xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” ชี้สังคมไทยสมควรล่มสลาย แนะ พธม.รวมกลุ่มกันรักษาคุณงามความดีไว้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ” หมดหวังสังคมไทย ชี้คนส่วนใหญ่คิดถึงแต่ตัวเอง สมควรให้ชาติล่มสลายเพื่อจะได้เกิดใหม่ แนะพี่น้อง พธม.รวมกลุ่มกันไว้รักษาคุณงามความดี ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ส่วนคนที่เหลือช่างมัน


วันที่ 11 ม.ค. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในระหว่างการบันทึกเทปรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ช่วงหนึ่งว่า ไม่ว่าประชาธิปัตย์ เพื่อไทย หรือทุกพรรค ไม่เคยคิดถึงส่วนรวม คนพวกนี้เลวเท่ากันหมด บางคนบอกว่าเพื่อไทยเหมือนขี้ อย่างน้อยประชาธิปัตย์ก็เป็นขี้ผสมข้าว ถ้าหลายคนคิดได้แบบนี้ก็จนปัญญากับคนไทยแล้ว

ตนมองว่าสังคมไทยยกเว้นพันธมิตรฯ สมน้ำหน้าแล้วที่เจอแบบนี้ สงสารประเทศ แต่บางทีคนไทยต้องรับกรรมมากกว่านี้ หากถามว่าไม่กลัวชาติล่มสลายหรือ ล่มสลายไปก็ดี จะได้เกิดใหม่ พลังศีลธรรมจะได้เกิด ตนเป็นห่วงชาติแต่ห่วงแบบมีสติ ดูแล้วคนไทย สื่อมวลชนไทย ข้าราชการ นักการเมือง ครูบาอาจารย์ ส่วนใหญ่สิ้นหวังหมดเลย เพราะเป็นคนที่มีอวิชชาเต็มไปหมด แล้วมองอะไรไม่เกินหัวแม่ตีนตัวเอง คิดถึงแต่ตัวเอง เมื่อ 60 กว่าเปอร์เซ็นต์ยอมรับสังคมไทยโกงได้ ตนขอแช่งให้ชาติฉิบหายมากกว่านี้อีก

“ผมหวังว่าพันธมิตรฯ จะรักษาคุณงามความดีในหมู่พวกเราเอาไว้ ผมเคยพูดมาตลอดว่าพวกเราต้องรวมกลุ่มกันไว้ อยู่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รักษาคุณงามความดีไว้ ถ้ามันจะชั่วให้ชั่วไปให้หมด แต่พวกเราจับกลุ่มกัน มีเครือข่าย ไม่ต้องดิ้นรนสู้รบใคร ให้มันตายด้วยความพินาศของมันเอง” นายสนธิกล่าว

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า ถึงบอกว่าวันนี้เมืองไทยชั่วมาก แต่ยังชั่วไม่พอที่ชาติจะล่มสลาย ตนอยากให้ชั่วจนล่มสลาย เพราะคนพวกนั้นพึ่งอะไรไม่ได้เลย สื่อมวลชน 95-97 เปอร์เซ็นต์ พึ่งไม่ได้ เห็นแต่กิเลสผลประโยชน์ตัวเอง ทรยศวิชาชีพตัวเอง ทหารบางคนไม่รู้สึกว่าชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คืออะไร นักการเมืองสนใจแต่เงิน ชาติจะพินาศฉิบหายช่างมัน แล้วคนไทยเป็นคนที่ถูกนักการเมืองเอาเท้าลูบหน้า ก็ยังยอมให้เขาลูบอยู่อย่างนั้น

นายสนธิยังกล่าวด้วยว่า อยากให้พี่น้องพันธมิตรฯ มีเวลาอยู่กับบทสวดมนต์พระพุทธเจ้าวันหนึ่งสักครึ่งชั่วโมง เสียงสวดมนต์นี่สามารถทะลุเข้าไปจักรวาล หลวงตามหาบัวเคยพูดไว้ขอให้เชื่อเถอะ นรก-สวรรค์มีจริง

บางทีถึงเวลาที่โลกหรือสังคมแต่ละแห่งต้องล่มสลายแล้ว สำหรับตนถ้าสังคมไทยล่มสลาย ตนจะอุเบกขา ก็ดีแล้ว เมื่อยังโง่ดักดานอยู่ เหมือนกับทหารชั้นผู้ใหญ่บางคนบอกว่าทหารจะเข้ามาจัดการปัญหาบ้านเมืองเมื่อเสื้อเหลืองและเสื้อแดงรบกัน คำพูดนี้สะท้อนถึงสติปัญญาที่ต่ำ และจิตวิญญาณที่เลวทราม เมื่อลูกทะเลาะกัน พ่อแม่ที่ใช้ไม่ได้จะแค่ห้ามลูกให้หยุดทะเลาะ แต่ถ้าพ่อแม่มีสติปัญญาจะถามว่าเรื่องอะไร แล้วสั่งสอนในสิ่งที่ถูกต้องให้ ถ้าทหารที่มีหน้าที่รักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แล้วคิดได้อย่างนี้ แสดงว่าประเทศไทยสมควรล่มสลาย ทหารพวกนี้ก็สมควรพินาศฉิบหายไปพร้อมกับสังคมไทยเลวๆ ตนขอแยกออกมาอยู่ของตนร่วมกับพี่น้องพันธมิตรฯ แล้วมีอะไรก็ช่วยเหลือกัน ให้ชาติบ้านเมืองมันอยู่ได้ อย่างน้อยที่สุดถ้าสังคมไทยมี 10 เปอร์เซ็นต์ คือกลุ่มพันธมิตรฯ มีชีวิตอยู่ได้ ที่เหลือฉิบหายไปช่างมัน นี่คือบทสรุปของตนทุกวันนี้

เมื่อถามว่ามีบางเรื่องที่พันธมิตรฯ สามารถช่วยกอบกู้จะไม่ช่วยหรือ นายสนธิกล่าวว่า พันธมิตรฯ จะกอบกู้ทุกเรื่องได้อย่างไร พันธมิตรฯ ก็เป็นมนุษย์ ต้องทำมาหากิน พวกเราเจ็บปวดกล้ำกลืน เสียสละให้สังคมมากเต็มทนแล้ว

ถึงบอกว่าเวลาประชาธิปัตย์ทะเลาะกับเพื่อไทย ตนรู้สึกสมเพช เพราะเป็นแค่การแย่งอำนาจกันเท่านั้นเอง ประชาธิปัตย์ขึ้นมาก็เข่นฆ่าเพื่อไทย พอมาถึงเพื่อไทยก็มาจัดการประชาธิปัตย์ สุดท้ายแล้วเป็นเรื่องของอัตตา กิเลส ความโลภ ไม่เคยมีใครคิดถึงชาติบ้านเมืองแม้แต่นิดเดียว ทำไมวันนี้ประชาธิปัตย์ค้านไม่ได้ผล เพราะนี่เพื่อไทยทำตามที่ประชาธิปัตย์วางรากฐานไว้ทั้งสิ้น ถึงพูดไม่ออก

บางครั้งตนรังเกียจสาวกประชาธิปัตย์ที่โง่ดักดาน จนกระทั่งไม่อยากมองหน้า คนพวกนี้ไม่เคยเข้าใจธรรมที่แท้จริง หลอกลวง ปั้นสีหน้า ไม่ต่างจากนายจตุพร ต่างแค่ว่านายจตุพรก้าวร้าว ไม่หล่อ การศึกษาไม่สูง ก็เลยเกลียดกัน แต่ถ้าตัดเรื่องพวกนี้ออกแล้วดูที่เนื้อหา แยกไม่ออกเลย



คำต่อคำ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ศุกร์ที่ 11 ม.ค. 2556

รายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ออกอากาศทางเอเอสทีวี วันศุกร์ที่ 11 มกราคม 2556 เวลา 20.00-22.00 น. ดำเนินรายการโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล และนางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ

จินดารัตน์- สวัสดีค่ะคุณผู้ชม ขอต้อนรับเข้าสู่รายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ วันนี้แอนรับหน้าที่เป็นพิธีกรผู้ดำเนินรายการ วันนี้เรามาบุกบ้านพระอาทิตย์กัน ต้องมาดูว่าเจ้าของบ้านเขาทำอะไรกันบ้าง เอาตั้งแต่เช้าเลยคุณผู้ชม นี่คือบริเวณชั้น 2 ของบ้านพระอาทิตย์ แอนพยายามจะเดินดูรูปเก่าที่คุณสนธิได้ทำงานตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ ไปไหนมาไหนบ้าง ไปพบปะผู้คนอย่างไรบ้าง คงพอได้เคยเห็นภาพกันแล้ว แต่วันนี้เจ้าของบ้านอยู่ในห้องพระ เดี๋ยวแอนจะพาคุณผู้ชมไปดูกันว่า ตอนเช้าเจ้าของบ้านทำอะไรในห้องพระบ้าง ตามไปดูเลยคะ

สนธิ- แอนว่าไง

จินดารัตน์- สวัสดีค่ะ

สนธิ- มาพอดีไหว้พระจบ

จินดารัตน์- หนูขออนุญาตกราบพระก่อนนะคะ รบกวนคุณสนธิเช้าๆ

สนธิ- ผมไหว้พระแล้ว และจริงๆ วันนี้ ต้องนั่งสมาธิต่อ เผอิญแอนมาเลยไม่ได้นั่งสมาธิ ธรรมดาแล้วจะไหว้สวดมนต์ครบชุด อุทิศส่วนกุศลให้คนที่ตั้งใจอุทิศให้ครบหมดแล้วจะนั่งสมาธิสักส่วนใหญ่จะนั่งประมาณ 20 นาทีถึงครึ่งชั่วโมง เป็นเหมือนกันทุกวัน และที่บ้านก็ทำแบบนี้

จินดารัตน์- สวดมนต์ใช้เวลานานแค่ไหนคุณสนธิ

สนธิ- ผมเริ่มด้วยการสวดกราบพระก่อนค่อยกราบหลวงตามหาบัว ผมมีอัฐิธาตุของหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น และหลวงตา ผมถือโอกาสกราบทั้ง 3 องค์ คือ หลวงปู่เสาร์ เป็นอาจารย์หลวงปู่มั่น หลวงปู่มั่น เป็นอาจารย์หลวงตา หลวงตาเป็นอาจารย์ผม อธิษฐานจิตคิดถึงท่าน และกราบหลวงปู่บุญมี พระองค์ใหญ่ที่อยู่ข้างๆ โต๊ะหมู่บูชาหลวงตา และผมมากราบหลวงปู่ทวด และผมมากราบเจ้าแม่กวนอิม และเริ่มไหว้พระ พิธีกรรมค่อนข้างเยอะ ผมจะจุดธูป 3 ดอก แล้วก็อาราธนา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มาที่ธูป 3 ดอกนี้ แล้วผมตั้งอะระหังจนครบ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมจุดธูป 4 ดอก คนอื่นไม่รู้ทำแบบผมหรือเปล่านะ ผมตั้งจิตอธิษฐานถึงท้าวจตุบาลทั้ง 4 ท่านเป็นผู้ที่รักษาทิศทั้ง 4 ทิศผมขอให้ท่าน ช่วยเปิดทาง เพราะที่นี่มีท้ายจตุบาลอยู่ให้ใครเข้ามาในบ้านได้บ้าง เพราะถ้าดวงวิญญาณนี้ถ้าไม่เปิดทางให้เจ้าที่ เจ้าทางไม่ให้เข้าเราจะขอให้มีทั้งเทพเทวดาที่เราตั้งจิตอธิษฐานขอให้เข้ามา ขอให้ดวงวิญญาณที่เราอัญเชิญมารวมทั้งพวกดวงวิญญาณก็มี พวกเจ้าที่เจ้าทาง เจ้าของบ้านที่ผมอยู่ขอให้เขาออกมา และรุกขเทวดาที่บ้านหลังนี้ที่สำคัญคือ ผมอุทิศส่วนกุศลให้สัมภเวสี คือสัมภเวสีนี้คือคนที่ตายก่อนกำหนดคือ อายุยังไม่ถึงอายุขัยแล้วตาย เมื่อตายแล้วเป็นดวงวิญญาณที่เร่รอ่น

จินดารัตน์- มันไปไหนไม่ได้

สนธิ- ไม่ได้ พวกเรานี้ส่วนใหญ่จะทำบุญให้คนที่โดนรถชนตายหรือพวกนี้ แล้วส่วนใหญ่ก็ตักบาตร ตักบาตรเสร็จก็รอโอกาสตักบาตรอีก เขาถึงจะได้บุญกัน แต่การได้บุญนี้ไม่มีบุญไหนที่เขาจะอิ่มเท่ากับการที่เขาได้ฟังธรรมพระพุทธเจ้า ธรรมพระพุทธเจ้านี้ ฟังแล้วอิ่มไป 7 วัน ผมอัญเชิญสัมภเวสีเข้ามาแต่ผมกำหนดเหมือนกันบอกว่าเข้ามาแล้วนี้ อย่าทะเลาะกันแย่งบุญกันได้แล้วออกไป และอย่าหลบอยู่ในบ้านหลังนี้ บางคนชอบหลบอยู่ และทำตัวเป็นผีมาหลอกคน แต่ผมอัญเชิญญาติพี่น้องพันธมิตรฯ ที่ตายวันที่ 7 ตุลาฯ ทุกวันเลย นี่แอนดู ผมมีชื่อหมด

