00 นาทีนี้ถือว่าสถานการณ์การต่อสู้กำลังเดินมาถึงจุดสำคัญที่สุด และ"อ่อนไหว"ที่สุด เพราะฝ่ายประชาชนที่ต่อต้าน กับฝ่าย "ครอบครัวทักษิณ" (ขอใช้คำนี้ก็แล้วกัน) ที่ใช้อำนาจรัฐ ในฐานะที่เป็นรัฐบาลและมี ยิ่งลักษณ์ เป็นหุ่นเชิด และในเวลานี้เครื่องมือสำคัญที่สุดที่ครอบครัวนี้นำมาใช้ก็คือ "ตำรวจขี้ข้า" เท่านั้นที่นำมาขัดขวางกันสุดฤทธิ์สุดเดชกันอยู่ในเวลานี้ และสำหรับตำรวจที่กลายเป็น "ขี้ข้า" ของครอบครัวนี้ คงไม่มีใครปฏิเสธได้แล้วว่าต้องมี ชื่อของ ผบ.ตร. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว, ผบ.ชน.พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ที่ชัดเจนที่สุด เพราะหากพิจารณาจาก"แบ็กกราวด์"การทำงานในอดีต เมื่อย้อนกลับไปในภาคใต้ หลายเหตุการณ์"อัปยศ" ล้วนมาจากตำรวจสองคนนี่ทั้ง สิ้น และหากใครยังจำเหตุการณ์สลายมวลชนที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อหลายปีก่อน ก็มีชื่อของ คำรณวิทย์ คนนี้แหละที่สั่งการ และเกิดขึ้นในยุครัฐบาลทักษิณ
00 ดังนั้นเชื่อเหลือเกินว่า เมื่อผ่านพ้นจากสถานการณ์การลุกขึ้นสู้ของมวลมหาประชาชนในวันนี้แล้ว ตำรวจที่อยู่ใน "ความเกลียด" ของประชาชนรับรองว่า จะต้องจดจำชื่อของ "คำรณวิทย์-อดุลย์" ไม่ลืมแน่นอน เพราะถือว่ารับใช้ทรราชทำร้ายประชาชน และเหตุการณ์อัปยศที่ ม.รามคำแหง ถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่พิสูจน์ให้เห็นถึงการทำงานประสานเป็นเนื้อเดียวกัน ระหว่าง ตำรวจ-ชายชุดดำ-คนเสื้อแดง พิสูจน์ว่าตำรวจไม่ได้ทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่รับใช้ครอบครัวทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น และจากหลักฐานภาพถ่ายจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ชาวบ้านบันทึกและส่งต่อกันไป มันชัดแจ้งแดงแจ๋ จนกลายเป็น "กระแสเกลียดชัง" ลุกลามไปทั่ว
00 หากพิจารณาจากสถานการณ์จริงที่กำลังเป็นอยู่ ถือว่า รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร "บริหารไม่ได้" แล้ว ชาวบ้านไม่ยอมรับ อาจจะมีพวกตำรวจ ข้าราชการ และคนเสื้อแดงบางส่วนที่ยังรับใช้ "ครอบครัวเศรษฐี"ครอบครัวนี้ให้อยู่ในอำนาจแบบสุดใจขาดดิ้น เพราะตัวเองได้ประโยชน์ แต่คนทั่วไปที่ลุกฮือกันทั่วประเทศ ไม่มีใครยอมรับ ดังนั้นสิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือ "ยื้อ" ให้นานที่สุด หวังว่าม็อบต้าน "จะฝ่อ" ซึ่งนาทีนี้เชื่อว่ามันเลยอารมณ์นั้นไปแล้ว มีแต่จะพัฒนาการไปเรื่อย เติมเข้ามาเรื่อย และที่น่าจับตาก็คือ มีการ "ลุกฮือในต่างจังหวัด" ทั้ง"ภาคเหนือและอีสาน" ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะนี่คือ "ดงแดง" ส่วนในกรุงเทพฯ ก็เปลี่ยนไปเป็นตรงข้าม "ไม่เฉย" เหมือนเดิมแล้ว ส่วนคนเสื้อแดงที่เคย"ฮึกเหิม" จนสำคัญผิดคิดว่าเป็น "เจ้าของประเทศ" ไปแล้ว เวลานี้เมื่อได้เห็นการตื่นตัวต่อต้านของมวลมหาประชาชนอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน คนพวกนี้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรากหญ้า หาเช้ากินค่ำ เชื่อฟังแต่พวกหัวโจกพูดกรอกหูแต่เรื่องประชาธิปไตยของทักษิณ ทุกวัน เมื่อทุกอย่างกลับตาลปัตร มันก็ย่อมเสียความมั่นใจ ไม่เหมือนเดิม จากเคยใส่เสื้อแดงเดินกร่างอยู่ในซอย มาวันนี้ก็ต้องหลบหน้า เห็นหลายร้านที่เคยติดรูปบูชา ทักษิณ เคยติดสติ๊กเกอร์ ยิ่งลักษณ์ บัดนี้เห็นแกะออกไปหลายร้านแล้ว เพราะได้รับผลกระทบ ขายของไม่ได้ เพราะถูกบอยคอต นี่คือผลกระทบจริง !!
