00 นาทีนี้ยังไม่รู้ว่าผลสรุปลงเอยอย่างไร เพราะยังเป็นช่วงปฏิบัติการในขั้นเริ่มต้น (เวลาประมาณ 12.00น.) ยังไม่สำเร็จเด็ดขาด ยังเป็นช่วงของการปฏิบัติการพร้อมกันในหลายพื้นที่สำคัญ ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของเครือข่ายที่รับใช้ระบอบทักษิณ รับใช้รัฐบาลทรราช รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างเหนียวแน่น ไม่ยอมยุติง่ายๆ แต่เชื่อเถอะ ในเมื่อรัฐบาลนี้หมดความชอบธรรม และมวลมหาประชาชนตื่นรู้ และผนึกกำลังกันอย่างเหนียวแน่น และต่อเนื่องเชื่อว่าในที่สุดแล้ว บรรดา "ขี้ข้า" เหล่านี้คงจะไม่อาจต้านทานได้อย่างแน่นอน เพราะนี่คือพลังของ "มวลมหาประชาชน"
00 เหตุการณ์ "มิกสัญญี" ที่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อค่ำวันที่ 30 พ.ย.ต่อเนื่องจนถึงเช้ามืดวันที่ 1 ธ.ค.เป็นอีกเหตุการณ์อัปยศของบ้านเมืองเราที่ ตำรวจสมคบกับ "อันธพาล" ใช้อาวุธทำร้ายนักศึกษาที่มือเปล่า และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เห็นชัดว่า ตำรวจกับ"อันธพาลเสื้อแดง" นั้นหลอมเป็นเนื้อเดียวกัน รวมไปถึงอีกครั้งหนึ่ง ที่เราได้เห็น "ชายชุดดำ" ซึ่งก็คือ ตำรวจและคนเสื้อแดงที่ใช้อาวุธซุ่มยิงนักศึกษาใน ม.รามคำแหง ตลอดทั้งคืน ทำให้นักศึกษาเสียชีวิต 2 ศพ และบาดเจ็บทั้งสาหัส และไม่สาหัสอีกนับสิบคน
00 อาจเป็นยุคใหม่ที่เป็นการใช้เทคโนโลยีในแบบโซเชียลมีเดีย มีการบันทึกภาพ เสียง ภาพนิ่งเคลื่อนไหว มีการแชร์หลักฐานกันว่อน ทำให้ได้เห็น"ภาพอุบาทว์" ที่ทั้งชายชุดดำ ตำรวจ และคนเสื้อแดง ที่มีการอำนวยความสะดวก มีการใช้รถตำรวจขนชายฉกรรจ์คนเสื้อแดงออกมาจาก สนามกีฬาราชมังคลาฯ ออกมาทำร้ายนักศึกษาในมหาวิทยาลัยรามคำแหง อย่างต่อเนื่อง และในวันนี้ที่ต้องบันทึกเอาไว้ในบัญชีหนังหมา นอกจาก ผบ.ตร. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ชน. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เพราะนี่คือ "ขี้ข้า" ทักษิณ ชินวัตร ที่เห็นตัวตนชัดๆ ไม่ต้องสาธยายกันอีกแล้ว และไม่ว่าปฏิบัติการจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่ต้องให้คนพวกนี้ลอยหน้าลอยตาในสังคมได้อีกต่อไป
