ASTVผู้จัดการรายวัน-"ปลอดประสพ"เกิดอาการ "ปอดแหก" ดำดินหนีเป่าปรี๊ด เบี้ยวขึ้นเวทีรับฟังความคิดเห็นโครงการน้ำ 3.5 แสนล้าน ที่พิษณุโลก ผู้ว่าฯ ต้องทำหน้าที่เปิดงานแทน พบอีกทีโผล่ที่สนามบินกำลังกลับเข้ากรุงเทพฯ ด้านหอการค้าไทยงดเชิญ "ปู-ตัวแทนรัฐบาล" ร่วมงานประชุมหอการค้าทั่วประเทศ 24 พ.ย.นี้ ห่วงเจอเป่าไล่ เหตุเอกชนต้องเป็นกลาง ส่วนแดงอุบลฯ หน้าหงายเงิบ บุกเป่าแตรหน้าพรรค ปชป. เจอโห่ไล่ "ออกไป ขี้ข้าทักษิณ" สุดท้ายเผ่นหนีกระเจิง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (20 พ.ย.) คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ได้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน 3.5 แสนล้าน ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก ที่หอประชุมศรีวชิรโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม อ.เมือง ซึ่งตามกำหนดนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี และประธาน กบอ. จะเดินทางมาเป็นประธานเปิดในเวลา 09.00 น. แต่ปรากฏว่า เกือบ 11.41 น.นายปลอดประสพ ยังไม่เดินทางมา นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก จึงได้ขึ้นเป็นประธานเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นแทน
ทั้งนี้ ยังพบว่า กลุ่มชาวบ้านในบ้านชมพู ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ประมาณ 200 คนที่ต่อต้านการสร้างอ่างเก็บน้ำคลองชมพู ได้รวมตัวกันฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาปักหลักบริเวณด้านหน้าหอประชุมศรีวชิรโชติ ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ซึ่งบางส่วนได้เตรียมนกหวีดติดตัวมาด้วย เพื่อที่จะเป่าไล่นายปลอดประสพ
จากนั้นนายโม คำคูน ประธานเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลุ่มน้ำชมพู พร้อมแกนนำชาวบ้าน ได้ผลัดกันปราศรัยต่อต้านเวทีรับฟังความเห็น โดยระบุว่าชาวบ้าน ต.ชมพู ไม่ต้องการให้สร้างอ่างเก็บน้ำ พร้อมกับอ่านแถลงการณ์คัดค้านการสร้างอ่างเก็บน้ำคลองวังชมพู ก่อนที่จะให้ตัวแทนนำแถลงการณ์ดังกล่าวยื่นผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมเจรจาขอส่งคนเข้าร่วมขึ้นเวทีแสดงความคิดเห็นครั้งนี้ด้วย
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตั้งแถวคุมกำลังบริเวณทางขึ้นหอประชุม และอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่มาลงทะเบียนขึ้นไปเท่านั้น แต่ขณะเดียวกันมีนักการเมืองท้องถิ่นของพิษณุโลกรายหนึ่ง นำกลุ่มชาวบ้านในเขต อ.วังทอง อ.บางกระทุ่ม ประมาณ 20-30 คนมาชูป้ายสนับสนุนการสร้างอ่างเก็บน้ำคลองชมพูและโจมตีกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนที่ต่อต้านโครงการของ กบอ.ด้วย
ต่อมาเวลา 14.45 น. ปรากฎว่า นายปลอดประสพ ได้เดินทางมาที่ห้องรับรองวีไอพี สนามบินพิษณุโลก ก่อนเดินไปที่ห้องผู้โดยสารขาออกเพื่อขึ้นเครื่องนกแอร์ เที่ยวบิน 15.00 น. กลับกรุงเทพฯ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก มาก้มกราบลาถึงบั้นเอวท่ามกลางข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทั้งตำรวจ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ซึ่งนายปลอดประสพ บอกเพียงสั้นๆว่า "มาสร้างกระแสเท่านั้น"
