอำนาจการปกครองแผ่นดินจากกลุ่มการเมืองดังกล่าว คืนกลับสู่ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจสูงสุดนั้น

อันเป็นการประชาภิวัฒน์ เพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ขจัดภยันตราย อันเกิดจากการทุจริตคอร์รัปชั่นให้หมดไป และดำเนินการทางการเมืองให้เกิดความเป็นธรรมอย่างแท้จริงแก่ประชาชนทุกภาคส่วน คณะกรรมการ กปปส. ขอประกาศยืนยันแทนมวลมหาประชาชนว่า พวกเราทั้งหลาย ปวงชนชาวไทยทั้งหลาย มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และจะร่วมพิทักษ์ราชบัลลังก์ด้วยชีวิต

อนึ่ง คณะกรรมการ กปปส. จะยึดมั่นในพันธกรณีระหว่างประเทศ และจะรักษาความสัมพันธ์อันดีกับรัฐต่างประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศต่อไปทุกประการ จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน และขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกคนในการสร้างอนาคตที่เป็นธรรม ผาสุก สงบ และสันติ เพื่อลูกหลานอันเป็นอนุชนรุ่นหลังสืบต่อไป

ประกาศ ณ วันที่ 9 เดือนธันวาคม พ.ศ.2556
ลงชื่อ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
เลขาธิการคณะกรรมการ กปปส."



คำต่อคำ “สุเทพ เทือกสุบรรณ”ปราศรัย หลังอ่านแกลงการณ์ 9 ธ.ค.2556

“พี่น้องที่เคารพรักทั้งหลายครับ เมื่อกี้อ่านแถลงการณ์ ซึ่งต้องว่ากันเป็นทางการ เพราะจะเป็นคำแถลงการณ์ที่จะมีการอ้างอิง แล้วบางฝ่ายก็อาจจะต้องเอาไปตีความ บางฝ่ายก็จะเอาไปตอบโต้ หักล้าง ผมก็ได้อ่านไปอย่างเป็นทางการ ต่อไปนี้ก็จะขออนุญาตปราศรัย เพื่ออธิบายให้พี่น้องฟังว่า สิ่งที่ประกาศแถลงการณ์ไปเมื่อสักครู่ แปลว่าอะไร และเราจะต้องทำอย่างไรต่อไป อย่างที่หลายคนตั้งคำถามอยู่ในใจอยู่ในขณะนี้

พี่น้องที่เคารพรักทั้งหลาย คำแถลงการณ์ที่ออกไปเมื่อสักครู่นั้น มีความหมายชัดเจนว่า ต่อไปนี้ นับตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไป มวลมหาประชาชน ปวงชนชาวไทยทั้งหลาย ได้เอาอำนาจคืนมาเป็นของประชาชนเรียบร้อยแล้ว อำนาจนี้เป็นของเรา รัฐธรรมนูญรับรองเอาไว้ ว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย แต่บังเอิญคนไทยโชคร้าย ได้มอบอำนาจนี้ให้คนชั่วเอาไปใช้ในสภาและในรัฐบาล คนชั่วเหล่านี้เอาอำนาจที่ประชาชนมอบหมายให้ไปใช้เพื่อประโยชน์ของตน เพื่อประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว สมุน บริวาร พวกพ้องของมัน ทรยศประชาชน

ที่เห็นชัดๆ หนึ่ง โดยรัฐสภา แทนที่จะเอาอำนาจประชาชนไปใช้ในการตรากฎหมาย ออกกฎหมาย แก้ไขกฎหมาย เพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและประชาชน มันกลับเอาอำนาจของประชาชนในการออกกฎหมาย ไปออกกฎหมายช่วยทักษิณที่หนีคดีทุจริตไปอยู่ต่างประเทศ มันออกกฎหมายล้างผิดให้คนที่ยิง พล.อ.ร่มเกล้า ยิงทหารหาญของชาติ ยิงตำรวจ ยิงพี่น้องชาวนางเลิ้ง ยิงแม่ค้าขายข้าวแกงที่สวนศรีเวียง ฆ่าประชาชนที่บริสุทธิ์ มันล้างผิดให้หมด เพราะเป็นพวกของมัน แล้วมันกระทำการเยี่ยงนี้ด้วยพฤติกรรมที่ฉ้อฉล เลวทรามทุกขั้นตอน ปิดปากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ลงคะแนนเสียงแทนพวกเดียวกัน โกงคะแนน เพื่อให้ชนะไม่ฟังเสียงประชาชน พอประชาชนต่อต้านมากๆ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์กลับออกมาแก้ตัวหน้าซื่อว่า เรื่องนี้รัฐบาลไม่เกี่ยว เป็นเรื่องของสภาฯ แล้วไม่ใช่ยิ่งลักษณ์หรือที่คุมเสียงมากที่สุดในสภาฯ แห่งนี้ ขนาดประชาชนออกมาชุมนุม มาเดินขบวนกันกลางถนน มันก็ยังเล่นกลกับเรา ออกล่าให้วุฒิสภาคว่ำกฎหมายนี้แล้ว มันนึกว่าประชาชนโง่ การที่วุฒิสภาคว่ำกฎหมายไม่ได้หมายความว่า กฎหมายนี้ตายไปจากสภาฯ มันยังคงอยู่อีก 180 วัน ฟื้นคืนชีพขึ้นมา