00 ขณะเดียวกัน ปฏิบัติการบุกทำเนียบรัฐบาลคราวนี้ถือว่า อ่อนไหว และยากที่สุด เพราะเมื่อเลขาฯ กปปส.สุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศล่วงหน้านานสองสามวันว่า จะบุกยึกทำเนียบฯ ทำให้พวกตำรวจขี้ข้าและเชื่อว่าต้องผสมโรงกับชายชุดดำและคนเสื้อแดงที่ซ่อนตัวอยู่ตามตึกสูงรอบบริเวณ และพยายามขัดขวางอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ดี ต้องนับถือน้ำใจและหัวจิตหัวใจของแกนนำในการต่อกรกับพวกขี้ข้าทรราช อย่างเข้มแข็ง ต้องยกตัวอย่างเอ่ยชื่อให้พวกเราได้นับถือหัวจิตหัวใจอย่าง อมร อมรรัตนานนท์ "ตั้ม" พิชิต ไชยมงคล และ "ผู้พันจอร์จ" เป็นต้น คนเหล่านี้ ช่วยกันควบคุมสถานการณ์ได้อย่างน่าชื่นชมจริงๆ มีทั้งบุก ถอย เผชิญหน้า เป็นจังหวะ และคนที่ทำแบบนี้ได้ต้อง "ใจถึง" และมีสติเท่านั้น และที่ผ่านมาก็เคยพิสูจน์ให้เห็นแล้ว เมื่อครั้งการต่อสู้ในนามพันธมิตรฯ เมื่อปี 51 ที่หน้ารัฐสภา ที่ถูกตำรวจขี้ข้าพวกนี้ใช้อาวุธแก๊สน้ำตาทำร้าย คนพวกนี้ไม่เคยเป็นมิตรกับประชาชนเลย นอกจากรับใช้ทรราชและทำร้าย รีดไถ ดังนั้นเมื่อทุกอย่างจบสิ้น ก็ต้องเช็กบิลให้ครบถ้วน
00 งานนี้ถือว่าเป็นวันมหาประชาชนอย่างแท้จริง และนับจากนี้ระบอบทักษิณ และรัฐบาลทรราช หมดความชอบธรรม ไม่อาจบริหารใช้อำนาจรัฐอีกต่อไปแล้ว ไม่มีใครให้การยอมรับอีกต่อไป ดังนั้นสิ่งที่กำลังยื้ออยู่นั้นเป็นการดิ้นรนเฮือกสุดท้ายก่อนล่มสลายเท่านั้น ไม่มีวันเหิมเกริมได้อีกต่อไป เพราะชาวบ้านเขา "ตื่นรู้" เป็นพลังที่ปฏิเสธกันอย่างพร้อมเพรียง และถึงเวลา"ล้างบ้านล้างเมือง"กันให้สะอาดแล้ว และหน่วยงานแรกที่ต้องจัดการก็คือ "ตำรวจ" ซึ่งคนพวกนี้รู้ชะตากรรมดีจึงต้องขัดขวางกันสุดฤทธิ์ แต่คงต้านได้ไม่นานหรอก !!
00 เหตุการณ์ "มิกสัญญี" ที่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อค่ำวันที่ 30 พ.ย.ต่อเนื่องจนถึงเช้ามืดวันที่ 1 ธ.ค.เป็นอีกเหตุการณ์อัปยศของบ้านเมืองเราที่ ตำรวจสมคบกับ "อันธพาล" ใช้อาวุธทำร้ายนักศึกษาที่มือเปล่า และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เห็นชัดว่า ตำรวจกับ"อันธพาลเสื้อแดง" นั้นหลอมเป็นเนื้อเดียวกัน รวมไปถึงอีกครั้งหนึ่ง ที่เราได้เห็น "ชายชุดดำ" ซึ่งก็คือ ตำรวจและคนเสื้อแดงที่ใช้อาวุธซุ่มยิงนักศึกษาใน ม.รามคำแหง ตลอดทั้งคืน ทำให้นักศึกษาเสียชีวิต 2 ศพ และบาดเจ็บทั้งสาหัส และไม่สาหัสอีกนับสิบคน