จินดารัตน์- มีรายชื่อด้วยหรอคะ 12 ท่าน

สนธิ- มีหมด

จินดารัตน์- คุณสนธิทำทุกวัน

สนธิ- ทุกวันๆ ละ 2 เวลา

จินดารัตน์- เช้ากับก่อนนอน

สนธิ- ก่อนนอนที่บ้านอุทิศให้กับพวกพันธมิตรฯ ที่ตาย ทุกคนได้หมด น้องโบว์ก็ได้ ทุกคนได้หมดเลย และสารวัตรจ๊าบก็ได้ ได้หมดทุกคนได้หมด ผมเอ่ยชื่อเขาหมด เพราะถ้าไม่เอ๋ยชื่อก็ไม่ได้ ส่วนที่บ้านผมๆ ไม่ให้สัมภเวสีเข้า แต่ผมให้ 12 ดวงวิญญาณได้เข้า พ่อแม่ครูอาจารย์ และผมถามพระอาจารย์ผมซึ่งท่านเป็นคนที่มีอภิญญามีญาณ ท่านพิจารณาให้ผมท่านบอกว่า ดวงวิญญาณ 7 ตุลาฯ ที่ตายเขาได้ทุกวัน ผมทำเผื่อ พล.อ.ร่มเกล้าด้วย ทำเผื่อ พล.อ.ร่มเกล้าด้วย ผมถือว่าเขาตายในหน้าที่เลยเผื่อให้เขา พอจบแล้วเริ่มสวดมนต์ สวดผมเริ่มด้วยบท ทั้งหมดทั้งเล่มเลยแอน หมดเลย แรกสุดที่ผมจะอัญเชิญพ่อแม่ครูอาจารย์ทั้งหมด ขึ้นไหม

จินดารัตน์- เกจิอาจารย์

สนธิ- ส่วนใหญ่แล้ว 90 กว่าเปอร์เซ็นต์เป็นสายหลวงปู่มั่น และเสร็จแล้วผมอัญเชิญเทวดา คือบอกท่านบอกว่า บอกพ่อแม่ครูอาจารย์ว่า ผมจะขอความเมตตาให้ทุกท่านมาร่วมอนุโมทนาบุญในการสวดมนต์พระพุทธเจ้าวันนี้ กรวดน้ำให้ใครบ้าง ท่านก็มาและท่านจะมาอยู่ให้พร อยู่และเชิญเทวดามา 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน หน้าอินทร์ ยม พรหม ยักษ์ พระอินทร์ พระยม พระพรหม เสร็จแล้วเชิญดวงวิญญาณพวกนี้ แล้วผมเริ่มด้วยบทสัมพุธเท นี่คือบทบูชาพระพุทธเจ้าคือในโลกนี้มีพระพุทธเจ้าอยู่เป็นร้อยๆ องค์ ในจักรวาลนี้อัญเชิญท่านมา พออัญเชิญท่านมาเสร็จเป็นบทนะโมการะอัฎฐะกะ บูชาสรรเสริญพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระรัตนตรัย

จินดารัตน์- มีคำแปลด้วย

สนธิ- แต่ผมไม่อ่านคำแปล เพราะผมเข้าใจดี พระพุทธคุณ อิติปิโส ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงชุมนุมเทวดา คืออัญเชิญเทวดา 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน สะมันตา จักกะวาเฬสุ อัตรา คัจฉันตุ เทวะตา คือถึงเวลาต้องฟังธรรมแล้ว พอจบแล้วเลยเริ่มด้วยขันธปริตรคือการสวดมนต์เพื่อแผ่เมตตาให้กับสัตว์ที่ไม่มีเท้า พวกงู แล้วที่ทำเช่นนี้เพราะว่าแผ่เมตตาให้กับพญานาค เพราะในตำนานของไทยนั้น พญานาคเป็นสัตว์ที่มีฤทธิ์ แล้วก็เป็นสัตว์ที่ปกป้องคุ้มครองพระพุทธเจ้าตอนที่พระองค์ท่านตรัสรู้ จะเห็นพระนาคปรก เห็นไหม เสร็จแล้วผมต่อด้วยโมรปริตร นี่คือบทคุ้มกันภัยให้กับตัวเอง อันนี่คือบทพระปริตร พระพระปริตรขันธปริตร โมรปริตร และผมเริ่มด้วยพาหุง พุทธชยมังคลคาถา พอจบพาหุงผมต่อด้วยอาฏานาฏิยปริตร ตอนนี้เป็นบทพระปริตร บทที่เป็นมนต์พระพุทธเจ้าโดยตรงหลวงปู่มั่นบอกว่า เวลาเราสวดมนต์ พระพุทธเจ้าเสียงมนต์ที่เราสวด จะเป็นในใจหรือว่า เราเปล่งเสียงออกมา จะก้องกังวาลในจักรวาลได้ยินกันหมด นี่หลวงปู่มั่นพูด หลวงตามหาบัวท่านก็พูด

จินดารัตน์- ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน

สนธิ- เมื่ออยู่ที่ไหน พระสงฆ์องค์เจ้าเวลาไปทำบุญ ที่บ้านเราทำน้ำมนต์ ท่านจะสวดบทอาตานาติบทเดียว แต่ผมบางองค์ท่านก็สวดต่อไปที่ ผมสวดคือบทรัตนปริตร หรือพระสงฆ์อาจจะสวดบทรัตนปริตร เพื่อทำน้ำมนต์บทเดียวเท่านั้น แล้วต่อไปบทรัตนปริตร ผมสวดธาระณะปริตร เป็นบทที่คนไทย หรือพระสงฆ์ไทยไม่ค่อยสวดกัน

จินดารัตน์- ทำไมเหรอคะ

สนธิ- เพราะไม่ค่อยรู้จัก บทสวดนี่เป็นบทสวดของพระพุทธเจ้าที่พระป่าได้มาจากพม่า และธาระณะปริตรเป็นบทที่แรง พระสงฆ์องค์เจ้าองค์ไหนสวดแล้วไม่ปฏิบัติตาม จะมีอันเป็นไปทุกองค์เลยไม่กล้าสวดกัน

จินดารัตน์- เนื้อหาเป็นยังไง

สนธิ- เนื้อหาเป็นการปฏิบัติตามพระพุทธเจ้าสอนทุกอย่าง เพราะธาระณะปริตรบดบัง ผมเริ่มบทมหาปัฏฐาน พระมหาปัฏฐาน นี่เป็นบทสวดจากพม่า เป็นบทสุดท้ายตอนจบของคาถาพระไตรปิฎกจะต้องมีบทนี่เป็นบทสรุปว่า ทั้งหมดนี่เป็นเช่นนี้ บทพระมหาปัฏฐานนี่เป็นบทสวดที่ผมได้มาจากพระอาจารย์อภินันท์ พระอาจารย์อภินันท์ท่านชำนาญเรื่องบทสวดมนต์ ท่านเล่าให้ผมฟังบอกว่า บทของพระมหาปัฏฐาน เป็นบทที่เทวดาชั้นสูงฟังธรรมแล้วจะเข้าใจ เทวดาทั่วไปฟังไม่เข้าใจ คือเป็นธรรมขั้นสูง เพราะฉะนั้นแล้ว พระมหาปัฏฐาน พอจบพระมหาปัฏฐาน ผมเลยเริ่มพระชัยปริตรคือบทสวดชัยมงคลคาถาให้พวกเรา แล้วเราต่อด้วยเมตตปริตร คือพระมหาเมตตาใหญ่ เป็นเมตตาที่สุดยอดของความเมตตา หมดอันนี้แล้วต่อด้วยภวตุสัพพมังคลัง แล้วต่อด้วยมงคลจักรวาลใหญ่คือ สวดชัยมงคลให้กับ 3 โลกธาตุ 16 ชั้นฟ้าโลกมนุษย์ 15 ชั้นดิน ทั้งหมดเลยแล้วผมจบลงด้วยนขัตตะ พอจบแล้วระหว่างที่ผมสวดพระมหาปัฏฐาน ผมจุดเทียนจะเริ่มจุดเมื่อสวดพระมหาปัฏฐาน เพราะว่าพันด้วยยันต์ ไส้เทียนเป็นยันต์ พอสวดจบล้วค่อยดับ ในกรณีของพระมหาปัฏฐานที่เขาทำเทียนเองในกรณีของประชาชน หรือชาวบ้านที่สวดในพม่าสมัยก่อนเขาอ่านหนังสือไม่ออกแต่เขานั่งภาวนา แล้วผมทำน้ำมนต์ในกระดาษยันต์ เขาจะเขียนเป็นยันต์พระมหาปัฏฐาน

จินดารัตน์- คล้ายๆ กับความเชื่อในทางทิเบตที่ใช้กระบอกมนต์

สนธิ- และระหว่างที่ผมสวดสัมพุธเธตอนแรก ผมเริ่มจุดเทียนแล้ว ผมมีสายสิญจน์คล้องมือเหมือนพระ พ่อแม่ครูอาจารย์ที่ผมเคารพนับถือ เวลาสวดคาถาพระพุทธเจ้า ตั้งจิตดีๆ แล้วเราถือสายสิญจน์บอกมนุษย์ ตาธรรมดามองไม่เห็นหรอก ต้องใช้ตาที่มีอภิญญามองเห็น จะเห็นเป็นแสงเหมือนกระแสไฟวิ่งเข้าหาทุกจุดที่เราพันไว้คือ พระแต่ละองค์ที่อยู่ที่เราพันเอาไว้ล้วนแต่ผ่านการปลุกเสก มีพุทธคุณหมดเลย เพราะฉะนั้นแล้วคาถาพระพุทธเจ้า จะเสริมพุทธคุณของเราให้ศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น ในขณะเดียวกันองค์พุทธคุณของพระทั้งหลายจะจะย้อนกลับมาสู่บาตรน้ำมนต์ รวมทั้งคาถานั้นด้วยใช่ไหม เพราะฉะนั้นแล้วนี้จะเห็นว่าบางทีผมไม่ไดตั้งใจแต่ผมสวดไปสวดมาแล้วผมดูผมเอง หยดเทียน หยดเทียนหลายหยดมันจะเป็นเหมือนกับรูปดอกพิกุล มีอยู่ครั้งหนึ่งผมสวดมนต์แล้ว ผมตั้งจิตอธิษฐานมา ลักษณะเทียนที่ไหลออกมาแล้วก่อเป็นรูปนี้มันจะมีอยู่ครั้งหนึ่งเป็นรูปมังกรออกมาเป็นรูปมังกรเลย คอเราไปมองว่าของพวกนี้เป็นของไร้สาระแต่จริงๆ แล้วมันมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวมันเองแล้วผมเอาน้ำมนต์นี้พอสวดจบแล้ว เอาน้ำมนต์นี้ลูบหน้าลูบศีรษะรับประทานเข้าไป ผมตั้งจิตอธิษฐานด้วยน้ำมนต์

จินดารัตน์- มีคนสงสัยอย่างนี้ค่ะคุณสนธิว่า คนปกติทั่วไปถ้าสวดมนต์เยอะแบบนี้ สามารถที่ทำน้ำมนต์เองได้เหรอคะ

สนธิ- ทำได้ ขอให้มนต์ที่สวดเป็นมนต์ที่ถูกต้อง ต้องเป็นมนต์พระพุทธเจ้า

จินดารัตน์- แล้วจิตใจต้องนิ่ง

สนธิ- จิตต้องนิ่งบริสุทธิ์ แล้วที่สำคัญคือผมคิดว่านี้สำคัญมาก ต้องเป็นคนที่มีศีลมีธรรมคิดดีทำดี ผมว่าคนชั่วสวดมนต์หรือคนในรัฐบาลชุดนี้ทุกคนนี้ สวดให้ต่อให้ 10 คาถาพุทธเจ้าก็ไม่มีความหมาย ถ้าคนดีนี้ไม่มีอะไรคือ เวลาเราปฏิบัติธรรมนี้เรานั้งสมาธิทำไมพระท่านบอกให้เราใช้พุทโธ จริงแล้วพ่อแม่หลวงตามหาบัวตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่นี้ ท่านสอนบอกเวลาคับขันนั้น ท่านบอกให้พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ, ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ, สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ท่านบอกไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่านี้แล้ว เพราะฉะนั้น คำว่า “พุทโธ” ที่ให้มีสติมันเริ่มมาจากพุทธไง ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่กว่าพระพุทธเจ้า ทำไมผมถึงบอกว่า ผมเชื่อในเรื่องนี้เพราะว่ามนุษย์นี้ธรรมดามีพลังงานในตัว แอนเคยได้ยินคำว่าแสงออรา แสงออราของคนนี้ทุกคนมีหมด สุดแล้วแต่มีมากมีน้อย บางคนเป็นแสงสีแดง แสงแห่งความโกรธแค้น บางคนเป็นสีขาวนวล ร่มเย็น เมตตากรุณาสูง แสงพวกนี้มีหมด นี่คือพลังงานในตัวเรา ขนาดเราเป็นมนุษย์ธรรมดาเรายังมีพลังงานเลย สังเกตไหม ผมมีรูปผมในห้องทำงานที่พระอาจารย์ผมเขาพอท่านสิ้นตัวท่านนี้กลายเป็นแสงอยู่ในห้องท่าน แสงสว่างเหมือนลูกอุกกาบาตเลย สว่างจ้าเลย ซึ่งต่างกว่าเวลาเราถ่ายรูป เราจะบอกเทวดามา เห็นไหม เป็นรูปวงๆ แต่เป็นแสงมัวๆ เทวดายังสู้พระอรหันต์ไม่ได้ คือเทวดาทุกคนต้องการแสงในตัวให้มากขึ้น เทวดายิ่งมีฤทธิ์มากเท่าไหร่ แสงบารมีมากเท่านั้น และเทวดามุ่งสู่นิพพานเหมือนกัน เพราะฉะนั้นตอนนี้เป็นดวงวิญญาณของเทวดา แต่ในที่สุดแล้วหลายองค์ที่อยู่ชั้นพรหม กำลังจะก้าวข้ามชั้นพรหม พอก้าวข้ามได้ก็นิพพานเลย เพราะฉะนั้นเทวดามีหลายระดับ เทวดากระเรกระราก็มี เทวดาที่ใช้ได้ก็มี เทวดาพวกนี้จะมีอยู่ไม่น้อยที่เห็นแก่อามิสสินจ้าง