นี่คือความเลวร้ายของมันที่เอาอำนาจของประชาชนไปใช้ในสภาฯ ในทางที่ผิด เท่านั้นไม่พอ มันยังเอาอำนาจในการออกกฎหมายของประชาชนที่ประชาชนมอบให้ไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อรวบอำนาจไม่มีอำนาจคนเดียว พวกเดียว ฝ่ายเดียวคุมทั้งสภาผู้แทนฯ คุมทั้งวุฒิสภาเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และต่อไปเวลาจะแต่งตั้งอัยการ เวลาจะแต่งตั้งผู้พิพากษา เวลาจะตั้ง ป.ป.ช. เวลาแต่งตั้ง กกต.อยู่ในกำมือพวกมันนั่นเท่ากับว่า มันมีอำนาจข้างเดียวในประเทศนี้ทั้งหมดเลย

มีคนฟ้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญก็วินิจฉัยตามข้อเท็จจริง เพราะการที่มันแก้กฎหมายอย่างนี้ มันเข้าข่ายการกระทำเพื่อให้ได้มา ซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิถีทางที่ไม่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ผิดรัฐธรรมนูญ แถมศาลยังวินิจฉัยอีกว่า นอกจากร่างกฎหมายถ้อยฉบับนั้น ผิดรัฐธรรมนูญแล้ว ไอ้วิธีการที่ทำด้วยการฉ้อฉลการแปลงเอกสาร ลงคะแนนแทนกัน ปิดปากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยอย่างนี้ผิดวิธีการที่ทำกฎหมายรัฐธรรมนูญ

สรุปว่าอย่างไรครับ ศาลรัฐธรรมนูญบอกว่า ผิดๆๆ หมายความว่า ร่างกฎหมายนี้ใช้ไม่ได้อีกต่อไป ถ้ายิ่งลักษณ์มันเป็นคนดี มันก็จะไม่ทำอย่างอื่นอีก แต่นี่มันเป็นคนเลว มันก็เลยเอากฎหมายฉบับนี้ทั้งที่ยังมีปัญหาอยู่ขึ้นไปทูลเกล้าพระเจ้าอยู่หัว ให้ลงพระปรมาภิไธยบังคับใช้เป็นกฎหมาย อย่างนี้มันทำสิ่งที่ไม่สมควร มันทำไปได้อย่างไร มันกระทำการที่เป็นการล่วงพระราชอำนาจ มันไม่เกรงใจใครไม่กลัวเลยว่า กระทบกระเทือนเบื้องพระยุคลบาท จนเดี๋ยวนี้มันยังหน้าด้านไม่ขอพระราชทานคืนมาเลย ปล่อยไว้เป็นภาระของพระเจ้าอยู่หัวจนถึงทุกวันนี้ นี่แหละไอ้นายกฯ คนนี้ นี่เป็นความเลวของพวกมัน เฉพาะในส่วนที่เอาอำนาจนิติบัญญัติของประชาชนไปกระทำความผิดอย่างเห็นชัดแจ้ง ที่ร้ายที่สุดก็คือว่า ดาหน้าออกมาเลยทั้งคนที่เป็นประธานสภาฯ รองประธานสภาฯ อยู่พรรคเพื่อไทย แล้วประธานวุฒิสภาที่เป็นขี้ข้าของพรรคเพื่อไทย รวมทั้งที่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ตัวเองจะต้องมีหน้าที่ดูแลบังคับใช้กฎหมายบ้านเมือง ตัวเองจะต้องเป็นผู้เคารพกฎหมายบ้านเมือง แต่ทั้งหมดนี้ หน้าด้าน ออกมาประกาศหน้าตาเฉยว่า ไม่รับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ประกาศชัดว่า ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ

พี่น้องที่เคารพ รัฐบาล รัฐสภา ที่เป็นรัฐบาลอยู่ได้ ที่มันเป็นรัฐสภาอยู่ได้ เพราะมันมาโดยอ้างบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ในเมื่อมันไม่เคารพรัฐธรรมนูญ มันทำตัวอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ มันจึงปราชิต เป็นพระที่ปราชิต ไม่ใช่พระอีกต่อไปแล้ว พระที่ปราชิตไปบิณฑบาต ชาวพุทธเขาก็ไม่ใส่บาตร ไม่มีใครไหว้พระที่ปราชิต ไม่มีใครนิมนต์ ไม่ให้สวดผี ไม่มีใครนิมนต์ ไม่ให้สวดมนต์ เพราะมันไม่ใช่พระ แค่คนที่ห่มผ้าเหลือง ฉันใดฉันนั้น นี่คือรัฐบาลยิ่งลักษณ์ในปัจจุบันนี้

