xs
xsm
sm
md
lg

ยังไม่จบล้มระบอบทักษิณ ปชป.ต้องลาออกสู้ ยึดกระทรวง-ศาลากลาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-ประชาชนปฏิวัติรัฐบาล บุกยึดทุกกระทรวงในกรุงเทพฯ และศาลากลางจังหวัด แสดงสัญลักษณ์ไม่เอารัฐบาลนอมินี "ทักษิณ" ข้าราชการเห็นดีด้วย ร่วมเปิดทางสะดวก "ปู"จนมุม อ้อนวอนให้มาคุยกัน "สุเทพ"เมินเจรจา ลั่นปิดจ๊อบก่อนสิ้นเดือนนี้ "ประชา"ยันไม่ฝ่าม็อบจับ "เทือก" รอให้มอบตัวเอง "จิตตนาถ"เตือนอย่าดีใจกับชัยชนะวันนี้ เหตุยังไม่จบ แนะ ปชป. ลาออกสู้ สอดคล้องข้อเสนอ "ชูวิทย์" เหตุระบอบทักษิณฝังรากมานานกว่า 10 ปี

เวลา 09.00 น. วานนี้ (27พ.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมโค่นระบอบทักษิณ ซึ่งปักหลักอยู่ที่กระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงต่อผู้ชุมนุมถึงปฏิบัติการยึด 14 กระทรวง เพื่อเรียกร้องให้ข้าราชการมาร่วมต่อสู้กับมวลมหาประชาชน โดยนายสุเทพได้เคลื่อนขบวนเดินเท้านำผู้ชุมนุมไปที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และเหลือมวลชนส่วนหนึ่งไว้รักษาที่มั่น ที่กระทรวงการคลัง

ขณะที่นายสาธิต วงศ์หนองเตย หนึ่งในแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ประกาศที่เวทีราชดำเนินว่า จะแบ่งขบวนผู้ชุมนุมออกเป็น 3 ขบวน เพื่อเตรียมเดินทางไปยังกระทรวงต่างๆ รวม 6 แห่ง โดยขบวนแรก จะเดินทางตามเส้นทางถนนดินแดง ไปที่กระทรวงแรงงาน และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขบวนที่สอง จะเดินทางไปที่ ถนนพระราม 6 เพื่อไปที่กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และขบวนสุดท้าย จะเดินทางด้วยรถยนต์ โดยได้จัดเตรียมรถยยนต์กระบะราว 30 คัน เพื่อเดินทางไปยังกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงพาณิชย์ ก่อนที่ขบวนทั้งหมด จะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในช่วงค่ำ เพื่อรอฟังคำประกาศมติสำคัญในการต่อสู้ล้มระบอบทักษิณ ที่เวทีราชดำเนิน

โดยแต่ละขบวนมีการทำความเข้าใจร่วมกันแล้วว่า จะไม่บุกรุกเข้าไปในอาคารกระทรวงเป้าหมายเด็ดขาด เว้นแต่ว่าจะมีเจ้าหน้าที่พนักงานกรทะรวงนั้นๆ เปิดประตูให้เข้าไป โดยเป้าหมายหลักที่จะทำ คือ มอบดอกไม้และนกหวีดให้กับเจ้าหน้าที่เท่านั้น และจะถือว่าภารกิจบรรลุเป้าหมายแล้ว

ทั้งนี้ 14 กระทรวง ที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเดินทางไป ประกอบด้วย 1.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2.กระทรวงวัฒนธรรม 3.กระทรวงการต่างประเทศ 4.กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ 5.กระทรวงอุตสาหกรรม 6.กระทรวงแรงงาน 7.กระทรวงการพัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์ 8.กระทรวงไอซีที 9.กระทรวงยุติธรรม 10.กระทรวงศึกษาธิการ 11.กระทรวงพาณิชย์ 12.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ 13.กระทรวงสาธารณสุข และ14.กระทรวงพลังงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางไปที่กระทรวงต่างๆ เพื่อชี้แจงให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่เข้าใจว่า รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศแล้ว เนื่องจากกระทำการขัดรัฐธรรมนูญ จึงขอให้ข้าราชการหยุุดงาน และมาเข้าร่วมกับประชาชนในการล้มล้างระบอบทักษิณ แล้วปฏิรูปการเมืองใหม่ ให้เป็นการปกครองที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมบรรลุเป้าหมายแล้วต่างก็เดินทางกลับมาชุมนุมในที่ตั้งที่ราชดำเนินตามเดิม ยกเว้นที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ และกระทรวงพลังงาน ที่ผู้ชุมนุมจากกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ได้ยึดพื้นที่โดยรอบในการปักหลักพักค้าง

