หนึ่งเดือนผ่านมาแล้ว นี่นับตั้งแต่เสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎรผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่เรียกกันว่าสุดซอย คือนิรโทษกรรมให้กับคนที่ทำความผิดอาญา นิรโทษกรรมให้คนที่คอร์รัปชัน นิรโทษกรรมให้กับคนที่ศาลยุติธรรมตัดสินไปแล้ว จนกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายให้ประชาชนนับหมื่นนับแสน และนับล้านออกมาชุมนุมคัดค้าน ไม่เพียงคัดค้านไม่เอารัฐบาลยิ่งลักษณ์ หากเลยไปไกลถึงไม่เอาระบอบทักษิณ
แรกทีเดียว นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรก็ยังคงถือดีอยู่ว่า นางมาจากการลือกตั้งของประชาชน บริหารประเทศมาแล้ว 2 ปี ประชาชนทั้งหลายทั้งปวงก็ยอมรับนางได้ แม้จะบริหารสะเปะสะปะตามประสาของคนที่ไม่ประสีประสาการเมือง สร้างความเสียหายให้กับชาติบ้านเมืองประชาชนก็อดทน ขณะเดียวกันก็มีสื่อทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์คอยเสนอข่าวสนับสนุน
ไม่วิพากษ์วิจารณ์ข้ออ่อนข้อด้อย แต่ชื่นชมว่าเป็นคนสวยพูดผิดพูดถูกก็บอกว่าเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่สมควรจับผิด จำนำข้าวฉิบหายไป 4 แสนล้าน พวกเขาไม่พูดถึง เอาเงินภาษีประชาชนไปเยียวยาหรือว่าที่จริงก็คือเอาไปตบรางวัลให้กับคนที่ขายชีวิตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในเหตุการณ์เมษายน 2552 -2553 พวกขาก็เห็นเป็นเรื่องสมควร
ทั้งที่ตำรวจ ทหารตายในหน้าที่ได้คนละไม่กี่หมื่นกี่แสนเอง
ทุกอากัปกิริยาของนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นเรื่องสวยสดงดงาม จนนางเองก็เคลิ้ม
แต่เมื่อเห็นมวลมหาประชาชนออกมาที่สถานีรถไฟสามเสน ราชดำเนิน ปากคอของนางก็สั่นบอกว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่เป็นปัญหาอยู่ขณะนี้ วุฒิสภาว่าอย่างไร ก็จะเป็นไปอย่างนั้น ความหมายของนางก็คือบอกให้วุฒิสภามายับยั้งร่างกฎหมายอุบาทว์นี้ไว้ หวังว่าจะยับยั้งความไม่พอใจของประชาชนได้
นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ก็รีบสนองรับทันทีด้วยการเรียกประชุมวุฒิสภาโดยเลื่อนกำหนดการประชุมขึ้นมา วุฒิสภาส่วนหนึ่งไมเล่นด้วยทำให้การประชุมล่มเพราะไม่ครบองค์ประชุม วุฒิสภาสายขี้ข้าถือโอกาสด่าวุฒิสภาที่ไม่ร่วมประชุมว่า อยากให้บ้านมืองวุ่นวาย แทนที่จะมาร่วมประชุมคว่ำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมซึ่งความจริงก็คือ ถ้าหากนางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ส่งสัญญาณพวกมันก็ผ่านร่าง พ.ร.บ.อุบาทว์นี้อย่างแน่นอน
นอกเหนือจากบทบาทของ นายนิคมและวุฒิสภาแล้ว ส.ส.ขี้ข้าที่เคยเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมก็พร้อมใจกันไปถอนร่าง พ.ร.บ.ที่เสนอค้างสภาฯ อยู่ออกไป
แล้วพวกมันก็ย้อนมาถามผู้ชุมนุมที่ราชดำเนิน อุรุพงษ์ และสวนลุมฯ ว่า ยังชุมนุมอยู่ทำไมอีก ทำให้เศรษฐกิจเสียหาย การท่องเที่ยวเสียหาย ทั้งที่ความจริงก็คือร่าง พ.ร.บ.ที่ ส.ส.ขี้ข้าถอนออกมานั้นไม่เกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร 3 วาระแล้วเลย และร่าง พ.ร.บ.ที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร 3 วาระนั้นครบ 120 วัน สภาผู้แทนราษฎรจะนำขึ้นมายืนยันก็ยังทำได้ พวกมันอ้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ หากมีการชุมนุมก็คือ พวกมันต้องการให้ประชาชนอยู่เฉยๆ ทำตัวสงบเสงี่ยม แม้พวกมันจะโกงบ้านโกงเมืองอย่างไรก็อย่าเอะอะโวยวาย ไม่เชนนั้นจะเสียบรรยากาศการลงทุน เสียบรรยากาศเศรษฐกิจ
พวกมันต้องการให้ประชาชนนิ่งเฉย ไม่ว่าพวกมันจะกระทำในสิ่งที่บัดซบเพียงใดก็ตาม
