xs
xsm
sm
md
lg

"ธาริต"สอบเอาผิด"เทือก" ปลุกม็อบล้มรัฐบาลเจอม.116-117

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 10.40 น. วานนี้ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าพบ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ และให้สอบสวน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กับพวกอีก 8 คน และ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ ที่เป็นแกนนำในการดำเนินการการชุมนุมทางการเมือง
นายพร้อมพงศ์ กล่าวภายหลังยื่นหนังสือต่อ นายธาริต ว่าตนมาร้องทุกข์กล่าวโทษ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พร้อมด้วยอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ รวม 9 คน แกนนำผู้ชุมนุมเวทีราชดำเนิน ตามมาตรา 116 ก่อให้เกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน และ มาตรา 117 ยุยงหรือจัดให้เกิดการร่วมกันหยุดงาน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดิน เพื่อบังคับรัฐบาล หมวดความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ประมวลกฎหมายอาญา ว่า นายสุเทพ กับพวกรวม 9 คน ได้ประกาศบนเวทีการชุมนุมที่ถนนราชดำเนิน ว่า จะให้มีการหยุดจ่ายภาษี และนัดหยุดงาน เป็นการดำเนินการล้มล้างการปกครอง และผิดกฎหมาย มาตรา 116 และ 117 ประมวลกฎหมายอาญา และให้ตรวจสอบว่า เข้าข่ายกบฎด้วยหรือไม่ เพราะการกระทำไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 ที่กำหนดให้ชุมนุมสงบปราศจากอาวุธ
การที่นายสุเทพ พร้อม ส.ส.รวม 9 คน ลาออกจากการเป็น ส.ส. เห็นว่าเพราะเป็นการตัดตอนไม่ให้ความผิดถึงพรรคประชาธิปัตย์ เพราะก่อนหน้านี้ ตนเคยยื่นต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ กรณี ส.ส.หรือสมาชิกพรรคทำผิดกฎหมาย การลาออกไม่ใช่สปิริต
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า มีการแบ่งแยกงานกันทำ โดยพรรคประชาธิปัตย์รู้เห็น แม้แต่กทม. ผู้ว่าฯ และปลัด กทม.ที่เอื้อประโยชน์ กรณีมีภาพถ่ายรถของเขตดุสิต ไปเติมน้ำมันให้เครื่องปั่นไฟของผู้ชุมนุม จึงขอให้ ดีเอสไอ ตรวจสอบกลุ่มท่อน้ำเลี้ยงด้วย เมื่อพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ถูกคว่ำ ซึ่งพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล รวมทั้งนายกรัฐมนตรี ก็ยืนยันแล้วว่า จะไม่นำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กลับมาอีก จึงมองว่า นายสุเทพ และพรรค ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ที่มาขับไล่รัฐบาล เป็นการทำลายระบบประชาธิปไตย ทำลายระบบรัฐสภา เงื่อนไขเดียวของนายสุเทพ คือ ฟังประชาชน กลับไปทำงานในสภาฯ และเลิกชุมนุม ตนจะให้ฝ่ายกฎหมายติดตามการชุมนุมทุกวัน ที่มีการขนคน การส่งท่อน้ำเลี้ยง นอกจากนี้ตนยังได้ร้องทุกข์ดีเอสไอ ให้ตรวจสอบกลุ่มของ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลอยู่มา 2 ปีกว่า เหลืออีกปีกว่าๆ ทำไม นายสุเทพ รอไม่ได้ วันนี้ตอนบ่ายจะมีทีมกฎหมายไปร้องทุกข์ต่อตำรวจนครบาลอีก
ด้านนายธาริต กล่าวว่า ตนในฐานะหัวหน้าหน่วยงานที่รับผิดชอบในการดำเนินคดีด้านนี้ ก็อยากเรียนว่า เป็นเรื่องต่อเนื่องจาก 2 วันที่แล้ว ดีเอสไอได้แถลงถึงความห่วงใยในเรื่องนี้แล้วว่า จะมีการกระทำผิดกฎหมายบ้านเมืองขึ้น และก่อนที่จะพ้นวันศุกร์ที่แล้ว การดำเนินการของม็อบก็จะมีความผิดด้านกฎหมายเพียงเล็กน้อย ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง เนื่องจากเข้าไปในอาณาเขตที่หวงห้าม ซึ่งการอภิปรายต่างๆนั้น ยังอยู่ในกรอบที่พออนุมานได้ว่า ยังชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็นการเรียกร้อง และแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่อง พ.ร.บ.นิโทษกรรม
แต่หลังจากที่เงื่อนไข พ.ร.บ.ดังกล่าวได้ยุติลงแล้ว เพราะว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพรรคร่วมรัฐบาล ได้มีวิธีการที่ชัดเจนในการยุติพ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่ม็อบยังไม่เลิกการชุมนุม โดยมีถ้อยคำของการอภิปรายในการปลุกระดม และกริยาบางอย่างส่อไปในทางขับไล่รัฐบาล ซึ่ง ดีเอสไอเคยออกแถลงการณ์เตือนทางกลุ่มผู้ชุมนุมไปแล้วว่า กำลังเข้าไปสู่การกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่ก็ไม่เป็นผล และเมื่อวันที่ 11พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการยกระดับการชุมนุม โดยแกนนำมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนในการอภิปราย เพื่อเรียกร้องให้ใช้มาตรการอารยะขัดขืน เช่น ให้มีการหยุดงาน ให้ไม่เสียภาษี หรือให้ขับไล่รัฐบาล เหล่านี้ เข้าข่ายความผิดกฎหมายใน มาตรา 116 และ117 ระบุว่า ไม่ให้กระทำการใดๆ อันเป็นการยุยง ปลุกปั่นประชาชน ให้ล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน
ดังนั้น ดีเอสไอ ไม่มีทางเลือก ในฐานะหน่วยบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นข้อกังวลของเราตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว (8พ.ย.) ทั้งนี้ ยังมีความกังวลว่าในวันข้างหน้า ถ้าการชุมนุมยังไม่ยุติลง และมีการชุมนุมไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นความผิดต่างกรรม ต่างวาระ และถ้าความผิดใดที่เข้าบัญชีท้ายดีเอสไอ เราก็จะอนุมัติดำเนินคดีโดยอธิบดี แต่ถ้าความผิดใดไม่เข้าบัญชีแนบท้าย จะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ซึ่งจะมีการนัดประชุม ในวันที่ 27 พ.ย. นี้ หลังจากรับเรื่องนี้แล้ว ตนจะมอบหมายเรื่องนี้ให้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ รับเรื่องนี้ไปดำเนินการต่อไป