***"สุเทพ"นำผู้ชุมนุมบุกพักแรมศูนย์ราชการ

นายสุเทพ กล่าวก่อนเดินทางไปศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะว่า การเดินสายไปยังกระทรวงต่างๆ เพื่อขอร้องให้ข้าราชการมาร่วมกับประชาชน ในการต่อสู้ และเลิกรับใช้ระบอบทักษิณ ส่วนการไปศูนย์ราชการ เพราะสถานที่ดังกล่าว มีข้าราชการครบทุกหน่วยงาน ทั้งทหาร ตำรวจ และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษด้วย

จากนั้นได้เริ่มการเดินทางมุ่งหน้าสู่ศูนย์ราชการโดยเดินทางถึงในช่วงบ่าย ซึ่งระหว่างทางได้มีประชาชน พนักงานบริษัท ได้ให้กำลังใจ ทั้งโบกมือและเป่านกหวีดจำนวนมาก และพบว่า มีกลุ่มมวลชนที่เดินทางมาล่วงหน้าอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ หน่วยงานในศูนย์ราชการและดีเอสไอ ได้อนุญาติให้เจ้าหน้าที่และข้าราชการเดินทางกลับบ้านได้ โดยนายสุเทพระบุว่า จะพักค้างคืนที่นี่ และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกจากอาคาร ถ้ายังอยู่แสดงว่ารับใช้ระบอบทักษิณ พร้อมทั้งยืนยันว่าจะไม่มีการทำลายทรัพย์สินของราชการเด็ดขาด

***ดาวกระจายไปยังกระทรวงต่างๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ได้มีการตกลงการนำกลุ่มผู้ชุมนุมไปยังกระทรวงต่างๆ หัวหน้าสายแต่ละสายก็เริ่มดำเนินการตามที่ได้ตกลงกันไว้ โดยนายอิสระ สมชัย อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางเข้าร่วมสมทบผู้ชุมนุมที่บริเวณกระทรวงแรงงาน และขอพบ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน แต่เจ้าตัวไม่อยู่ และขอพบข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งสุดท้ายก็มีมาพบและยืนยันว่า ข้าราชการทุกคนเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้น นายอิสระ ได้ประกาศยอมออกจากพื้นที่ และได้มุ่งไปที่กระทรวงการพัฒนาสังคมเเละความมั่นคงของมุษย์

ขณะที่ น.ส.จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้นำขบวนไปยังกระทรวงวัฒนธรรม โดยมีอธิบดีกรมการศาสนา มาเป็นตัวแทนรับมอบพวงมาลัย และนกหวีด

ที่กระทรวงพาณิชย์ มีกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางไปอยู่ที่ด้านประตูทางเข้ากระทรวง และเรียกร้องให้ข้าราชการเลิกรับใช้ระบอบทักษิณ และตะโกนไล่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ให้ออกไป จนสุดท้ายได้มีคำสั่งให้ข้าราชการหยุดงานและกลับบ้าน จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางไปยังกระทรวงสาธารณสุข โดยมีข้าราชการ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ออกมาให้กำลังใจจำนวนมาก

ที่กระทรวงอุตสาหกรรม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นำมวลชนเดินทางมาถึงกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อขอให้ข้าราชการทุกคนได้ร่วมเดินทางต่อต้านระบบทักษิณ และอยากให้ข้าราชการทุกคนยืนอยู่ข้างประชาชน ส่วนนายพุธิพงษ์ ปุณณกันฑ์ ได้นำมวลชนไปยังกระทรวงอุตสาหกรรม และขอความร่วมมือให้ข้าราชการหยุดงาน 1 วัน และเมื่อมีการประกาศให้หยุดงาน ก็ได้เดินทางต่อไปยังกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ

ที่อาคารเอ็นเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ (เอ็นโก้) ที่ตั้งกระทรวงพลังงาน และอาคารสำนักงานบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กลุ่มผู้ชุมนุมกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ กปท. นำโดยพล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ ได้เดินทางด้วยรถบรรทุกเเละรถกระบะ รถตู้บรรทุกผู้ชุมนุมจำนวนหลายสิบคันเดินทางมาปิดประตูทางเข้าออก และล่าสุดได้มีการตัดน้ำ ตัดไฟแล้ว

***ต่างจังหวัดบุกศาลากลาง

ทางด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลและโค่นล้มระบอบทักษิณ ตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ได้ออกมาเคลื่อนไหวกันอย่าวคึกคัก ทั้งการเป่านกหวีด ชูธงชาติ และได้เดินทางไปยังศาลากลางของจังหวัด เพื่อเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการและข้าราชการอยู่เคียงข้างประชาชน

โดยที่ จ.ขอนแก่น ชาวขอนแก่นได้รวมตัวหน้าศาลากลางจังหวัด ต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์ คณาจารย์ เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่จ.สุรินทร์ กลุ่มมวลชน ได้รวมตัวหน้าประตูใหญ่ทางเข้าศาลากลางจังหวัด แต่ไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ เนื่องจากทางจังหวัดสั่งปิดประตู ที่จ.พิจิตร กลุ่มมวลชนเกือบ 3 พันคน ได้รวมตัวที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อเชิญชวนให้ข้าราชการออกมาร่วมกับประชาชน