จินดารัตน์- จริงๆ ก็ไม่ต่างจากมนุษย์

สนธิ- ไม่ต่างจากมนุษย์ เป็นเพียงแต่ชาติที่แล้วทำบุญคุณงามความดีไว้ พอตายเลยเกิดขึ้นเป็นเทวดา อันนี้คือสิ่งที่พ่อแม่ครูอาจารย์เล่าให้ฟัง เอาเป็นว่าเมื่อมนุษย์มีพลังงานแล้ว หลวงตามหาบัวท่านเป็นพระอรหันต์ พลังงานของท่านต้องมากกว่าเราเป็นล้านๆ เท่า ใช่ไหม พระพุทธเจ้า พลังงานท่านมากกว่าหลวงตากี่ร้อยกี่พันกี่กัปกี่กัลป์นับไม่ถ้วน และไม่ได้มีองค์เดียว ใช่ไหม เหมือนกับเวลาเราเดินเข้ามาบ้าน หลังหนึ่งบ้านเก่าเจ้าของบ้านเหมือนกับบ้านหลังนี้เจ้าของบ้านเดิมคือ ท่านเจ้าพระยาวรพงศ์พิพัฒน์ ท่านอาจจะนั่งฟังอยู่ก็ได้ตอนนี้ ท่านอาจจะนั่งยิ้ม ท่านไปแล้วแต่ว่าพลังท่านยังอยู่ บางคนมีความผูกพันยังอยู่ต่อไม่ยอมไปไหน ไม่ยอมปล่อยวางแต่ว่า ท่านมีความสุขของท่านอยู่อย่างนี้ เพราะฉะนั้นแล้วพระพุทธเจ้าตั้งกี่องค์ พระอรหันต์ตั้งกี่คน และพ่อแม่ครูอาจารย์ผมอัญเชิญมาตั้งแต่หลวงปู่เทพ หลวงปู่ดอน หลวงปู่ทวด หลวงปู่เทพ เทพรังษี หลวงปู่มั่น พลังท่านอยู่หมดเลย และรวมทั้งพลังพระพุทธเจ้าจากการสวดสัมพุทโธ

เพราะฉะนั้น พลังพวกนี้อยู่ในบ้านหลังนี้ มีอยู่ในที่ที่เราปฏิบัติธรรม สวดมนต์ การสวดมนต์เป็นอะไรบางอย่างที่คนไทยควรจะทำ และพอสวดไปสวดมาแล้วจิตเริ่มสงบขึ้น สงบขึ้น มีความรู้สึก คือ การสวดมนต์ถ้าเราไม่ส่งเสียง เราสวดในใจ ถึงแม้เราจะอ่านตำราก็ตาม บทสวดมนต์ แต่ถ้าตาเราจับดูอยู่ที่มนต์ จิตเราอยู่ที่มนต์ และสวดในใจ แอนนั้นคือการภาวนา เท่ากับว่าวันหนึ่งผมภาวนาประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง กลางวันเกือบ 2 ชั่วโมง กลางคืนเกือบ 2 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่ผมทำ ผมเชื่อว่ามีพลัง ผมไม่อยากจะพูดมาก เดี๋ยวพี่น้องพันธมิตรฯ จะมาขอน้ำมนต์กันเยอะ ไม่เอา เพราะว่าผมทำแต่ว่ามีหลายคนได้ไป ผมบอกว่าเวลาจะไปใช้ให้ตั้งนะโม 3 จบ และพุทธัง สะระณัง คัจฉามิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ เพราะน้ำมนต์นี้ผมอธิษฐานเอาไว้ว่า 1. ใครรับประทานเข้าไป ขอให้โรคภัยไข้เจ็บหาย 2. ขอให้สิ่งที่เป็นอัปมงคลในร่างกายหมดไป และ 3. ถ้าเอาน้ำมนต์นี้ลูบศีรษะ ลูบหน้า ตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้แรงอธิษฐานจิตของเขาจงเป็นจริง แต่ต้องเป็นแรงอธิษฐานจิตที่ดี ส่วนจิตที่เป็นเรื่องความโลภอาจจะไม่ได้ ใช่ไหม แต่อยากจะอธิษฐานให้พ้นภัย อยากจะอธิษฐานให้ตนเองบรรลุธรรม อยากอธิษฐานให้ตนเองพ้นจากภยันอันตรายอาจจะได้ เมื่อแรงอธิษฐานเราๆ ตั้งอยู่แล้ว เวลาเราสวด เราขอพ่อแม่ครูอาจารย์ว่า เราจะขออันนี้ เราขอทั้งองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ 40 กว่าองค์ เทวดา และพระพุทธเจ้าทุกองค์ บอกว่าขอเถอะขอให้มาประทานพรให้น้ำมนต์เหล่านี้ ให้น้ำมนต์นี้มีพลานุภาพแห่งพุทธานุภาพของพระพุทธเจ้าทั้งหมดอยู่ในนี้ แล้วขอว่า ใครก็ตามใช้น้ำมนต์นี้ดื่มใช้รักษาโรคในร่างกาย ให้สิ่งที่อัปมงคลออกจากร่างกาย แล้วตั้งจิตอธิษฐานขอให้สำเร็จ เพราะฉะนั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะให้มาขึ้นอยู่กับเราเชื่อหรือไม่เชื่อมัน

จินดารัตน์ - บางคนบอกว่า พอฟังคุณสนธิแล้ว คุณสนธิมองไม่เห็น คุณสนธิรู้ได้อย่างไรว่ามีจริงหรือเปล่ามีพุทธานุภาพ

สนธิ- แล้วทำไมผมโดนยิงแล้วไม่ตาย เพราะว่าผมเจอด้วยตัวผมเองไง

จินดารัตน์- ต้องเกิดจากความศรัทธาก่อน ความเชื่อก่อน ถ้าไม่ศรัทธา เหมือนพันธมิตรฯ วันนี้ยังมีคนที่รักผมอยู่เยอะ เพราะเขาศรัทธาในตัวผม ความศรัทธามันคือ พลังที่ไม่มีที่สิ้นสุด และเป็นพลังที่บริสุทธิ์ ถึงแม้จะมีพันธมิตรฯ จำนวนน้อยลง แต่ว่าจำนวนน้อยลงถ้าเราศรัทธาซึ่งกันและกัน พลังศรัทธามันมีมากกว่าคนที่ไปอยู่อีกกลุ่มหนึ่งมากกว่าเราร้อยเท่าพันเท่า เพราะที่อยู่กลุ่มนั้นไม่มีความศรัทธา เพราะไปด้วยการที่ถูกหลอก หลง เพราะฉะนั้นแล้วห้องนี้เป็นห้องที่ผมปฏิบัติธรรม ผมต้องการความสงบผมจะมาห้องนี้ จริงๆ แล้วผมไม่ได้พูดเพื่อให้แอนเห็นด้วย แต่ถ้าแอนจะรู้สึกด้วยตัวแอนเองว่า แอนเข้ามาในห้องนี้ แอนจะรู้สึกว่าเย็น สบาย แล้วบ้านหลังนี้ผมไม่อยากจะพูดเดี๋ยวจะหาว่าผมบ้าๆ บอๆ บ้านหลังนี้เจ้าที่เจ้าทางดวงวิญญาณยังมีอีกเยอะ แต่ผมอยู่ที่นี่ผมไม่เคยเห็นไม่เคยโดนหลอก แต่มีคนอยู่เยอะหลายๆ คน บางวันเห็นผู้หญิงใส่ชุดไทยโบราณเดินลงบันไดไป ที่ข้างหลังที่ไก่อยู่เขาบอกว่าวิญญาณดุ แต่ผมไม่มี สมัยที่ผมมานอนอยู่ที่นี่หลังจากถูกยิงแล้วผมมารักษาตัว ผมนอนตรงนี้เป็นเดือนเลย นอนสมาธิ แล้วผมมีความรู้สึกว่าเจ้าของบ้านท่านเมตตา บ้านแบบนี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีแบบนี้ ดวงวิญญาณมีแบบนี้ ถ้าเขาไม่ให้คุณอยู่ คุณอยู่ไม่ได้หรอก

จินดารัตน์- มันต้องมีอันเป็นไป

สนธิ- อย่างน้อยที่สุดเจ้าของบ้านดวงวิญญาณเจ้าที่เจ้าทางเขารู้ว่าเราเป็นคน โอเค เป็นคนดีเขาจึงให้เราอยู่ ไม่เช่นนั้นไม่มีทาง เพราะฉะนั้นแล้วการสวดมนต์ให้เน้นมนต์พระพุทธเจ้า คือผมเข้าใจพ่อแม่ครูอาจารย์หลายองค์ท่านก็คิดมนต์ของท่านขึ้นมาเอง ท่านบอกว่า เทวดามาบอกก็ไม่เป็นไร สวดก็สวดได้แต่ว่าคาถาหลัก มนต์หลักต้องเป็นมนต์ของพระพุทธเจ้า มนต์พระปริตร พระปริตรเขาเรียกคาถาโลโซ เป็นคาถาเบสิก พื้นฐาน แต่ว่าความโลโซนี้ ก็คือความไฮโซ เหมือนกับว่าคุณต้องเรียน ก.ไก่ ข.ไข่ มาก่อน คุณถึงสามารถจะผสมคำแล้วก็เข้าใจได้ พระปริตรนี่เป็นคาถาที่เมตตาหมด แล้วผมเวลาสวดพระปริตร ผมไม่ได้สวดให้ตัวผมเอง เหมือนสวดคาถาพาหุง แอนเคยสวดพาหุงหรือเปล่า

จินดารัตน์- ไม่เคยเลย

สนธิ- พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะ สาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง...ใช่ไหม จะมีคำว่า ภะวะตุเต ภะวะตุเม ส่วนใหญ่คนสวดเขาจะสวดใช้ภะวะตุเมให้ตัวเอง แต่ผมจะภะวะตุเตหมด เต คือให้คนข้างนอก เพราะฉะนั้นแล้วการแผ่เมตตาของเรา เราไม่แผ่ให้เรา เราให้คนข้างนอกหมด ให้เทวดาให้ศัตรูให้ทุกคน เหมือนกับเราให้และในที่สุด มันจะคืนมาให้เรา แต่ถ้าเรางกอะไรก็เข้ามาอยู่ที่เราคนเดียว เจ้าพระคุณขอให้ลูกร่ำรวย ขอให้ขายที่ได้ ขอให้อย่างโน้นอย่างนี้คือ ขอหมด แต่ถ้าเราไม่ขอเราให้ โดยพื้นฐานแล้วจะกลับมาหาเรา เหมือนกับพ่อแม่ครูอาจารย์เวลาท่านเทศน์ ท่านจะบอกตลอดเวลาว่า เวลาเทศน์ท่านบอกว่า ถ้าเราทำบุญยิ่งมากเท่าไหร่ ทำด้วยจิตบริสุทธิ์ ไม่ใช่คิดว่าทำบุญใช้เงินมากและจะได้ขึ้นสวรรค์เร็วขึ้นไม่ใช่

จินดารัตน์- เหมือนที่เขาฮิตๆ กัน

สนธิ- ทำเพราะเชื่อว่าเราต้องการจะเป็นองค์อุปถัมภกของพระพุทธศาสนา ทำเพราะเชื่อตรงนี้ ตรงนี้บุญจะกลับมา เพราะฉะนั้นแล้วแอนจะเห็นถาดอันนี้ จะมีพระเครื่องอยู่เยอะเลย ผมธรรมดาก็ห้อย ผมจะวางบนถาดนี้ ถ้ากับพระที่ผมห้อยคอ ทุกวันเวลาผมสวดมนต์ผมต้องเก็บไป ผมจะวางบนถาดนี้ และพันด้วยสายสิญจน์ เท่ากับว่าเรามีคาถาพระพุทธเจ้าใส่เข้าไปในถาด ซึ่งมีพระเครื่อง ปรากฏว่าพระผมเป็นพระที่ปลุกเสกทุกวัน และผมไม่กล้าพูดว่า พระของผมแรงแค่ไหน หรือศักดิ์สิทธิ์แค่ไหน แต่ว่าผมมีความรู้สึกว่า ผมสบายใจที่ได้ทำทุกอย่าง เพราะฉะนั้นแล้วในนี้คุณจะเห็นสังเกตอย่าง ไม่ใช่ห้องพระที่เป็นห้องไสยศาสตร์ ห้องไสยศาสตร์จะมีรูปฤาษี จะมีรูปโน้นรูปนี้ไม่มี ของเราจะมีองค์จตุคามรามเทพ องค์จตุคามนี้คือ พระโพธิสัตว์ เป็นเวอร์ชั่นหนึ่งขององค์ที่จะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต นอกนั้นจะเป็นองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พระมาจากที่อื่น มีพระใหม่บ้างพระเก่าบ้างคือ สรุปง่ายๆว่า มีพระธาตุเยอะ ผมมีพระธาตุเยอะ ผมมีฟันเห็นไหมที่เป็นเจดีย์แก้วไหม นั้นคือที่บรรจุฟันของหลวงปู่ดุลย์ อตุโล หลวงปู่ดุลย์เป็นเกจิอาจารย์ของสายหลวงปู่มั่น และแอนต้องเข้ามาดูในนี้ น้ำมนต์ ถาดน้ำมนต์ ดูแล้วจะงง เห็นไหม เห็นอะไรไหม

