xs
xsm
sm
md
lg

“ธาริต” เตือนแกนนำม็อบละเมิดกฎหมาย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
“ธาริต” เตือนแกนนำม็อบละเมิดกฎหมาย ลั่นเปลืองงบประมาณในการทำคดี วอนม็อบยุติ อยากเห็นบ้านเมืองสงบ เผยยังไม่ฟัน “เทือก” ระบุไม่ต้องการเติมเชื้อเพลิงความขัดแย้ง

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อวันที่ 11 พ.ย. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงกรณีที่ดีเอสไอออกแถลงการณ์แจ้งเตือนแกนนำผู้ชุมนุมและกลุ่มทุนคัดค้านนิรโทษกรรม ว่า ความขัดแย้งในบ้านเมืองที่เกิดขึ้นขณะนี้ ดีเอสไอในฐานะหน่วยรักษากฎหมาย โดยที่ผ่านมาดีเอสไอรับผิดชอบทำคดีหลายคดีจากเหตุไม่สงบทางการเมืองปี 2553 ซึ่งถือเป็นบทเรียน เพราะดีเอสไอก็ต้องเข้ามารับผิดชอบในคดีและดำเนินคดีด้วยกันทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายก่อม็อบและฝ่ายปราบม็อบ จนเป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวาย ในแง่ของคนทำคดี ดีเอสไอได้รับบทเรียนในเรื่องที่เกิดขึ้นว่า เป็นความขัดแย้งทางความคิดทางการเมือง ซึ่งทุกฝ่ายไม่ใช่อาชญากรโดยสันดาน แต่เกิดจากความขัดแย้งและไม่รักษากฎหมายและการล้ำเส้น จนทำให้คดีรกศาลจำนวนมาก ดีเอสไอทำคดีอย่างต่อเนื่อง แต่คดีก็ยังไม่แล้วเสร็จ ทำให้ต้องสูญเสียกำลังเจ้าหน้าที่และงบประมาณมากมาย ตนในฐานะนักกฎหมายจึงต้องการออกมาแถลงว่าต้องการกฎหมายนิรโทษกรรม แต่ดีเอสไอทำงานตามรัฐบาล เมื่อรัฐบาลไม่เดินหน้า ดีเอสไอก็ต้องจบ แต่เมื่อไม่เอานิรโทษกรรมแล้วถามว่าจบหรือไม่ ความขัดแย้งก็ยังไม่เลิก ตราบใดที่ยังไม่ให้อภัยกัน ตนเคยตั้งข้อสังเกตมาแล้วจะว่าในต่างประเทศเมื่อเขานิรโทษกรรมแล้วทุกอย่างก็จบ แต่ของเราไม่จบ ทั้งนี้ ดีเอสไอมีความกังวลว่าจะเกิดความรุนแรงแล้วดีเอสไอจะต้องเข้ารับผิดชอบทำคดีอีก มันมีแนวทางมาแล้วว่าเรื่องแบบนี้จะต้องเข้าข่ายคดีพิเศษ ตนไม่อยากใช้เจ้าหน้าที่ใช้ทรัพยากรของรัฐ ซึ่งมีอยู่อย่างจำกัด ภาษีอากรที่ควรจะนำไปใช้กับอาชญากรระหว่าประเทศ กับอาชญากรโดยสันดาน ที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ แต่เรากลับมาทุ่มเทกับฝ่ายก่อม็อบและอาจจะมีการปราบปราม ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าภายภาคหน้าจะเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งเราก็เห็นกันแล้ว