ที่ จ.พิษณุโลก ประชาชนได้มารวมตัวกันที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก และตั้งเวทีปราศรัยเพื่อต่อต้านรัฐบาล ที่ จ.อุตรดิตถ์ ได้มีการชุมนุมกันที่สนามริมทางรถไฟถนนสุขเกษม ตรงข้ามสนามกีฬาพิชัยดาบหัก ต.ท่าอิฐ อ.เมืองอุตรดิตถ์
ที่ จ.กำแพงเพชร กลุ่มมวลชน นับ 1,000 คน เดินทางไปอ่านแถลงการณ์ที่ศูนย์ราชการมีใจความว่าระบอบทักษิณสร้างความเสียหายให้กับประเทศ ขอให้ข้าราชการยืนข้างประชาชน ที่จ.อ่างทอง กลุ่มพลังมวลชน พ่อค้าประชาชน แพทย์ พยาบาล ชาวจังหวัดอ่างทอง ได้รวมตัวกันกว่า 300 คน ที่จ.ชลบุรี กลุ่มเสรีชนและมวลชนชาวชลบุรีกว่า 1,000 คนได้เดินทางมาโดยนำธงชาติมาสะบัดและเป่านกหวีดเพื่อแสดงจุดยืนร่วมกัน เพื่อต้องการให้ข้าราชการ และศูนย์ราชการบนศาลากลางชลบุรีไม่ต้องรับใช้รัฐบาล และระบอบทักษิณ

ที่จ.นครศรีธรรมราช ประชาชนหลายพันคน ทั้งข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา พนักงานรัฐวิสาหกิจ ได้ทยอยมารวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัด ร่วมกันทำกิจกรรมในเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัด ได้แจ้งว่า ได้ปิดศาลากลางจังหวัดเป็นเวลา 3 วัน ที่จ.สตูล มีกลุ่มมวลชนมารวมตัวกันอยู่ด้านนอกศาลากลางจังหวัด ที่ จ.ชุมพร กลุ่มประชาชนและกลุ่มนักเรียน นักศึกษาในพื้นที่ต่างๆ กว่า 5,000 คน ได้มารวมตัวกันที่หน้าศูนย์ราชการ บริเวณหน้าประตูทางเข้าศาลากลางจังหวัด เพื่อเรียกร้องให้ข้าราชการทั้งหมดหยุดปฏิบัติหน้าที่รับใช้ระบอบทักษิณ และรัฐบาลโจร

ที่ จ.พัทลุง กลุ่มมวลชนจำนวนมากได้มาชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาลและต่อต้านระบอบทักษิณที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด ที่ จ.กระบี่ กลุ่มประชาชนได้เดินทางมาจนเต็มลานหน้าศาลากลางจังหวัด พร้อมทั้งมีการกางเต็นท์ โดยระบุว่า จะปักหลักค้างคืนที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ 3 คืนเพื่อไม่ให้ข้าราชการทำงาน และทางผู้ชุมนุมจะไม่เข้าไปภายในศาลากลาง จะอยู่เฉพาะด้านนอกเท่านั้น

ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กลุ่มมวลชนในพื้นที่อำเภอต่างๆ ได้เดินทางมารวมตัวปักหลักชุมนุมอยู่ที่บริเวณหน้าศาลากลาง ที่จ.ภูเก็ต กลุ่มมวลชนได้มารวมตัวบริเวณศาลากลาง เพื่อเรียกร้องให้ข้าราชการ เดินทางกลับบ้าน ที่จ.สงขลา มีประชาชน นักเรียน นักศึกษา เดินทางเข้าร่วมชุมนุมภายในศาลกลางจังหวัดสงขลาหลายพันคน เพื่อแสดงพลังของชาวสงขลาขับไล่รัฐบาลและระบอบทักษิณ จนกว่าจะได้รับชัยชนะ ที่จ.ตรัง มีกลุ่มพลังมวลชนประมาณ 1,000 คน มารวมตัวชุมนุมโจมตีการทำงานของรัฐบาลที่หน้าศาลากลางจังหวัด ที่จ.ปัตตานี และจ.นราธิวาส ก็มีกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางไปเช่นเดียวกัน

***สรส.มีมติให้หยุดงานชุมนุมต้านรัฐบาล

มีรายงานข่าวแจ้งว่า สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) มีมติให้สมาชิก 45 สหภาพหยุดงานวันที่ 28-29 พ.ย.2556 เพื่อเข้าร่วมการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลทั่วประเทศ