***อัยการเผยนัดส่งฟ้อง“มาร์ค-เทือก”12ธ.ค.

นายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการคดีพิเศษ และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงการนำตัวนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาส่งฟ้องต่อศาล ในคดีสั่งทหารสลายการชุมนุม เมื่อปี 2553 ว่า ทางอัยการได้นัดส่งตัว นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ แม้นายสุเทพ จะลาออกจากการเป็นส.ส. ไปแล้ว และไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ก็จะไม่นำตัวนายสุเทพ มาฟ้องคดีก่อน เนื่องจากเป็นการนัดล่วงหน้าไว้แล้ว จะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่ได้ และหากเมื่อนำตัวส่งฟ้องนายสุเทพและนายอภิสิทธิ์แล้ว ก็จะไม่คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากไม่ได้มีพฤติกรรมที่จะหลบหนี

**"เต้น"สั่ง"ธาริต"รวบรวมหลักฐานค้านประกัน

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ และแกนนำกลุ่ม นปช. กล่าวเมื่อเจ้าพนักงานอัยการ ส่งฟ้อง นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ต่อศาลในวันที่ 12 ธ.ค. ตนจะประสานให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวบรวมหลักฐานทั้งหมดไปยื่นคัดค้านการประกันตัว เพราะจากแนวปฏิบัติกับ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ขึ้นปราศรัย และพูดถึงหมายเลขโทรศัพท์ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และครอบครัว ก็มีการถอนประกัน นายก่อแก้ว พิกุลทอง แถลงข่าวว่า อาจจะมีคนไปกระทำบางอย่างกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ก็มีมีการถอนประกัน ซึ่งตนก็เคารพการวินิจฉัยของศาล แต่ตอนนี้ นายสุเทพ ซึ่งถูกสั่งฟ้องคดีบงการสั่งหารประชาชน ที่ปลุกระดมหนักขึ้นทุกวัน เราอยากจะเห็นบรรทัดฐานกระบวนการยุติธรรมว่า สถานการณ์แบบนี้ นายสุเทพ จะได้รับอนุญาตให้ได้รับการประกันตัวหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น