ASTVผู้จัดการรายวัน - มวลชนต่างจังหวัดไม่หยุด ฮือไล่รัฐบาลรักษาการ ลั่น"ระบอบทักษิณ" ต้องหมดไปจากประเทศไทย แล้วค่อยเลือกตั้งใหม่ นายกศิษย์เก่าวิศวกรรมศาสตร์ ม.บูรพา รับเคยหลงรักไม่ลืมหูลืมตา วันนี้ตาสว่างแล้ว ด้าน "ขวัญชัย" จูงจมูกอดีตส.ส.เพื่อแม้ว ต้อนฝูงแดงพร้อม"กระบองไม้-ปืน" ล้อมกลุ่มคนอุดรรักชาติ ตำรวจทำได้แค่ขอร้องให้กลุ่มคนรักชาติสลายตัว "แดงเชียงราย"กร่างไม่เลิก ตามราวีรถชาวบ้านทำธุระในศาลากลาง ด้าน"นปช."ถอย เลิกเวทีหนุน"ยิ่งลักษณ์"ที่อยุธยา 10 ธ.ค. หลังแถลงยุบสภา
วานนี้ (9 ธ.ค.)ภายหลังน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่าจากการหารือและรับฟังข้อคิดเห็นของทุกภาคส่วนแล้ว ได้ตัดสินใจขอพระราชทานทูลเกล้าฯถวายร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร 2556 เพื่อทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยนั้น
กลุ่มมวลชนในต่างจังหวัดยังคงเดินหน้าชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัด และสถานที่สำคัญของจังหวัด เรียกร้องให้น.ส.ยิ่งลักษณ์และคณะ ลาออกจากรักษาการนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีด้วย เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนอย่างแท้จริง เพราะหากแค่ยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ ปัญหาเดิมจะวนกลับมาอีก ทั้งการใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง นักการเมืองแสวงหาผลประโยชน์จากการคอร์รัปชัน ดังนั้นต้องหาคนกลางจัดระเบียบประเทศใหม่ เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปประเทศ ขับไล่ระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทยอย่างแท้จริง แล้วจึงจัดให้มีการเลือกตั้งต่อไป
เช่น กลุ่มเสรีชนคนชลบุรี ที่รวมตัวกันหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี ยังปักหลักปราศรัยขับไล่คณะรัฐมนตรีรักษาการ เพราะเชื่อว่าเป็นการสับขาหลอกของรัฐบาล อีกทั้งทุกคนที่มาชุมนุมเพราะต้องการขับไล่ตระกูลชินวัตรและพวกพ้อง ไม่ให้กลับมายุ่งเกี่ยวกับการปกครองของประเทศอีก ไม่ใช่ให้ยุบสภา
ขณะที่นายกัณตพัฒน์ ดิลกวงศ์วัฒน์ นายกสมาคมศิษย์เก่า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า ที่ผ่านมาคนรากหญ้ารักระบอบทักษิณแบบไม่ลืมหูลืมตา ตนเองก็เป็นหนึ่งในคนที่เคยหลงผิด แต่วันนี้รู้แล้วว่าอะไรผิด อะไรถูก จึงกลับใจเข้าข้างประเทศไทย ออกมาแสดงจุดยืน โดยตนไม่ได้เข้าข้างใครทั้งสิ้น ทั้งฝั่งเสื้อแดง หรือคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) แต่เพราะความไม่ชอบธรรมของระบอบทักษิณ ที่มีแต่การโกงกิน คอร์รัปชัน จนประเทศแทบจะไม่เหลืออะไรแล้ว
