xs
xsm
sm
md
lg

“ม็อบราชดำเนิน”เดินเกมพลาด “อารยะขัดขืน”ทำเสียแต้ม!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**การชุมนุมของม็อบต่อต้านรัฐบาลยังคงดำเนินต่อไป แต่จากที่เคยเกี้ยวกราด รุนแรง ดุดัน เนื่องเพราะมหามวลชนจากทุกฝั่งฝ่ายออกมาพร้อมกันด้วยใจ วันนี้ดูเหมือนเงื่อนไขบางอย่างถูกลดทอนลงไป ทำให้การชุมนุมไม่แข็งกร้าวเหมือนเดิม
ม็อบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งชั่วโมงนี้ถือเป็นม็อบไฮไลต์ ใหญ่ที่สุด เป็นคีย์แมนในการเคลื่อนไหวองคาพยพโดยรวมของมวลชน ซึ่งม็อบนี้นำโดยแกนนำและสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาปลุกกระแสระดมคนได้มากมาย เนื่องเพราะ "มีเป้าหมายเดียวกัน" นั่นก็คือ ต่อต้าน ขัดขวาง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
ทุกฝ่ายขานรับการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย ล้างผิดให้คนโกง ทั้งแนวร่วมสาวกประชาธิปัตย์ หรือแม้แต่ชนชั้นกลาง รวมไปถึงคนที่เอนเอียงไปเชียร์กับรัฐบาล ต่างไม่เห็นด้วยกับกฎหมายล้างผิดเหมาเข่งฉบับนี้
เพราะมันทำลายหลักการบ้านเมือง ทำลายหลักนิติธรรมไปเสียหมด ชี้ชัดไปว่ารัฐบาลกำลังมุ่งช่วยเหลือนักโทษหลบหนีคดี ทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียว ไม่สนใจบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร
**ฉะนั้นจึงสามัคคีบาทาออกมาคัดค้าน จนรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย รับรู้ได้โดยมโนสำนึก รีบกลับลำถอยกรูดจนสุดกระดาน สั่งวุฒิสภาคว่ำกลางซอย พร้อมเรียกพรรคร่วมลงสัตยาบัน ไม่เอากฎหมายนี้มาปัดฝุ่นใหม่อีกแล้ว จากนั้นก็ออกมาชี้แจงย้ำ ซ้ำๆ จนสังคมเริ่มผ่อนคลาย
ถือว่าพลาดแล้วยอมรับผิด ได้ผลไปพอสมควร ในที่สุดกลุ่มคนที่ออกมาชูประเด็นหลักว่า คัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็ถือว่า "หมดเงื่อนไข" ต่อต้าน ต้องยุติบทบาท รามือไป เพราะหากยังแข็งขืนชุมนุมต่อ อาจถูกแปรเจตนาว่าต้องการล้มล้างรัฐบาล ซึ่งหลายส่วนคิดว่ายังไม่ถึงเวลา
วันนี้กลุ่มอาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆ ต้องเงียบเสียงลงไป หลังเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับการตอบรับข้อเสนอให้รัฐบาลทำสัตยาบัน แล้วก็เป็นไปตามที่ร้องขอ พรรคเพื่อไทย นัดพรรคร่วมลงสัตยาบันรับปาก แน่นอนว่าสังคมระดับครูบาอาจารย์ รวมไปถึงฝ่ายตุลาการ ผู้พิพากษาต่างๆ ก็ต้องหลบมุมไป เคลื่อนไหวมากก็เข้าข่ายฝักใฝการเมืองจนเสียเกียรติ