00 การปลด พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก พ้น ผอ.ศอ.รส. แล้วตั้ง "ปึ้งศักดิ์" สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เข้ามาแทน แสดงให้เห็นว่า งานนี้เป็นการ "กระชับขี้ข้า" เข้ามารับใช้ เพราะการสับเปลี่ยนดังกล่าวเป็นการเน้น "เฉพาะขี้ข้า" ที่สั่งได้ซ้ายหันขวาหันไม่เกี่ยง แต่แท้ที่จริงแล้วคนที่เข้ามาใหม่ก็ไม่ใช่คนทำงานจริง หรือคนวางแผนจริง มี"อีกชุดหนึ่ง" ที่คอยวางแผนอยู่ข้างหลัง และหากเดาไม่ผิด คนสั่งการใหญ่ก็ต้องเป็น ทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ ส่วนปึ้งศักดิ์ เอาไว้สำหรับเป็น "ตราแสตมป์" ในตำแหน่ง เหมือนกับการนั่งเก้าอี้นายกฯของ ยิ่งลักษณ์ นั่นแหละที่ใช้"ตำแหน่ง" ในการลงนาม หรือเจรจาในทางผลประโยชน์ทางธุรกิจเท่านั้น อีกทั้งงานนี้การเปลี่ยนตัวหรือตั้งคนอื่นเข้ามาดูแลสถานการณ์ที่คับขันแบบนี้ยังเป็นการ "กัน" น้องสาวตัวเองออกมา ไม่ต้องรับผลทางกม.ในภายหน้า ส่วน พล.ต.อ.ประชา เมื่อเห็นว่าไม่ชัวร์ ก็ต้องลดเกรดลงไป กลายเป็น "ขี้ข้าชั้นสอง" ตามระเบียบ !!
00 สถานการณ์ที่พัฒนามาถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อแม้ว่าจะมีมวลมหาประชาชนออกมานับล้านๆคน แต่สำหรับทรราชที่ดื้อด้าน เลวสมบูรณ์แบบพวกนี้ไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ หรอก แม้ว่าชาวบ้านจะเจ็บตายแค่ไหนมันก็ไม่รู้สึกรู้สา ตายได้ตายไป สะใจเสียอีก ดังนั้น"จุดเปลี่ยน" ของสถานการณ์ก็ยังเป็น "กองทัพ" ที่ต้องแสดงจุดยืน "ข้างประชาชน" ไม่เอารัฐบาลที่ประชาชนต่อต้านมากมายขนาดนี้ ไม่ใช่ยังกั๊กว่า เป็น"ทหารของประเทศ" ต้องเป็นทหารของประชาชน และความหมาย "ไม่ใช่ยึดอำนาจด้วยอาวุธ" แต่อาจเป็นเพราะต้องการหยั่งดูสถานการณ์อีกระยะหนึ่งก็ได้ ก็ต้องรอดู แต่งานนี้ถ้า"ใครช้าจะตกขบวน" แน่นอน ให้จับตา ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะเลือกเดินทางไหน หรือว่าเลือกอยู่ในใจตั้งนานแล้ว จะได้เห็นกัน !!
00 ดังนั้นเชื่อเหลือเกินว่า เมื่อผ่านพ้นจากสถานการณ์การลุกขึ้นสู้ของมวลมหาประชาชนในวันนี้แล้ว ตำรวจที่อยู่ใน "ความเกลียด" ของประชาชนรับรองว่า จะต้องจดจำชื่อของ "คำรณวิทย์-อดุลย์" ไม่ลืมแน่นอน เพราะถือว่ารับใช้ทรราชทำร้ายประชาชน และเหตุการณ์อัปยศที่ ม.รามคำแหง ถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่พิสูจน์ให้เห็นถึงการทำงานประสานเป็นเนื้อเดียวกัน ระหว่าง ตำรวจ-ชายชุดดำ-คนเสื้อแดง พิสูจน์ว่าตำรวจไม่ได้ทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่รับใช้ครอบครัวทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น และจากหลักฐานภาพถ่ายจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ชาวบ้านบันทึกและส่งต่อกันไป มันชัดแจ้งแดงแจ๋ จนกลายเป็น "กระแสเกลียดชัง" ลุกลามไปทั่ว