พี่น้องทั้งหลาย วันนี้ เป็นวันต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของโลก แต่ว่ามีคนในเมืองไทยยังเห็นดีเห็นงาม ยังเคารพนับถือคนที่ร่ำรวยเพราะการโกงชาติ กินเมือง ยังยกย่องให้มันมีอำนาจอยู่ในบ้านเมือง แล้วเลียตีนมันอยู่ทุกวัน หวังได้ดิบได้ดีกับมัน ใครจะทนกราบไหว้บูชาคนชั่ว ที่ร่ำรวยเพราะโกงชาติบ้านเมือง ก็เรื่องของเขา แต่มวลมหาประชาชน ปวงชนชาวไทย เจ้าของประเทศอย่างเรา ประกาศเลยว่า พวกมึงกับกูตัดผีตัดญาติกันในวันนี้ เป็นต้นไป ไม่คบกันละโว้ย

ไม่ใช่เราอิจฉามัน ว่ามันโกงเก่ง เราโกงไม่เป็น แต่เราเป็นห่วงลูกหลานเรา ถ้ามันโกงทีเป็นแสนๆ ล้าน ปีหนึ่งหลายแสนล้าน ไม่กี่ปี ชาติไทยเจ๋งแน่นอน ลูกเราก็จะไม่มีแผ่นดินอยู่ ทั้งหมดที่ประมวลมานี้ เฉพาะเรื่องที่พูดได้ เรื่องที่ไม่บังควรพูด กปปส. เก็บความเจ็บปวดขมขื่นไว้ในใจ ไม่เอามาพูด แต่ให้มันรู้ว่า เราประชาชนรู้ทันว่ามึงทำอะไรบ้างในอินเตอร์เน็ต ในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลาย พวกมึงทั้งนั้นที่ทำกันอยู่ทุกวัน เหยียบย่ำน้ำใจพวกกูพวกมึง กระทำการติดต่อกันมาหลายปี เหยียบย่ำหัวใจคนไทยทุกคน คนไทยขมขื่นทนพวกมึงไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ต้องมาตีหน้าซื่อ ฉอเลาะอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ไว้หน้ามึงอีกต่อไปแล้วโว้ย ตอนนี้

วันนี้ พี่น้องประชาชนคนไทย เฉพาะที่ออกมาเดินขบวนในกรุงเทพฯ ต้องไม่น้อยกว่า 3-4 ล้านคน สถานีวิทยุบีบีซี ไปรายงานข่าวว่า คนไทยในกรุงเทพฯ ออกมาชุุมนุมต่อต้านรัฐบาลคราวนี้ มากกว่า 5 ล้านคน และจะต้องมีคนฝ่ายรัฐบาล ไอ้พวกขี้ข้าทั้งหลายคงจะออกมาพูดจากันว่า รวมทั้งหมดไม่กี่แสนคน มันจะ 5 ล้าน มันจะ 4 ล้าน มันจะ 3 ล้านก็ตามใจ แต่วันนี้คนไทยได้แสดงความองอาจกล้าหาญ ประกาศตัวอย่างเปิดเผยว่า กูไม่ยอมมึงอีกต่อไปแล้ว พอกันทีกับระบอบทักษิณ พอกันทีกับการทรยศหักหลังของพวกมึงที่ทำกับพวกกูคนไทยมานับสิบปี ต่อไปนี้ไม่มีอีกแล้ว ขอให้ฟ้าดินเป็นพยาน คนไทยทั้งหลายเป็นคนดี เป็นคนรักสันติ เป็นคนรักความสงบ เป็นคนอดกลั้นอดทน มีขันติตลอด แต่วันนี้ขันติแตกแล้วโว้ย ไม่ไหวแล้วโว้ย เพราะพวกมึงสมคบกันทรยศหักหลังคนไทยไม่อับอาย ไม่เกรงใจ และไม่มีทีท่าว่า จะสำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัวแต่ประการใดทั้งสิ้น พวกกูจึงจำเป็นต้องเอาอำนาจของกูคืนมา

พี่น้องทั้งหลายตั้งแต่ผม และพี่น้องร่วมอุดมการณ์ คณะกรรมการ กปปส. ได้เข้ามาร่วมเป็นแกนนำ นำการต่อสู้ของพี่น้องทั้งหลาย เราได้ยึดหลักการต่อสู้อย่างสันติ สงบ ปราศจากอาวุธ ไม่ใช้ความรุนแรง และเรายกอย่างนั้นมาโดยตลอด และที่น่าชื่นชมไม่ว่าพี่น้องจะออกมากี่ล้านคน ไม่มีความห่วงใยปรากฏแม้แต่นิดเดียวนี่คือของจริง เปรียบเทียบกับพวกมันที่ออกมากระทำการเพื่อทักษิณ ในปี 2552 2553 ออกมาไม่กี่หมื่นคน มันเอาคนกรุงเทพฯ เป็นตัวประกันหมด มันเผาบ้านเผาเมือง มันฆ่าคนตายกลางเมืองเลย นั่นคือพวกมัน

พวกเราลุกขึ้นต่อสู้เป็นล้าน ไม่มีใครเสียชีวิตเพราะเรา ไม่มีตรงไหนถูกเผาเพราะเรา ไม่มีรถแท็กซี่ถูกเผา ไม่มีรถเมล์ถูกเผา ไม่มีการเผายางรถยนต์ควันโขมงไปทั้งกรุงเทพฯ เหมือนที่พวกมึงเคยทำ เห็นหรือยังพี่น้องว่าคนดีกับคนชั่วต่างกันอย่างไร ต่อให้เห็นกันว่าคนดีกับคนชั่วต่างกันตรงนี้เอง คนดีรักชาติ รักแผ่นดิน ไม่ทำลายบ้านเมือง

