ประจวบคีรีขันธ์-ตำรวจประจวบคีรีขันธ์จับการ์ดม็อบยาง ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์นำระเบิดเพลิง พร้อมอาวุธปืนเข้าไปในพื้นที่ชุมนุม ได้ผู้ต้องหา 4 คน ขณะที่คนบางสะพานน้อย เดือด! ร่วมตัวเรียกร้องให้ม็อบยางพาราเปิดถนนเพชรเกษม ด้านกลุ่มม็อบยางลั่นจะชุมนุมจนกว่าจะบรรลุผลถึงจะเปิด ขณะที่ชุดปราบจลาจลเข้าเคลียร์ต้นไม้บนถนนเพชรเกษม หลังเส้นทางสำรองรถบรรทุกผ่านไม่ได้จนหวิดปะทะกลุ่มผู้ชุมนุมที่ยิงหนังสติกเข้าใส่เจ้าหน้าที่
วานนี้ (30 ต.ค.) พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แถลงผลตั้งจุดตรวจเข้มแข็งเพื่อคัดกรองสิ่งผิดกฎหมายและอาวุธที่อาจมีผู้นำเข้าไปในบริเวณการชุมนุมบริเวณบ้านศรีนคร บนถนนเพชรเกษม กม.ที่ 415+500 หมู่ที่ 7 ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อป้องกันเหตุจากการชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน ซึ่งปักหลักชุมนุมต่อเนื่องเป็นวันที่ 5
พล.ต.ต.ธเนษฐกล่าวว่า หลังจากผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ลงนามประกาศใช้พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 ในช่วงที่มีการชุมนุมของภาคีเครือข่ายชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ เมื่อคืนวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ดังกล่าวได้ 4 คนขณะขับรถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปยังจุดชุมนุมที่บ้านศรีนคร พร้อมปืน 9 มม.1 กระบอก กระสุนปืนอีก 10 นัด ระเบิดปิงปอง และระเบิดขวด
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ประกอบด้วย 1.ส.อ.วิษณุ จันทร์สงฆ์ ทหารนอกราชการ อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 132/1 ม.1 ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ยี่ห้อซีแซด ทะเบียน กท.54213457 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 10 นัด
2.เป็นเยาวชน อายุ 16 ปี ชาวบ้านหมู่ 1 ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย พร้อมของกลางระเบิดเพลิงจำนวน 3 ขวด ระเบิดปิงปองแบบลูกเดียวจำนวน 12 ลูก แบบมัดรวมกันเป็นมัดใหญ่ จำนวน 3 ลูก และระเบิดขวดชนิดบรรจุก้อนหินขนาดเล็กๆ อีก 1 ลูก ซึ่งผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่ารับหน้าที่เป็นคนดูต้นทางและเป็นการ์ดประจำจุดด้านทิศเหนือของกลุ่มผู้ชุมนุม
3.นายเอกพล ยันตะลี อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84/8 ม.6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และ 4.นายกิตติคุณ คำพร อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 270/5 ม.6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งผู้ต้องหารายที่ 3 และ 4 ถูกจับกุมในข้อหาห้ามบุคคล หรือกลุ่มบุคคลใดปิดกั้นหรือเข้าในรัศมี 1 กิโลเมตร และให้ออกจากพื้นที่ถนนทางหลวงหมายเลข 4 กิโลเมตรที่ 415 บริเวณหน้าอนามัยบ้านศรีนคร พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน งฉล 709 ชลบุรี
วันเดียวกัน นายสมมุติ สวัสดิ์วิบูลย์ รองนายกเทศมนตรีตำบลบางสะพาน นายพิสิทธิ์ พัฒน์ทอง กำนันตำบลบางสะพาน พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลายร้อยคนได้เดินทางไปที่ถนนสายบางสะพาน-บางสะพานน้อย บริเวณสี่แยกสามเจ้า ระหว่างหมู่ที่ 2 กับหมู่ที่ 5 ต.บางสะพาน อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อประท้วงกรณีการใช้ถนนเส้นดังกล่าวเป็นสายสำรองในการระบายรถขึ้นลงภาคใต้กับกรุงเทพมหานคร แทนการใช้ถนนเพชรเกษมที่เครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ ยังคงปิดถนนอยู่