จินดารัตน์- เหมือนอัญมณีคะ

สนธิ- เห็นวัตถุมงคลไหม

จินดารัตน์- มีพระค่ะ

สนธิ- ผมหยิบให้ดูก็ได้ นี่คือพระกริ่งจอมสุรินทร์

จินดารัตน์- พระกริ่งที่

สนธิ- จอมสุรินทร์ สร้างโดยหลวงปู่ดุลย์ อตุโล และจะให้ดูนี่คือ พระยอดธง คนที่เมตตาให้คือ หลวงตามหาบัว นี่คือพระกริ่ง ท่านเจ้าคุณนรที่มีชื่อมาก ศักดิ์สิทธิ์มาก นี่คือดวงแก้วพญานาคที่ได้มา 3 ดวง เพราะฉะนั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดที่ผมทำมา เวลาผมทำน้ำมนต์ผมจะอาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์พวกนี้ อาราธนาหลวงปู่ดุลย์ อาราธนาหลวงตามหาบัวมา ทุกอย่าง มีอะไรจะถามอีกไหม

จินดารัตน์- คือคุณสนธิทำอย่างนี้ทุกวัน เริ่มทำมากี่ปีแล้วคะ ที่ทำแบบนี้ทุกวัน

สนธิ- เป็นปีแล้ว

จินดารัตน์- ทำไมคะ อะไรดลใจหรือคิดว่า

สนธิ - มันมีความรู้สึกว่าพอยิ่งอายุมาก มันรู้สึกทุกอย่างเป็นเรื่องสมมุติ และผมมีความรู้สึกผูกพันกับพระพุทธศาสนามาก ยิ่งวันยิ่งมาก ไม่ใช่แปลว่า ศาสนาอื่นไม่สำคัญ แอนรู้ไหมเวลาผมอัญเชิญเทวดา 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน อินทร์ พรหม ยม ยักษ์ ผมอัญเชิญเทวดาทั่วจักรวาล และผมระบุด้วย อัญเชิญเทพเทวดาที่นับถือต่างศาสนา คือดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ผมก็อัญเชิญมา บางคนผมเอ๋ยชื่อเช่น ท่านอัครเทวดานักบุญเซนต์ ไมเคิล ท่านนักบุญเซนต์ เทเรซา และบริวาร ที่นับถือศาสนาคริสต์ผมระบุเลย ผมเชิญเทวดาทุกศาสนามา เพราะผมมีความรู้สึกว่า ภาษามนต์ของพระพุทธเจ้าเป็นภาษาจักรวาล ผมเคยถามพ่อแม่ครูอาจารย์ท่าน ท่านบอกว่า ภาษามนต์ถึงจะเป็นคนที่นับถือต่างศาสนา เมื่อเราสวดออกไปเขาได้ยินแล้ว มันเย็น มันร่มเย็น มันดี มันทำให้เรามีความรู้สึกว่า ทุกอย่างมันลอยตัวหมด เป็นความสุข

จินดารัตน์ - และวันนี้เน้นสวดให้คนอื่น

สนธิ- ผมสวดเสร็จ ผมอุทิศการสวดของผม และการกรวดน้ำ สิ่งแรกที่ผมอุทิศให้ ผมอุทิศให้ 3 โลกธาตุ คือ 16 ชั้นฟ้า โลกมนุษย์ 15 ชั้นดิน ครุฑ อินทร์ ยม พรหม ยักษ์ อันที่ 2 ผมขอถวายการสวดน้ำให้เป็นพระราชกุศลกับองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ ขอให้พระองค์ท่านมีอายุยืนสุขภาพแข็งแรง อยู่เป็นเสาหลักของชาติบ้านเมืองต่ออีกอย่างน้อย 20 ปี ตอนนี้ในหลวง 85 ก็เป็น 105 แล้วผมขอให้ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ มีอายุยืนเช่นกันอยู่รับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พอหมด 2 องค์แล้วนี้ ผมอุทิศต่อให้กับดวงวิญญาณทุกดวงเจ้าที่เจ้าทางที่ผมอัญเชิญมาที่นี้ ที่ผมเอ๋ยชื่อ และไม่เอ๋ยชื่อ และผมอัญเชิญพวกยุวกษัตริย์ ของราชวงศ์จักรี และทุกๆ ราชวงศ์จนถึงราชวงศ์จักรีตั้งแต่รัชกาลที่ 1-8 ให้มาที่นี้ สมเด็จพระเจ้าตากสินก็อัฐเชิญมา กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ก็อัญเชิญมา ผมอัญเชิญดวงวิญญาณของวีรบุรุษวีรสตรีที่เสียสละชีวิตปกป้องประเทศไทย และอัญเชิญพ่อกับแม่ผมมาปู่ย่าตายายผมมาเสร็จแล้วผมค่อยอัญเชิญเจ้าที่เจ้าทางมา แล้วพวกดวงวิญญาณ 7 ตุลาฯ พวกเจ้ากรรมนายเวร พญามาร พญาอสูรมารับบุญไปเลยรีบไปแล้วกรวดน้ำให้เขา แล้วไปเทใต้ต้นไม้ ให้เขาเจริญๆ เอาไปอย่าได้เบียดเบียนกันเลย คุณทำไรมาแล้วอโหสิกรรมให้คุณ ผมทำไรให้คุณอดีตชาติ ผมขอคุณอโหสิกรรมคุณ อย่ามาจองเวรรับบุญไป จากมนต์ที่เราสวดให้เขาเพราะฉะนั้นแล้วนี้ มันจะทำให้เรามีความรูสึกว่า มันเป็นของมันอย่างนี้ ทุกอย่าง ตอนนี้ผมถึงเหมือนคนไร้อารมณ์ เพราะว่าผมเห็นว่าคุณยิ่งลักษณ์ หรือนายทักษิณ หรือพวกที่เลอะเทอะ พวกเสื้อแดงบางคนที่สารเลวมันกำลังทำกรรมของมันขึ้นมาแล้วผมไม่รู้จะทำอย่างไร หวังว่าวันหนึ่งกรรมเหล่านี้จะมาสนองพวกเขา แต่ผมอุทิศส่วนกุศลให้พวกเขา เขารู้เขากลับตัวทันก็ดี แต่ยิ่งเขาไม่รู้ไม่กลับตัว เขายิ่งทำแรงขึ้นๆ เขายิ่งได้รับกรรมากขึ้นๆ

จินดารัตน์- ถ้างั้นคุณสนธิจึงแบกรับภาระ หลายคนห่วงอยู่ว่าหนักอึ้งขนาดนี้อยู่ได้ไง

สนธิ- มันอยู่ได้ก็เพราะว่าการสวดมนต์การปฏิบัติธรรม การตั้งจิตอธิษฐานการตั้งเป้าว่า แอนเอ๋ยมันเป็นเรื่องสมมุติแอนครั้งหนึ่งทักษิณเคยใหญ่จะตายวันนี้ กลายเป็นนักโทษเป็นผีเร่ร่อน สมัครตายไปแล้ว สมชาย วงศ์สวัสดิ์เหมือนกับเป็นสัมภเวสีทางการเมืองจุดยืนในชีวิตไม่มีอะไร ปูยิ่งลักษณ์ นี้หลงใหลกับตัวเอง ในที่สุดอีกหน่อยก็เป็นอดีต ไม่มีอะไรเป็นความจริง ชีวิตมีแต่ความว่างเปล่า จำได้ไหมที่พูดตลอดเวลา แต่ผมนี้มองหน้าคนได้สนิท ผมไม่ต้องหลบตาใครวันนี้เราไหนก็พูดถึงเสื้อแดงแล้วพูดถึงพรรคประชาธิปัตย์บ้างว่า วันนี้เขาทำยังไง เขามีความสุขไหมละ เขาดิ้นรนสู้กันไปเพื่อแย่งชิงอำนาจ ในสิ่งที่มันสิ่งที่มันเป็นซึ่งกิเลส คนพวกนี้จะไม่มองอำนาจเพื่อเอามาสร้างธรรม คนพวกนี้มองอำนาจที่จะให้ตัวเองใช้อำนาจนั้น เอาประโยชน์เข้าตัวเองพวกคนพวกนี้ไม่ว่า จะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคเพื่อไทย และพรรคต่างๆ ไม่เคยคิดถึงส่วนรวม เหมือนกันหมด ยิ่งมีเวลานั้งคิดนั้งปรึกษาหารือนั้งหาเหตุการต่างๆ เอาความเป็นธรรมเข้าวัด จะเห็นว่าคนพวกนี้เลวเท่าเทียมเหมือนกันหมด คนบางคนเห็นว่า เพื่อไทยเหมือนขี้อย่างน้อยประชาธิปัตย์คือ ขี้ผสมข้าว เข้าใจยัง คือหลายคนคิดได้อย่างนี้ผมก็จนปัญญาครับ จนปัญญาของคนไทย ถ้าถามว่าผมมองยังไงแล้วในมุมสังคมไทย ผมว่าสังคมไทยยกเว้นพันธมิตรฯ สมน้ำหน้าแล้วที่เจอแบบนี้ คุณสนธิไม่สงสารประเทศหรือ ผมสงสารแต่บางทีคนไทยต้องรับกรรมบ้างก็ดี ต้องเจ็บปวดบ้าง เขาถามว่าไม่กลัวชาติล่มสลายหรือ ผมว่าล่มสลายไปก็ดีจะได้เกิดใหม่ ทำไมคุณสนธิไม่ห่วงชาติบ้านเมืองผมห่วงผมมีสติ ผมดุแล้วผมมองว่าคนไทย สื่อมวลชนไทย ข้าราชการไทย นักการเมืองไทยครูบาอาจารย์ของไทยส่วนใหญ่เป็นคนที่สิ้นหวังหมดแล้ว เพราะเป็นคนที่มีอวิชชาเต็มไปหมด โง่ ไม่รู้เรื่อง แล้วเสร็จเรีบยร้อยแล้วมองอะไรไม่เกินหัวแม่ตีนตัวเอง คิดถึงแต่ตัวเอง 60 กว่าเปอร์เซ็นของ คนไทยบอกว่า ยอมรับโกงได้ และมาแบ่งให้เขากินบ้าง ผมกำลังสาปแช่งให้สังคมไทยมันฉิบหายมากกว่านี้ และผมหวังว่าพี่น้องพันธมิตรฯ และพวกเรา จะรักษาคุณงานความดีของพวกเรา ในหมู่พวกเราไว้ ถ้ายังจำได้พี่น้องพันธมิตรฯ จำได้ ผมเคยพูดมาตลอด พวกเราต้องรวมกลุ่มกันไว้ อยู่กันช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รักษาคุณงามความดีเอาไว้ เหมือนกับผมมีญาณล่วงหน้า ผมรู้ว่าเมืองไทยต้องเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นแล้วถ้ามันจะชั่ว ให้พวกมันชั่วให้หมด แต่พวกเราจับกลุ่มมีเครือข่าย มีความโยงใยรักษาคุณงามความดี ยืนไว้ตรงนี้ ไม่ต้องไปดิ้นรนสู้ล้มใครหรอก ให้มันตายด้วยความพินาศของมันเอง ผมถึงบอกว่าวันนี้เมืองไทย ชั่วมาก แต่ยังชั่วไม่มากพอที่จะล่มสลาย อย่าให้มันชั่วจนล่มสลาย เพราะว่าคนพวกนั้นพึ่งอะไรไม่ได้เลย สื่อมวลชน 95-97 เปอร์เซ็นต์ พึ่งไม่ได้เห็นแต่กิเลสเห็นแก่ประโยชน์ตัวเอง ทรยศต่อวิชาชีพตัวเอง ทหารเห็นแก่ยศถาบรรดาศักดิ์ของตัวเอง ไม่มีความรู้สึกว่า ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์คืออะไร เขามองว่า ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์คือ คนที่จะให้ยศกับเขาได้ นักการเมืองสนใจอย่างเดียวคือ ว่ามีเงินเข้ามากินส่วนต่าง ชาติจะพินาศ ฉิบหายช่างมัน นักการเมืองโกหกแล้วโกหกอีก มันเป็นไปได้ยังไง คุณปลอดประสพ คุณยิ่งลักษณ์ บอกว่าน้ำไม่ท่วม แล้ววันนี้น้ำท่วม แล้วมาอ้างเหตุสุดวิสัย และคนสังคมไทยยอมรับ เพราะเช่นนั้น คนสังคมไทยที่ยอมรับคำพูดแบบนี้ ถึงไม่ยอมรับไม่รู้จักดิ้นรนที่จะเข้ามารวมกลุ่มกัน คนไทยนี่เป็นคนที่ถูกนักการเมืองเอาเท้าลูบหน้า ยังให้เขาลูบหน้าอยู่ เออชั่งมันเราก็อยู่ของเราไป

