xs
xsm
sm
md
lg

ดิ้นเอาเงินอนาคตอุ้มจำนำข้าว ป.ป.ช.ฟัน"แก๊งเขมือบ"พ.ย.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า แม้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ จะสั่งยกเลิกการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยอ้างว่า ไม่มีวาระเร่งด่วนในการพิจารณา
ส่วนกรณีที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เสนอให้กู้เงินเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติม จำนวน 140,000 ล้านบาท เป็นการชั่วคราวนั้น ทาง กขช. เห็นว่า เป็นเรื่องที่ต้องกลับไปบริหารจัดการตามกรอบวงเงินรับจำนำข้าว ทั้งโครงการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไว้แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องส่งให้ กขช.พิจารณาอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ที่ประชุมใหญ่ กขช. จะยกเลิกการประชุม แต่ที่ประชุมคณะกรรมการธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 8 พ.ย.56 ได้มีมติเห็นชอบให้ธ.ก.ส. ดึงวงเงินจำนวน 5.5 หมื่นล้านบาท จากทั้งหมด 8.2 หมื่นล้านบาท ที่สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณปี 2557 เพื่อชดเชยส่วนต่าง จากการดำเนินโครงการดังกล่าวมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนชั่วคราว โดยเฉพาะการจ่ายเงินให้เกษตรกรที่นำข้าวเข้าร่วมโครงการรับจำนำรอบใหม่ แต่ยังไม่ได้รับเงินจำนวน 1.2 ล้านตัน เป็นเงินประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเชื่อว่า วงเงินในส่วนนี้จะเพียงพอรองรับการดำเนินการได้ถึงกลางเดือนธ.ค.
ที่ประชุมยังเห็นชอบให้มีการเพิ่มกรอบวงเงินเพื่อใช้ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล จำนวน 1.4 แสนล้านบาท จากกรอบเดิมที่กำหนดไว้ที่ 5 แสนล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว ปีการผลิต 2556/57 โดยหลังจากนี้ จะเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณา ก่อนจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป การเพิ่มกรอบวงเงินดังกล่าว จะทำให้การใช้เงินในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เพิ่มขึ้นเป็น 6.4 แสนล้านบาท รวมทั้งได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งบริหารจัดการการใช้เงินทั้งหมด ให้กลับมาอยู่ภายใต้กรอบ 5 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ จะมีการใช้เงิน 2 ส่วน คือ จากเงินกู้ที่กระทรวงการคลังต้องจัดหามา 1.4 แสนล้านบาท และอีกส่วนหนึ่งจากการระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ โดยธ.ก.ส.จะเร่งดำเนินการจ่ายเงินให้เกษตรกร ที่นำข้าวเข้าร่วมโครงการรับจำนำรอบใหม่ได้ภายในวันที่ 14 พ.ย.นี้
นอกจากนี้ ในส่วนของการกู้เงิน จำนวน 1.4 แสนล้านบาท สำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จะเริ่มกู้เงินได้ในช่วงต้นปี 2557 ส่วนวงเงินอีก 1.3 แสนล้านบาท จะต้องมาจากการระบายข้าวในสต็อกของกระทรวงพาณิชย์