นายสมมุติ กล่าวว่า ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก หลังมีการปิดถนนเพชรเกษม และใช้ถนนเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านแทน ทำให้การเดินทางของคนในพื้นที่ได้รับความลำบาก อีกทั้งรถบรรทุกหนักทำให้ถนนเกิดความเสียหายมาก เพราะถนนเส้นดังกล่าวเป็นถนนทางหลวงชนบท ใช้ประโยชน์สำหรับในท้องถิ่นเท่านั้น อีกทั้งการทำธุรกิจเกิดความเสียหาย เด็กนักเรียนเดินทางไปโรงเรียนไม่ได้ ร้านอาหาร ธุรกิจท่องเที่ยว ไม่มีใครมาท่องเที่ยว ดังนั้นต้องเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน
นายพิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านสุดที่จะอดกลั่น จึงออกมาเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมที่มาจากจังหวัดต่างๆ ทางภาคใต้นึกถึงความเดือดร้อนของประชาชนคนไทยด้วยกัน และเปิดถนนเพชรเกษมเพื่อคลายความเดือดร้อน
ต่อมาเวลา 14.00 น.รถบรรทุก 6 ล้อที่บรรทุกสับปะรดเพื่อจะไปส่งโรงงานเต็มคันได้ติดหล่มกลางถนนสายรองหมู่ที่ 2 ต.บางสะพาน เนื่องจากถนนเสียหายหมายช่วงหลายจุด ล่าสุดเจ้าหน้าที่จึงต้องห้ามรถบรรทุก ทุกชนิด วิ่งบนถนนสายรองแล้วทำให้การขนส่งสินค้าภาคใต้หยุดชะงักอีกครั้ง ส่วนรถเล็กรถกระบะและรถเก๋งยังสามารถเดินทางได้อย่างช้าๆ
ทางด้านนายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ กล่าวว่า การชุมนุมของชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันจะยังคงปักหลักชุมนุมกันต่อเนื่อง และหลังจากที่มีการประชุมกับแกนนำทั้ง 16 คน เมื่อคืนวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยในประเด็นของเรื่องราคายางที่เรียกร้อง 100 บาทต่อกิโลกรัม โดยส่วนตัวตนเห็นว่าเป็นไปได้ค่อนข้างยากมาก จึงมีความเป็นไปได้ที่จะต้องปรับธงกันใหม่โดยมุ่งเน้นไปที่เงินช่วยเหลือค่าปัจจัยการผลิต 2,520 บาทต่อไร่ที่ทางกลุ่มเรียกร้องให้เกษตรกรทุกคนทุกพื้นที่ทั้งมีเอกสารสิทธิและไม่มีเอกสารสิทธิได้รับการช่วยเหลืออย่างเท่าเทียม ซึ่งรวมไปถึงคนกรีดยางด้วย โดยให้เป็นไปตามกลไกในการเข้าร่วมเป็นไตรภาคีตามที่ตกลงกับ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะยังไม่มีการเปิดถนนหากการเจรจายังไม่บรรลุผล
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจล ตำรวจภูธรภาค 7 จำนวน 4 กองร้อยได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 เส้นทาง เดินเท้าเข้าไปตามถนนเพชรเกษม หลักกิโลเมตรที่ 413 บ้านธรรมรัตน์ ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน และบ้านศรีนคร ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเข้าเคลียร์พื้นที่บนถนนเพชรเกษม ที่มีการตัดต้นไม้ขวางถนนอยู่จำนวนมาก
โดยเจ้าหน้าทีได้พยายามเดินเข้าไปใกล้ต้นไม้ที่ตัดไม้ที่มีการตัดขวางไว้กลางถนน แต่ผู้ชุมนุมได้ยิงหนังสติกเข้าใส่โดยใช้หัวตะกั่ว หัวน๊อต และลูกกระสุน ยิงเข้าใส่ชุดปราบจลาจลอยู่ตลอดเวลา ทำให้โดนโลห์และหมวกของเจ้าหน้าที่มีเสียงดังอยู่ตลอดเวลา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดันขึ้นไป เจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ได้ช่วยกันใช้เลื่อยเครื่องยนต์เร่งตัดต้นไม้ ออกจากถนนเพชรเกษมได้ 2 ต้น แต่ไม่สามารถเดินเข้าไปใกล้ได้อีก เพราะเกรงว่าอาจจะเกิดการปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุม สุดท้ายเจ้าหน้าที่ได้ถอยออกมาจากจุดดังกล่าว และถึงขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดการจราจรบนถนนเพชรเกษมได้
วันเดียวกันนี้ นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่สามารถที่จะดำเนินตามข้อเรียกร้องได้ โดยต้องคงมาตรการในการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบปี 2557 ตามมาตรการเดิม โดยจ่ายเงินชดเชยให้แก่เกษตรกรที่มีพื้นที่ยางเปิดกรีดไม่เกิน 25 ไร่ ในอัตราไร่ละ 2,520 บาท อย่างไรก็ตาม คณะรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้คณะกรรมการตรวจสอบพื้นที่เปิดกรีดระดับตำบล เร่งตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือเกษตร จำนวน 76,000 กว่าราย ที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ในการขอรับการช่วยเหลือแล้ว