คนชั่วช้า ขายชีวิตให้ทักษิณ ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ทักษิณ แม้กระทั่งฆ่าตำรวจ ฆ่าทหาร ฆ่าประชาชน เผาบ้านเผาเมือง มันทำได้ทั้งนั้น เพราะมันเป็นคนระยำ ใครจะโอบอุ้มพวกคนชั่วต่อไปก็เชิญ แต่พวกเราประชาชนไม่อุ้มมันต่อไปแล้ว

พี่น้องทั้งหลาย ตั้งแต่ต่อสู้ด้วยกันมา 40 วัน ระมัดระวังมาก ไม่ทำอะไรผิดเลย ผิดก็เล็กๆ น้อยๆ ผิดกฎหมายจราจร ผิดข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการ พวกมันก็พยายามยัดเหยียดข้อหากบฏให้เรา แต่ว่าเรายังไม่ได้เป็นกบฏ แต่จากราตรีที่แถลงการณ์เมื่อซักครู่ กูเป็นกบฏแล้ว มาเลยๆๆๆ กูไม่ยอมมึงอีกแล้ว จะต้องเป็น จะต้องตาย ถ้าเพื่อแผ่นดินนี้กูยอมหมดแล้วโว้ย

พวกผม คณะกรรมการ กปปส. ทุกคน พี่น้องครับ เอาหัวใจมาวางเคียงกัน และตัดสินใจแล้วว่า ที่ทำการคราวนี้ เพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน เพื่อประชาชน เพราะฉะนั้น ถ้าจะต้องเป็นอะไรก็ให้เป็นไป และยินดีที่จะเป็น ไม่มีการถอยหลัง ไม่มีการประนีประนอม เพราะเรื่องของชาติไม่ใช่เรื่องที่จะมาต่อรอง ประนีประนอมกัน แพ้กับชนะเท่านั้น ถ้าแพ้มัน ก็จะเดินก้มหน้าก้มตา เป็นขี้ข้ามันไปจนชีวิตจะหาไม่ และไม่ร้องไห้แม้แต่หยดเดียว เพราะได้สู้แล้ว แต่ถ้าชนะมันได้ ขจัดระบอบทักษิณหมดสิ้นจากแผ่นดินไทย แผ่นดินนี้จะสูงขึ้น ประเทศไทยจะปลอดภัย ลูกหลานเราจะได้เป็นเสรีชน นี่คือเดิมพัน เดิมพันครั้งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทย ใครจะถือหางข้างระบอบทักษิณ เชิญ ใครจะถือหางข้างประชาชน มา ไม่มีคนกลาง ไม่มีความเป็นกลางระหว่างความดีกับความชั่ว ความถูกกับความผิดต้องเลือกกันข้างหนึ่ง วันนี้ประชาชนหลายล้านคนเลือกแล้วว่า นี่คือข้างที่ถูกต้อง พี่น้องประชาชนถามผมเมื่อซักครู่หน้าเวทีก็ถามผม แล้วอย่างไรต่อไปคุณสุเทพ ผมก็บอกว่า วันนี้เมื่อผมได้แถลงการณ์ในนามของมวลมหาประชาชนว่า อำนาจอธิปไตยคือ อำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศนี้ เป็นของประชาชนนั่นก็แปลว่า ประชาชนพวกเราจะเป็นคนจัดการบริหารประเทศเอง นั่นหมายความว่า ต่อจากนี้ประชาชนพวกเราจะแต่งตั้งบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีของประชาชน ตั้งรัฐบาลของประชาชน นั่นหมายความว่า ต่อจากนี้เราจะจัดให้มีสภาของประชาชน ทำหน้าที่นิติบัญญัติแทนพวกที่ทรยศ หักหลังเรา ซึ่งพังไปแล้ว

พี่น้องทั้งหลายมันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก ไอ้พวกชั่วทั้งหลายมันคงคิดสู้แล้ว มันคงอ้างกฎหมาย เอาปรมาจารย์กฎหมาย ขี้ข้าทั้งหลายคืนนี้สุมหัวกันทั้งคืนว่า พรุ่งนี้จะจัดการกับพวกเราอย่างไร คนชั่วช้าเลวทรามอย่างนั้น มันไม่เห็นพี่น้อง 4-5 ล้านคน อยู่ในสายตามันหรอก มันเชื่อเฉพาะอำนาจและเงินของมันเท่านั้น หัวใจคนไม่มีความหมายสำหรับคนชั่วช้าระยำพวกนั้น พี่น้องครับ

วันนี้เราได้ประกาศแล้วว่า อำนาจเป็นของเรา เป็นของประชาชน และเราจะจัดการกับประเทศนี้ เพื่อให้ประเทศนี้ได้เปลี่ยนแปลง ปฏิรูป เพื่อความสุขของมวลมหาประชาชนทั้งแผ่นดิน ไม่เลือกสี ไม่เลือกข้าง สำหรับทุกคนจริงๆ เป็นธรรมจริงๆ

