“สุเทพ” โชว์พิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศ เลือกตัวแทนจากอาชีพตั้ง “สภาประชาชน” ตั้งนายกฯ พร้อม ครม.ชั่วคราว ตามช่อง รธน.มาตรา 7 พร้อมออกกฎหมายปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ อาทิ รื้อระบบตำรวจ เลือกตั้งผู้ว่าฯ ก่อนเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศ จี้ข้าราชการเลือกข้างหยุดระบอบทักษิณ ตั้ง กปปส.จังหวัดขยายขอบเขตต่อสู้
เวลาประมาณ 19.35 น.วันนี้ (3 ธ.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส.แถลงหน้าเวทีศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ว่า ในนามของ กปปส.ต้องขอบคุณพี่่น้องที่ปฏิบัติงานด้วยความองอาจเข้มแข็ง ปราศจากอาวุธ ในการควบคุมกองบัญชาการตำรวจนครบาล และพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล ด้วยพลังอันบริสุทธิ์และมือเปล่า ซึ่งถือเป็นชัยชนะระดับหนึ่ง แต่พี่น้องประชาชนต้องร่วมแรงร่วมใจจนกว่าระบอบทักษิณจะหมดสิ้นไป
ทั้งนี้จะดำเนินการปฏิรูปประเทศไทย ตั้งสภาประชาชน รัฐบาลประชาชน ดำเนินการโดยใช้เวลาเร็วที่สุด วันนี้มวลมหาประชาชนได้เข้าควบคุมพื้นที่ บช.น.ที่เป็นกำลังหลักรัฐในการปราบปรามประชาชนมา 2 วัน และวันนี้ได้เข้าควบคุม บช.น.เรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้นประชาชนได้เข้าไปในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งตำรวจของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประกาศว่าจะไม่ยอมให้ยึด เพราะเป็นสัญลักษณ์ของรัฐบาล แต่เราก็เข้าไปยึดด้วยมือเปล่า แต่เมื่อเข้าไปแล้วพบว่าผู้ที่ดูแลเป็นทหาร ก็เคารพเกียรติยศของทหารที่ได้วางตัวถูกต้องในวิกฤตกการณ์ครั้งนี้มาโดยตลอด เราจึงถอนตัวออกมา
ในนาม กปปส.ขอบคุณพี่น้องที่ปฏิบัติงานด้วยความองอาจ สันติ ปราศจากอาวุธ พิสูจน์ให้เห็นว่าพลังบริสุทธิ์ประชาชนสามารถเอาชนะได้แน่นอน
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า แม้ประชาชนจะประสบชัยชนะในวันนี้ แต่ฉลองได้ระดับหนึ่ง และต้องร่วมแรงสามัคคีกันต่อไปจนกว่าระบอบทักษิณจะหมดสิ้นไป พี่น้องข้าราชการต้องหยุดงานต่อไปจนถึงจุดที่รัฐบาลไม่สามารถบริหารงานหรือสั่งงานข้าราชการได้อีกต่อไป ฉะนั้นในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด ข้าราชการทุกหน่วยราชการจะต้องหยุดรับคำสั่งรัฐบาลที่ไม่มีชอบธรรมอีกต่อไป เมื่อระบอบทักษิณหมดไป อำนาจจะคืนกลับมาเป็นของประชาชนตามรัฐธรรรมนูญ มาตรา 3 ประชาชนก็จะได้เลือกตัวแทนจากสาขาอาชีพต่างๆ ประกอบกันเข้าเป็นสภาประชาชน กำหนดทั้งนโยบาย ทำหน้าที่นิติบัญญัติ ดูแลการตรากฎหมาย เช่น กฎหมายต้านทุจริต กฎหมายการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม เป็นต้น สภาประชาชนจะเป็นผู้คัดเลือกคนดีที่ไม่ใช่คนของพรรคการเมืองเป็นนายกฯ และประกอบเป็น ครม.ชั่วคราว ที่เป็นไปตามบทบัญญัติ รธน.มาตรา 7