จ.นครราชสีมา กลุ่มพลังมวลชนคนโคราชกว่า 5,000 คนเคลื่อนขบวนไปศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งนายชยาวุธ จันทร รองผู้ว่าราชการจังหวัด ลงมาพบ ขณะที่นายจักริน เชิดฉาย ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปพักรับประทานอาหารใต้ร่มไม้ในบริเวณศาลากลางจังหวัด จากนั้นแกนนำปราศรัยเรียกร้องให้นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด แสดงจุดยืนอยู่ข้างประชาชน เลิกทำตัวเป็นขี้ข้าระบอบทักษิณ เพราะชาวโคราชไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง กรณีนายวินัยไปร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดง จัดงานวันเกิดให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีอาญาแผ่นดิน รวมถึงเปิดหอประชุมเปรม ติณสูลานนท์ ให้พ.ต.ท.ทักษิณวิดีโอลิ้งค์มาปราศรัยกับกลุ่มคนเสื้อแดง สั่งสอนข้าราชการ และนักเรียนซึ่งเป็นเยาวชนของชาติ โดยขอให้ ายวินัยย้ายตัวเองออกไป หากไม่ยอมย้าย ประชาชนจะขับไล่เอง
จากนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมนำพวงหรีดขึ้นไปวางบริเวณประตูหน้าห้องทำงานนายวินัย พร้อมนำป้ายข้อความ "ศาลากลางเป็นของประชาชน" และ "ผู้ว่าฯไม่ใช่ขี้ข้านักการเมือง" ติดไว้ด้านหน้าอาคารศาลากลางจังหวัด
อย่างไรก็ตามการชมุนุมบางจังหวัดเกิดการเผชิญหน้ากับกลุ่มคนเสื้อแดง อาทิ จ.อุดรธ่านี ซึ่งกลุ่มพลังมวลชนคนอุดรรักชาติประมาณ 50 คน รวมตัวที่หน้าศาลากลางจังหวัด ปรากฏว่านายขวัญชัย ไพรนา นายศราวุธ เพชรพนมพร นายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ นายเกียงศักดิ์ ฝ้ายศรีงาม นายอนันต์ ศรีพันธ์ และนายขจิต ชัยนิคม อดีตส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย นำชายฉกรรจ์กว่า 100 คนถือกระบองไม้เดินทางมาขับไล่ โดยปราศรัยด่าทอ ขณะเดียวกันรถโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน ผก 2499 อุดรธานี มีกลุ่มชายฉกรรจ์อยู่บนกระบะพร้อมอาวุธปืนยาว 2 กระบอก ทำท่าเล็งไปยังกลุ่มพลังมวลชนคนอุดรรักชาติ
ขณะที่ตำรวจชุดปราบจลาจล กลับเจรจาขอร้องให้กลุ่มพลังมวลชนคนอุดรรักชาติถอยไป เพื่อเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น โดยให้ใช้ประตูหลังสำนักงานไปรษณีย์เป็นทางออกจากการปิดล้อม และขอให้นายขวัญชัยและกลุ่มอดีตส.ส.บอกกลุ่มชายฉกรรจ์ให้เก็บอาวุธ โดยไม่ตรวจสอบว่าเป็นอาวุธปืนจริงหรือไม่
ต่อมา เวลาประมาณ 11.30 น. นายขวัญชัย และอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ขับรถเข้ามาในกลุ่มคนเสื้อแดง และกล่าวว่ากลุ่มนกหวีดแยกย้ายกันไปหมดแล้ว ขอให้ไปกินข้าวเที่ยงร่วมกันที่สถานวิทยุชมรมคนรักอุดร
ที่จ.เชียงราย ที่หน้าศาลากลางจังหวัด กลุ่มคนเสื้อแดงหลายกลุ่ม ตั้งเต็นท์และเวทีปราศรัยตรงปากทางเข้า-ออก คู่กับอาสาสมัครรักษาดินแดน(อส.) ที่ตั้งจุดตรวจอยู่ จนเกิดการกระทบกระทั่งกัน เมื่ออส.ปล่อยให้รถยนต์คันหนึ่งขับเข้าไปในบริเวณศาลากลางได้ ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงสงสัยว่าจะเป็นกลุ่มขับไล่รัฐบาลจึงพากันไปล้อมรถ จนการ์ดของคนเสื้อแดงต้องเข้าห้ามปรามเอาไว้ แต่กลุ่มคนเสื้อแดงยังคงไล่ตรวจสอบรถที่จอดอยู่โดยรอบอาคารศาลากลางจังหวัด ว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามหรือไม่ จนมีคนเข้าไปตักเตือนให้เลิกทำ เพราะเป็นหน้าที่ของอส.