นายธาริต กล่าวว่า ดีเอสไอไม่ใช่จู่ๆ ก็เสือกเข้ามา มันมีบริบทมันมีความรับผิดชอบของดีเอสไอที่ควรจะทำอะไรกับบ้านเมืองบ้าง ก็มีหลายฝ่ายเตือนว่าหาเรื่องเหรอถึงออกมาเรียกแขก ใครๆ ก็เอาตัวรอดหมดในยามนี้ ทำไมออกมาขวางม็อบ ตนไม่ได้ขวางเพียงแต่ในฐานะหัวหน้าหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งตนไม่อยากเห็นคดีเหล่านี้ และไม่อยากให้ดีเอสไอต้องมารับอีก จึงได้แจ้งเตือนแกนนำม็อบ และกลุ่มทุนสนับสนุนอย่าก้าวเข้าไปสู่สิ่งที่ผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ดีเอสไอพบว่าได้ก้าวเข้ามาทำผิดกฎหมายแล้ว เพราะมีการยกระดับขับไล่รัฐบาล แล้วใครจะบอกไหมว่าเป็นม็อบที่ถูกกฎหมาย ถ้ามีการตั้งศาลประชาชน ถ้าขับไล่รัฐบาล กฎหมายบ้านเมืองมีชัดเจน โดยเฉพาะประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ที่กำหนดว่าผู้ใดจะกระทำการด้วยวาจาด้วยลายลักษณ์อักษรให้ประชาชนล้วงละเมิดต่อกฎหมายแผ่นดิน และระบบอประชาธิปไตยของเรานั้นไม่ได้เปิดช่องให้มีการใช้กำลังขับไล่รัฐบาล และรัฐประหาร และไม่ได้เปิดช่องให้ตั้งศาลประชาชน 3 อย่างนี้ถ้ามีการกระทำเมื่อไร ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้นสิ่งที่แกนนำและกลุ่มท่อน้ำเลี้ยงไม่เลิกสนับสนุนม็อบ ไม่เลิกเวทีม็อบและพยายามชุมนุมต่อเนื่องไปสู่การตั้งศาลประชาชนขึ้นมาไปสู่การขับไล่รัฐบาล รวมถึงการโค่นล้มระบอบทักษิณ และเรียกร้องให้มีการรัฐประหาร ทุกอย่างเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายทั้งสิ้น

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวต่อว่า ไม่มีสิ่งใดดีที่สุดที่จะคลี่คลายสถานการณ์ที่กำลังซีเรียส และกำลังรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ได้ดีเท่ากับทุกฝ่ายรักษากฎหมาย เพราะกฎหมายคือแกนกลางที่จะทำให้สังคมอยู่อยางสงบสุข เมื่อไม่รักษากฎหมายเมื่อไหร่ก็จะเกิดเรื่องรุนแรงทันที และบ้านเมืองกำลังจะเกิดอีกแล้ว โดยตนอยากจะเตือนว่ากลับเข้ามาสู่โหมดของการรักษากฎหมายเถอะ เคารพกฎหมายแล้วทุกอย่างจะเรียบร้อย ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นทั้งความกังวลและการร้องขอจากตน ตนไม่ได้รับใบสั่งจากใคร หรือทำเพื่อเอาใจใคร แต่มันเป็นภารกิจที่หนีไม่พ้นที่ดีเอสไอต้องมารับผิดชอบคดีเช่นนี้อีก ซึ่งตนไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเลย ส่วนที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำม็อบปลุกปั่นผู้ชุมนุมขับไล่รัฐบาล ดีเอสไอจะจัดการหรือไม่นั้น ในสังคมสื่อที่กำลังแยกฝ่าย และกำลังมีการเติมเชื้อเพลิงกันทั้งสองฝ่าย ตนมีความประสงค์แจ้งเตือนและขอร้องแกนนำม็อบกลุ่มทุนสนับสนุนได้ทำในสิ่งที่ถูกกฎหมาย เพราะสิ่งที่ทำอยู่นั้นละเมิดกฎหมาย ซึ่งดีเอสไอคงจะยังไม่ทำอะไร เพราะยังไม่ถูกยกระดับให้เป็นคดีพิเศษ และตนก็ไม่ประสงค์ที่จะออกหน้าสื่อว่า “ธาริต กร้าวจัดการสุเทพ” ตนไม่สบายใจถ้าตนจะเป็นส่วนหนึ่งของการเติมเชื้อเพลิงให้ความขัดแย้งรุนแรงยิ่งขึ้น แต่ต้องการเห็นความสงบในบ้านเมือง
กำลังโหลดความคิดเห็น