พิษณุโลก - ชาวเมืองพิษณุโลกนับพันเตรียมรวมตัวค้านโครงการจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านที่ ม.ราชภัฏฯ พรุ่งนี้ (20 พ.ย.) บอกพกนกหวีดมาพร้อมเป่าไล่ “ปลอด” แน่ ประกาศลั่นไม่กลัว ท้าให้จับได้
รายงานข่าวจากจังหวัดพิษณุโลกแจ้งว่า คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) มีกำหนดเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตามโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ส่วนทะเลแก้ว วันพรุ่งนี้ (20 พ.ย.) และได้เปิดให้ประชาชนร่วมลงทะเบียนเข้าร่วมล่วงหน้าประมาณ 1,400 คน
ตามกำหนดการเบื้องต้น นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี และประธาน กบอ.ที่เพิ่งถูกเครือข่ายภาคประชาชนในจังหวัดพิจิตรเป่านกหวีดขับไล่ระหว่างเดินทางไปร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็นโครงการบริหารจัดการน้ำฯ ที่พิจิตร เมื่อวานนี้ (18 พ.ย.) ก็จะเดินทางมาร่วมงานด้วยตั้งแต่เช้า
พื้นที่พิษณุโลกถือเป็นพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากโครงการป้องกันน้ำท่วม คือ โครงการป้องกันพื้นที่ในเขตเมือง และโครงการก่อสร้างเขื่อนลุ่มน้ำคลองชมพู อ.เนินมะปราง ที่ถูกคนในพื้นที่คัดค้านมานาน ทำให้มีกระแสข่าวว่าจะมีชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วยกับแผนงานของ กบอ.เดินทางมาเพื่อขอแสดงความเห็นด้วยไม่น้อยกว่า 800-1,000 คน
นายณัฐวุฒิ อุปปะ เครือข่ายนักพัฒนาองค์กรพัฒนาเอกชน ภาคเหนือตอนล่าง เปิดเผยว่า ทางคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยได้เปิดให้คนที่ได้รับผลกระทบจริงๆ เข้าร่วมเวทีน้อยมาก เช่น กลุ่มคน ทสม.ในลุ่มน้ำชมพู ได้รับเชิญแค่ 40 คน เมื่อเทียบกับการสร้างเขื่อนเก็บน้ำคลองชมพู
ขณะที่ภาพรวมบริหารจัดการน้ำทั้งระบบตนไม่เห็นด้วย และค้าน พ.ร.บ.เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท เพราะแท้จริงแล้วการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นที่ กบอ.ทำอยู่นี้เป็นเพียงการเอาประชาชนพันกว่าคนต่อลุ่มน้ำไปรับรองให้ผ่าน ทั้งๆ โครงการไม่มีแผน ไม่มีรายละเอียด ทำไปแก้กันไป ไม่โปร่งใส ตรวจสอบไม่ได้ จึงสมควรที่จะยกเลิกเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาทอย่างสิ้นเชิง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยจะออกมาร่วมคัดค้านเวทีรับฟังความคิดเห็นที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ส่วนทะเลแก้ว และจะมีการเป่านกหวีดขับไล่ด้วยหรือไม่
นายณัฐวุฒิบอกว่า นกหวีดอาจมี ผมว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล เราบอกห้ามหรือไม่ห้ามก็ไม่ได้ แต่ยืนยันว่าการออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่เกี่ยวการเมือง แต่เป็นการทำงานปกป้องสิทธิ์ในการจัดการสิ่งแวดล้อม ส่วนประชาชนเข้าร่วมจำนวนมากหรือไม่ ประเมินยาก แต่มั่นใจว่าประชาชนที่ได้รับผลกระทบรับทราบข่าวแล้ว และพร้อมเข้าร่วมจำนวนมาก ทั้งคนที่จะได้รับผลกระทบจากโครงการแก้มลิง และโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำคลองชมพู เนื่องจากเกิดความกังวลและจำเป็นต้องออกมา
“ยืนยันว่าไม่มีการจัดตั้งมวลชนอย่างแน่นอน ถามว่ากลัวโดนฟ้องหรือไม่กรณีเป่านกหวีด ยืนยันว่าไม่กลัวเพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล เป่านกหวีดไม่น่ามีปัญหาอะไร ในส่วนตัวเชื่อว่าไม่ใช่ความรุนแรง”
นางแหน่งน้อย อัศวกิติกร อีกหนึ่งแกนนำเครือข่ายฯ เอ็นจีโอ เปิดเผยว่า การเป่านกหวีดเป็นสิทธิส่วนบุคคล ถ้าผิด ตำรวจจราจรก็ผิดด้วย ซึ่งในแง่กฎหมายก็ว่ากันไป ก็เปรียบเทียบปรับไม่เท่าใด ทุกคนพร้อมจ่าย จับได้เลย เชิญจับตนเป็นคนแรกได้ ขอแค่เชิญทุกคนเข้าร่วมรับฟัง
“มั่นใจคนพิษณุโลกไม่มีอะไรรุนแรง และฝากถึงบรรดาตำรวจและทหารที่ติดตามข่าวไม่ต้องกลัวอะไร คนพิษณุโลกไปแบบชาวบ้านจริงๆ ไม่มีจัดตั้ง คาดว่าจะมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากแก้มลิง และคนในลุ่มน้ำชมพู อ.เนินมะปราง มาร่วมเกือบๆ 1 พันคนแน่นอน”