ขณะที่เจ้าของรถคันดังกล่าวระบุว่า แค่มาติดต่อธนาคารที่ตั้งอยู่ภายในอาคารศาลากลางจังหวัดเท่านั้น ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้
จ.อุบลราชธานี มวลชนกปปส.กว่า 3,000 คน นำโดยนพ.ประสบ สารสมัคร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ตั้งเวทีปราศรัยที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัด ขณะที่ด้านนอกบริเวณถนนแจ้งสนิท กลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 200 คน มาปราศรัยโจมตี ทำให้ตำรวจต้องวางกำลังกั้นกลาง ไม่ให้ทั้ง 2 ฝ่ายปะทะกัน
จ.จันทบุรี คนจันท์รักชาติต้านระบอบทักษิณกว่า 2,000 คน ฝ่าแนวกั้นแผงเหล็ก และตำรวจชุดควบคุมฝูงชนหน้าศาลากลางจังหวัดได้สำเร็จ และเรียกร้องการจัดตั้งสภาประชาชน ส่งผลทำให้ผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ 1 ราย และประกาศจะเอาผิดกับตำรวจให้ถึงที่สุด
จ.พระนครศรีอยุธยา กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ซึ่งนัดชุมนุมที่สนามกีฬาจังหวัด วันที่ 10 ธันวาคม เพื่อแสดงพลังสนับสนุนน.ส.ยิ่งลักษณ์และรัฐบาล แต่หลังน.ส.ยิ่งลักษณ์แถลงยุบสภา ผู้ประสานจัดการชุมนุมได้โทรศัพท์แจ้งกับเจ้าหน้าที่และการ์ดที่กำลังติดตั้งเต็นท์และเวทีปราศรัยว่า แกนนำนปช.ประกาศยกเลิกการชุมนุมแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่และการ์ดรีบเก็บเต็นท์และอุปกรณ์กลับทันที
วานนี้ (9 ธ.ค.)ภายหลังน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่าจากการหารือและรับฟังข้อคิดเห็นของทุกภาคส่วนแล้ว ได้ตัดสินใจขอพระราชทานทูลเกล้าฯถวายร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร 2556 เพื่อทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยนั้น
กลุ่มมวลชนในต่างจังหวัดยังคงเดินหน้าชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัด และสถานที่สำคัญของจังหวัด เรียกร้องให้น.ส.ยิ่งลักษณ์และคณะ ลาออกจากรักษาการนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีด้วย เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนอย่างแท้จริง เพราะหากแค่ยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ ปัญหาเดิมจะวนกลับมาอีก ทั้งการใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง นักการเมืองแสวงหาผลประโยชน์จากการคอร์รัปชัน ดังนั้นต้องหาคนกลางจัดระเบียบประเทศใหม่ เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปประเทศ ขับไล่ระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทยอย่างแท้จริง แล้วจึงจัดให้มีการเลือกตั้งต่อไป
เช่น กลุ่มเสรีชนคนชลบุรี ที่รวมตัวกันหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี ยังปักหลักปราศรัยขับไล่คณะรัฐมนตรีรักษาการ เพราะเชื่อว่าเป็นการสับขาหลอกของรัฐบาล อีกทั้งทุกคนที่มาชุมนุมเพราะต้องการขับไล่ตระกูลชินวัตรและพวกพ้อง ไม่ให้กลับมายุ่งเกี่ยวกับการปกครองของประเทศอีก ไม่ใช่ให้ยุบสภา
ขณะที่นายกัณตพัฒน์ ดิลกวงศ์วัฒน์ นายกสมาคมศิษย์เก่า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า ที่ผ่านมาคนรากหญ้ารักระบอบทักษิณแบบไม่ลืมหูลืมตา ตนเองก็เป็นหนึ่งในคนที่เคยหลงผิด แต่วันนี้รู้แล้วว่าอะไรผิด อะไรถูก จึงกลับใจเข้าข้างประเทศไทย ออกมาแสดงจุดยืน โดยตนไม่ได้เข้าข้างใครทั้งสิ้น ทั้งฝั่งเสื้อแดง หรือคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) แต่เพราะความไม่ชอบธรรมของระบอบทักษิณ ที่มีแต่การโกงกิน คอร์รัปชัน จนประเทศแทบจะไม่เหลืออะไรแล้ว
จ.นครราชสีมา กลุ่มพลังมวลชนคนโคราชกว่า 5,000 คนเคลื่อนขบวนไปศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งนายชยาวุธ จันทร รองผู้ว่าราชการจังหวัด ลงมาพบ ขณะที่นายจักริน เชิดฉาย ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปพักรับประทานอาหารใต้ร่มไม้ในบริเวณศาลากลางจังหวัด จากนั้นแกนนำปราศรัยเรียกร้องให้นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด แสดงจุดยืนอยู่ข้างประชาชน เลิกทำตัวเป็นขี้ข้าระบอบทักษิณ เพราะชาวโคราชไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง กรณีนายวินัยไปร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดง จัดงานวันเกิดให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีอาญาแผ่นดิน รวมถึงเปิดหอประชุมเปรม ติณสูลานนท์ ให้พ.ต.ท.ทักษิณวิดีโอลิ้งค์มาปราศรัยกับกลุ่มคนเสื้อแดง สั่งสอนข้าราชการ และนักเรียนซึ่งเป็นเยาวชนของชาติ โดยขอให้ ายวินัยย้ายตัวเองออกไป หากไม่ยอมย้าย ประชาชนจะขับไล่เอง
