xs
xsm
sm
md
lg

จับ2โจ๋มือฉกเครื่องเสียงรถบัส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ตำรวจตั้งทีมสืบสวนสอบสวน คดีฆ่าและวางเพลิง หน้าม.รามคำแหง รวม 19 คดี เผยล่าสุดจับได้แล้ว 2 วัยรุ่นลงมืองัดแงะเครื่องเสียงบนรถบัสคันที่ถูกเผา ยอมรับขโมยจริง แต่ปฏิเสธวางเพลิง ด้าน "วุฒิศักดิ์" ตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบเหตุชุมนุมที่ม.ราม

พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ10) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อเร่งรัดสืบสวนคดีฆ่าและวางเพลิง บริเวณหน้า ม.รามคำแหง เหตุเกิดช่วงวันที่ 30 พ.ย. ต่อเนื่องวันที่ 1 ธ.ค.ว่า ที่ประชุมได้มีการตั้งคณะทำงานด้านการสืบสวน โดยมอบหมายให้ พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 เป็นหัวหน้า มี พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รองผบช.ภ.7 และชุดสืบสวนจากบช.ภ.7และบช.น. ขณะที่การสอบสวนมอบหมายให้ พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ รองผบชภ.7 เป็นหัวหน้า รับผิดชอบกำกับดูแลคดีที่สำคัญ 5 คดี ได้แก่ กรณีผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิต 4 คดี และกรณีพบศพผู้เสียชีวิตในรถบัส 1 คดี และยังได้รับคดีอื่นๆ ได้แก่ คดีพยายามฆ่า 8 ราย ทำร้ายร่างกาย 8 ราย ทำให้เสียทรัพย์ 2 ราย และวางเพลิงเผาทรัพย์ 1 ราย รวมทั้งหมด19 คดี

สำหรับความคืบหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ปรากฎในภาพทางสื่อมวลชนและพลเมืองดีที่บันทึกเอาไว้ได้ว่าเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในรถบัสคันที่ถูกเผาได้จำนวน 2 คน คือ นายอดิสรณ์ สีจันทร์ผ่อง หรือ ต้าร์ อายุ 29 ปี และนายหรั่ง นามสมมติ อายุ 15 ปี พร้อมของกลางเครื่องเสียงที่ขโมยมาซุกซ่อนไว้ในบ้านพักย่านซอยรามคำแหง 39 พร้อมเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ โดยผู้ต้องให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่าเข้าไปลักทรัพย์ภายในรถบัสจริง แต่ไม่ได้เป็นผู้วางเพลิง เจ้าหน้าที่นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางชัน แจ้งข้อหาวางเพลิง เผาทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและลักทรัพย์

ทั้งนี้ ในส่วนความคืบหน้าในการดำเนินคดีในข้อหาอื่นๆ อยู่ระหว่างการดำเนินการ ยืนยันว่า การสืบสวนและการสอบสวนมีความคืบหน้าไปมาก ขณะเดียกวัน ตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัวนายเบนซ์ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริงที่ปรากฏภาพขึ้นไปรถบัสและกำลังอุ้มทีวีลงมาจากรถด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับผู้ชุมนุม พล.ต.อ.จรัมพร กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า นายอดิสรณ์ ซึ่งมีบ้านพักอยู่ภายในซอยรามคำแหง 39 ได้ชวนนายหรั่ง ซึ่งอยูบ้านใกล้กันซ้อนรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีแดงของตนออกไปซื้อบุหรี่บริเวณหน้า ม.รามฯ และอยากไปดูเหตุการณ์การชุมนุม โดยได้ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มที่ปากซอยรามคำแหง 61 หลังกดเงินได้มีกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งน่าจะเป็นเด็กอาชีวะขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา และได้ชักชวนไปร่วมทุบทำลายรถบัส ซึ่งจอดหน้าการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยนายอดิศรณ์และนายหรั่ง ได้ร่วมกับวัยรุ่นดังกล่าวขึ้นไปรถบัสก่อนขโมยเครื่องเสียงลงมา ซึ่งจากคำให้การตรงนี้ เชื่อได้ว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เพียงแค่ถูกชักชวนไป และต้องการแค่ไปขโมยทรัพย์สินเท่านั้น

วันเดียวกันนี้ ที่อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง (ม.ร.) ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดี ม.ร. ได้แถลงข่าวการให้ความช่วยเหลือแก่นักศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง โดยระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 64 ราย เสียชีวิต 4 ราย เป็นนักศึกษาม.ร. 1 ราย และในจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ มีนักศึกษาม.ร. ที่กำลังศึกษาอยู่ 15 ราย ส่วนที่เหลือเป็น นักศึกษาศิษย์เก่า นักศึกษาจากสถาบันอื่นๆ และประชาชนทั่วไป ซึ่งในส่วนของ ม.ร. ได้ตั้งศูนย์รับแจ้งข้อมูลผู้ได้รับบาดเจ็บและหลักฐานจากเหตุการณ์ชุมนุม และตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายแก่ผู้ได้รับผลกระทบ

ด้านนายนราเมศวร์ ธีระรังสิกุล บิดาของนายทวีศักดิ์ โพธิ์แก้ว นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ ที่เสียชีวิตจากเหตุชุมนุม กล่าวว่า ลูกของผมไม่ได้รับจ้างใครมาชุมนุม เขารักชาติบ้านเมืองเหมือนคนอื่น และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ที่เกี่ยวข้องขอให้สอบสวนให้ความเป็นธรรม ไม่บิดเบือนหรือทำอะไรให้ไม่ตรงกับความเป็นจริง ผลสอบสวนเป็นอย่างไรขอให้ยอมรับ และให้เกียรติคนตายบ้าง ถึงแม้ลูกชายผมจะเป็นเด็ก ไม่ได้เรียนสูงเหมือนลูกคนอื่น ไม่ได้เข้าคณะดีๆ แต่ลูกผมก็เป็นคนๆ หนึ่ง ที่ได้ทำในสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนต้องภาคภูมิใจ เพราะไม่มีงานศพที่ไหน ที่จะเห็นผู้คนมาเต็มวัด มาไหว้ มาให้กำลังใจพวกผม
กำลังโหลดความคิดเห็น