นานเข้าๆ ประชาชนก็ก้าวล้ำหน้าแกนนำอย่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายสาธิต วงศ์หนองเตย ที่ออกมาคัดค้านร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่บัดซบอุบาทว์ฉบับนั้นกลายเป็นต้องล้มระบอบทักษิณ เพราะตราบที่ พ.ต.ท.ทักษิณยังมีอำนาจบงการรัฐบาลไทยอยู่ ร่างกฎหมายบัดซบนี้ก็ต้องกลับมาอีก
การเรียกร้องไม่ได้อยู่ที่นางสาวยิ่งลักษณ์ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ลาออกแล้วเสียงส่วนใหญ่โหวตให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก เราประชาชนต้องออกจากบ้านมาไล่อีกหรือ ลาออกแล้วสภาฯ ขี้ข้าโหวตให้นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือไอ้ปึ้ง ประชาชนจะว่าอย่างไร จะยอมรับเสียงส่วนใหญ่ที่พวกมันมักจะพูดอยู่เสมอหรือ
2 ปีมานี้พวกมันจะทำอะไรก็มักจะอ้างความเป็นเสียงส่วนใหญ่ ความเป็นเสียงข้างมาก
ใช่ ประชาชนเลือกมัน มันมีเสียงข้างมากก็บริหารประเทศไป ไม่มีใครว่า แต่สียงข้างมากไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรก็ได้ เสียงข้างมากต้องปฏิบัติตามตัวบทกฎหมาย เสียงข้างมากจะแก้ไขกฎหมาย กฎหมายนั้นก็ต้องมีความยุติธรรม เป็นกฎหมายที่ประชาชนทั้งหลายทั้งปวงได้ประโยชน์ มิใช่กฎหมายเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
รัฐธรรมนูญห่วงว่าจะมีเรื่องบัดซบเช่นนี้จึงได้เขียนกันเอาไว้ในหลายมาตรา ต้องกำหนดชัดให้ สภาฯ ฝ่ายบริหาร และศาลคำนึงถึงหลักนิติธรรม
แต่กระนั้นพวกมันก็ยังละเมิดอยู่ดี จนกระทั่งกล้าแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ขัดกับรัฐธรรมนูญโดยอาศัยเสียงข้างมาก และในที่สุดพวกมันก็ประกาศไม่ยอมรับศาลรัฐธรรมนูญ
เมื่อมันไม่ยอมรับศาลรัฐธรรมนูญ ประชาชนก็ประกาศไม่ยอมรับรัฐบาล
มาถึงวันนี้รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์เน่าเฟะ ไปไม่ได้ ไปไม่เป็นแล้ว
ทหารสามเหล่าทัพประกาศจุดยืนเป็นทหารของประเทศไทย ไม่ใช่กองกำลังของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือนางสาวยิ่งลักษณ์อีกต่อไปแล้ว
ศพไม่สวยแน่ คอยดูเถอะ
แรกทีเดียว นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรก็ยังคงถือดีอยู่ว่า นางมาจากการลือกตั้งของประชาชน บริหารประเทศมาแล้ว 2 ปี ประชาชนทั้งหลายทั้งปวงก็ยอมรับนางได้ แม้จะบริหารสะเปะสะปะตามประสาของคนที่ไม่ประสีประสาการเมือง สร้างความเสียหายให้กับชาติบ้านเมืองประชาชนก็อดทน ขณะเดียวกันก็มีสื่อทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์คอยเสนอข่าวสนับสนุน
ไม่วิพากษ์วิจารณ์ข้ออ่อนข้อด้อย แต่ชื่นชมว่าเป็นคนสวยพูดผิดพูดถูกก็บอกว่าเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่สมควรจับผิด จำนำข้าวฉิบหายไป 4 แสนล้าน พวกเขาไม่พูดถึง เอาเงินภาษีประชาชนไปเยียวยาหรือว่าที่จริงก็คือเอาไปตบรางวัลให้กับคนที่ขายชีวิตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในเหตุการณ์เมษายน 2552 -2553 พวกขาก็เห็นเป็นเรื่องสมควร
ทั้งที่ตำรวจ ทหารตายในหน้าที่ได้คนละไม่กี่หมื่นกี่แสนเอง
ทุกอากัปกิริยาของนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นเรื่องสวยสดงดงาม จนนางเองก็เคลิ้ม
แต่เมื่อเห็นมวลมหาประชาชนออกมาที่สถานีรถไฟสามเสน ราชดำเนิน ปากคอของนางก็สั่นบอกว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่เป็นปัญหาอยู่ขณะนี้ วุฒิสภาว่าอย่างไร ก็จะเป็นไปอย่างนั้น ความหมายของนางก็คือบอกให้วุฒิสภามายับยั้งร่างกฎหมายอุบาทว์นี้ไว้ หวังว่าจะยับยั้งความไม่พอใจของประชาชนได้
นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ก็รีบสนองรับทันทีด้วยการเรียกประชุมวุฒิสภาโดยเลื่อนกำหนดการประชุมขึ้นมา วุฒิสภาส่วนหนึ่งไมเล่นด้วยทำให้การประชุมล่มเพราะไม่ครบองค์ประชุม วุฒิสภาสายขี้ข้าถือโอกาสด่าวุฒิสภาที่ไม่ร่วมประชุมว่า อยากให้บ้านมืองวุ่นวาย แทนที่จะมาร่วมประชุมคว่ำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมซึ่งความจริงก็คือ ถ้าหากนางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ส่งสัญญาณพวกมันก็ผ่านร่าง พ.ร.บ.อุบาทว์นี้อย่างแน่นอน
นอกเหนือจากบทบาทของ นายนิคมและวุฒิสภาแล้ว ส.ส.ขี้ข้าที่เคยเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมก็พร้อมใจกันไปถอนร่าง พ.ร.บ.ที่เสนอค้างสภาฯ อยู่ออกไป
แล้วพวกมันก็ย้อนมาถามผู้ชุมนุมที่ราชดำเนิน อุรุพงษ์ และสวนลุมฯ ว่า ยังชุมนุมอยู่ทำไมอีก ทำให้เศรษฐกิจเสียหาย การท่องเที่ยวเสียหาย ทั้งที่ความจริงก็คือร่าง พ.ร.บ.ที่ ส.ส.ขี้ข้าถอนออกมานั้นไม่เกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร 3 วาระแล้วเลย และร่าง พ.ร.บ.ที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร 3 วาระนั้นครบ 120 วัน สภาผู้แทนราษฎรจะนำขึ้นมายืนยันก็ยังทำได้ พวกมันอ้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ หากมีการชุมนุมก็คือ พวกมันต้องการให้ประชาชนอยู่เฉยๆ ทำตัวสงบเสงี่ยม แม้พวกมันจะโกงบ้านโกงเมืองอย่างไรก็อย่าเอะอะโวยวาย ไม่เชนนั้นจะเสียบรรยากาศการลงทุน เสียบรรยากาศเศรษฐกิจ
พวกมันต้องการให้ประชาชนนิ่งเฉย ไม่ว่าพวกมันจะกระทำในสิ่งที่บัดซบเพียงใดก็ตาม
นานเข้าๆ ประชาชนก็ก้าวล้ำหน้าแกนนำอย่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายสาธิต วงศ์หนองเตย ที่ออกมาคัดค้านร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่บัดซบอุบาทว์ฉบับนั้นกลายเป็นต้องล้มระบอบทักษิณ เพราะตราบที่ พ.ต.ท.ทักษิณยังมีอำนาจบงการรัฐบาลไทยอยู่ ร่างกฎหมายบัดซบนี้ก็ต้องกลับมาอีก
การเรียกร้องไม่ได้อยู่ที่นางสาวยิ่งลักษณ์ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ลาออกแล้วเสียงส่วนใหญ่โหวตให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก เราประชาชนต้องออกจากบ้านมาไล่อีกหรือ ลาออกแล้วสภาฯ ขี้ข้าโหวตให้นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือไอ้ปึ้ง ประชาชนจะว่าอย่างไร จะยอมรับเสียงส่วนใหญ่ที่พวกมันมักจะพูดอยู่เสมอหรือ
2 ปีมานี้พวกมันจะทำอะไรก็มักจะอ้างความเป็นเสียงส่วนใหญ่ ความเป็นเสียงข้างมาก
ใช่ ประชาชนเลือกมัน มันมีเสียงข้างมากก็บริหารประเทศไป ไม่มีใครว่า แต่สียงข้างมากไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรก็ได้ เสียงข้างมากต้องปฏิบัติตามตัวบทกฎหมาย เสียงข้างมากจะแก้ไขกฎหมาย กฎหมายนั้นก็ต้องมีความยุติธรรม เป็นกฎหมายที่ประชาชนทั้งหลายทั้งปวงได้ประโยชน์ มิใช่กฎหมายเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
รัฐธรรมนูญห่วงว่าจะมีเรื่องบัดซบเช่นนี้จึงได้เขียนกันเอาไว้ในหลายมาตรา ต้องกำหนดชัดให้ สภาฯ ฝ่ายบริหาร และศาลคำนึงถึงหลักนิติธรรม
แต่กระนั้นพวกมันก็ยังละเมิดอยู่ดี จนกระทั่งกล้าแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ขัดกับรัฐธรรมนูญโดยอาศัยเสียงข้างมาก และในที่สุดพวกมันก็ประกาศไม่ยอมรับศาลรัฐธรรมนูญ
เมื่อมันไม่ยอมรับศาลรัฐธรรมนูญ ประชาชนก็ประกาศไม่ยอมรับรัฐบาล
มาถึงวันนี้รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์เน่าเฟะ ไปไม่ได้ ไปไม่เป็นแล้ว
ทหารสามเหล่าทัพประกาศจุดยืนเป็นทหารของประเทศไทย ไม่ใช่กองกำลังของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือนางสาวยิ่งลักษณ์อีกต่อไปแล้ว
ศพไม่สวยแน่ คอยดูเถอะ