จากนั้นจะเร่งรัดเปลี่ยนแปลงประเทศให้เสร็จสิ้นในเวลาที่สั้นที่สุด อาทิ กระจายอำนาจการปกครองให้มีเลือกตั้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ปฏิรูปโครงสร้างตำรวจ ให้เป็นตำรวจของประชาชนอยู่ภายใต้กำกับของประชาชน เป็นต้น
เมื่อทำทุกอย่างเรียบร้อย ก็จะดำเนินการให้มีการเลือกตั้งทั่วไปให้ประเทศเดินหน้าไปสู่วิถีทางประชาธิปไตยอันบริสุทธิ์ สภาประชาชนก็จะกลับบ้าน เพราะถือว่าได้จบภาระหน้าที่ของประชาชนแล้ว
ชัยชนะของประชาชนยังไม่บังเกิดขึ้นวันนี้ เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยังยื้อยุดคงอำนาจองตนไว้ ทั้งที่หมดความชอบธรรมทุกประการ พี่น้องจึงจำเป็นต้องสู้ต่อไปจนกว่าบรรลุเป้าหมายชัยชนะของประชาชน
กปปส.ขอเรียกร้องให้ข้าราชการทุกหมู่เหล่า พลเรือน ทหารตำรวจรัฐวิสากิจ ประชาชน ตัดสินใจเลือกข้างได้แล้วว่าจะอยู่ข้างระบอบทักษิณ หรือประชาชน เพื่อช่วยกันทำให้ประเทศเดินหน้าไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์เหมือนนานาอารยะประเทศ พร้อมกันนี้ขอให้ทุกกลุ่มเครือข่ายทุกกลุ่มจัดตั้งเป็น กปปส.ของแต่ละจังหวัดพื่อเป็นเครือข่ายต่อสู้ขจัดระบอบทักษิณให้หมดสื้นจากแผ่นดินไทย
และในวโรกาสมหามงคลอันสำคัญ ในนามของมวลมหาประชาชน กปปส.จะจัดงานพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัว ที่เวทีราชดำเนนิน กระทรวงการคลัง และศูนย์ราชการ ให้เป็นงานยิ่งใหญ่ที่สุดเพื่อให้มวลมหาประชาชนเป็นล้านๆ คนมาร่วมงานกัน เพื่อถวายความจงรักภักดี
นายสุเทพ ยืนยันกับประชาชนทั้งประเทศว่าการต่อสู้ของมวลมหาประชาชนครั้งนี้ ตนและเพื่อแกนนำได้ครุ่นคิดกำหนดแนวทางการต่อสู้อย่างรอบคอบและชัดเจน ทั้งได้รับฟังความเห็นจากนักวิชาการและประชาชนทุกหมู่เหล่า และมั่นใจว่าการทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนครั้งนี้จะต้องนำไปสู่ชัยชนะที่สำเร็จอย่างแน่นอน
จากนั้นนายสุเทพได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีต่อโดยระบุว่า วันนี้น่าแปลกใจที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ออกมาให้สัมภาษณ์ทางทีวียกย่อง กปปส.ว่าพี่น้องมีอุดมการณ์ตั้งใจทำงานเพื่อประเทศชาติ แต่เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ยังสั่งยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ประชาชนอย่างบ้าคลั่ง นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้มีการสั่งระดมรถกันกระสุนเข้ามาเพื่อปราบปรามประชาชน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเอามาทำไม เพราะประชาชนมีแต่หัวใจ ถ้า พล.ต.อ.อดุลย์ จะมาจับตนให้มาคนเดียว มาโดยไม่มีอาวุธ ผมจะยอมให้จับ แต่ถ้าไม่มาพรุ่งนี้ กปปส.จะไปหา และอยากให้ พล.ต.อ.อดุลย์ ครุ่นคิดให้ดีว่าจะพลีชีพให้ทักษิณ หรือมาร่วมมือกับประชาชน ถ้าไม่ตัดสินใจ ภารกิจในวันพรุ่งนี้ กปปส.ก็ต้องไปยึด สตช.โดยจะไปกันตั้งแต่เช้า เพื่อจะได้เสร็จตอนบ่ายเหมือนวันนี้ที่ยึดทำเนียบและ บช.น.ได้ ไม่อยากให้ไปเสร็จค่ำๆ เพราะไม่ไว้ใจตำรวจ