เราใช้คำที่เป็นธรรมใหม่ ที่พี่น้องเพิ่งได้ยินวันนี้ คือคำว่า "ประชาภิวัฒน์" พี่น้องจำคำนี้เอาไว้ ไม่ต้องการให้คนไปใส่ร้าย เข้าใจเราผิด คนบางคนมันจะไปกล่าวหาว่าเราเป็นกบฏ ไปยึดอำนาจ ไปชิงอำนาจมา แต่เราบอกว่าไม่ใช่ อำนาจเป็นของเรา กูผิดเองเอาไปยกให้พวกมึง วันนี้กูเอาคืนเท่านั้น

ที่สำคัญก็คือว่า พวกมันเอาอำนาจของประชาชนไปใช้บำรุงบำเรอทักษิณ และคนในครอบครัว พวกพ้อง ใช้อำนาจของประชาชนเพื่อความมั่งคั่งร่ำรวยของคนเดียว ตระกูลเดียว แต่พวกเราเอาอำนาจของประชาชนมาเพื่อทำบ้านเมืองให้ดี ให้เป็นประโยชน์สำหรับคนทุกตระกูล ทุกครอบครัวที่เป็นเจ้าของแผ่นดินไทย

พี่น้องทั้งหลาย จึงมาถึงคำตอบว่าวันนี้ยิ่งลักษณ์ ละล่ำละลักยุบสภา แล้วอ้างว่า รัฐบาลถอยให้แล้ว คืนอำนาจให้แล้ว ประชาชนควรจะเลิกได้แล้ว กลับบ้านได้แล้ว พี่น้องว่ายังไงครับ ถ้าคุณดูรายการนี้อยู่ คุณยิ่งลักษณ์ ประชาชนเขาบอกว่าคุณตอแหล และผมก็เห็นด้วยกับพี่น้องประชาชนว่า มันตอแหลจริงๆ

พี่น้องทั้งหลาย ที่ผมว่ามันตอแหลเพราะมันบอกว่าคืนอำนาจให้ประชาชน ให้ประชาชนได้เลือกตั้งใหม่ ประชาชนไม่ได้โง่เหมือนมึง มึงมันคิดอะไรเองไม่เป็น ต้องให้พี่มึงคิดให้ แต่ประชาชนคิดเป็น มึงให้ประชาชนไปเลือกตั้งใหม่ แล้วมีกติกาอย่างอื่น มี กกต.อย่างอื่น มีข้าราชการที่ประจบสอพลอมึงอย่างดี มีตำรวจที่เป็นของมึงกันเอง มึงก็โกงเลือกตั้งเหมือนเดิม มึงก็ซื้อคะแนนเสียงเหมือนเดิม มึงก็กลับมาเหมือนเดิม ผมพูดได้เต็มปาก พี่น้องครับว่า ผมไม่กลัวเลือกตั้ง ไม่กลัวว่าจะเลือกตั้งแพ้ เพราะผมประกาศกับพี่น้องว่า ผมไม่ลงเลือกตั้งอีกแล้ว แต่ผมไม่ต้องการให้ใครมาหลอกลวงพี่น้องให้พี่น้องฝันลมๆ แล้งๆ ว่า จะคืนอำนาจไปเลือกตั้ง แล้วพวกมันก็จะแพ้ คนดีก็มาบริหารบ้านเมือง คนดีสู้เงินและอำนาจไม่ได้ครับ พี่น้องครับ ไปเลือกตั้งได้เหมือนกัน แต่ต้องเขียนกฎหมายเลือกตั้งใหม่ ต้องไปจัดอุปกรณ์ตรวจสอบการโกงเลือกตั้ง การซื้อเสียงกันใหม่ ต้องไปปฏิรูปพรรคการเมืองใหม่ ไม่ให้คนชั่วคนเดียวคุมการพรรคการเมืองได้ทั้งพรรคอย่างที่ทักษิณทำทุกวันนี้ ให้เวลาสภาประชาชนและรัฐบาลประชาชนไปจัดการเรื่องนี้เร็วที่สุด 8 เดือน 12 เดือน 15 เดือน ทำให้เสร็จ แล้วจะเลือกตั้งใหม่ถ้ามันบริสุทธิ์ ถ้ามันยุติธรรม มันจะทำให้การเลือกตั้งสอดคล้องเจตนารมณ์ของประชาชนจริงๆ ไม่ใช่เป็นบันไดให้คนชั่วเข้ามาครองอำนาจโดยอ้างประชาธิปไตย แล้วต้องจัดการเรื่องการคอร์รัปชั่นที่มันกล้าโกง กล้าคอร์รัปชั่น เพราะวันนี้มันมีตัวอย่าง โกงตั้ง 46,000 ล้าน ถูกศาลลงโทษจำคุก 2 ปี หนีไปอยู่ดูไบ ยังมีอิทธิพลเหนือประเทศไทย เพราะคนไทยที่เป็นขี้ข้ายังมีมากอยู่ แล้วมันหวังว่า อยู่เมืองนอกไม่กี่ปี มันก็ได้กลับมาเมืองไทย เพราะคงมีขี้ข้าเขียนกฎหมายนิรโทษกรรมล้างผิดให้ หรือไม่ก็ทนอยู่จนหมดอายุความก็ได้กลับมาใช้เงินที่เหลือในประเทศไทยอยู่ดี