วันนี้ถึงคิวนักธุรกิจออกมาขานรับบ้าง ที่สีลมก็ประกาศยุติชุมนุมไปแล้ว เพราะเงื่อนไขที่ออกมาระดมพลต่อต้านได้รับการตอบสนองไปเรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้เงื่อนไขนิรโทษกรรม จึงเหลือเบาบางมาก เหลือเพียงม็อบบริเวณราชดำเนินเท่านั้นที่ยังคงชูประเด็นนี้มาห้ำหั่นรัฐบาล ออกตัวว่า คำมั่นสัญญา รวมทั้งสัตยาบันอะไรต่างๆ เชื่อถือไม่ได้ทั้งสิ้น แต่ดูเหมือนว่ากระแสจะจุดไม่ติดเหมือนเก่าก่อน เพราะรัฐบาลแสดงท่าทีตรงนี้ไปแล้ว การเคลื่อนไหวของบางกลุ่ม
จึงถูกคนกลางๆ มองว่าเป็นการเล่นเกมการเมืองมากกว่าหรือไม่
**ต้องมาชั่งใจกันว่าจะร่วมเคลื่อนไหวด้วยเหตุผลอะไร ชอบธรรมหรือไม่ วันนี้ต้องเรียกว่า เกมเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว รัฐบาลเหมือนถอยไปจนสุดกระดานจนตั้งหลักได้ กำลังสืบเท้าเข้ามาเดินสู่เกมรุก หลังออกมาตรการตามที่ลั่นคำไว้ทั้งหมด จนบรรยากาศคลายความตึงเครียด
ได้หายใจหายคอ เปิดเกมรุกทิ่มแทงฝ่ายต่อต้านด้วยข้อหาต่างๆ นาๆ โดยเฉพาะการล้มล้างรัฐบาล โดยปราศจากเหตุผล เมื่อหมดเงื่อนไขของกฎหมายนิรโทษกรรมแล้วก็พูดได้เต็มปากมากขึ้น
มองไปที่ฝ่ายต่อต้าน ม็อบราชดำเนิน ของพรรคประชาธิปัตย์ดูเหมือนว่าไม่ได้คิดแผนรองรับสถานการณ์พลิกผันเอาไว้มากมายนัก เหมือนจะเดินหน้าถล่มรัฐบาลจนพังให้ได้สถานเดียว เมื่อเกมเปลี่ยนเร็ว ก็พลิกตำราสู้ไม่ทัน
ทำไปทำมาก็ไม่มีธีมอะไรมากดดัน ไม่มีวาระการนำใดๆ ที่เรียกกระแสมวลชนมาเพิ่มเติมได้ วันนี้เหมือนกับจับมัดมือประชาชนเดินไปด้วยกัน หรือถีบหลังประชาชนออกมา ม็อบถูกลดความรุนแรงแข็งกร้างลงไป
**ในที่สุดก็ต้องหามุก หาอีเวนต์ใหม่มาจุดประเด็นเลี้ยงกระแส แสดงความจริงใจเอาจริงเอาจังในการเดินหน้าขับไล่รัฐบาลเต็มตัว สุเทพ เทือกสุบรรณ นำขบวนส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อีก 8 ลาออกจากการเป็นส.ส. สร้างความฮือฮาเป็นข่าวใหญ่ แต่ต้องถามว่า แล้วยังไงต่อ !!!
ในสภาพรรคประชาธิปัตย์ก็เหลือส.ส.อีกเป็น 100 แล้วก็ชัดเจนแล้วว่า จะเดินหน้าถล่มรัฐบาลในสภาด้วยเป็นคู่ขนาน ล่าสุดก็จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว จะล้มรัฐบาลในสภา หรือนอกสภากันแน่ แท้จริงแล้วก็หวังทั้ง 2 ทาง การนำมันเลยไม่แจ่มชัด
การชุมนุมไฮไลต์เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ประกาศเดดไลน์ 6 โมงเย็น จะตั้งศาลประชาชนจัดการกับรัฐบาล ปรากฎว่า "ศาลเตี้ย" ไม่ทำงาน แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ไม่กล้าทำอะไร สืบเนื่องเพราะปัจจัยไม่เกื้อหนุน
"สุเทพ" ประกาศโพล่ง 4 มาตรการอารยะขัดขืน ทำเอาสะดุ้งโหยงกันไปทั้งประเทศ หลายคนได้ฟังแล้วสะอึกในทันที จะทำได้จริงหรือ มันจะได้หรือจะเสียมากกว่ากันแน่