นายสุเทพ ยังกล่าวด้วยว่าให้สัญญากับมวลชนว่าถ้าไม่ชนะจะไม่ยอมทรุด จะยืนเคียงข้างกับประชาชนสู้กับระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย เพราะไม่เช่นนั้นวงจรอุบาทว์ทางการเมืองก็จะไม่มีวันหมดสิ้นไป และยืนยันว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 7 เปิดช่องให้สามารถจัดตั้งสภาประชาชน และ ครม.ชั่วคราวได้ โดยตนมีปรมาจารย์ทางกฎหมาย 30 กว่าคน จากทุกมหาวทิทยาลัย ที่พร้อมจะอธิบายอย่างมีเหตุมีผลรองรับ
แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีคนถามว่าสภาประชาชนมาจากไหน ก็อธิบายว่าสภาที่มีปัญหาเป็นสภาทาสนักการเมือง ร่วมกันคดโกงบ้านเมือง วิธีนี้แก้ปัญหาไม่ได้ ในสถานการณ์นี้ต้องเอาตัวแทนประชาชนทุกสาขาอาชีพที่ไม่มีผลประโยชน์ทางการเมือง คิดอ่านคำนึงถึงผลประโยชนชาติเท่านั้น ลงทะเบียนเลือกกันเอง เอาตัวแทนมาประกอบกันเข้า เข้ามาทำหน้าที่ออกกฎหมาย แก้กฎหมายที่จะเป็นผลประโยชน์กับประเทศชาติประชาชน
ซึ่งการตั้งสภาประชาชนไม่ใช่ครั้งแรก แต่หลังเหตุการณ์ 14 ต.ค. 2516 เคยทำมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้นเรียกว่าสภาสนามม้า แต่เราจะทำให้ดีกว่านั้น ให้เป็นสภาที่แท้จริง ทำงานเพื่อประเทศชาติ ประชาชน และจะใช้เวลาไม่นาน จะอยู่ระหว่างหนึ่งเท่านั้น ไม่แช่แข็งประเทศไทย เมื่อสภาประชาชนทำหน้าที่แก้ไขกฎหมายต่างๆ แล้วก็จะให้เลือกใครคนใดคนหนึ่งขึ้นมาทำหน้าที่นายกฯ ซึ่งยืนยันแน่นอนว่าคนนั้นไม่ใช่นายสุเทพ เพราะตนไม่เอาอะไรทั้งนั้น
คำต่อคำ : สุเทพ เทือกสุบรรณ แถลง 19.30 น. วันที่ 3 ธ.ค.56
“สวัสดีครับพี่น้องประชาชนที่รักชาติ รักแผ่นดินที่เคารพรักทุกท่านครับ ในนามของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) กระผมขออนุญาตกราบเรียนแถลงให้พี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งประเทศได้ทราบว่า นับตั้งแต่มวลมหาประชาชนชาวไทย ได้ลุกขึ้นมาต่อสู้ ต่อต้านการใช้อำนาจรัฐของรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกมาชุมนุมของมวลมหาประชาชน ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2556 เป็นปรากฏการณ์ที่ชัดเจนว่า เป็นการต่อสู้แบบสันติ อหิงสา ไม่ใช้ความรุนแรงทั้งปวง อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์
ทั้งนี้เนื่องจากมวลมหาประชาชนได้ตระหนักชัดแล้วว่า รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายรัฐธรรมนูญ มวลมหาประชาชนจึงได้ลุกขึ้นมาพิทักษ์รัฐธรรมนูญ เพราะเป็นหน้าที่ของประชาชนตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่จะต้องทวงคืนอำนาจอธิปไตยอันเป็นของปวงชนชาวไทย เพื่อใช้ประชาธิปไตยโดยตรงในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ป้องกันไม่ให้เผด็จการนายทุนแบบระบอบทักษิณ หรือประชาธิปไตยหุ่นเชิดกลับมามีอำนาจในการปกครองประเทศอีก พร้อมทั้งจะได้ดำเนินการแก้ไขป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันให้ได้ผลก่อนที่ประเทศชาติจะเสียหายล่มจมย่อยยับลงไปกว่านี้