ส่วนรอบสนามบินพิษณุโลก ไม่ปรากฏว่ามีกลุ่มต่อต้าน โดยเฉพาะกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการมารอเป่านกหวีดไล่ มีเพียงกำลังตำรวจปราบจราจล ที่เตรียมพร้อมจนแน่นสนามบิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามกำหนดเดิมนายปลอดประสพ เดินทางมา จ.พิษณุโลก ด้วยสายการบินนกแอร์ ตั้งแต่เวลา 07.30 น. เพื่อเข้าร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็นโครงการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน 3.5 แสนล้าน ที่ กบอ.จัดขึ้น แต่ไม่ได้เข้าร่วม เพราะมีกลุ่มประชาชนที่ไม่เห็นด้วยรอเป่านกหวีดไล่ และยังมีข่าวลือว่า นายปลอดประสพ ประชุมกับ ส.ส. ที่โรงแรมอัมรินทร์ลากูน บ้างก็ว่าเดินทางมาที่เวทีพร้อมกับผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ไม่ลงจากรถ เพราะเห็นกลุ่มที่มาต่อต้าน บ้างก็ปล่อยข่าวลวงว่าไปลงพื้นที่อ.เนินมะปราง ที่เตรียมการสร้างเขื่อนชมพู
ส่วนบรรยากาศที่เวทีรับฟังความคิดเห็น มีคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำขึ้นเวที 5 คน จากนั้นมีตัวแทนประชาชนแสดงความคิดเห็นคนละ 5 นาที แต่บรรยากาศไม่ค่อยคึกคักนัก ผู้เข้าร่วมเวทีบางส่วนหนีไปรับประทานข้าวเที่ยง จากนั้นภาคบ่ายได้แยกย้ายเข้าประชุมกลุ่มย่อย แต่ประชาชนไม่ค่อยให้ความสนใจ หนีกลับบ้านเป็นบางส่วน และที่สำคัญไม่มีการสรุปงานบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยทั้งหมดของจังหวัดแต่อย่างใด
***งดเชิญ"ปู"กลัวเจอเป่าปี๊ดไล่
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยได้เห็นพ้องที่จะขอยกเลิกการเชิญน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม หรือตัวแทนนายกรัฐมนตรี เช่น นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ที่คาดว่าจะได้รับมอบเป็นตัวแทนรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี เพื่อรับมอบสมุดปกขาว ซึ่งเป็นข้อเสนอจากการระดมความคิดเห็นในการประชุมหอการค้าทั้งประเทศ วันที่ 24 พ.ย.2556 ที่จ.ตรัง เพราะต้องการเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดความรุนแรงจากสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ จึงเห็นว่าเป็นช่วงที่ไม่เหมาะสมที่จะให้ฝ่ายการเมืองเข้าร่วมประชุม เนื่องจากต้องการให้เป็นเวทีสัมมนาของภาคเอกชนอย่างแท้จริง รวมทั้งต้องการให้ภาคเอกชนสามารถทำงานได้กับทุกรัฐบาล แต่หลังจากได้ข้อสรุปแล้ว ก็จะนำสมุดปกขาวนำเสนอในเวทีประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กกร.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิวัฒน์ธำรง ยอมรับว่า ทางหอการค้าไทยได้โทรศัพท์แจ้งมาเพื่อขอยกเลิกการเข้าร่วมงานสัมมนาใหญ่ของหอการค้าทั่วประเทศที่ จ.ตรัง แล้ว เพื่อต้องการหลีกเลี่ยงความวุ่นวาย
ขณะเดียวกัน ยังพบว่า แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) จ.ตรัง ได้ประกาศจะไม่ยอมให้รัฐมนตรีและนักการเมืองพรรคเพื่อไทย เดินทางมา จ.ตรัง เพื่อร่วมประชุมหอการค้าทั่วประเทศ ในวันที่ 22-24 พ.ย.2556 โดยจะนัดรวมมวลชนเป่านกหวีดขับไล่ที่สนามบิน จ.ตรัง และสถานที่จัดงาน
***แดงอุบลฯ ห้าวเป่าแตร เจอไล่กระเจิง
วันเดียวกันนี้ ที่บริเวณลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม หน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีรถบัสขนาดใหญ่ ทะเบียน จ.อบุลราชธานี นำคนเสื้อแดงประมาณ 50 คนเดินทางมาที่หน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยกลุ่มคนดังกล่าวบางคนใส่เสื้อที่สกรีนคำว่า "แดงอุบล" นำแตรสีแดงขนาดเล็กมายืนเป่าอยู่ที่บริเวณหน้าลานพระแม่ธรณีฯ นานประมาณ 5 นาที โดยระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่พรรค และนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ พยายามขับไล่และผลักดันให้คนเสื้อแดงกลับออก พร้อมตะโกนว่า "ออกไป ขี้ข้า ออกไป ขี้ข้าทักษิณ" ทำให้กลุ่มคนดังกล่าวแสดงความไม่พอใจ แต่ก็ยอมถอยกลับไปขึ้นรถบัส และขับผ่านไป