00 หากพิจารณาจากสถานการณ์จริงที่กำลังเป็นอยู่ ถือว่า รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร "บริหารไม่ได้" แล้ว ชาวบ้านไม่ยอมรับ อาจจะมีพวกตำรวจ ข้าราชการ และคนเสื้อแดงบางส่วนที่ยังรับใช้ "ครอบครัวเศรษฐี"ครอบครัวนี้ให้อยู่ในอำนาจแบบสุดใจขาดดิ้น เพราะตัวเองได้ประโยชน์ แต่คนทั่วไปที่ลุกฮือกันทั่วประเทศ ไม่มีใครยอมรับ ดังนั้นสิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือ "ยื้อ" ให้นานที่สุด หวังว่าม็อบต้าน "จะฝ่อ" ซึ่งนาทีนี้เชื่อว่ามันเลยอารมณ์นั้นไปแล้ว มีแต่จะพัฒนาการไปเรื่อย เติมเข้ามาเรื่อย และที่น่าจับตาก็คือ มีการ "ลุกฮือในต่างจังหวัด" ทั้ง"ภาคเหนือและอีสาน" ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะนี่คือ "ดงแดง" ส่วนในกรุงเทพฯ ก็เปลี่ยนไปเป็นตรงข้าม "ไม่เฉย" เหมือนเดิมแล้ว ส่วนคนเสื้อแดงที่เคย"ฮึกเหิม" จนสำคัญผิดคิดว่าเป็น "เจ้าของประเทศ" ไปแล้ว เวลานี้เมื่อได้เห็นการตื่นตัวต่อต้านของมวลมหาประชาชนอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน คนพวกนี้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรากหญ้า หาเช้ากินค่ำ เชื่อฟังแต่พวกหัวโจกพูดกรอกหูแต่เรื่องประชาธิปไตยของทักษิณ ทุกวัน เมื่อทุกอย่างกลับตาลปัตร มันก็ย่อมเสียความมั่นใจ ไม่เหมือนเดิม จากเคยใส่เสื้อแดงเดินกร่างอยู่ในซอย มาวันนี้ก็ต้องหลบหน้า เห็นหลายร้านที่เคยติดรูปบูชา ทักษิณ เคยติดสติ๊กเกอร์ ยิ่งลักษณ์ บัดนี้เห็นแกะออกไปหลายร้านแล้ว เพราะได้รับผลกระทบ ขายของไม่ได้ เพราะถูกบอยคอต นี่คือผลกระทบจริง !!
00 การปลด พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก พ้น ผอ.ศอ.รส. แล้วตั้ง "ปึ้งศักดิ์" สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เข้ามาแทน แสดงให้เห็นว่า งานนี้เป็นการ "กระชับขี้ข้า" เข้ามารับใช้ เพราะการสับเปลี่ยนดังกล่าวเป็นการเน้น "เฉพาะขี้ข้า" ที่สั่งได้ซ้ายหันขวาหันไม่เกี่ยง แต่แท้ที่จริงแล้วคนที่เข้ามาใหม่ก็ไม่ใช่คนทำงานจริง หรือคนวางแผนจริง มี"อีกชุดหนึ่ง" ที่คอยวางแผนอยู่ข้างหลัง และหากเดาไม่ผิด คนสั่งการใหญ่ก็ต้องเป็น ทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ ส่วนปึ้งศักดิ์ เอาไว้สำหรับเป็น "ตราแสตมป์" ในตำแหน่ง เหมือนกับการนั่งเก้าอี้นายกฯของ ยิ่งลักษณ์ นั่นแหละที่ใช้"ตำแหน่ง" ในการลงนาม หรือเจรจาในทางผลประโยชน์ทางธุรกิจเท่านั้น อีกทั้งงานนี้การเปลี่ยนตัวหรือตั้งคนอื่นเข้ามาดูแลสถานการณ์ที่คับขันแบบนี้ยังเป็นการ "กัน" น้องสาวตัวเองออกมา ไม่ต้องรับผลทางกม.ในภายหน้า ส่วน พล.ต.อ.ประชา เมื่อเห็นว่าไม่ชัวร์ ก็ต้องลดเกรดลงไป กลายเป็น "ขี้ข้าชั้นสอง" ตามระเบียบ !!
00 สถานการณ์ที่พัฒนามาถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อแม้ว่าจะมีมวลมหาประชาชนออกมานับล้านๆคน แต่สำหรับทรราชที่ดื้อด้าน เลวสมบูรณ์แบบพวกนี้ไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ หรอก แม้ว่าชาวบ้านจะเจ็บตายแค่ไหนมันก็ไม่รู้สึกรู้สา ตายได้ตายไป สะใจเสียอีก ดังนั้น"จุดเปลี่ยน" ของสถานการณ์ก็ยังเป็น "กองทัพ" ที่ต้องแสดงจุดยืน "ข้างประชาชน" ไม่เอารัฐบาลที่ประชาชนต่อต้านมากมายขนาดนี้ ไม่ใช่ยังกั๊กว่า เป็น"ทหารของประเทศ" ต้องเป็นทหารของประชาชน และความหมาย "ไม่ใช่ยึดอำนาจด้วยอาวุธ" แต่อาจเป็นเพราะต้องการหยั่งดูสถานการณ์อีกระยะหนึ่งก็ได้ ก็ต้องรอดู แต่งานนี้ถ้า"ใครช้าจะตกขบวน" แน่นอน ให้จับตา ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะเลือกเดินทางไหน หรือว่าเลือกอยู่ในใจตั้งนานแล้ว จะได้เห็นกัน !!