รพ.นราฯ ประกาศขอรับบริจาคเลือดกรุ๊ปโอด่วน! เพื่อใช้รักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดรถไฟ

นราธิวาส - โรงบาลนราฯ ประกาศขอรับบริจาคเลือดด่วนโดยเฉพาะกรุ๊ปโอ เพื่อใช้รักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุความไม่สงบ หลังเกิดเหตุระเบิดรถไฟเจ็บ 35 ตาย 3 ขณะที่ชาวบ้านครวญเดือดร้อนหนัก ระบุรถไฟเส้นเลือดคนในพื้นที่

วันนี้ (19 พ.ย.) นายแพทย์วิรุฬห์ พรพัฒน์กุล ผอ.โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรณีเกิดเหตุระเบิดขบวนรถไฟสาย 453 ต้นทางนครศรีธรรมราช ปลายทางสุไหงโก-ลก เหตุเกิดที่บ้านสะโลว์บูเกะยือแร อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ทำให้มีผู้บาดเจ็บ จำนวน 35 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลนราฯ จึงขอชี้แจงให้เข้าใจว่า มีผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 2 คน คือ นายสุขสวัสดิ์ เรืองนาม และล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ขณะเข้าทำการรักษาที่ห้อง CCU โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ คือ อส.ประศาน ชาตรี อายุ 30 ปี ส่วน อส.ธนากร ขุนแก้ว เสียชีวิตที่เกิดเหตุ รวมผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย

ในส่วนของผู้บาดเจ็บนั้น ทางโรงพยาบาลได้ระดมแพทย์ และพยาบาลให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ทำให้ขณะนี้ทางโรงพยาบาลขาดเลือดอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะเลือกกรุ๊ปโอ จึงขอความร่วมมือจากประชาชน และผู้ที่มีจิตเมตตาร่วมบริจาคเลือดที่บริเวณชั้น 2 อาคารโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ โดยส่วนหนึ่งจะนำไปให้ความช่วยเหลือเหยื่อรถไฟอย่างเร่งด่วน อีกส่วนหนึ่งจะเก็บเพื่อสำรองใช้ กรณีที่อาจเกิดเหตุความไม่สงบ เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ หรือชาวบ้านกรณีได้รีบาดเจ็บจากสถานการณ์ต่อไป

ทางด้านนางมารีเยาะ เจ๊ะแย ชาวบ้านในพื้นที่เขตเทศบาลตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส กล่าวว่า ตนเป็นคนหนึ่งในหลายคนที่จะต้องใช้บริการรถไฟเป็นประจำเกือบทุกวัน เพราะจะต้องไปจังหวัดยะลา ส่วนหนึ่งคือ ส่งผลไม้ไปขาย และอีกส่วนหนึ่งคือ ซื้อของจากจังหวัดยะลาเพื่อนำสินค้ามาจำหน่ายในพื้นที่ หลังเกิดเหตุระเบิดรถไฟ ทำให้รถไฟต้องหยุดเดินทุกขบวน สร้างผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะคนยากจนที่ถือเป็นเส้นเลือดในการสัญจรไปมา จึงอยากวิงวอนผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลการเดินรถไฟ โดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคงให้มีมาตรการ รปภ.ขบวนรถไฟ และเส้นทางรถไฟให้เข้มงวดมากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน เพราะหากรถไฟต้องหยุดเดินบ่อยครั้ง ความเดือดร้อนจะเกิดขึ้นกับประชาชนอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง แม้ว่าในระยะสั้นจะแก้ปัญหาใช้รถยนต์ตู้ แต่ก็ไม่คุ้มเนื่องจากค่าใช้จ่ายสูง และไม่สะดวกหลายประการ

ขณะที่นางอรภรณ์ ชาตรี อายุ 26 ปี ภรรยา อส.ประศาน ชาตรี อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นเหยื่อระเบิดรถไฟรายล่าสุดเสียชีวิตที่ห้อง CCU โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจมากที่สุดที่ต้องสูญเสียสามี แต่อย่างไรก็ตาม ยังแอบภูมิใจที่สามีตายในหน้าที่ จากนี้ไปตนต้องทำหน้าที่แทน เป็นทั้งพ่อ และแม่ดูแลบุตรชาย คือ ด.ช.กรัณย์ อายุ 10 เดือน เพื่อให้เขาเติบโตอย่างมีคุณภาพ แม้ว่าฐานะตนจะยากจนเนื่องจากไม่มีงานทำ เพราะที่ผ่านมา สามีเป็นคนเลี้ยงดูครอบครัวเพียงผู้เดียว