ทั้งนี้ ก่อนหน้าจะเกิดเหตุ ได้มีชายฉกรรจ์ขับมอเตอร์ไซค์สีฟ้า ใส่เสื้อสีชมพู กางเกงขาสั้นสีขาว มาขับวนเวียนอยู่ที่หน้าที่ทำการพรรคเพื่อดูลาดเลาก่อน และเมื่อพบว่าที่บริเวณหน้าพรรคโล่งแล้ว ก็ได้โทรศัพท์เรียกคนกลุ่มดังกล่าวให้เข้ามาที่หน้าพรรคเพื่อปฏิบัติการทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (20 พ.ย.) คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ได้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน 3.5 แสนล้าน ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก ที่หอประชุมศรีวชิรโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม อ.เมือง ซึ่งตามกำหนดนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี และประธาน กบอ. จะเดินทางมาเป็นประธานเปิดในเวลา 09.00 น. แต่ปรากฏว่า เกือบ 11.41 น.นายปลอดประสพ ยังไม่เดินทางมา นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก จึงได้ขึ้นเป็นประธานเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นแทน
ทั้งนี้ ยังพบว่า กลุ่มชาวบ้านในบ้านชมพู ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ประมาณ 200 คนที่ต่อต้านการสร้างอ่างเก็บน้ำคลองชมพู ได้รวมตัวกันฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาปักหลักบริเวณด้านหน้าหอประชุมศรีวชิรโชติ ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ซึ่งบางส่วนได้เตรียมนกหวีดติดตัวมาด้วย เพื่อที่จะเป่าไล่นายปลอดประสพ
จากนั้นนายโม คำคูน ประธานเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลุ่มน้ำชมพู พร้อมแกนนำชาวบ้าน ได้ผลัดกันปราศรัยต่อต้านเวทีรับฟังความเห็น โดยระบุว่าชาวบ้าน ต.ชมพู ไม่ต้องการให้สร้างอ่างเก็บน้ำ พร้อมกับอ่านแถลงการณ์คัดค้านการสร้างอ่างเก็บน้ำคลองวังชมพู ก่อนที่จะให้ตัวแทนนำแถลงการณ์ดังกล่าวยื่นผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมเจรจาขอส่งคนเข้าร่วมขึ้นเวทีแสดงความคิดเห็นครั้งนี้ด้วย
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตั้งแถวคุมกำลังบริเวณทางขึ้นหอประชุม และอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่มาลงทะเบียนขึ้นไปเท่านั้น แต่ขณะเดียวกันมีนักการเมืองท้องถิ่นของพิษณุโลกรายหนึ่ง นำกลุ่มชาวบ้านในเขต อ.วังทอง อ.บางกระทุ่ม ประมาณ 20-30 คนมาชูป้ายสนับสนุนการสร้างอ่างเก็บน้ำคลองชมพูและโจมตีกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนที่ต่อต้านโครงการของ กบอ.ด้วย
ต่อมาเวลา 14.45 น. ปรากฎว่า นายปลอดประสพ ได้เดินทางมาที่ห้องรับรองวีไอพี สนามบินพิษณุโลก ก่อนเดินไปที่ห้องผู้โดยสารขาออกเพื่อขึ้นเครื่องนกแอร์ เที่ยวบิน 15.00 น. กลับกรุงเทพฯ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก มาก้มกราบลาถึงบั้นเอวท่ามกลางข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทั้งตำรวจ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ซึ่งนายปลอดประสพ บอกเพียงสั้นๆว่า "มาสร้างกระแสเท่านั้น"
ส่วนรอบสนามบินพิษณุโลก ไม่ปรากฏว่ามีกลุ่มต่อต้าน โดยเฉพาะกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการมารอเป่านกหวีดไล่ มีเพียงกำลังตำรวจปราบจราจล ที่เตรียมพร้อมจนแน่นสนามบิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามกำหนดเดิมนายปลอดประสพ เดินทางมา จ.พิษณุโลก ด้วยสายการบินนกแอร์ ตั้งแต่เวลา 07.30 น. เพื่อเข้าร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็นโครงการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน 3.5 แสนล้าน ที่ กบอ.จัดขึ้น แต่ไม่ได้เข้าร่วม เพราะมีกลุ่มประชาชนที่ไม่เห็นด้วยรอเป่านกหวีดไล่ และยังมีข่าวลือว่า นายปลอดประสพ ประชุมกับ ส.ส. ที่โรงแรมอัมรินทร์ลากูน บ้างก็ว่าเดินทางมาที่เวทีพร้อมกับผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ไม่ลงจากรถ เพราะเห็นกลุ่มที่มาต่อต้าน บ้างก็ปล่อยข่าวลวงว่าไปลงพื้นที่อ.เนินมะปราง ที่เตรียมการสร้างเขื่อนชมพู