ทั้งนี้จะดำเนินการปฏิรูปประเทศไทย โดยจัดตั้งสภาประชาชน และรัฐบาลของประชาชนดำเนินการทั้งหมด โดยใช้เวลาที่รวดเร็วที่สุด หลังจากนั้นก็จะให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปตามวิถีทางประชาธิปไตยอันบริสุทธิ์สมบูรณ์ วันนี้มวลมหาประชาชนได้เข้าควบคุมพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเป็นกำลังหลักของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในการปราบปรามประชาชนด้วยความรุนแรงมาทั้ง 2 วัน และวันนี้ประชาชนได้ควบคุมกองบัญชาการตำรวจนครบาลเรียบร้อยแล้วครับ
นอกจากนั้น ประชาชนได้เข้าไปในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งตำรวจของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยประกาศว่า จะไม่ยอมให้ประชาชนเข้าไปโดยเด็ดขาด เพราะนี่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นรัฐบาล แต่ในที่สุดด้วยพลังอันบริสุทธิ์ ด้วยมือเปล่าของประชาชน ก็ได้เข้าไปในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลได้จนครบเต็มพื้นที่ แต่เมื่อเห็นว่าเจ้าหน้าที่ที่รักษาดูแลทำเนียบไม่ใช่ตำรวจ อย่างที่คำรณวิทย์เคยพูด หากแต่เป็นทหาร เป็นทหารของประชาชน มวลมหาประชาชนจึงได้ถอนออกจากพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะเคารพในเกียรติยศ และศักดิ์ศรีของทหาร ซึ่งได้วางตัวถูกต้องในวิกฤตการณ์ครั้งนี้ มาโดยตลอด
ในนามของ กปปส.กระผมขอขอบคุณพี่น้องผู้ปฏิบัติงานด้วยความองอาจ เข้มแข็ง สันติ ปราศจากอาวุธทุกท่าน พิสูจน์ให้เห็นว่า พลังบริสุทธิ์ของประชาชน สามารถเอาชนะความรุนแรงของฝ่ายผู้ถืออาวุธของรัฐบาลได้อย่างชัดเจนแน่นอน แม้ประชาชนจะประสบชัยชนะในการเข้าควบคุมพื้นที่สำคัญในวันนี้ ประชาชนก็สามารถฉลองชัยชนะได้ในระดับหนึ่ง แต่พี่น้องประชาชนยังจะต้องร่วมแรงสามัคคีกันต่อสู้ต่อไป จนกว่าระบอบทักษิณจะหมดไปจากประเทศไทย พี่น้องข้าราชการทั้งหลายก็ต้องพร้อมใจกันหยุดงานต่อไป ไม่ยอมเป็นเครื่องมือของระบอบทักษิณ จนถึงจุดที่รัฐบาลไม่สามารถบริหารราชการได้ต่อไป สั่งข้าราชการไม่ได้อีกต่อไป
ฉะนั้นทุกส่วนราชการทั้งในกรุงเทพฯ และทุกจังหวัดจะต้องหยุดรับคำสั่งราชการ จากรัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรมทั้งทางด้านกฎหมายและทางด้านการเมืองอีกต่อไป เมื่อระบอบทักษิณหมดอำนาจ อำนาจก็จะคืนกลับสู่พี่น้องประชาชนเจ้าของประเทศตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญมาตรา 3 ประชาชนทุกสาขาอาชีพก็จะได้ร่วมกันเลือกตัวแทนจากสาขาอาชีพต่างๆ ประกอบกันเข้าเป็นสภาประชาชน สภาประชาชน จะเป็นทั้งสภาที่กำหนดแนวนโยบาย และทำหน้าที่สภานิติบัญญัติ ดูแลแก้ไขการตรากฎหมายเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทย ตรากฎหมายต้านทุจริต ตรากฎหมายให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรมเป็นต้น