จินดารัตน์- แอนเริ่มเชื่อคำทำนายแล้วเหมือนกัน คุณสนธิ ระยะหลังที่เขาบอกว่า อีกไม่นานโลกเราหรือแม้แต่เมืองไทยเอง จะเจอกับหายนะ ความวิบัติ แล้วคนที่แค่ 10 เปอร์เซ็นต์ ที่มีธรรมะอยู่ในใจจึงจะอยู่รอดได้

สนธิ- ผมว่าพันธมิตรฯ ผมอยากจะให้พันธมิตรฯ เดี๋ยวจะหาว่า ผมไปบ้าบอคอแตกอีก อยากจะให้มีเวลาอยู่กับมนต์ พระพุทธเจ้าวันหนึ่งซักชั่วโมง สวดมนต์ ตั้งจิตอธิฐาน ตั้งจิตให้บริสุทธิ์ สวดมนต์ เสียงมนต์ทะลุเข้าไปในจักรวาล คำถามเริ่มแรก ถามคนมุสลิมว่า เขาเชื่อพระอัลเลาะห์จริง เขาเชื่อ ถามคนคริสต์ เชื่อว่าพระเยซูมีจริง บอกว่าเชื่อ ถามเราว่าพระพุทธเจ้ามีไหม มี ถ้ามีเราเชื่อไหม เชื่อ ถามว่าเทวดามีจริงไหม มี เพราะว่าพ่อแม่ครูจารย์ อาจารย์ผม หลวงพ่อญาท่าน หลวงตามหาบัวท่านพูดชัด เทวดามี นรกมี สวรรค์มีขอให้ท่านเชื่อ ท่านพูดเลยขอให้เชื่อว่า มีนรกมี สวรรค์มีถ้าตรงนี่มีคำถามถามว่า แล้วสิ่งที่เราทำอยู่ เขารับรู้ไหม รับรู้บางทีมันจะต้องถึงเวลาที่โลก หรือสังคมแต่ละแห่งต้องล่มสลาย และผมถ้าสังคมไทยล่มสลาย ผมจะอุเบกขาก็ดีแล้ว เมื่อคนที่ไม่มีปัญญาช่วยอะไรไม่ได้ ถ่ายทอดอะไรให้ไม่ได้ ไม่เข้าใจ ยังโง่ดักดานอยู่ เหมือนทหารบางคนวันทหารชั้นผู้ใหญ่ พูดกับอดีตทหารชั้นผู้ใหญ่บอกว่า ทหารจะเข้ามาจัดการกับปัญหาชาติ บ้านเมือง เมื่อเสื้อแดงกับเสื้อเหลืองรบกัน คุณแอน คำพูดมันสะท้อนถึงสติปัญญาที่ต่ำ และจิตวิญญาณที่เลวทราม เข้าใจไหม คน 2 คนเนี่ยถ้าขัดแย้งกัน ลูก 2 คนถ้าทะเลาะกัน พ่อแม่ที่ใช้ไม่ได้จะบอกว่า หยุดทะเลาะกันเดี๋ยวนี้ ไม่ฟัง ต่างฝ่ายเลิกกัน แต่พ่อแม่ที่มีสติปัญญาจะถามว่า เรื่องอะไรแล้วใช้ปัญญาของตัวเองถาม ไปขโมยของพี่มาได้อย่างไร รู้ไหมว่าการขโมยของมันผิด หนูอยากได้ หนูต้องไปขอพี่ ถ้าพี่เขาไม่ให้เป็นสิทธิ์ของเขา แต่หนูไม่มีสิทธิ์ไปขโมยนี่คือ พ่อแม่ที่ถูกต้อง

เพราะฉะนั้นแล้วคนเรา ถ้าเป็นทหารมีหน้าที่รักษาความมั่นคง รักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถ้าคิดได้แต่เพียงว่า ขอให้เสื้อแดง เสื้อเหลืองมันทะเลาะกัน แล้วเราจะออกมายึดอำนาจ แล้วเราจะมาจัดการทั้งเสื้อแดง เสื้อเหลือง ถือโอกาสกวาดมันทีเดียวเลย แสดงว่าประเทศไทยสมควรจะล่มสลาย สมควร ไอ้ทหารพวกนี้สมควรจะพินาศฉิบหายไป พร้อมกับสังคมไทยเลวๆ ผมขอแยกออกมาอยู่ของผม ขอให้พี่น้องพันธมิตรฯ แยกมาอยู่กับผม เรามารวมกลุ่มกัน

จินดารัตน์- ไม่ต้องมาข้องเกี่ยว

สนธิ- ไม่ต้องมาข้องเกี่ยวกับมัน เรามีอะไรช่วยเหลือกันได้ เราก็จะช่วยเหลือ ให้ชาติ บ้านเมืองมันอยู่ได้ อย่างน้อยที่สุดในสังคมไทยถ้ามีคนเพียง 10 เปอร์เซ็นต์คือ กลุ่มพันธมิตรฯ มีชีวิตอยู่ได้ หรือกลุ่มสันติอโศกมีชีวิตอยู่ได้ ที่เหลือฉิบหายตายช่างมัน นี่คือบทสรุปของผมทุกวันนี้

จินดารัตน์- แต่ว่าเราก็ไม่ คือถ้าอย่างเขาอาจจะเกิดคำถามกันว่า และบางเรื่องบางเหตุการณ์พันธมิตรฯ ช่วยกอบกู้ได้จะไม่ทำหรอ

สนธิ- กอบกู้อย่างไร เราช่วยไม่ได้แล้วเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดอง จะให้เราไปกอบกู้ทุกเรื่องได้อย่างไร พันธมิตรฯ เป็นมนุษย์หรือเปล่า พันธมิตรฯ มีค่าใช้จ่ายต้องทำมาหากินหรือเปล่า แอนพวกเราเจ็บปวดจะตาย

จินดารัตน์- เต็มกลืนเลย

สนธิ- เงินเดือนไม่เคยออกตรงเวลา เงินเดือนของเดือนที่แล้วของเดือนกรกฎาคม เพิ่งออกเมื่อต้นเดือนสิงหาฯ เอ้ย ของเดือนกรกฎาฯ เพิ่งออกต้นสิงหาฯ เงินเดือนของสิงหาฯ กันยาฯ ยังไม่ออก ได้ข่าวว่าวันสองวันจะออกแตะ 5,000 บาท

จินดารัตน์- ออกเต็ม 5,000 บาท

สนธิ- พวกเราเสียสละให้สังคมจนมากเกินกว่าเสียสละแล้ว

จินดารัตน์- พี่น้องต้องร่วมบริจาคทุกเดือน

สนธิ- เขาจะบริจาคก็ขอถ้าเขาเข้าใจ ถ้าไม่บริจาคเราก็หยุด แอนอย่างมากที่สุดเรารวบรวมพลพรรค ที่ยังรักกัน ที่อยู่กัน ASTV อาจจะไม่จำเป็นต้องเยอะ และทำเป็นทรีดีสู่อินเทอร์เน็ต แสดงว่าเราไม่ได้ยอมแพ้ เรายังยืนอยู่ด้วยอุดมการณ์ ตรงนี้เข้าใจไหมแอน เพราะฉะนั้นแล้วถามว่าเราทำอะไรให้ชาติบ้านเมือง เราทำให้มากเกินกว่ามนุษย์คนหนึ่งจะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำอะไรให้ชาติบ้านเมืองบ้าง นายบรรหาร ศิลปอาชา ทำอะไรให้ชาติบ้านเมืองบ้าง นายปลอดประสพทำอะไรให้ชาติบ้านเมืองบ้าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทำอะไรให้ชาติบ้านเมืองบ้าง ไม่มี ไม่มีเลย ไม่มี ใช่ไหม ผมถึงบอกว่าเวลาผมเห็นพรรคประชาธิปัตย์ทะเลาะกับพรรคเพื่อไทยแล้ว ผมสมเพช เพราะไปดูในเนื้อหาแล้ว ทะเลาะเพื่อให้ได้อำนาจมาแค่นั้นเอง และพอพรรคประชาธิปัตย์มาออกกฎหมายเพื่อไปเข่นฆ่าพรรคเพื่อไทย วันนี้พรรคเพื่อไทยเลยใช้กฎหมาย

จินดารัตน์- มาจัดการ

สนธิ- ออกมาจัดการพรรคประชาธิปัตย์ สรุปแล้วเป็นเรื่องของอัตตา เป็นเรื่องของกิเลศเป็นเรื่องของความโลภ ไม่เคยมีใครคิดถึงชาติบ้านเมืองเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่มี ไม่มี ทำไมวันนี้พรรคประชาธิปัตย์ถึงค้านไม่ได้ผล เพราะสิ่งที่พรรคเพื่อไทยมันทำ มันทำตามที่พรรคประชาธิปัตย์ได้วางรากฐานไว้หมดทั้งสิ้น ถึงพูดไม่ออก

จินดารัตน์- เชื่อมั่นในระบบรัฐสภา

สนธิ- เชื่อมั่นในระบบรัฐสภา ผมถึงบอกว่าบางครั้งผมนี่รังเกียจสาวกพรรคประชาธิปัตย์ที่โง่แล้ว หมกมุ่นรังเกียจจนกระทั่งอย่าว่าแต่คบเลย มองหน้ายังไม่อยากมอง แล้วผมจะมีความรู้สึกว่าคนพวกนี้เวลาตายจะทุรนทุราย เพราะไม่เคยเข้าใจธรรมที่แท้จริง คนพวกนี้เป็นคนที่หลอกลวงปั้นสีหน้า พวกนี้ไม่ได้ต่างจากพวก จตุพร พรหมพันธุ์ จะต่างกันอย่างเดียวแต่จตุพรมันก้าวร้าว พอมันก้าวร้าวมันหยาบคาย ก็เลยเกลียด มันไม่หล่อ การศึกษาไม่สูงแค่นั้นเอง แต่ถ้าเราตัดเรื่องความหล่อ หน้าตา การศึกษาออกแล้ว ดูเนื้อหากันทั้งสองฝ่าย แยกไม่ออกแอนเอ้ย เผ่าพันธุ์เดียวกัน ผมถึงบอกว่าน่ารังเกียจที่สุด

จินดารัตน์- พันธมิตรฯ เลยต้องทำตัวให้เข้มแข็ง รวมกลุ่ม

สนธิ- ใครที่มีอุดมการณ์เดียวกัน แล้วไม่เคยเปลี่ยนอุดมการณ์เราต้องอยู่ด้วย และต้องช่วยกันให้มากที่สุด

จินดารัตน์- เพราะวันนี้แอนมีเรื่องมาถามคุณสนธิ เรื่องสำคัญเลย เขากำลังตัดสินใจกันอยู่เยอะว่า จะดื่มไม่ดื่มดี น้ำปัสสาวะ

สนธิ- แอน การดื่มน้ำปัสสาวะคือ การปฏิบัติธรรม

จินดารัตน์- งั้นแอนขอพักก่อน เดี๋ยวช่วงหน้ากลับมาปฏิบัติธรรมอย่างไร พักกันสักครู่ ช่วงหน้ากลับมา มาดูแลสุขภาพให้เเข็งแรงด้วย ต้องบอกว่า การขับถ่ายของเราเอง ของร่างกายเราเอง จะรังเกียจทำไม ต้องก้าวข้ามตรงนี้ไปให้ได้ จำคำพูดคุณสนธิได้ไหม จะก้าวข้ามสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร พักกันก่อนสักครู่คะ

ช่วงที่ 2

จินดารัตน์- กลับมาอีกช่วงหนึ่งรายการคุยทุกเรื่องกับสนธินะคะ อย่างที่เรียนคุณผู้ชมไปว่า กำลังเป็นที่โจษจันกันมาก บางคนก็กล้าๆกลัวๆ บางคนก็ลองไปแล้ว บางคนก็คิดว่าอย่างไรก็ไม่ลอง เรื่องของเรื่องก็คือการดื่มน้ำปัสสาวะรักษาโรค คุณสนธิเคยคุยกันในงานพระอาทิตย์แฟร์ ก็ฮือฮามาหนหนึ่งแล้วเราก็เลยจะคุยเพื่อตอกย้ำคุณผู้ชมว่า ทำไมวันนี้คุณสนธิดื่มน้ำปัสสาวะแล้วสุขภาพดีวันดีคืน ที่สำคัญเห็นเส้นผมบนหนังศีรษะมั้ยคะ ถ้าคุณผู้ชมลองสังเกตดีๆ เอาภาพเก่าๆ มาดู คุณสนธิผมดำขึ้นโดยที่ไม่ได้ไปย้อมผมหรือทำสีผมใดๆ ทั้งสิ้น เดี๋ยวเรามาคุยกันเรื่องนี้ จริงหรือเปล่าคะที่แอนพูด