***"ปู"ออกลูกอ้อนขอให้มานั่งคุยกัน

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่มต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ประกาศบุกยึด 14 กระทรวง ทั้งที่รัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ว่า วัตถุประสงค์ของการประกาศขยายพื้นที่พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถทำงานได้ และเพื่อปกป้องสถานที่ราชการ ข้าราชการ และสาธารณูประโภคต่างๆ ไม่ใช่ต้องการที่จะนำมาทำร้ายประชาชน เราอยากใช้วิธีการที่สันติ และขอยืนยันว่ารัฐบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ใช้ความรุนแรงกับพี่น้องประชาชน

"ขอความกรุณาผู้ชุมนุมว่า การปิดสถานที่ราชการจะมีผลกระทบและมีความเสียหายในส่วนรวม การที่ผู้ชุมนุมมีความเห็นต่างหรือไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล เราน่าจะมานั่งคุยกัน เพราะข้อเรียกร้องต่างๆ ผู้ชุมนุมต้องจบด้วยการพูดคุยกันในเรื่องข้อกฎหมาย ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้เปิดเวทีไว้สำหรับพูดคุย เพราะมิฉะนั้นแล้ว ข้อเสนอของผู้ชุมนุมไม่สามารถที่จะนำไปถึงผลที่จะเป็นไปในทางปฏิบัติได้ โดยเฉพาะสภาประชาชนจะเกิดขึ้นได้ ต้องมีเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ และต้องมาพูดคุยกันในข้อกฎหมาย และต้องทำงานกับรัฐบาลอยู่ดี"

***ทำแบ้วไม่เข้าใจระบอบทักษิณคืออะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า เข้าใจข้อเรียกร้องที่ว่าจะล้มระบอบทักษิณหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่เข้าใจค่ะ ต้องเรียนว่าระบอบทักษิณไม่เคยมี มีแต่ระบอบประชาธิปไตย ไม่พอใจอย่างไรเรามาคุยกันเถอะค่ะ

เมื่อถามว่า ขณะนี้เสียงของผู้ชุมนุมได้ไปเกินว่าที่จะเจรจาแล้ว นายกฯ คิดว่าจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคไปได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราต้องอยู่บนหลักสันติ เราอย่าถือว่าการฝ่าฟัน ล้ำเส้นนี้ จะมีใครชนะ ใครแพ้ วันนี้จะไม่มีใครแพ้ใครชนะ จะมีเพียงแต่ประเทศเจ็บปวด ประชาชนคนไทยเจ็บปวด วันนี้รัฐบาลไม่มิทิฐิใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนกรณีที่นายสุเทพประกาศจะไม่คุยกับรัฐบาล ต้องขอความเห็นใจ อย่างน้อยต้องมีกติกาในการทำงานร่วมกัน ไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่น ที่หลายๆ ประเทศเริ่มส่งสัญญาณเตือนมาแล้ว

**สั่งหน่วยราชการรับมือกรณีฉุกเฉิน

ต่อมาเวลา 10.45 น. ที่ชั้น 3 อาคารรัฐสภา 3 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงทุกกระทรวง เพื่อซักซ้อมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์การชุมนุม รวมทั้งการบุกรุกสถานที่ราชการ โดยมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.อ.นิพัทธิ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม และหัวหน้าส่วนราชการร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยนายกฯ ขอให้ทุกส่วนราชการรับมือสถานการณ์ด้วยความอดทนอดกลั้น ยึดหลักสันติวิธี และเตรียมพร้อมป้องกันสถานที่ราชการไม่ให้ได้รับความเสียหาย หรือถูกบุกรุก ซึ่งพบว่า ส่วนราชการสามารถรับมือสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี มีการสำรองข้อมูล และได้ซักซ้อมแนวทางการทำงานเพื่อให้ทุกหน่วยงานสามารถปฏิบัติราชการต่อไปได้

** เปิดสายด่วน 1111 ติดต่อราชการ

นายพงศ์เทพ แถลงภายหลังการประชุมหัวหน้าส่วนราชการว่า รัฐบาลได้อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ต้องการติดต่อราชการ ขอให้ติดต่อที่หมายเลย 1111 เพื่อแจ้งว่าติดต่อราชการกระทรวงใดแล้วเกิดปัญหา และจะอำนวยความสะดวกต่อไป

ทั้งนี้ ประเมินว่า ผลจากการชุมนุม ทำให้กระทบต่อการท่องเที่ยวในช่วงเดือนธ.ค.2556 ลดลงร้อยละ 8-10 เสียรายได้ 1.6 หมื่นล้าน และหากยังมีการชุมนุมอยู่ จะกระทบท่องเที่ยวเดือนม.ค.- ก.พ.ปีหน้า ซึ่งจะทำให้เสียรายได้อีกหลายหมื่นล้านบาท และพบว่า กระทรวงการคลังเป็นกระทรวงที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด

** ยังไม่ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ-ไม่บุกจับ"เทือก"

พล.ต.อ.ประชา กล่าวถึงเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้ชุมนุมภาคใต้หลายจังหวัด ได้เข้าไปปิดล้อมศาลากลางจังหวัดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายอะไรเพิ่มเติม และผู้ว่าราชการจังหวัด ยืนยันว่า ยังสามารถที่จะพูดคุยทำความเข้าใจและควบคุมได้ ยังไม่มีการทำลายทรัพย์สินทางราชการ โดยรวมสถานการณ์ยังไม่ถือว่ารุนแรงมากนัก จึงยังไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายอะไรเพิ่มเติม และยืนยันว่า จะไม่มีการบุกเข้าไปจับนายสุเทพ แต่จะรอจนกว่าได้รับเกียรติจากนายสุเทพ มามอบตัวเอง

** ลั่นห้ามยึดทำเนียบฯ-รัฐสภา

ผู้สื่อข่าวถามถึงการจัดเตรียมสถานที่สำรอง หากกลุ่มผู้ชุมนุมบุกทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภา จะต้องทำงานได้ เราจะไม่ยอมให้กลุ่มผู้ชุมนุมมาบุกยึด และขอความกรุณาอย่ามาเลย สาธุ อย่ามาเลย ทั้งนี้ ยังได้มีการหารือกับทางกองทัพ เพื่อขอกำลังทหารมาช่วยดูแลในบางจุด เช่น สนามบินดอนเมือง แต่สนามบินสุวรรณภูมิ จะใช้กำลังตำรวจภูธรไปดูแล

***มท.1 จวกม็อบมีเป้าหมายให้รัฐล้มเหลว

ที่รัฐสภา นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย แถลงถึงกรณีที่มีประชาชนชุมนุมอยู่ตามศาลากลางจังหวัดต่างๆ ว่า เขามีความพยายามจะทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลนี้เป็นรัฐที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ หรือรัฐที่ล้มเหลว จึงมุ่งหน้าที่จะแสดงสัญลักษณ์ไม่ให้ทุกกระทรวง หน่วยงานและรัฐวิสาหกิจทั้งหมดสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่รัฐบาลยืนยันว่าไม่มีนโยบายที่จะเข่นฆ่าประชาชน หรือทำให้เกิดการสูญเสีย

ส่วนที่เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์นัดหยุดงานวันที่ 28-29 พ.ย.นั้น คงจะส่งผลกระทบหากมีการหยุดงานจริง แต่กฎหมายรัฐวิสาหกิจมีชัดเจน หากจะสไตรท์หรือหยุดงาน แต่งานจะต้องเดินได้ เพราะหากงานเดินไม่ได้จะเป็นผลกระทบอย่างร้ายแรง ซึ่งตนยังเชื่อว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น

**ปึ้ง"อ้างต่างชาติไม่ยอมรับม็อบ

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงการแจ้งเตือนของประเทศต่างๆ ต่อสถานการณ์ความวุ่นวายในประเทศไทย ว่า มีประเทศใหญ่ๆ เช่น สหรัฐฯ สหภาพยุโรป (อียู) อังกฤษ จีน และออสเตรเลีย ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณ ที่มีนายสุเทพ เป็นแกนนำ และมีการยึดสถานที่ราชการ ถือเป็นการละเมิดสิทธิของผู้อื่นภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ไม่ควรใช้พฤติกรรมเช่นนี้ ซึ่งรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาจากการเลือกตั้งของประชาชนภายใต้ระบอบประชาธิไตย สังคมโลกให้การยอมรับ เท่าที่ได้รับทราบจากการเชิญทูตจากที่ต่างๆ มาชี้แจง ทูตแต่ละคนได้นำข้อความของตนไปชี้แจงในประเทศที่ประจำการรับทราบแล้ว และประเทศเหล่านี้ยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้น พฤติกรรมต่างๆ ของกลุ่มผู้ชุมนุม เป็นการล่วงละเมิดสิทธินอกเหนือจากความเป็นประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นจึงอยากให้นายสุเทพ กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาประท้วงควรยุติได้แล้ว นายสุเทพไม่ควรที่จะแช่งตัวเองให้ตายทุกวัน เดี๋ยวได้ตายซะจริงๆ

**ทบ.ยันจุดยืนทำเพื่อชาติบ้านเมือง

พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงท่าทีของกองทัพบกต่อสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ยังคงยืนยันที่จะทำเพื่อชาติบ้านเมือง และดูแลประชาชนทุกฝ่ายโดยไม่แบ่งแยก พร้อมทั้งห่วงใยในสถานการณ์ เพราะไม่อยากให้เกิดการแตกแยกความสามัคคี และเป็นห่วงความปลอดภัยของประชาชน ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง ไม่ว่าจะโดยฝ่ายเจ้าหน้าที่ หรือฝ่ายผู้ชุมนุมเอง โดยขอให้ทุกฝ่ายนึกถึงผลประโยชน์ของชาติ