เพราะฉะนั้น มันต้องเขียนด้วยในรัฐธรรมนูญว่า ไอ้การทุจริตคอร์รัปชันไม่ให้ล้างผิด ไม่ให้ใครเขียนกฎหมายล้างความผิดชนิดนี้ได้ และความผิดเรื่องคอร์รัปชันจนตายก็ไม่หมดอายุความ กลับเมื่อไหร่ติดคุกเมื่อนั้น อย่างนี้เป็นต้น รวมทั้งเรื่องของการกระจายอำนาจการปกครอง ทำไมคนกรุงเทพฯ มีสิทธิ์เลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ทำไมคนต่างจังหวัดต้องยอมรับขี้ข้าของทักษิณไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ไม่รับผิดชอบประชาชนเลย พอกันทีได้ไหม สำหรับที่ต้องซื้อตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วไปรีดนาทาเร้นเอากับประชาชน ถ้าไปอนุญาตต่างๆ แล้วไม่พัฒนาจังหวัดให้มันดีขึ้นเลย

เพราะฉะนั้นเราต้องกระจายอำนาจการปกครองบ้านเมือง ไปให้กับท้องถิ่น หรือราชการส่วนภูมิภาค มีเฉพาะราชการส่วนกลาง กับราชการส่วนท้องถิ่น ทุกจังหวัดต้องมีสิทธิ์เลือกผู้ว่าของตัวเอง เพราะเขาจะได้รับผิดชอบต่อประชาชนของเขา ที่ต้องทำและไม่มีวันทำได้ในสภาทาส ในรัฐบาลขี้ข้าหุ่นเชิด เพราะมันเก็บเอาไว้ เพราะนี่คืออำนาจของมันที่จะได้ใช้ผู้ว่าฯ กดหัวประชาชนไงครับ พี่น้อง

แกนกลางตำรวจ 2-3 แสนคนทั้งประเทศ ขึ้นอยู่กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนเดียว ผู้บัญชาการตำรวจก็แล้วแต่ทักษิณจะตั้งใคร ใครอยากได้เป็นผู้บัญชาการ อย่าว่าแต่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเลย ก็ต้องไปให้ทักษิณเอากระหม่อมโพกหัว แล้วกลับมาหน้าไม่อาย กลับมาก็ยังหน้าด้านบอกว่า ได้ดีเพราะพี่ให้ แถมไปเมาไวน์ในวันฉลองวันเกิดเฉลิมยังอ้อแอ้บอกว่า ผมเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประเทศไทย ไม่ใช่ตำรวจนครบาลดูไบ ผมจึงจับคุณทักษิณไม่ได้ ไอ้ทุเรศ สิ่งที่ผมมันสันดานขี้ข้า และคนอย่างทักษิณชอบเลี้ยงขี้ข้าอย่างนี้ เพราะฉะนั้นพี่น้องครับ มันไม่มีทางที่จะแก้ไขปรับปรุงโครงสร้างตำรวจประเทศได้ นอกจากมีรัฐบาลประชาชน สภาประชาชน เราถึงจะแก้กฎหมายปรับโครงสร้างตำรวจ ส่งตำรวจไปอยู่ใต้ประชาชน ต่อไปกรรมการตำรวจ คนจะเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง เลื่อนเงินเดือน เลื่อนความดีความชอบให้ตำรวจ ต้องเป็นประชาชน ถ้าตำรวจทำดี ประชาชนก็ให้ยศให้ตำแหน่ง มึงจะได้ไม่ต้องมาบอกว่า ได้เพราะพี่มึงให้ มึงจะได้บอกว่า ได้เพราะประชาชนเผาให้ อย่างนี้ สภาทาสทำไม่ได้ รัฐบาลหุ่นเชิดไม่มีวันทำ เพราะเก็บตำรวจเอาไว้เป็นเครื่องมือ อย่างน้อยที่สุดไว้เล่นงานนักศึกษารามคำแหงผสมกับพวกเสื้อดำ เสื้อแดง ไงละครับพี่น้อง เห็นไหม ขู่เราฟอดๆ ทุกวัน มันเรื่องอะไร ยังไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายเลย ไปยื่นศาลออกหมายกบฏแล้ว กูยังไม่ได้กบฏเลย พรุ่งนี้มาใหม่ซิ เพราะกูประกาศเป็นกบฏแล้ววันนี้เอง

พี่น้องทั้งหลาย เรื่องคนจนก็เหมือนกัน หลอกสนิท หลอกมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว จะช่วยคนจนอย่างนั้น จะช่วยคนจนอย่างนี้ ต้องให้คนจนหมดไป โตมา 14-15 ปี ก็ยังเห็นจนเหมือนเดิม มีแต่พวกมึงเจ้าของนโยบาย รวยขึ้นกว่าเดิม คนจน จนเหมือนเดิม เพราะฉะนั้น ต่อไปต้องเขียนไว้ อาจจะในรัฐธรรมนูญประเทศไทย ไอ้นโยบายประชานิยมห้ามเอามาใช้ในประเทศไทย เพราะคนจนก็ไม่รวยขึ้น แถมประเทศล่มจมเพราะประชานิยมที่พวกมันหากินกันทุกวัน นี่ต้องจัดการ อย่างนี้เป็นต้น