วานนี้ (30 ต.ค.) พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แถลงผลตั้งจุดตรวจเข้มแข็งเพื่อคัดกรองสิ่งผิดกฎหมายและอาวุธที่อาจมีผู้นำเข้าไปในบริเวณการชุมนุมบริเวณบ้านศรีนคร บนถนนเพชรเกษม กม.ที่ 415+500 หมู่ที่ 7 ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อป้องกันเหตุจากการชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน ซึ่งปักหลักชุมนุมต่อเนื่องเป็นวันที่ 5
พล.ต.ต.ธเนษฐกล่าวว่า หลังจากผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ลงนามประกาศใช้พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 ในช่วงที่มีการชุมนุมของภาคีเครือข่ายชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ เมื่อคืนวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ดังกล่าวได้ 4 คนขณะขับรถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปยังจุดชุมนุมที่บ้านศรีนคร พร้อมปืน 9 มม.1 กระบอก กระสุนปืนอีก 10 นัด ระเบิดปิงปอง และระเบิดขวด
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ประกอบด้วย 1.ส.อ.วิษณุ จันทร์สงฆ์ ทหารนอกราชการ อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 132/1 ม.1 ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ยี่ห้อซีแซด ทะเบียน กท.54213457 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 10 นัด
2.เป็นเยาวชน อายุ 16 ปี ชาวบ้านหมู่ 1 ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย พร้อมของกลางระเบิดเพลิงจำนวน 3 ขวด ระเบิดปิงปองแบบลูกเดียวจำนวน 12 ลูก แบบมัดรวมกันเป็นมัดใหญ่ จำนวน 3 ลูก และระเบิดขวดชนิดบรรจุก้อนหินขนาดเล็กๆ อีก 1 ลูก ซึ่งผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่ารับหน้าที่เป็นคนดูต้นทางและเป็นการ์ดประจำจุดด้านทิศเหนือของกลุ่มผู้ชุมนุม
3.นายเอกพล ยันตะลี อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84/8 ม.6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และ 4.นายกิตติคุณ คำพร อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 270/5 ม.6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งผู้ต้องหารายที่ 3 และ 4 ถูกจับกุมในข้อหาห้ามบุคคล หรือกลุ่มบุคคลใดปิดกั้นหรือเข้าในรัศมี 1 กิโลเมตร และให้ออกจากพื้นที่ถนนทางหลวงหมายเลข 4 กิโลเมตรที่ 415 บริเวณหน้าอนามัยบ้านศรีนคร พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน งฉล 709 ชลบุรี
วันเดียวกัน นายสมมุติ สวัสดิ์วิบูลย์ รองนายกเทศมนตรีตำบลบางสะพาน นายพิสิทธิ์ พัฒน์ทอง กำนันตำบลบางสะพาน พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลายร้อยคนได้เดินทางไปที่ถนนสายบางสะพาน-บางสะพานน้อย บริเวณสี่แยกสามเจ้า ระหว่างหมู่ที่ 2 กับหมู่ที่ 5 ต.บางสะพาน อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อประท้วงกรณีการใช้ถนนเส้นดังกล่าวเป็นสายสำรองในการระบายรถขึ้นลงภาคใต้กับกรุงเทพมหานคร แทนการใช้ถนนเพชรเกษมที่เครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ ยังคงปิดถนนอยู่
นายสมมุติ กล่าวว่า ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก หลังมีการปิดถนนเพชรเกษม และใช้ถนนเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านแทน ทำให้การเดินทางของคนในพื้นที่ได้รับความลำบาก อีกทั้งรถบรรทุกหนักทำให้ถนนเกิดความเสียหายมาก เพราะถนนเส้นดังกล่าวเป็นถนนทางหลวงชนบท ใช้ประโยชน์สำหรับในท้องถิ่นเท่านั้น อีกทั้งการทำธุรกิจเกิดความเสียหาย เด็กนักเรียนเดินทางไปโรงเรียนไม่ได้ ร้านอาหาร ธุรกิจท่องเที่ยว ไม่มีใครมาท่องเที่ยว ดังนั้นต้องเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน
นายพิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านสุดที่จะอดกลั่น จึงออกมาเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมที่มาจากจังหวัดต่างๆ ทางภาคใต้นึกถึงความเดือดร้อนของประชาชนคนไทยด้วยกัน และเปิดถนนเพชรเกษมเพื่อคลายความเดือดร้อน
ต่อมาเวลา 14.00 น.รถบรรทุก 6 ล้อที่บรรทุกสับปะรดเพื่อจะไปส่งโรงงานเต็มคันได้ติดหล่มกลางถนนสายรองหมู่ที่ 2 ต.บางสะพาน เนื่องจากถนนเสียหายหมายช่วงหลายจุด ล่าสุดเจ้าหน้าที่จึงต้องห้ามรถบรรทุก ทุกชนิด วิ่งบนถนนสายรองแล้วทำให้การขนส่งสินค้าภาคใต้หยุดชะงักอีกครั้ง ส่วนรถเล็กรถกระบะและรถเก๋งยังสามารถเดินทางได้อย่างช้าๆ
ทางด้านนายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ กล่าวว่า การชุมนุมของชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันจะยังคงปักหลักชุมนุมกันต่อเนื่อง และหลังจากที่มีการประชุมกับแกนนำทั้ง 16 คน เมื่อคืนวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยในประเด็นของเรื่องราคายางที่เรียกร้อง 100 บาทต่อกิโลกรัม โดยส่วนตัวตนเห็นว่าเป็นไปได้ค่อนข้างยากมาก จึงมีความเป็นไปได้ที่จะต้องปรับธงกันใหม่โดยมุ่งเน้นไปที่เงินช่วยเหลือค่าปัจจัยการผลิต 2,520 บาทต่อไร่ที่ทางกลุ่มเรียกร้องให้เกษตรกรทุกคนทุกพื้นที่ทั้งมีเอกสารสิทธิและไม่มีเอกสารสิทธิได้รับการช่วยเหลืออย่างเท่าเทียม ซึ่งรวมไปถึงคนกรีดยางด้วย โดยให้เป็นไปตามกลไกในการเข้าร่วมเป็นไตรภาคีตามที่ตกลงกับ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะยังไม่มีการเปิดถนนหากการเจรจายังไม่บรรลุผล
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจล ตำรวจภูธรภาค 7 จำนวน 4 กองร้อยได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 เส้นทาง เดินเท้าเข้าไปตามถนนเพชรเกษม หลักกิโลเมตรที่ 413 บ้านธรรมรัตน์ ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน และบ้านศรีนคร ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเข้าเคลียร์พื้นที่บนถนนเพชรเกษม ที่มีการตัดต้นไม้ขวางถนนอยู่จำนวนมาก
โดยเจ้าหน้าทีได้พยายามเดินเข้าไปใกล้ต้นไม้ที่ตัดไม้ที่มีการตัดขวางไว้กลางถนน แต่ผู้ชุมนุมได้ยิงหนังสติกเข้าใส่โดยใช้หัวตะกั่ว หัวน๊อต และลูกกระสุน ยิงเข้าใส่ชุดปราบจลาจลอยู่ตลอดเวลา ทำให้โดนโลห์และหมวกของเจ้าหน้าที่มีเสียงดังอยู่ตลอดเวลา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดันขึ้นไป เจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ได้ช่วยกันใช้เลื่อยเครื่องยนต์เร่งตัดต้นไม้ ออกจากถนนเพชรเกษมได้ 2 ต้น แต่ไม่สามารถเดินเข้าไปใกล้ได้อีก เพราะเกรงว่าอาจจะเกิดการปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุม สุดท้ายเจ้าหน้าที่ได้ถอยออกมาจากจุดดังกล่าว และถึงขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดการจราจรบนถนนเพชรเกษมได้
วันเดียวกันนี้ นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่สามารถที่จะดำเนินตามข้อเรียกร้องได้ โดยต้องคงมาตรการในการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบปี 2557 ตามมาตรการเดิม โดยจ่ายเงินชดเชยให้แก่เกษตรกรที่มีพื้นที่ยางเปิดกรีดไม่เกิน 25 ไร่ ในอัตราไร่ละ 2,520 บาท อย่างไรก็ตาม คณะรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้คณะกรรมการตรวจสอบพื้นที่เปิดกรีดระดับตำบล เร่งตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือเกษตร จำนวน 76,000 กว่าราย ที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ในการขอรับการช่วยเหลือแล้ว