"ตอนนี้ทหารทำงานในหน้าที่มากมายที่เป็นงานหนักมากอยู่แล้ว ด้วยความอดทน เสียสละ ทั้งภารกิจการดูแลชายแดน และการแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ สำหรับเรื่องการเมือง กองทัพบกเพียงติดตามสถานการณ์ และพยายามวางบทบาทให้เกิดประโยชน์ต่อบ้านเมืองมากที่สุด" พ.อ.วินธัย กล่าว

** ศอ.รส.ขอหมายจับ 6 แกนนำ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) กล่าวว่า เตรียมขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย, นายสำราญ รอดเพชร, น.ส.อัญชลี ไพรีรัก กรณีปิดล้อมกระทรวงมหาดไทย ข้อหาปลุกปั่นให้ประชาชนละเมิดกฎหมายแผ่นดิน พร้อมเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว น.ส.อัญชลี และนายสำราญ คดีบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ปี 2551, นายนิติธร ล้ำเหลือ, นายอุทัย ยอดมณี และนายรชตชยุต ศรีโยธินศักดิ์ กรณีบุกยึดกระทรวงการต่างประเทศ ในข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป บุกรุกและทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ขณะที่ความผิดในลักษณะเดียวกัน เช่น บุกยึดกรมประชาสัมพันธ์ ศาลากลางจังหวัดต่างๆ ให้ดำเนินการขอหมายจับในลักษณะเดียวกัน

**ศาลนัดไต่สวนวันจันทร์หน้า

วันเดียวกัน ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ท.เทพพิทักษ์ แสงกล้า พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้นำหลักฐานมายื่นคำร้องขออนุมัติออกหมายจับ นายนิติธร ล้ำเหลือ นายอุทัย ยอดมณี, นายรัชตชยุต ศรีโยธินศักดิ์ และ นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. ในข้อหาร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายในเวลากลางคืนและมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป และทำให้เสียทรัพย์ ตามประมวลกฎหมาย มาตรา 215 และ 216 กรณีบุกรุกกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ประตูเลื่อนไฟฟ้าเสียหาย 4 บานเสียหาย

ต่อมาน.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจากนายนิติธร ล้ำเหลือ ได้เดินทางมายื่นคัดค้านการขอหมายจับ

ภายหลังศาลพิจารณาคำร้องของพนักงานสอบสวนและคำร้องคัดค้านของทนายความแล้ว จึงมีคำสั่งให้นัดไต่สวนหมายจับดังกล่าว ในวันจันทร์หน้า (2 ธ.ค.) เวลา 13.00 น.

***ทนาย"สุเทพ"ร้องศาลเพิกถอนหมายจับ

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายเจษฎา อนุจารี ทนายความ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้เดินทางมายื่นคำร้องขอให้ศาลอาญาพิจารณาเพิกถอนคำสั่งอนุมัติหมายจับ นายสุเทพ ที่ออกเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา รวม 2 ข้อหา คือ มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป และบุกรุกเข้าไปในอาคารสถานที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และ 365 กรณีที่นำมวลชนบุกปิดล้อมกระทรวงการคลัง โดยศาลพิจารณาแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้องขอให้เพิกถอนหมายจับ เนื่องจากเห็นว่า ศาลออกหมายจับโดยชอบแล้ว จึงไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม

นายเจษฎา กล่าวว่า จะยื่นอุทธรณ์คำสั่งออกหมายจับต่อไป คาดว่าจะสามารถยื่นคำร้องได้ในวันนี้ (28พ.ย.)

***"เทือก"ลั่นปิดบัญชีก่อนสิ้นเดือน

ที่ศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร ถนนแจ้งวัฒนะ นายสุเทพ ได้ให้สัมภาษณ์ในช่วงค่ำว่า การดำเนินการคราวนี้มีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องขจัดระบอบทักษิณให้หมดจากประเทศไทย แต่วันนี้ที่ระบอบทักษิณอยู่ได้เพราะสื่อมวลชนละเลยที่จะสื่อความจริง เลือกชื่อเสียง ลาภยศ ผลประโยชน์ของบริษัท ส่วนตอนนี้ข้าราชการทั้งหลาย ซึ่งก็เห็นอยู่แล้วว่า ประชาชนกล้าหาญมาก ลุกขึ้นมาแสดงตัวต่อต้านระบอบทักษิณ ข้าราชการควรสำนึกได้แล้ว

"วันนี้มีมวลชนหลายจังหวัดเข้าไปคุมพื้นที่ศาลากลางจังหวัด นอกจากพื้นที่ใต้แล้วยังมีอีสาน เหนือ ภาคกลาง เช่น จ.อุดรธานี ขอนแก่น พิษณุโลก แต่จะเห็นว่าประชาชนทั้งประเทศลุกขึ้นปฏิเสธรัฐบาล เพราะเป็นรัฐบาลที่เป็นโมฆะ ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ กฎหมายรัฐธรรมนูญสูงสุดของประเทศ ไม่เคารพกฎหมายอื่นก็ไร้ความหมาย เพราะฉะนั้นเราก็ปฏิบัติการต่อไป เพื่อให้ ฝ่ายราชการมาอยู่ข้างประชาชน"