จากนั้น กลุ่มผู้ชุมนุมนำพวงหรีดขึ้นไปวางบริเวณประตูหน้าห้องทำงานนายวินัย พร้อมนำป้ายข้อความ "ศาลากลางเป็นของประชาชน" และ "ผู้ว่าฯไม่ใช่ขี้ข้านักการเมือง" ติดไว้ด้านหน้าอาคารศาลากลางจังหวัด
อย่างไรก็ตามการชมุนุมบางจังหวัดเกิดการเผชิญหน้ากับกลุ่มคนเสื้อแดง อาทิ จ.อุดรธ่านี ซึ่งกลุ่มพลังมวลชนคนอุดรรักชาติประมาณ 50 คน รวมตัวที่หน้าศาลากลางจังหวัด ปรากฏว่านายขวัญชัย ไพรนา นายศราวุธ เพชรพนมพร นายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ นายเกียงศักดิ์ ฝ้ายศรีงาม นายอนันต์ ศรีพันธ์ และนายขจิต ชัยนิคม อดีตส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย นำชายฉกรรจ์กว่า 100 คนถือกระบองไม้เดินทางมาขับไล่ โดยปราศรัยด่าทอ ขณะเดียวกันรถโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน ผก 2499 อุดรธานี มีกลุ่มชายฉกรรจ์อยู่บนกระบะพร้อมอาวุธปืนยาว 2 กระบอก ทำท่าเล็งไปยังกลุ่มพลังมวลชนคนอุดรรักชาติ
ขณะที่ตำรวจชุดปราบจลาจล กลับเจรจาขอร้องให้กลุ่มพลังมวลชนคนอุดรรักชาติถอยไป เพื่อเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น โดยให้ใช้ประตูหลังสำนักงานไปรษณีย์เป็นทางออกจากการปิดล้อม และขอให้นายขวัญชัยและกลุ่มอดีตส.ส.บอกกลุ่มชายฉกรรจ์ให้เก็บอาวุธ โดยไม่ตรวจสอบว่าเป็นอาวุธปืนจริงหรือไม่
ต่อมา เวลาประมาณ 11.30 น. นายขวัญชัย และอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ขับรถเข้ามาในกลุ่มคนเสื้อแดง และกล่าวว่ากลุ่มนกหวีดแยกย้ายกันไปหมดแล้ว ขอให้ไปกินข้าวเที่ยงร่วมกันที่สถานวิทยุชมรมคนรักอุดร
ที่จ.เชียงราย ที่หน้าศาลากลางจังหวัด กลุ่มคนเสื้อแดงหลายกลุ่ม ตั้งเต็นท์และเวทีปราศรัยตรงปากทางเข้า-ออก คู่กับอาสาสมัครรักษาดินแดน(อส.) ที่ตั้งจุดตรวจอยู่ จนเกิดการกระทบกระทั่งกัน เมื่ออส.ปล่อยให้รถยนต์คันหนึ่งขับเข้าไปในบริเวณศาลากลางได้ ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงสงสัยว่าจะเป็นกลุ่มขับไล่รัฐบาลจึงพากันไปล้อมรถ จนการ์ดของคนเสื้อแดงต้องเข้าห้ามปรามเอาไว้ แต่กลุ่มคนเสื้อแดงยังคงไล่ตรวจสอบรถที่จอดอยู่โดยรอบอาคารศาลากลางจังหวัด ว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามหรือไม่ จนมีคนเข้าไปตักเตือนให้เลิกทำ เพราะเป็นหน้าที่ของอส.
ขณะที่เจ้าของรถคันดังกล่าวระบุว่า แค่มาติดต่อธนาคารที่ตั้งอยู่ภายในอาคารศาลากลางจังหวัดเท่านั้น ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้
จ.อุบลราชธานี มวลชนกปปส.กว่า 3,000 คน นำโดยนพ.ประสบ สารสมัคร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ตั้งเวทีปราศรัยที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัด ขณะที่ด้านนอกบริเวณถนนแจ้งสนิท กลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 200 คน มาปราศรัยโจมตี ทำให้ตำรวจต้องวางกำลังกั้นกลาง ไม่ให้ทั้ง 2 ฝ่ายปะทะกัน
จ.จันทบุรี คนจันท์รักชาติต้านระบอบทักษิณกว่า 2,000 คน ฝ่าแนวกั้นแผงเหล็ก และตำรวจชุดควบคุมฝูงชนหน้าศาลากลางจังหวัดได้สำเร็จ และเรียกร้องการจัดตั้งสภาประชาชน ส่งผลทำให้ผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ 1 ราย และประกาศจะเอาผิดกับตำรวจให้ถึงที่สุด
จ.พระนครศรีอยุธยา กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ซึ่งนัดชุมนุมที่สนามกีฬาจังหวัด วันที่ 10 ธันวาคม เพื่อแสดงพลังสนับสนุนน.ส.ยิ่งลักษณ์และรัฐบาล แต่หลังน.ส.ยิ่งลักษณ์แถลงยุบสภา ผู้ประสานจัดการชุมนุมได้โทรศัพท์แจ้งกับเจ้าหน้าที่และการ์ดที่กำลังติดตั้งเต็นท์และเวทีปราศรัยว่า แกนนำนปช.ประกาศยกเลิกการชุมนุมแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่และการ์ดรีบเก็บเต็นท์และอุปกรณ์กลับทันที