มีรายงานด้วยว่า อนุกรรมการ กขช. จะเสนอ ครม.ให้เห็นชอบ เพื่อแก้ปัญหาข้อร้องเรียนของเกษตรกร ในการขอเพิ่มผลผลิตต่อไร่ของข้าวนาปี ปี 2556/57 โดยพิจารณาชดเชยให้เกษตรกรที่ปลูกข้าวได้ผลผลิตมากกว่าค่าผลผลิตเฉลี่ยที่กำหนด ซึ่งไม่สามารถนำข้าวมาจำนำ ให้ได้รับการชดเชยในลักษณะเช่นเดียวกับที่ได้ช่วยเหลือเยียวยาให้เกษตรกรที่รับจำนำข้าวเปลือกไม่ทันในวันที่ 15 ก.ย. 56 โดยชดเชยประมาณ 2,000 กว่าบาทต่อตัน ทั้งนี้ค่าเฉลี่ยผลผลิตส่วนเกินจะต้องไม่เกินร้อยละ 20 ของปริมาณข้าวเปลือกที่รับจำนำ ซึ่งปริมาณข้าวเปลือกที่รับจำนำในฤดูกาลนี้ จำนวน 11 ล้านตัน คาดว่าผลผลิตส่วนเกินจะอยู่ที่ 1.2-1.5 ล้านตัน ใช้วงเงินประมาณ 3,000 ล้านบาท
อนุ กขช. ยังจะปรับปรุงระบบการฝากเก็บข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล จากเดิมที่ใช้วิธีการเช่าให้เป็นระบบรับฝาก หมายถึง ให้เจ้าของคลัง/โกดังรับผิดชอบคุณภาพและปริมาณข้าว จากเดิมที่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย โดยการเพิ่มภาระการรับผิดชอบนี้ เจ้าของคลัง/โกดัง จะได้รับค่าฝากเก็บเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งแนวคิดนี้จะช่วยลดปัญหาเรื่องคุณภาพข้าว และลดปัญหาการทุจริตของบริษัทตรวจสอบคุณภาพ (เซอร์เวเยอร์) ที่มักจะสมรู้ร่วมคิดในการตรวจรับมอบข้าวเวียนเทียนจากโกดัง/คลังกลางที่รัฐเช่าฝากเก็บข้าว
ทั้งนี้ เป็นไปตามรายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่เปิดเผยว่า ขณะนี้พรรคได้รับข้อมูลจากการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับติดตามโครงการรับจำนำข้าว ที่มีนายนิวัฒน์ธำรง เป็นประธาน ได้มีการเปลี่ยนแปลงการส่งข้าว การเก็บข้าวในโครงการรับจำนำข้าว จากเดิมที่รัฐบาลจะมอบหมายให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) องค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อตก.) จ้างเซอร์เวยเยอร์ เข้ามาตรวจสอบคุณภาพข้าวก่อน นำเข้าเก็บในโกดังกลาง โดยที่รัฐบาลจะเป็นผู้จ่ายค่าเช่าโกดัง แต่กลับเปลี่ยนให้รัฐบาลจ้างเหมาให้เจ้าของโกงดังเป็นผู้รับเหมาในกระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่จ้างเซอร์เวยเยอร์ นำข้าวเข้าโกดัง พ่นยา โดยแต่ละโกดังจะวางเงินมัดจำ 5% ของมูลค่าข้าวทั้งหมด ซึ่งเท่ากับเป็นการฝากปลาย่างไว้กับแมว เพราะการที่เจ้าของโกดังรับดำเนินการขั้นตอนทั้งหมดนั้น อาจจะทำให้มีการนำข้าวเน่าเข้ามาเก็บในโกดังแทน และเอาข้าวคุณภาพดีออกไปเวียนเทียน ซึ่งจะทำให้การทุจริตง่ายยิ่งขึ้น
“การทำขั้นตอนแบบเก่า ก็มีปัญหาว่าเซอร์เวยเยอร์ไม่ตรวจสอบคุณภาพข้าวตามที่เป็นจริง ซึ่งก็เป็นปัญหาหนักอยู่แล้ว แต่การเปลี่ยนรูปแบบใหม่ยิ่งจะมีปัญหามากขึ้น เพราะเจ้าของโกดังจะกินรวบทุกขั้นตอน และการที่วางเงินมัดจำ 5% ของมูลค่าข้าวทั้งหมดก็เป็นเงินจำนวนน้อยมาก ทำให้เจ้าของโกดังสามารถนำข้าวออกมาเวียนเทียนได้ ซึ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหาที่มีอยู่ในปัจจุบันเพิ่มอีก”
ก่อนหน้านั้น นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก ปชป. ยังเปิดเผยว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช ) กำลังจะพิจารณาคดี ที่มีการร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตโครงการจำนำข้าว ของรัฐบาลในเดือนพ.ย.นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น