เมื่อถามว่าตั้งเป้าจะสำเร็จเมื่อไร นายสุเทพ กล่าวว่า ตั้งใจว่าจะก่อนวันที่ 30 พ.ย.นี้ แต่วันนี้ก็ถือเป็นชัยชนะ ตนอยากให้เสร็จเร็ว เพราะตนไม่มีอาชีพทำม็อบ ก็อยากให้เสร็จเร็วที่สุด และเมื่อตนชนะ ก็จะไปมอบตัวในฐานะผู้ต้องหา ไม่คิดถึงทางลง ถ้าลงไม่ได้ ก็ตายในสนามรบ ตอนนี้รัฐบาลเริ่มง่อยขึ้นทุกวัน มีคนมาเจรจาเยอะ แต่ตนไม่บอก ไม่เจรจา ไม่ชอบนายกฯ คนนี้

***โรงเรียนเปิดตามปกติตั้งแต่วันนี้

นายชาญณรงค์ แก้วเล็ก ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบวรนิเวศ กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับผู้อำนวยการโรงเรียนที่อยู่ใกล้บริเวณพื้นที่ชุมนุม ได้แก่ โรงเรียนมัธยมวัดมกุฏกษัตริย์ โรงเรียนสตรีวิทยา โรงเรียนเบญจมราชาลัย โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร โรงเรียนวัดสังเวช เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองว่า ที่ประชุมเห็นร่วมกันว่าโรงเรียนทุกแห่งจะเปิดการเรียนการสอนตามปกติ ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.เป็นต้นไป เนื่องจากประเมินสถานการณ์แล้วไม่น่าจะส่งผลกระทบหรือความปลอดภัยในการเดินทางมาเรียนของนักเรียน ขณะเดียวกัน ที่ประชุมเห็นร่วมกันกำหนดมาตรการรองรับ คือ ทุกโรงเรียนจะร่นเวลาเรียนจากคาบเรียนละ 50 นาที เหลือ 40 นาที ซึ่งจะส่งผลให้นักเรียนเลิกเรียนเร็วขึ้นกว่าปกติ โดยจะเลิกเรียนในเวลาประมาณ 13.50 น. เพื่อจะได้เดินทางกลับบ้านโดยเร็วและลดความกังวลของผู้ปกครอง

นางแสงระวี วาจาวุทธ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชวินิต ประถม กล่าวว่า ในส่วนของ ร.ร.ราชวินิต ประถม ยังคงปิดการเรียนการสอนต่อเนื่องไปตั้งแต่วันที่ 28-29 พ.ย.เพราะอยากให้มั่นใจในสถานการณ์มากกว่านี้ เนื่องจากนักเรียนของโรงเรียนเป็นเด็กเล็กการดูแลตัวเองยังทำได้ไม่ดีเท่าเด็กโตระดับมัธยมศึกษา

ขณะที่มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ ประกาศหยุดวันที่ 28 พ.ย. อีก 1 วัน

***"เหลิม"โวไม่เกิน10วันจับ"สุเทพ"เข้าคุก

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการที่ นายสุเทพ นำมวลชนบุกยึดกระทรวงการคลัง และประกาศจะยึดประเทศ ทั้งๆ ที่มีกลไกฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร คอยควบคุมประเทศ จึงขอเรียกร้องให้ประชาชนที่ร่วมชุมนุมกลับบ้าน เพราะทำผิดกฎหมาย ฐานบุกรุกสถานที่ราชการ และเชื่อว่าการกระทำของนายสุเทพ มีเป้าหมายต้องการยึดอำนาจรัฐ ไม่ใช่การเรียกร้องประชาธิปไตย และมั่นใจว่าการชุมนุมจะไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล

ทั้งนี้ มั่นใจว่า ภายใน 10 วัน จะสามารถจับกุมตัวนายสุเทพได้ ถ้าเจอตัวที่ไหน สามารถจับได้ทันที และพรรคประชาธิปัตย์ก็จะฉิบหาย

**“นิพิฏฐ์”ยันบุกศาลากลางไม่ผิด

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่กลุ่มผู้ชุมนุมในจังหวัดต่างๆ บุกยึดศาลากลางจังหวัดว่า การที่มวลชนบุกเข้าไป ไม่ถือมีความผิด เพราะสถานที่ราชการประชาชนมีสิทธิ์เข้าไปภายในได้ในเวลาราชการ และการที่รัฐบาลไม่ตอบโต้ คงคิดว่ามวลชนจะล่าถอยเอง แต่ผู้ชุมนุมอย่าเพิ่งตายใจ อย่าคิดว่าชนะ เพราะฝ่ายรัฐบาลยอมให้เข้าสถานที่ราชการ และหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวเท่านั้น แต่ผู้ชุมนุมต้องสู้ต่อไป จนกว่าโค่นล้มระบอบทักษิณได้ ซึ่งต้องพยายามทำให้ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ หยุดทำงานและหันมาร่วมชุมนุมกับมวลชน เช่นนี้รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ เพราะการต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ของคนชั้นกลาง