พูดทั้งคืน ก็พูดได้ แต่นั่นเป็นเรื่องของสภาประชาชน นั่นเป็นเรื่องของรัฐบาลสภาประชาชนที่จะต้องไปทำ เราให้โจทย์ไป พวกผม กปปส.ก็จะบอกกับคนมาเป็นรัฐบาล จะบอกกับคนที่เป็นสภาประชาชน ว่าพี่น้องประชาชนเขาลงทุนลงแรง ออกมาตั้ง 4-5 ล้านคน เขาคาดหวังที่จะเห็นประเทศไทยเปลี่ยนแปลงเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันสมบูรณ์ ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข และคนไทยทุกฝ่ายต้องเทิดทูน จงรักภักดี

พี่น้องจะเห็นเลยครับ บนเวทีนี้ 40 วัน ที่พูดจาปราศรัยกัน ไม่เคยแอบอ้างสถาบันเลย ไม่เอาสถาบันมายุ่งกับการเมือง แต่ต้องการให้รู้ว่าใครทำอะไรนี่เราก็รู้ คนไทยทั้งหลายรู้ และคนไทยทั้งหลายเจ็บปวด เพราะฉะนั้น เรายืนยันจุดยืนเราตรงนี้ และพี่น้องทั้งหลายครับ วันนี้ จะต้องมีคนหวั่นไหวมาก เพราะนายกฯ ประกาศยุบสภา และบอกว่าจะคืนอำนาจให้ประชาชน คนหลายคนที่มองโลกสวยงามนะ ก็คงบอกว่า กลับบ้านเถอะ พอแล้ว ชนะแล้ว เขาถอยแล้ว ถ้าพวกเราไม่ถอย เราจะโดนคนกดดันเยอะ แต่ผมบอกกับพี่น้องว่า ถ้าพี่น้องไม่ถอย พวกผมที่อยู่ที่นี่ทุกคนไม่มีใครถอยซักคนเลยครับ พี่น้องครับ สู้กันมาถึงขนาดนี้ แล้วเอาชัยชนะจอมปลอมให้กลับไปบอกลูกบอกเมียที่บ้าน ไม่เอา ชนะต้องเด็ดขาด ระบอบทักษิณจะต้องหมดประเทศไทย ไม่งั้นก็เป็นขี้ข้ามันไปเลย

ผมอยากจะบอกไปถึงยิ่งลักษณ์ ถ้าคุณมีความจริงใจเหลือซักนิดเดียว ไม่มาก อย่าเพียงแค่ยุบสภา พรุ่งนี้ลาออกเลย ลาออกพรุ่งนี้ตอนเช้า แล้วตอนเย็นทำหนังสือกราบบังคมทูลว่า ไม่ยอมรักษาการด้วย ลาออกจากรักษาการด้วย ให้ไม่มีรัฐบาลไปเลย แล้วอย่างนั้น ก็จะเป็นโอกาสที่จะหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ อาจเป็นคนกลางคนใดคนหนึ่งก็ไม่รู้ แต่ว่าทำให้ประเทศไทยนับหนึ่งได้ใหม่ แม้ไม่ใช่วิธีที่พวกเรากำลังสู่อยู่ อย่างนั้นพอรับได้ แต่ถ้ามึงหลอกกูทีละนิดทีละหน่อย กูบอกแล้วว่า กูไม่ได้โง่เหมือนมึง กูคิดเป็น

พี่น้องทั้งหลาย วันนี้ เวลานี้ คน 3 4 5 ล้านคน ลุกฮือกันทั้งประเทศ แล้วประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันเอาอำนาจคืน ผมก็ได้แถลงประกาศต่อหน้าฟ้าหน้าดิน แทนพี่้น้องประชาชนว่า นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนแล้ว เพราะฉะนั้น ทั้งสภา ทั้งรัฐบาล เป็นเถื่อนไปแล้ว ไม่มีอำนาจแล้ว สั่งราชการไม่ได้แล้ว ถ้าจะสั่งราชการให้ได้ ต้องมาแย่งชิงอำนาจจากพวกเรากลับไปใหม่มาเลย เอากำลังมาชิงจะรออยู่ และสู้ด้วยมือเปล่าปกป้องอำนาจอธิปไตยของเรา ด้วยมือเปล่าของประชาชน ท้ากันแล้ว มึงก็หน้าด้านเป็นรัฐบาลอยู่อย่างไร คนตั้ง 4-5 ล้านคน ลุกขึ้นประกาศตัวเป็นกบฏกับมึงแล้ว มาสิมาปราบ มาเลย มาเลย และเราก็จะได้วัดใจข้าราชการกัน วันนี้ประชาชนได้ประกาศแล้วว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน ไอ้พวกรัฐบาลมันปาราชิกแล้ว พวกคุณข้าราชการยังจะรับใช้ทาสปาราชิกอยู่ต่อไปหรืออย่างไร