สภาประชาชนจะเป็นผู้คัดเลือกคนดี ที่ไม่ใช่คนของพรรคการเมืองใด เป็นนายกรัฐมนตรี และประกอบเป็นคณะรัฐมนตรีชั่วคราว ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา 7 จากนั้นรัฐบาลของประชาชนจะเร่งรัดปฏิบัติงานในการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทย ตามแนวนโยบายของสภาประชาชนให้เสร็จสิ้นในเวลาที่สั้นที่สุด อาทิเช่น การกระจายอำนาจการปกครองให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด การปฏิรูปโครงสร้างตำรวจให้ตำรวจเป็นตำรวจของประชาชนอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของประชาชนอย่างนี้เป็นต้น เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะดำเนินการให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ให้ประเทศเดินหน้าต่อไปตามวิถีทางประชาธิปไตยอันบริสุทธิ์ ทั้งรัฐบาลของประชาชนและสภาประชาชนก็จะกลับบ้านทำหน้าที่เป็นประชาชนเจ้าของประเทศตามปกติต่อไป เพราะถือว่า ได้จบภาระหน้าที่ของประชาชนแล้ว ชัยชนะของประชาชนยังไม่บังเกิดขึ้นในวันนี้ เพราะรัฐบาลของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังยื้อยุดพยายามที่จะคงอำนาจของตนไว้ทั้งๆ ที่หมดอำนาจอันชอบธรรมทุกประการ พี่น้องประชาชนทั้งหลายจึงจำเป็นที่จะต้องต่อสู้ต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายคือชัยชนะของประชาชน
ในนามของมวลมหาประชาชน กปปส.ขอเรียกร้องให้ข้าราชการทุกหมู่เหล่า ทั้งข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ผู้ใช้แรงงาน และพี่น้องประชาชนตัดสินใจอนาคตของประเทศไทยว่า ท่านจะอยู่กับระบอบทักษิณอีกต่อไป หรือท่านจะไม่อยู่กับระบอบทักษิณมายืนอยู่ข้างประชาชนเพื่อที่จะช่วยกันแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ประเทศของเราได้ดีขึ้น และเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ที่บริสุทธิ์เหมือนนานาอารยประเทศ
พร้อมกันนี้ก็ขอให้ทุกกลุ่มเครือข่ายของพี่น้องประชาชนทุกจังหวัด ได้รวมตัวกันจัดตั้งเป็น กปปส.แต่ละจังหวัดเพื่อเป็นเครือข่ายในการต่อสู้ เพื่อขจัดระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย วันเฉลิมพระชนมพรรษาในนามของมวลมหาประชาชน คณะกรรมการ กปปส.จะจัดงานเพื่อแสดงความจงรักภักดี ต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ราชดำเนิน ที่กระทรวงการคลัง และที่ศูนย์ราชการ ให้เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่ประชาชนชาวไทยที่เป็นมวลมหาประชาชนทั้งหลาย จะมาร่วมงานกันเป็นล้านๆ คน เพื่อถวายความจงรักภักดี
ในประการสุดท้าย กระผมขอให้คำยืนยันต่อพี่น้องประชาชนทั้งประเทศว่า ในการต่อสู้ของมวลมหาประชาชนครั้งนี้ กระผมในฐานะแกนนำ และเพื่อนแกนนำทั้งหลาย ได้ครุ่นคิดกำหนดแนวทางการต่อสู้อย่างรอบคอบ กำหนดทิศทางเป้าหมายการต่อสู้อย่างชัดเจน ทั้งได้รับฟังความคิดความเห็นจากนักวิชาการ จากพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า ผมมั่นใจว่า การตัดสินใจที่ยึดถือประโยชน์ของชาติ และประเทศเป็นสำคัญครั้งนี้ จะต้องนำไปสู่ชัยชนะที่เด็ดขาดของมวลมหาประชาชนอย่างแน่นอน ขอกราบขอบพระคุณครับ”