***"ชูวิทย์"เผยระบอบทักษิณฝังรากมากว่า10ปี

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย แถลงถึงวิธีหาทางออกให้กับประเทศว่า วันนี้ระบอบทักษิณ เปรียบเสมือนผี มีทั้งคนกลัว และคนเกลียด ซึ่งฝังรากลึกในสังคมและการเมืองไทย เป็นเวลามากกว่า 10 ปีแล้ว อีกทั้งตนยังมองว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะช่วยอะไรได้ รวมทั้งการประกาศล้มระบอบทักษิณของนายสุเทพว่าจะล้มระบอบทักษิณ ภายในสิ้นเดือน พ.ย. โดยจะทำการปฏิรูปนี้ ดังนี้ 1.ทำการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ 2.ปราบคอร์รัปชันให้ได้ 3.ให้เคารพอำนาจประชาชนอย่างแท้จริง 4.ปฏิรูปโครงสร้างตำรวจ 5.ออกระบบกฎหมายให้ข้าราชการอยู่ในระบบคุณภาพ และ6.เปลี่ยนแปลงพื้นฐานการศึกษา ระบบขนส่ง และสาธารณสุขให้เป็นวาระแห่งชาติ ก็ไม่สามารถล้มระบอบทักษิณได้ เพราะฝังรากลึกมากว่า 10 ปี และตอนสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล และนายสุเทพ เป็นถึงรองนายกฯ ดูแลตำรวจ ยังไม่สามารถทำเรื่องดังกล่าวได้

"เรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ลาออกจาก ส.ส.ทั้งพรรค เหมือนในสมัยปี 2548 ที่ประชาธิปัตย์ไม่ร่วมทำสังฆกรรม โดยการไม่ลงเลือกตั้ง เพื่อแสดงความจริงใจร่วมการต่อสู้กับนายสุเทพ และ ส.ส.ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ 8 คน พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่อยู่ตรงกลาง อย่าจับปลาสองมือหรือเล่นการเมืองสองหน้า ซึ่งผมและสมาชิกในพรรคพร้อมที่จะลาไปร่วมต่อสู้นอกสภาด้วย"

***"จิตตนาถ"แนะ ปชป.ออกทั้งพรรคร่วมสู้

นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ กล่าวว่า ขณะนายสุเทพกำลังเจอกับดักที่ทำให้เดินต่อได้ยาก ต้องไม่ยอมรับหรือเล่นตามเกมรัฐบาลที่อาจจะใช้วิธีลาออกหรือยุบสภา เพราะการล้มระบอบทักษิณ ต้องทำมากกว่านี้ และยังติดกับดักจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่นายสุเทพเคยอยู่ เพราะ ปชป. ไม่สนบ้านเมืองจะเป็นยังไง ขอแค่พรรครอด บ้านเมืองจะเจ๊ง จะเสียดินแดน ไม่สน ขอแค่พรรคไม่ถูกยุบ และกำลังจะถูกลอยแพ ส่วนกับดักที่น่าห่วงอีกอัน ก็คือ ยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนจากทหารว่าจะเอายังไง

ทั้งนี้ อาวุธที่จะทำให้การต่อสู้ครั้งนี้สามารถชนะได้อย่างเบ็ดเสร็จ ปชป. จะต้องลาออกทั้งพรรค และไม่ลงเลือกตั้งจนกว่าจะมีการปฎิรูปการเมือง จะเหลือแค่นายชวน หลีกภัย ไว้ในพรรคคนเดียวก็ได้ แล้วให้นายอภิสิทธิ์ ไปคุมม็อบราชดำเนิน นายกรณ์ จาติกวนิช ไปคุมม็อบที่คลัง นายสุเทพ คุมที่ศูนย์ราชการ ถ้าประชาชนเห็น ก็จะออกมาช่วย เพราะเห็นว่าทำเพื่อประชาชนจริงๆ จะยิ่งทำให้คนที่คิดโลกสวยมาร่วมมากขึ้น มวลชนจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นมหาศาล

"การล้มระบอบทักษิณ ตอนนี้นายสุเทพยิงสุดแล้ว ต้องมี ปชป. มาร่วมด้วย เพราะถ้าทำแบบนี้ จะได้สองเด้ง การเมืองระบบปัจจุบันไปต่อไม่ได้ ประชาชนจะมากขึ้นเรื่อยๆ และเกิดดาวกระจายไปทั่วประเทศ จะทำให้รัฐบาลไปต่อไม่ได้ มีผลต่อจิตวิทยาข้าราชการ ที่จะออกมาสู้ด้วย"นายจิตตนาถกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น