**เอาเข้าจริงมาตรการหยุดงาน 13-15 พ.ย. มันก็สร้างปัญหา ขัดระเบียบบริษัท คนที่อยากขับไล่รัฐบาลจริงๆ อยากทำ แต่คงไม่หาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวเอง ถ้าลาหยุดไปบางแห่งมีหวังโดนใบไล่ออกตามมา ได้ไม่คุ้มเสีย ส่วนมาตรการชะลอจ่ายภาษี นี่ก็อันตราย เสี่ยงขัดต่อกฎหมาย ความเดือดร้อนจะตามมาภายหลัง ไม่มีใครกล้าเสี่ยง
ฉะนั้นเสียงสะท้อนในทางไม่เห็นด้วยจึงดังอื้ออึงมากขึ้นเรื่อยๆ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในหมู่ของพวกเดียวกัน เพราะมันทำให้ชาติเสียหาย ระบบเศรษฐกิจรวนเร จึงขาดความร่วมมือในมาตรการนี้ กลายเป็นแอนตี้ไปเสียด้วย ล่าสุด ดร.เสรี วงษ์มณฑา ต้องออกมาช่วยดับกระแสไม่เห็นด้วย วอนให้เลิกด่ากันออกสาธารณะ หันมากระซิบแนะนำกันดีกว่า
**เดี๋ยวม็อบจะกลับบ้านไวกว่าที่คาด
มาตรการดังกล่าวว่ากันจริงๆแล้ว หากเทียบกับการยึดสนามบินของพันธมิตรฯ ในแง่ของยุทธวิธี ถือว่าผลสัมฤทธิ์ต่างกันมาก ยึดสนามบิน เสียหาย สั่นสะเทือน แบบเฉียบพลัน ทำฝ่ายศัตรูจนมุม แต่อารยะขัดขืนนี้ นอกจากศัตรูจะไม่จนมุม ยุทธวิธีดังกล่าวยังย้อนศรมาสร้างความเสียหายให้ตัวเอง
ฉะนั้นวันนี้แกนนำม็อบราชดำเนิน ต้องหามาตรการใหม่ที่เด็ดขาด ไม่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ประชาธิปัตย์ต้องคิดใหม่ ให้ประชาชนอยากมามีส่วนร่วมในมาตรการขับไล่ รัฐบาลโจร สภาโจร ที่ต้องการให้กระเด็นออกไปอยู่แล้ว อย่าไปทำอารยะขัดขืนที่ฝืนความรู้สึกไปเรื่อย
"สุเทพ" ประกาศปิดเกมสิ้นเดือนนี้ ยังมองไม่เห็นทางจะปิดเกมอย่างไร เพราะรัฐบาลลดเงื่อนไขแรงเสียดทานไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่าจะปิดเกมตัวเองหรือเปล่า รัฐบาลน่าจะเป็นฝ่ายได้ปิดเกมมากกว่า
ที่ผ่านมาก็กุมความได้เปรียบเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรมที่ชนะอย่างเด็ดขาดมายกหนึ่งแล้ว แต่มาตรการอารยะขัดขืน ถือว่าทำแต้มตกหล่นน่าใจหาย แทนที่จะเอาเรื่องทุจริตมาขยายผลต่อ เรื่องที่ประชาชนเห็นกันชัดๆ มาตอกลิ่ม หาช่องกระซวกเพิ่ม แต่เหมือนหลงกระแส มัวเมาชัยชนะ เลยเดินแบบขาดยุทธศาสตร์
**สำคัญคือความจริงจังต้องมีตลอด ตราบใดยังชกไม่เต็มหมัด เหนี่ยวสายธนูไม่สุดล้า ก็ลำบาก วันนี้ต้องรีบแก้เกมกลับมา เพราะรัฐบาลตั้งหลักและออกมาโหมกระพือทั้งหน้าสื่อกระแสหลัก และโซเชียลมีเดีย หล่อหลอมพวกเดียวกัน ทั้งเสื้อแดงเผาเมือง แดงกุ๊ย แดงถ่อย คิดแคมเปญต่อสู้ออกมาแล้ว "เสื้อแดงคือหัวใจ เพื่อไทยคือร่างกาย ทักษิณเป็นสมอง"
**สะท้อนชัดอีกครั้ง "ทักษิณ" ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เชื้อชั่วตายยากจริงๆ !!!
กำลังโหลดความคิดเห็น