00 อาจเป็นยุคใหม่ที่เป็นการใช้เทคโนโลยีในแบบโซเชียลมีเดีย มีการบันทึกภาพ เสียง ภาพนิ่งเคลื่อนไหว มีการแชร์หลักฐานกันว่อน ทำให้ได้เห็น"ภาพอุบาทว์" ที่ทั้งชายชุดดำ ตำรวจ และคนเสื้อแดง ที่มีการอำนวยความสะดวก มีการใช้รถตำรวจขนชายฉกรรจ์คนเสื้อแดงออกมาจาก สนามกีฬาราชมังคลาฯ ออกมาทำร้ายนักศึกษาในมหาวิทยาลัยรามคำแหง อย่างต่อเนื่อง และในวันนี้ที่ต้องบันทึกเอาไว้ในบัญชีหนังหมา นอกจาก ผบ.ตร. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ชน. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เพราะนี่คือ "ขี้ข้า" ทักษิณ ชินวัตร ที่เห็นตัวตนชัดๆ ไม่ต้องสาธยายกันอีกแล้ว และไม่ว่าปฏิบัติการจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่ต้องให้คนพวกนี้ลอยหน้าลอยตาในสังคมได้อีกต่อไป
00 ขณะเดียวกัน ปฏิบัติการบุกทำเนียบรัฐบาลคราวนี้ถือว่า อ่อนไหว และยากที่สุด เพราะเมื่อเลขาฯ กปปส.สุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศล่วงหน้านานสองสามวันว่า จะบุกยึกทำเนียบฯ ทำให้พวกตำรวจขี้ข้าและเชื่อว่าต้องผสมโรงกับชายชุดดำและคนเสื้อแดงที่ซ่อนตัวอยู่ตามตึกสูงรอบบริเวณ และพยายามขัดขวางอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ดี ต้องนับถือน้ำใจและหัวจิตหัวใจของแกนนำในการต่อกรกับพวกขี้ข้าทรราช อย่างเข้มแข็ง ต้องยกตัวอย่างเอ่ยชื่อให้พวกเราได้นับถือหัวจิตหัวใจอย่าง อมร อมรรัตนานนท์ "ตั้ม" พิชิต ไชยมงคล และ "ผู้พันจอร์จ" เป็นต้น คนเหล่านี้ ช่วยกันควบคุมสถานการณ์ได้อย่างน่าชื่นชมจริงๆ มีทั้งบุก ถอย เผชิญหน้า เป็นจังหวะ และคนที่ทำแบบนี้ได้ต้อง "ใจถึง" และมีสติเท่านั้น และที่ผ่านมาก็เคยพิสูจน์ให้เห็นแล้ว เมื่อครั้งการต่อสู้ในนามพันธมิตรฯ เมื่อปี 51 ที่หน้ารัฐสภา ที่ถูกตำรวจขี้ข้าพวกนี้ใช้อาวุธแก๊สน้ำตาทำร้าย คนพวกนี้ไม่เคยเป็นมิตรกับประชาชนเลย นอกจากรับใช้ทรราชและทำร้าย รีดไถ ดังนั้นเมื่อทุกอย่างจบสิ้น ก็ต้องเช็กบิลให้ครบถ้วน
00 งานนี้ถือว่าเป็นวันมหาประชาชนอย่างแท้จริง และนับจากนี้ระบอบทักษิณ และรัฐบาลทรราช หมดความชอบธรรม ไม่อาจบริหารใช้อำนาจรัฐอีกต่อไปแล้ว ไม่มีใครให้การยอมรับอีกต่อไป ดังนั้นสิ่งที่กำลังยื้ออยู่นั้นเป็นการดิ้นรนเฮือกสุดท้ายก่อนล่มสลายเท่านั้น ไม่มีวันเหิมเกริมได้อีกต่อไป เพราะชาวบ้านเขา "ตื่นรู้" เป็นพลังที่ปฏิเสธกันอย่างพร้อมเพรียง และถึงเวลา"ล้างบ้านล้างเมือง"กันให้สะอาดแล้ว และหน่วยงานแรกที่ต้องจัดการก็คือ "ตำรวจ" ซึ่งคนพวกนี้รู้ชะตากรรมดีจึงต้องขัดขวางกันสุดฤทธิ์ แต่คงต้านได้ไม่นานหรอก !!