สนธิ- คือเรื่องดื่มปัสสาวะนี่ ผมไปอ่านหนังสือของ อ.นิดา แล้วถ้าจะพูดตรงๆแล้วคนที่มีอิทธิพลกับผมมากที่สุดในเรื่องดื่มปัสสาวะคือ อ.ปานเทพ เป็นคนที่คิดอะไรเป็นระบบ อธิบายเป็นขั้นตอนได้ ผมมาเอะใจในคำพูดที่ว่า น้ำปัสสาวะมันก็คือน้ำของเรานั่นเองที่ฟอกผ่านไต แค่นั้นเอง มันมีปัญหาตรงที่ว่า คนโบราณชอบพูดคำว่าขี้กับเยี่ยว พูดรวมกันมันก็เลยทำให้น้ำปัสสาวมันไปติดกับอุจจาระ มันก็เลยทำให้คนกลัวว่ามันจะสกปรก อีกประการหนึ่งน้ำปัสสาวะเนี้ยมันมีกลิ่นของกรดยูเรีย เวลาเราเข้าห้องน้ำเราจะได้กลิ่นนี้อยู่ตลอดเวลา มันก็มีความรู้สึกว่าถ้าเราไปกินมัน เราเข้าไปกินน้ำในห้องน้ำ ซึ่งมันไม่ใช่ เพราะไอ้นั่นมันเป็นคนอยู่เยอะ แล้วปัสสาวะของคนจะมีกลิ่นแบบไหนจะมีรสเปรี้ยว เค็ม ขึ้นอยู่กับอาหารการกิน และสิ่งที่เรารับประทาน เพราะฉะนั้นแล้วน้ำปัสสาวะสำหรับผมแล้ว ประการแรกสุด เป็นเรื่องของการใช้ปัญญาก่อน ปัญญาแรกสุดที่ต้องคิดคือว่าน้ำปัสสาวะเป็นความจริงที่พระพุทธเจ้าพูดในพระไตรปิฎก ให้ฉันน้ำมูด น้ำมูดคือน้ำปัสสาวะ ถ้าเราเชื่อว่าพระพุทธเจ้าคือสัพภัญญู พระองค์เจ้าตรัสรู้ ทุกเรื่องในสามโลก เรื่องดีเอ็นเอท่านก็พูดมาก่อน เรื่องโคลนนิ่งท่านพูดมาก่อนในพระไตรปิฎก เรื่องจักรวาลท่านก็พูดมา ถ้าท่านรู้อยู่แล้วจากฌาณของท่านเองว่าน้ำปัสสาวะคือยารักษาโรค คำถามเราต้องถามว่า แล้วเราเชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีจริงหรือเปล่าล่ะ ถ้าเรากลับไปว่ามีจริง เราเชื่อมั้ย ก็แสดงว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้านั้นพูดถูก ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ท่านจะให้พระภิกษุสงฆ์ฉันน้ำมูดทำไม ข้อแรก ข้อที่สอง เรามาดูพ่อแม่ครูอาจารย์ พระหลายองค์ หลวงพ่อยา ที่เป็นพระอาจารย์ผมองค์หนึ่งท่านสิ้นแล้ว 80 กว่า ท่านก็ฉันน้ำมูต น้ำปัสสาวะ หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง วัดนานาชาติหนองป่าพง ท่านก็ฉันน้ำปัสสาวะ หลายคนนายกรัฐมนตรีอินเดีย อดีตที่เสียชีวิตไปแล้ว เดซาย เสียชีวิตตอนเกือบ 100 ปี ท่านก็รับประทานน้ำปัสสาวะ พระพุทธเจ้าพูด พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านฉันน้ำปัสสาวะ แสดงว่าน้ำปัสสาวะไม่ใช่น้ำพิษ และทำไมต้องทานน้ำปัสสาวะ ทำไมไม่ทานน้ำธรรมดา แสดงว่าน้ำปัสสาวะต้องรักษาโรคได้ อันนี้คือหลักธรรมดาสามัญที่สุด เราแยกประเด็นเรื่องน้ำปัสสาวะมีกลิ่นออกซะก่อน เอาปัญญาก่อน พอปัญญาเรามี เราศึกษา เราอ่านหนังสืออาจารย์นิดดา อาจารย์นิดดาไม่ใช่คนที่เขียนเลอะเทอะ อาจารย์นิดดาเขียนมีข้อเปรียบเทียบ

จินดารัตน์- ข้อพิสูจน์

สนธิ- ข้อพิสูจน์มีแม้กระทั่งการประชุมปัสสาวะบำบัดของโลกครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ไปแล้ว ครั้งที่ 3 กำลังประชุมอยู่ เข้าใจว่าเป็นที่ประเทศบราซิล และพอดูรายชื่อคนที่ประชุมแล้ว แพทย์จากเยอรมนี คนยุโรปรับประทานน้ำปัสสาวะเยอะมาก อันนี้คือปัญญานะ เราวิเคราะห์ตรงนี้ ถ้าวิเคราะห์ตรงนี้ผ่านเราก็ผ่าน อันที่ 2 เมื่อปัญญาผ่านแล้ว คำถามมีต่อไปว่า และเราเข้าใจไหมว่า น้ำปัสสาวะมีอะไรบ้างที่รักษาโรคได้ ผมฟังอาจารย์ปานเทพพูด อาจารย์ปานเทพไปศึกษามาฟังครูนิดดาพูด ผมไม่ต้องศึกษาอะไรมาก ผมเข้าใจเลย น้ำปัสสาวะเหมือนกับเราทานเซรุ่มของตัวเราเอง

จินดารัตน์- เหมือนวิธีการเดียวกันที่เขาเอาไปทำเซรุ่ม

สนธิ- เหมือนกับรีดพิษงูออก และเอาพิษงูไปทำเซรุ่ม เวลาคนโดนงูกัดเอาเซรุ่มงูฉีดเข้าไปให้หาย เหมือนกับเวลาเราเป็นไข้มาลาเรีย เราก็กินยาควินิน คนที่เป็นไข้มาลาเรียกินยาควินินก็ตาย แต่คนที่ไม่ได้เป็นไข้มาลาเรีย และไปกินยาควินินจะเป็นไข้มาลาเรียเพราะยาควินินมีส่วนผสมของเชื้อไข้มาลาเรียอยู่ เขาเลยต้องเอาเชื้อไข้มาลาเรียมาฆ่ามาลาเรีย ผมดูผมศึกษาก็เข้าใจดี ว่าน้ำปัสสาวะมีอยู่ประมาณ 3-4 เปอร์เซ็นต์ หรือ 5 เปอร์เซ็นต์ มันคือโรคภัยไข้เจ็บของเราที่ออกมาทางน้ำ เมื่อเราทานมันกลับเข้าไปแล้ว เท่ากับอันนี้เป็นเซรุ่มไปรักษาโรคภัยไข้เจ็บอันนั้น

จินดารัตน์- คือร่างกายจะเรียนรู้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมมีเชื้อโรค เพื่อให้สร้างภูมิคุ้มกัน ออกมากำจัดอย่างนี้หรอคะ

สนธิ- ถูกต้อง เสร็จเรียบร้อยแล้ว น้ำปัสสาวะมันมีภูมิคุ้มกันหลายอย่าง ทำไมต้องมาล้างหน้า เพราะน้ำปัสสาวะจะไปเสริมความเต่งตึงของหน้าขึ้นมา ทำไมต้องลูบศรีษะ เพราะจะทำให้พวกผดผื่นคันเม็ดสิวที่ไปอยู่บนหัวนี้มันจางหายไป เข้าใจยัง และในที่สุด มันทำให้ผมนี้ดำขึ้น โดยปริยาย การล้างหน้ามันจะช่วยเพราะน้ำปัสสาวะมันจะซึมเข้าหน้าเร็วมากเวลามือเป็นแผล เอาน้ำปัสสาวะทาน้ำปัสสาวะจะเข้าไปกัดเชื้อไวรัส รอให้สุวัจน์ ทนายพันธมิตรเล่าให้ฟัง มือ 2 ข้าง ท่านเป็นแผลรักษาเท่าไหร่ก้ไม่หายแช่น้ำปัสสาวะ 2 วันหายหมดเลยผมนี้โดน เอ่อลิ้นชักบาดที่เมืองจีนตรงนี้เลือดสาดเลยตกใจแต่เผอิญมีสติลองใช้น้ำปัสสาวะลองเข้าห้องน้ำฉี่เอาน้ำปัสสาวะทา แสบมากทาเช้าทากลางวันเย็นหาย แผลสมาน น้ำปัสสาวะรักษาโรคได้ไหมต้องให้หนังสือเป็นตัวบอกมากขึ้น แต่ผมรู้อย่างเดียวผมรู้จากภูมิปัญญาผม น้ำปัสสาวะไม่มีอันตราย น้ำปัสสาวะจะช่วยภูมิคุ้มกันเราได้มาก และ3น้ำปัสสาวะจะช่วยทำให้สิวงทำให้หน้าตาของเราที่เคนเหี่ยวมันดูดีขึ้น แอนนี้ผมพฤศจิกาฯ นี้ 64 เต็มแล้ว แอนดูหน้าผมแอนว่าไง

จินดารัตน์- ตึง เต่งตึง หน้าใส

สนธิ- ผมไม่ได้ใช้ครีม ไม่ได้ใช้อะไรเลย นี่แหละเพราะน้ำปัสสาวะเป็นแบบนี้ สุดท้ายรับประทานได้ไหม การรับน้ำปัสสาวะได้นี้คือการใช้ธรรมพิจารณา วันนี้แอนสวย ลองดูวันที่แอนตายเน่าผุพองรึเปล่า ผมเห็นคนโดนรถชน ผู้หญิงสวยผู้ชายหล่อ แต่เหตุการณ์ที่ผมเห็นนี้หน้าอกฉีก ตาบวม ความจริงอยู่ที่ไหน ความจริงไม่มี ความสวยความงาม ความหอม ความงามหวานคือเรื่องสมมติ ใช่ไหม เพราะฉะนั้นกลิ่นของน้ำปัสสาวะคือเรื่องสมมติเหมือนกัน นึกออกยัง

จินดารัตน์- แต่มันทำใจไม่ได้

สนธิ- ก็ตรงนี้แหละ คนที่ทำใจได้ก็จะข้ามตรงนี้จะเข้าใจธรรมมากขึ้น ลูกบางคนนี้รักแม่ แม่ขยับไม่ได้ แม่ขี้แม่เยี่ยวนี้ต้องไป เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวแม่ ทำไมมือตัวเองไปโดนขี้โดนเยี่ยวได้ละ เข้าใจยัง นี้คือน้ำปัสสาวะ ที่ผมปัสสาวะไว้วันกว่าละ แล้วผมก็ทิ้งไว้ในห้องน้ำเพื่อประการแรงนี้ให้ปัสสาวะที่เป็นกรดกลายเป็นด่าง ทิ้งเอาไว้ความเป็นด่างจะสูงขึ้น

จินดารัตน์- ทิ้งเอาไว้ความเป็นด่างจะสูงขึ้น เพราะร่างกายมีกรดมากไม่ดีใช่ไหม ต้องเป็นด่าง

สนธิ- ไม่ดี ต้องมีด่างเข้าไป แล้วสมมติว่าคนที่ไม่เคยทานนี้ ก็ไม่ต้องดื่มทันที ก็เอาน้ำอุ่นผสมเข้าไปถึงแค่นี้ ก็ให้เจือจางหน่อย แล้วก็ดื่มเข้าไป

จินดารัตน์- แช่เย็นได้ไหม

สนธิ- ได้ ใช้น้ำผสมเข้าไปดื่มก็ได้ เคล็ดลับคือกลั้นหายใจแล้วดื่ม พอดื่มจบแรกๆ อย่าเพิ่งกลืนน้ำลาย หายใจ เพราะมันจะได้กลิ่น ที่ตัวเองไม่ต้องการ ดื่มเสร็จก็ยังกลั้นหายใจอยู่ เอาน้ำอุ่นอีกซักถ้วยดื่มตาม แล้วกลั้วคอจนครบแก้ว แล้วกลืนน้ำลายหายใจ แล้วจะไม่มีกลิ่นเลย ผมไม่เห็นมันอยากตรงไหนเลย มันอยากตรงที่ว่า ขี้กับเยี่ยวคนชอบไปคิดถึงตรงนั้นเอง แค่นั้นเองหลายคนรักษาโรคตัวเองหายได้ก็เพราะตรงนี้ จริงๆ น้ำปัสสาวะไม่ได้เป็นน้ำอัศจรรย์ที่ใครเป็นโรคอะไรทานก็หายได้ แต่เป็นการเสริมภูมิต้านทานในร่างกายของเรา นี่คือหลังธรรมชาติบำบัดไง ทำให้ร่างกายแข็งแรงไม่เป็นโรคเป็นอะไรง่ายนัก

จินดารัตน์- แอนได้ยินอาจารย์ปานเทพ บอกว่าเป็นโรคไมเกรนแล้วหาย

สนธิ- อาจารย์ปานเทพหายหมดละ เพราะทานมานานมาก

จินดารัตน์- เวลาเป็นหวัด จะหายเร็วมาก หรือคะ

สนธิ- เป็นหวัดจะหายเร็ว คือธรรมดาการเป็นหวัดต้องรักษาด้วยระบบธรรมชาติบำบัดข้อแรกคือประการแรกต้องเข้าใจลักษณะไข้ คือปานเทพเล่าให้ฟังผมฟัง ผมเข้าใจดีเวลาลูกเป็นไข้นี้ แสดงว่าในร่างกายมีพิษ เขาถึงเรียกพิษไข้ไง ถ้าคุณไปทานยานี้ ยาบรรเทาการเป็นไข้นี้ ไปทำอะไรไปชะลอพิษ มันฆ่าพิษไม่ได้แค่ชะลอ แต่ในที่สุดแล้วตัวเองก็ยังเดินไปได้ ยังยิ้มยังหัวเราะได้ แต่ถ้าฤทธิ์ยาหมดละทานไปเรื่อยๆสรุปว่ากว่าไข้จะหายคุณต้องทานยาไปกี่ชุดแล้วก็เท่ากับจำนวนวันที่ยังไงไข้ก็ต้องหายอยู่แล้ว เข้าใจหรือยัง นึกออกไหม เพราะว่าไข้เนี่ย เนื่องจากมันเป็นพิษอยู่ในร่างกาย ถ้าผ่านไประยะ 5 วันแล้วเนี้ย 4-5 วันไปแล้ว แต่ถ้าคุณเป็นไข้หวัดใหญ่อาจจะ 5-6 วัน 7 วัน พิษเชื้อไวรัสมันจะตายไป แต่ถ้าหากสมมุติคุณไม่ทานยา คุณห่มผ้า คุณทานน้ำอุ่น คุณห่มผ้าแล้วให้เหงื่อออก ให้เต็มที่เลย ใส่เสื้อหนาวใส่เสื้อขนสัตว์ นอนอยู่ในห้อง ปิดแอร์แล้วห่มผ้า พิษไข้จะทำให้คุณง่วงนอน คุณก็หลับพร้อมตื่นมานี่ เหงื่อคุณเปียกไปหมดเลย เหงื่อที่ออกคือพิษไข้ที่ออกมา