ส่วนบรรยากาศที่เวทีรับฟังความคิดเห็น มีคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำขึ้นเวที 5 คน จากนั้นมีตัวแทนประชาชนแสดงความคิดเห็นคนละ 5 นาที แต่บรรยากาศไม่ค่อยคึกคักนัก ผู้เข้าร่วมเวทีบางส่วนหนีไปรับประทานข้าวเที่ยง จากนั้นภาคบ่ายได้แยกย้ายเข้าประชุมกลุ่มย่อย แต่ประชาชนไม่ค่อยให้ความสนใจ หนีกลับบ้านเป็นบางส่วน และที่สำคัญไม่มีการสรุปงานบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยทั้งหมดของจังหวัดแต่อย่างใด
***งดเชิญ"ปู"กลัวเจอเป่าปี๊ดไล่
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยได้เห็นพ้องที่จะขอยกเลิกการเชิญน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม หรือตัวแทนนายกรัฐมนตรี เช่น นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ที่คาดว่าจะได้รับมอบเป็นตัวแทนรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี เพื่อรับมอบสมุดปกขาว ซึ่งเป็นข้อเสนอจากการระดมความคิดเห็นในการประชุมหอการค้าทั้งประเทศ วันที่ 24 พ.ย.2556 ที่จ.ตรัง เพราะต้องการเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดความรุนแรงจากสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ จึงเห็นว่าเป็นช่วงที่ไม่เหมาะสมที่จะให้ฝ่ายการเมืองเข้าร่วมประชุม เนื่องจากต้องการให้เป็นเวทีสัมมนาของภาคเอกชนอย่างแท้จริง รวมทั้งต้องการให้ภาคเอกชนสามารถทำงานได้กับทุกรัฐบาล แต่หลังจากได้ข้อสรุปแล้ว ก็จะนำสมุดปกขาวนำเสนอในเวทีประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กกร.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิวัฒน์ธำรง ยอมรับว่า ทางหอการค้าไทยได้โทรศัพท์แจ้งมาเพื่อขอยกเลิกการเข้าร่วมงานสัมมนาใหญ่ของหอการค้าทั่วประเทศที่ จ.ตรัง แล้ว เพื่อต้องการหลีกเลี่ยงความวุ่นวาย
ขณะเดียวกัน ยังพบว่า แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) จ.ตรัง ได้ประกาศจะไม่ยอมให้รัฐมนตรีและนักการเมืองพรรคเพื่อไทย เดินทางมา จ.ตรัง เพื่อร่วมประชุมหอการค้าทั่วประเทศ ในวันที่ 22-24 พ.ย.2556 โดยจะนัดรวมมวลชนเป่านกหวีดขับไล่ที่สนามบิน จ.ตรัง และสถานที่จัดงาน
***แดงอุบลฯ ห้าวเป่าแตร เจอไล่กระเจิง
วันเดียวกันนี้ ที่บริเวณลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม หน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีรถบัสขนาดใหญ่ ทะเบียน จ.อบุลราชธานี นำคนเสื้อแดงประมาณ 50 คนเดินทางมาที่หน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยกลุ่มคนดังกล่าวบางคนใส่เสื้อที่สกรีนคำว่า "แดงอุบล" นำแตรสีแดงขนาดเล็กมายืนเป่าอยู่ที่บริเวณหน้าลานพระแม่ธรณีฯ นานประมาณ 5 นาที โดยระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่พรรค และนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ พยายามขับไล่และผลักดันให้คนเสื้อแดงกลับออก พร้อมตะโกนว่า "ออกไป ขี้ข้า ออกไป ขี้ข้าทักษิณ" ทำให้กลุ่มคนดังกล่าวแสดงความไม่พอใจ แต่ก็ยอมถอยกลับไปขึ้นรถบัส และขับผ่านไป
ทั้งนี้ ก่อนหน้าจะเกิดเหตุ ได้มีชายฉกรรจ์ขับมอเตอร์ไซค์สีฟ้า ใส่เสื้อสีชมพู กางเกงขาสั้นสีขาว มาขับวนเวียนอยู่ที่หน้าที่ทำการพรรคเพื่อดูลาดเลาก่อน และเมื่อพบว่าที่บริเวณหน้าพรรคโล่งแล้ว ก็ได้โทรศัพท์เรียกคนกลุ่มดังกล่าวให้เข้ามาที่หน้าพรรคเพื่อปฏิบัติการทันที