พี่น้องทั้งหลาย เราสู้ด้วยมือเปล่า เราสู้ด้วยพลังของมวลมหาประชาชน เราไม่รีบร้อน สู้มา 40 วันแล้ว อีกซัก 5 วัน 10 วัน ไม่เป็นไรใช่ไหมพี่น้อง แต่ต้องรักษาอำนาจของเราเอาไว้ให้ได้ พวกผมก็จะไปกำหนดขั้นตอนที่เหมาะสมตามลำดับคือ พูดให้พี่น้องเข้าใจ นี่จะเป็นคณะปฏิวัติไม่สมัยจอมพลผิน จอมพล ป. จอมพลสฤษดิ์ จอมพลถนอม เอ่ยมาจนถึง พล.อ.สนธิ ถ้าเขาประกาศว่า อำนาจเป็นของเขาอย่างนี้แสดงว่า เขาเป็นรัฐาธิปัตย์

พรุ่งนี้เขาเรียกข้าราชการมารายงานตัวเลย พรุ่งนี้เขาประกาศแต่งตั้งคนเป็นนายกรัฐมนตรีเลย นั้นคือความเป็นจริง แต่ว่านักปฏิวัติเหล่านั้น เขามีรถถังเขามีปืนกล เขามีกำลัง เรามันมือเปล่า กับหัวใจตัวโต เพราะฉะนั้นเราก็จะให้โอกาสกับทุกฝ่าย ให้โอกาสกับข้าราชการทั้งหลาย รู้สึกรู้สมกันบ้างหรือไม่ ที่พี่น้องประชาชนตั้ง 4-5 ล้านคน เขาลุกฮือขึ้นแสดงตน ทั้งประเทศอย่างกล้าหาญ ปฏิเสธที่จะเป็นขี้ข้าของระบอบทักษิณ พวกคุณที่เป็นข้าราชการเรียนมาสูงๆ นะ คิดเองได้แล้วหรือยัง ประชาชนเขาถาม แล้วจะให้เวลาเขาคิด นอนคิด อยู่ในห้องแอร์ นอนที่นอนดีๆ กินอาหารดีๆ พวกเราเจ้าของประเทศนอนรอคำตอบอยู่กลางถนน แต่จะนอนรอด้วยความอดทน

อย่างไรก็ตาม หนีไม่พ้น คณะกรรมการ กปปส. ก็จะต้องเรียกข้าราชการเหล่านั้นมารายงานตัว ใครมาก็แสดงว่าอยู่ข้างอำนาจประชาชน ใครไม่มาแสดงว่า สยบอยู่ใต้อำนาจกระโปรงยิ่งลักษณ์ และระบอบทักษิณ พูดไปอย่างนี้แรงไปหน่อย ขอโทษด้วย จำเป็นจริงๆ ไม่พูดไม่ได้แล้ว นาทีนี้ นาทีเป็น นาทีตายกันแล้ว และหลังจากนี้ พวกผมจะมีประกาศสำคัญๆ ทยอยประกาศเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง สำหรับคืนนี้ อยากส่งข่าวสารไปถึงพี่น้องประชาชนผู้รักชาติ รักแผ่นดินทั่วประเทศ ผมเชื่อว่า ตำรวจกำลังตกใจไม่รู้เข้าข้างไหนดี เวียนหัวหมดแล้ว จะเข้าข้างยิ่งลักษณ์ ก็เห็นประชาชนออกมาตั้ง 4-5 ล้าน กลัวประชาชนชนะ เก้าอี้จะหลุด จะตัดสินใจเข้าข้างประชาชนเลย ก็ยังกลัวอยู่ว่า ผลข้างนั้นไม่แพ้ มันคิดมาก เห็นใจ

เพราะฉะนั้น คณะกรรมการ กปปส. ขอความกรุณาพี่น้องประชาชน ทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชน ทุกตำบล ร่วมมือกันจัดตั้งกองกำลังอาสา รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนขึ้น ดูแลรักษากฎหมายบ้านเมือง รักษาความสงบเรียบร้อย รักษาความปลอดภัยชีวิต ทรัพย์สิน แทนตำรวจที่กำลังมึนหัวลังเล ช่วยกันนะครับ และกองกำลังอาสารักษาความสงบนี้ จะเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้ของประชาชนต่อไป

เพราะฉะนั้น ตั้งแต่วันนี้ ปรึกษากัน เตรียมการ และลงมือดูแลรักษาได้ พี่น้องฝึกกันมาแล้ว มีความรู้แล้วทำได้ ผมมั่นใจ ต้องการหัวใจใหญ่ๆ เท่านั้นเองครับ พี่น้องครับ เดี๋ยวผมจะไปประชุมกัน ปรึกษากันว่า ประกาศครั้งต่อไปจะออกอย่างไร วันนี้ ไหนๆ ก็ออกจากบ้านแล้ว มาปิกนิกนอนกันกลางถนนซักคืนก็แล้วกันพี่น้องครับ พวกผมจะอยู่แถวนี้แหละ สู้ร่วมกับพี่น้องแล้ว ลงทุนลงแรงมาขนาดนี้แล้ว ให้มันรู้แล้วรู้แรดมันเลย ไม่ต้องการกลับบ้านมือเปล่าอีกแล้ว ใช่ไหมครับพี่น้องครับ ขอบคุณครับ พี่น้องครับ ขอบคุณพี่น้อง รักพี่น้องที่สุดเลย พี่น้องครับ”
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แถลงที่เวทีแยกนางเลิ้ง

























กำลังโหลดความคิดเห็น