จินดารัตน์ - ให้มันขับออกมาโดยธรรมชาติ

สนธิ- มันขับออกมาโดยธรรมชาติ ใช้ธรรมชาติขับ

จินดารัตน์ - เพราะจริงๆเขาบอกว่า เป็นไข้เป็นหวัดหายเองได้อยู่แล้ว

สนธิ- หายเองได้ ผมไม่ได้กิน 1.พาราเซตามอล ไม่ได้กินเป็นเวลา ผมคิดว่าต้องมีเกือบ 20 ปี เวลาผมปวดหัว สมมุติว่าผมปวดตรงนี้เนี้ย ผมจะเอามือนวดตรงนี้ครับ คือผมจะนั่งคนเดียวเงียบๆและผมสูดหายใจเข้าไปลึกๆเหมือนกับทำสมาธิ และผมจเอามือนี่นวด จิตผมเน้นไปที่มือผม นิ้วผม ตรงจุดที่ผมนวดความเจ็บ เข้าใจไหม พอนวดให้มันกระจายแล้ว ผมจะไล่ลงมาอย่างเนี้ย ให้มันออก ให้มันออกทางตา ปวดหัวทุกครั้งหายทุกครั้ง ไม่เคยทานยา หรือไม่ก็ไม่เคยคิดถึงความปวดมัน ปล่อยให้มันหายด้วยตัวของมันเอง เพราะฉะนั้นแล้ว ธรรมชาติบำบัดเป็นเรื่องที่สำคัญมาก คุณรู้ว่ามนุษย์เรา ทำไมภูมิต้านทาน วันนั้นผมเพิ่มได้คุยกับคุณยงยุทธ เจ้าของโรงงานน้ำตาลโคราช ซึ่งเป็นพันธมิตรสุดยอดเลย เอาเงินบริจาคเราทุกเดือน เยอะด้วย 7 หลักนะ เอามาให้ทีละกิโล น่ารักจริงๆและก็เป็นคน ซึ่งโอโห สุดยอด เป็นคนคุณงามความดีสูงมาก ไม่เฉพาะเขาให้เงินเรานะ ใจดี มีศิลมีธรรม ผมคุณกับคุณยงยุทธ คุณยงยุทธอายุเท่าผม 64 ปี แต่เขาเกิดก่อนเดือน เขาบอกว่า ผมคุยกับคุณยงยุทธ สมัยเราเด็กแม่ให้ไปซื้อเพนิซิลลิน แก้อักเสบ 100 มิลลิกรัม กินแค่วันเดียวหรือ 2 วันหาย เดี๋ยวนี้แอนตี้ไบติก ต้อง 500 มิลลิกรัม ต้องกิน 7 วัน 4 มื้อ

จินดารัตน์- วันละ 4 เวลา

สนธิ- เช้า กลางวัน เย็น

จินดารัตน์ - ก่อนนอน

สนธิ- ก่อนนอน วันละ 2 เม็ด ซื้อ 1 เม็ด เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน 4X7 28 เม็ด X500 มิลิกรัม เท่าไหร่ คำถามเดียวคือทำไมมันถึงดื้อด้าน เพราะ ข้อที่ 1 อาหารที่เรามีอยู่ทุกวันนี้ ทั้งหมู ทั้งเนื้อ ทั้งไก่ เนื้อสัตว์ทุกประเภทที่เขาเลี้ยงอยู่ อาหารเขาผสมด้วยยาแอนตี้ไบติก อย่างอ่อนๆ เพื่ออะไรรู้ไหม เพื่อเร่งให้เนื้อมันเยอะเพราะฉะนั้นแล้ว ลูกหลานเราหรือตัวเราที่กินหมู กินไก่ กินเนื้อ มาตั้งแต่เด็กแล้ว มันสะสมแอนตี้ไบโอติก เข้ามาในร่างกายตลอดเวลา เพราะฉะนั้นแล้วเวลาคุณเป็นหวัดกินแอนตี้ไบโอติก คุณต้องกิน 7 วันแล้วอยู่ไปเรื่อยๆอีกหน่อยคุณต้องกิน 10 วัน แล้วที่คุณกินทุกวัน เชื้อสารเคมีมันจะอยู่ในร่างกายเรา

จินดารัตน์ - สะสมอยู่

สนธิ- สะสมอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นถ้าคุณต้องการสุขภาพลูกที่ดี สุขภาพตัวคุณที่ดี ข้อแรก หันไปพิจารณาการทานอาหาร ต้องพิจารณาให้จริงๆจังๆ แล้วทานฉี่เป็นประจำ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้มาก

จินดารัตน์ - ดื่มได้ทุกวัน

สนธิ- ดื่มได้ทุกวัน ง่ายที่สุด ตื่นนอนฉี่ตอนเช้าแล้วดื่ม ใช้วิธีดื่มที่ผมบอก ดื่มจบและ วันละครั้ง วันละครั้ง ของผมนี่ไปฉี่ทิ้งไว้ที่ห้องน้ำ เอ้าดื่มตอนเช้าแล้ว เดี๋ยวพอแอน พอประเดี๋ยวผมกินข้าวเที่ยงเสร็จ ว่าจะทำงานต่อ เดี๋ยวผมก็เอาแหล่ะ อึก อึก อึก จบ

จินดารัตน์- อันนี้ดื่มเพียวๆเลยเหรอค่ะ

สนธิ- ได้ ผมดื่มเพียวได้ไม่เป็นไร ผมก้าวข้ามไปแล้ว ก้าวข้ามไปแล้ว

จินดารัตน์- มันยากที่สุดก็ตอนนั้นแหล่ะ

สนธิ - ยากที่สุด แต่ว่าในขณะเดียวกัน มันก็ง่ายที่สุด เหมือนคุณเนี่ย จะเลิกกับสามี หรือคุณจะเลิกกับเมีย หรือคุณจะเลิกกับแฟน ถ้าคุณตัดสินใจเด็ดขาด ปัง เธอนี่เลวมาก เหี้ยเรียกพี่ ฉันเลิกกับเธอแล้ว ไป แล้วเลิกกัน เดินออกไปเลยตัดใจทันที คุณทำได้ แต่ถ้าคุณมัวแต่อ้อยเอียง เอื่อยเฉื่อย แล้วคุณก็ผูกพันกันไปตลอด นึกออกไหม คุณเลิกไม่ได้

จินดารัตน์- มันไม่จบสักที

สนธิ- มันไม่จบสักที เข้าใจเปล่า เพราะฉะนั้น ขึ้นอยู่กับว่า ขึ้นอยู่กับการทำใจ นั้นคือข้อแรก อันที่ 2 สำคัญที่สุด จิตคุณต้องสงบเป็น สุขภาพชีวิตมนุษย์ คนไทยจากนี้ไป ความจริงเป็นอย่างนี้มานานแล้ว แต่ว่าผมจะให้เป็นระบบ ต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน กายภาพและจิตภาพ กายก็คือ หัดดื่มน้ำปัสสาวะ หัดทานอาหารให้เป็นประโยชน์ อาหารที่มีส่วนผสมของแอนตี้ไบโอติก เลิกทาน นะอันนู้นอันนี้เลิกทาน นี่คือกายภาพ ส่วนจิตภาพนั้นคือว่า สวดมนต์ไหว้พระ ปล่อยวางซะบ้าง คิดในใจว่า มันก็เป็นของมันอย่างนี่แหล่ะ เหมือนถ้ากายภาพเริ่มดี อายุยืนข้อที่ 1 อายุยืนยังไม่สำคัญเท่ากับว่า เราจะมีสันติสุขในจิตเรา ในขณะซึ่งทุกคนเป็นบ้า ไปล้างน้ำมนต์ เรานั่งเฉยๆ ไม่ต้องไปยิ้มเยาะครับ เราสงสารเขา ผมวันนั้นอ่านในเว็บไซต์ เรื่องน้ำท่วม ผมฟังคุณบรรหาร ศิลปอาชา พูดมันบอกว่าฝนตก นี่เป็นเรื่องฝนตก เรื่องฝนหยุดตก น้ำก็ลดลดไปเอง ปรากฎว่าคอมเม้นที่ออกมาในข่าวคุณบรรหาร 40 กว่าคอมเม้น ไม่เคยมีคอมเม้นไหนเลยที่ชมคุณบรรหาร ด่าคุณบรรหารอย่างเสียผู้เสียคนเลยนะ เสียผู้เสียคน แต่ผมมองคุณบรรหารแล้ว รู้สึกยังไงรู้ไหมผมสงสารเขา

จินดารัตน์- ทำไมคะ

สนธิ- ผมไม่ได้โกรธเขา และผมไม่อยากด่าเขา ผมสงสารที่เขาเกิดมาแล้วเป็นมนุษย์ และเขาช่างอับปัญญา ด้อยปัญญา จิตใจเขามีแต่ความโลภ และกิเลสอยู่ในใจ เรื่องอื่นเขาไม่มีเลย ผมเกิดความสงสารขึ้นมา ผมสงสารว่าเวลาเขาตายเขาจะทำอย่างไร ผมสงสารว่า วันที่ดวงวิญญาณหลุดพ้นจากร่างเขาแล้ว กลับไปแล้วเขาเห็นเขาจะทำอย่างไร อเล็กซานเดอร์ มหาราช ก่อนตายมีเรื่อง 3 เรื่องที่ขอ ให้ลูกน้องทำคุณรู้ไหมเรื่องอะไร นี่คงจะเป็นการพูดครั้งสุดท้ายแล้ว เดี๋ยวก็หมดเวลา อเล็กซานเดอร์บอกว่า เวลาฉันตายให้หมอที่รักษาฉัน แบกโลงฉัน ระหว่างฉันเดินไปให้เอาเงินทองที่ฉันได้มาตลอดเวลาโรยไปตามพื้น ตามฉันไปเรื่อยๆ และพอฉันตายให้เอามือฉันแบไว้อย่างนี้ ไอ้พวกนั้นงง บอกว่าถามหน่อยได้ไหมท่านมหาราช 3 อย่างนี้แปลว่าอะไร บอกว่าที่ให้หมอแบกให้หมอรู้ว่า ในโลกนี้ไม่มีหมอคนไหนที่จะรักษาความตายได้ นั้นคือหลักพุทธ ไม่มีใครหนีพ้นความตายได้ ยาก ดี มี จน อันที่ 2.เงินทองที่มาได้ไปแล้วอย่างไร ยังเอาไปไม่ได้ อันที่ 3.แบมือ ฉันมามือเปล่าฉันก็ไปมือเปล่า นี่คือหลักธรรม

จินดารัตน์- มันมีข้อรายละเอียดปลีกย่อยเยอะ ถ้าอย่างไรลองเอาหนังสือเล่มนี้ไปอ่านดู ยาพระพุทธเจ้าน้ำปัสสาวะเป็นยารักษาโรคของอาจารย์นิดดา หงษ์วิวัฒน์ คุณผู้ชมจะได้คำตอบ

สนธิ- ผมอยากให้พันธมิตรฯ ที่เป็นพันธมิตรฯ จริงๆ รวมตัวกันไว้เยอะๆ เราเน้นกันเรื่อง 1.ต่อสู้เพื่อความถูกต้องของบ้านเมือง เท่าที่เราจะทำได้ ถ้าทำไม่ได้เราปล่อยวาง ที่เราทำได้แน่นอนคือ การบำบัดโดยธรรมชาติ รักษาสุขภาพ ความจริงแล้วในเรื่องของสุขภาพ ถ้าเราทำให้ดีๆ มันคือการเมืองอันหนึ่ง ถูกไม่ถูก แอนรู้ใช่ไหมในกระเพาะเรามีกรดเพื่อย่อยอาหาร เวลาหมอเขาบอกว่า PH คือเครื่องวัดระดับกรด

จินดารัตน์- กรดด่าง

สนธิ- ในกระเพาะอาหาร PH 1 กรด มันหนึ่งมันต้องย่อยอาหาร และคุณรู้ไหมโคล่า PH เท่าไหร่

จินดารัตน์- เท่าไหร่คะ 2 หรอ

สนธิ- และคนไทย และคนทั่วโลกกินโคล่า กินเป๊ปซี่มากี่ปี เด็กๆ นี่ชอบเหลือเกิน คุณเอาเนื้อมาชิ้นหนึ่งประมาณสักครึ่งโล มาวางบนถาด และคุณเอาเป๊ปซี่หรือโคล่ามาราดทิ้งไว้สักวันหนึ่ง คุณจะเห็นว่า เนื้อเปื่อย

จินดารัตน์- แอนนึกถึงอาหารชนิดหนึ่ง ไก่ต้มโค้ก มันเปื่อยทั้งกระดูกเลย

สนธิ- นั้นแหละ ผมจะบอกให้รู้ คนนี่ไม่รู้ เรามีส่วนผสมเป็นกรดในร่างกายเราเยอะมาก กรดนี่เขาเรียกว่า ออกซิไดซ์ สเตชั่น เพราะฉะนั้นกรดอยู่ในร่างกายเราตลอด อาหารที่เรากินก็เป็นกรด น้ำมันที่เรากินก็เป็นกรด อาหารทอดก็เป็นกรด เราต้อง นี่คือหยาง เราต้องเอาหยินเข้าไปสร้างความสมดุล คือเราต้องกินน้ำด่างให้มากขึ้น

จินดารัตน์- เพื่อให้ค่าเป็นกรดในร่างกายเราลดลง เพราะว่าที่แอนเคยอ่านในหนังสือคุณสนธิ ค่าความเป็นกรดก่อให้เกิดโรคต่างๆ

สนธิ- ถูกต้อง เวลาคุณเป็นมะเร็ง PH กรดจะสูงมาก แต่ถ้าคุณลดกรดลงมา จนกระทั่งต่ำกว่า 6 ต่ำกว่า 5 แล้วมะเร็งจะหายไปโดยปริยาย

จินดารัตน์- โดยสภาพความเป็นด่างแล้วเอาอยู่

สนธิ- เพราะว่าภูมิคุ้มกันมันเกิดขึ้น มะเร็งมันอยู่ไม่ได้ มันสลายตัวไป เพราะฉะนั้นการทานน้ำสำคัญมาก น้ำด่าง

จินดารัตน์- มิน่าตอนที่เราไปล้างพิษกัน น้ำด่างจะมีบทบาทสำคัญมาก

สนธิ- สำคัญ และทุกบ้านต้องมีเครื่องทำน้ำด่าง

จินดารัตน์- เพราะตอนแอนไปครูผู้ช่วยที่โรงเรียนผู้นำ จะให้วัดค่าความเป็นกรดด่างก่อนจากน้ำลายเรา บางคน 5 พอไปถามแกเป็นหลายโรคเลยคุณสนธิ เป็นมะเร็งด้วย เป็นโรคนั้นโรคนี้ แต่อย่างคนปกติทั่วไปควรจะได้ 7.5 ใช่ไหมคะ

สนธิ- 7 ก็โอเค แต่ 7.5 ดีที่สุดเข้าใจยัง เพราะฉะนั้นแล้วน้ำที่เรากิน ถ้าเป็นไปได้กินน้ำด่าง กาแฟที่เราชงใช้น้ำด่างชง น้ำแกงที่เราทำกินที่บ้านใช้น้ำด่าง

จินดารัตน์- เขาบอกน้ำด่างรสชาติจะเฝื่อนไหม

สนธิ- ไม่มีเฝื่อนขึ้นอยู่กับ ถ้าคุณใช้ขี้เถ้าทำจะเฟื่อน แต่ถ้าคุณใช้ประจุไฟฟ้าทำจะไม่เฝื่อน และจะบอกให้ ASTV จะเอาเครื่องทำน้ำด่างมาขายพี่น้อง รายได้ทุกบาททุกสตางค์ที่ได้จากเครื่องทำน้ำด่าง จะเข้ามาช่วย ASTV หมด น้ำด่างมันมีประจุไฟฟ้าที่จะทำ ถูกที่สุดของเกาหลีขายอยู่ในประเทศไทยประมาณ 50,000 และเพลท 5 เพลท เพรททำน้ำด่างของเรามี 8 เพลท
จินดารัตน์- มากกว่าอีก

สนธิ- มากกว่า ทนมาก

จินดารัตน์- แพงกว่าไหมคะ

สนธิ - 35,000

จินดารัตน์- และอายุการใช้งานนานไหม

สนธิ- เขารับประกัน 5 ปี จริงๆ เหมือนกับแทนที่คุณจะไปซื้อเครื่องกรองน้ำแอมเวย์อะไรพวกนี้

จินดารัตน์- ซึ่งราคาพอๆ กัน

สนธิ- ราคาพอๆ กัน ซื้อเครื่องนี้ดีกว่า และทานน้ำด่างเหมือนกับบางคนเข้าใช้เครื่องทำน้ำเอ็มเร็ท อันนี้ดีกว่าน้ำเอ็มเร็ทดีกว่า คุณใช้น้ำด่างกินทุกวัน ใช้ชงกาแฟ ใช้ทำน้ำแกง ใช้ปรุงเสร็จไปตลอดเลย อ.สิทธิชัย โพคัยอุดม ท่านเอาเครื่องนี้ฉีกออกมา ตีแผ่ออกมาเลย ท่านบอกว่าคุณธิ เครื่องนี้มันดี สุดยอดเลย อ.สิทธิชัย สั่งคนเดียว 2 เครื่อง คุณยงยุทธที่อยู่โคราช ที่มาช่วยพันธมิตรฯ สั่ง 6 เครื่อง เจ๊ติ๋มอยู่ปราณบุรี พันธมิตรฯ ขอ 2 เครื่อง ผมที่บ้านมีอยู่เครื่องหนึ่ง ออฟฟิศมีอยู่เครื่องหนึ่ง

ผมคิดว่าตุลาคมนี้ก็เอามาขายได้ ที่สำคัญคือว่า เครื่องนี้ได้รับการพิสูจน์จาก อ.แก่นฟ้า ที่ทำปุ๋ยขวัญดิน ท่านบอกว่าเครื่องนี้ดีมาก อ.สิทธิชัย บอกว่าเครื่องนี้ดีมาก ASTV ก็เลยเอามาขายเอง ทุกบาททุกสตางค์เข้า ASTV หมด ได้เรื่องสุขภาพได้ทุกอย่างเลย

จินดารัตน์- คุณผู้ชมคะ เราพักกันก่อน ช่วงหน้ากลับมาสักครู่หนึ่ง เราจะลองมาสรุปดูว่าเราจะมีส่วนร่วมในรายการอย่างไร มีประเด็นคำถามอะไร คุณสนธิจะตอบมั้ย มีช่องทางการส่งคำถามอย่างไร พักกันก่อนสักครู่ค่ะ

ช่วงที่ 3

จินดารัตน์- กลับมาช่วงสุดท้าย คุยทุกเรื่องกับสนธิ อยากให้คุณสนธิทิ้งท้ายให้กับพ่อแม่พี่น้อง อยากจะพูดอะไร ความในใจบ้างมั้ยคะ

สนธิ- ผมคิดถึงพี่น้องพันธมิตรฯ ทุกคน หลายคนก็บอกว่าอยากได้ยินเสียง อยากเห็นหน้า จริงๆแล้ว ถึงไม่ได้ยินเสียงผม ไม่เห็นหน้าผม ใจผมนี่อยู่กับพันธมิตรฯหมดแล้ว ผมคิดว่า คุณค่าของพันธมิตรฯ คือ หลักการของศีลธรรม คุณงามความดี ผมว่าเวลาพี่น้องพันธมิตรฯ ทำคุณงามความดี แล้วก็มีศีลมีธรรม พี่น้องพันธมิตรฯ ก็ได้สัมผัสตัวผมแล้ว เพราะผมพยายามยืนอยู่ตรงนี้ สิ่งหนึ่งที่ผมพยายามทำคือว่า ผมพยายามที่จะสร้างชุมชนพันธมิตรฯ ให้ได้ เหมือนชุมชนอโศก ชุมชนพันธมิตรฯอาจจะไม่เข้มงวดหรือวินัยจัดเหมือนชุมชนอโศก แต่อย่างน้อยโดยหลักการหลักๆ ชุมชนพันธมิตรฯจะต้องมี และจะต้องอยู่ร่วมกันได้ ชุมชนคนดี ที่สำคัญเป็นชุมชนที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทุกอย่างที่ผมทำมาตั้งแต่ต้นจนกระทั่งวันนี้ 8 ปีที่ผ่านมา เมื่อผมมองย้อนหลัง ผมไม่ได้เสียใจ ผมไม่ได้ทำเพื่อตัวผมเองเลย ผมไม่ได้อะไรเลยแม้แต่นิดเดียว หลายอย่างที่ทำแม้กระทั่งการที่จะเอาน้ำ เครื่องทำน้ำด่างมาขาย ก็ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ทำเพื่อส่วนรวม เพราะเงินที่ได้มา กำไรที่ได้มาเข้า ASTV หมด ทุกเม็ดเลยนะ ทุกบาททุกสตางค์ ไม่ใช่ 10% กำไรตัวเอง ไม่มี กำไรเครื่องละ 7 พันเข้าไปเลย อันที่ 2 ผมคิดว่า ผมพยายามจะเน้นเรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธรรมชาติบำบัด ถ้าเราให้ชุมชนพันธมิตรฯ สุขภาพดีขึ้น ผมถือว่าเป็นความสำเร็จ อย่างน้อยที่สุดถ้าเรายังเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองไม่ได้ เรามาเปลี่ยนแปลงตัวเรากันเองในครอบครัวเรา ให้ลูกหลานเราสุขภาพดีขึ้น รู้ว่าอะไรควรทาน อะไรไม่ควรทาน จะใช้ชีวิตอย่างไร ปฏิบัติธรรมอย่างไร ปล่อยวางได้อย่างไร ครอบครัวเราเป็นอย่างนี้ หลายครอบครัวพันธมิตรฯ เป็นอย่างนี้ ในที่สุดชุมชนพันธมิตรฯก็จะเป็นอย่างนี้ ทุกชุมชน พอเป็นอย่างนี้ทั้งชุมชนแล้ว มันจะมีความโดดเด่นที่แยกออกจากประชาชนคนอื่นไป ซึ่งถ้าเขาอยากจะได้ปัญญามากขึ้น อยากจะมีศีลมีธรรมอยากจะได้ของดี ก็มาร่วมกับเรา ถ้าเขายังโลภยังมีอัตตาสูง ก็ปล่อยเขาไป ไม่ต้องสนใจ นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะฝาก

ส่วนรายการที่ทำผมคิดว่าผมจะคุยทุกเรื่อง คุยเรื่องการเมืองก็ได้ ถ้ามีประเด็นที่จะคุย คุยเรื่องการใช้ชีวิต ลูกก็ได้ คุยเรื่องการเรียน การแต่งตัว ในฐานะคนที่อายุ 64 ที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านความตายมาแล้ว คุยเรื่องจิตวิญญาณ ผีสางก็คุยได้ เรื่องพ่อแม่ครูอาจารย์ เท่าที่องค์ความรู้ ภูมิปัญญาใน 64 ปีที่สั่งสมมา สามารถที่จะทำได้ เพราะว่าห้องสมุดผมอยู่ที่นี่ ถ้าวันไหนผมตายไปห้องสมุดนี้หายไปแล้ว เพราะฉะนั้นในขณะที่ผมยังมีชีวิตอยู่ ผมจะพยายามทำห้องสมุดนี้ให้มีประโยชน์ แต่ผมอาจจะเล่าเรื่องเพลงให้ฟัง แบ่งปันกันไป ให้เด็กรุ่นใหม่พาลูกพาหล่นมานั่งฟัง คุณลุง คุณปู่ คุณอา คุณน้า ว่าฟังลุงสนธิเขาพูดซิ สมัยหนุ่มๆเขาเป็นอย่างไร แล้วเหตุการณ์มันเปลี่ยนไปอย่างไร ทำไมเป็นอย่างนี้ ผมพยายามพาคำตอบกับคำถามว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้ ให้กับพี่น้องทุกคนฟัง เข้าใจ และที่ก็เฉพาะชุมชนพันธมิตรฯ ที่ตัดสินใจมาทำเพราะว่า อยากจะให้ชุมชนพันธมิตรฯ ขยับขยายปริมณฑลของปัญญาให้มากกว่าเก่า

จินดารัตน์- ถ้าอย่างนั้นคุณผู้ชมที่ดูอยู่ทางบ้าน อยากจะมีส่วนร่วม มีอะไรคับข้องใจอยากจะหาคำตอบแต่ไม่รู้จะถามใครดี เขียนจดหมายมาได้นะคะ ที่รายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ บ้านเลขที่ 102/1 ถ.พระอาทิตย์ อาคารบ้านเจ้าพระยา แขวงชนะสงคราม พระนคร กรุงเทพฯ 10200 หรือ จะเป็นอีเมลตามด้านล่างจอนี้นะคะ

ถ้าอย่างไรส่งเรื่องราวมา ช่วงท้ายรายการของทุกสัปดาห์เราจะมาอ่านจดหมายกันให้คุณสนธิได้ตอบคำถามความคับข้องใจของคุณผู้ชมทางบ้านด้วย

สนธิ- แล้วจะมีการให้โทรศัพท์มาถามสดได้ในบางครั้ง

จินดารัตน์- เราอยากฟังความคิดเห็นของผู้ชมทางบ้านด้วย อยากฟังความรู้สึกด้วย หรือแม้แต่อยากจะมาบ่นก็บ่นกันได้ ไม่รู้จะบ่นกับใครก็บ่นกับเราได้ เพราะเราคนชุมชนเดียวกัน

วันนี้ขอบพระคุณคุณสนธินะคะ พบกันใหม่สัปดาห์หน้า ลาไปก่อนสวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น