xs
xsm
sm
md
lg

ม็อบยางเสียงแตกแกนนำบางคนถอนตัว ตร.เตรียมพร้อม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประจวบคีรีขันธ์ - กลุ่มผู้ชุมนุมสวนยางเสียงแตก ทั้งยอมรับ และไม่ยอมรับข้อเสนอในการเจรจาต่อรองกับรัฐบาล แกนนำบางคนขอถอนตัวพ้นผู้ประสานงาน ชี้ไม่เห็นด้วยกับการปิดถนนเพชรเกษมสร้างความเดือดร้อนกระทบเศรษฐกิจ ด้านตำรวจเตรียมพร้อม ขณะที่ ผบก.ประจวบฯ เปิดใจไม่ได้กลั่นแกล้งใคร ยันปฏิบัติตามหน้าที่ และกฎหมาย

วันนี้ (29 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความความเคลื่อนไหวในการชุมนุมของภาคีเครือข่ายชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ ยังคงปักหลักชุมนุมที่ริมถนนเพชรเกษม ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 415-416 พร้อมกับตั้งเวทีปราศรัยด้านข้างโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บ้านศรีนคร หมู่ 7 ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นวันที่ 4 เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือราคาผลผลิตยางพาราตกต่ำ และมอบเงินปัจจัยการผลิตให้แก่ชาวสวนยางที่ไม่มีเอกสารสิทธิ ว่า ช่วงเวลา 08.30 น. วันนี้ นายสมพร ปัจฉิมเพชร นายอำเภอบางสะพานน้อย ได้เดินทางไปเจรจากับนายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายฯ ที่เวทีปราศรัย แต่การเจราจายังไม่มีข้อยุติ โดยนายทศพล ยืนยันที่จะเรียกร้องตามข้อเสนอทั้งหมด 5 ข้อ และขอทราบคำตอบภายในเวลา 18.00 น. วันนี้

เวลา 09.30 น. แกนนำภาคีเครือข่ายได้ประชุมเพื่อหาข้อสรุปในการเรียกร้อง โดยมีการโทรศัพท์พูดคุยกับ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เพื่อขอให้รัฐบาลรับเงื่อนไข และพร้อมจะเปิดถนนเพชรเกษมทันที โดยเฉพาะแนวทางช่วยเหลือปัจจัยการผลิตให้แก่ชาวสวนยางที่ไม่มีเอกสารสิทธิ หากใช้เวลา 1 เดือน ถือว่าล่าช้าเกินไป และขอคำตอบจากรัฐบาลในเวลา 18.00 น. วันนี้ว่าจะช่วยเหลือผู้ที่ไม่มีเอกสารสิทธิได้หรือไม่

ต่อมา นายทศพล ขวัญรอด ประธานเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ และแกนนำฯ ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายทศพล กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้รับโทรศัพท์จาก พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้ภาคีเครือข่ายแต่งตั้งคณะกรรมการเข้าไปเพื่อจัดตั้งเป็นไตรภาคีตามที่รัฐบาลเสนอว่าจะให้เกษตรกรที่ด้อยโอกาสที่ปลูกยางในพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ ได้รับเงินช่วยเหลือโดยเท่าเทียมกัน แต่ตัวแทนของภาคีเครือข่ายไม่ยอมรับมตินี้ ซึ่งยังคงขอยืนยันว่า ข้อ 1.ต้องให้ราคายางกิโลกรัมละ 100 บาท ปาล์มน้ำมันกิโลกรัมละ 6 บาท ข้อ 2.ให้ย้าย พล.ต.ต.ธเนตฐ สุนทรสุข ผบก.ตร.ภ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อ 3.ให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการรับรองสิทธิทำกินให้เกษตรกรโดยเร็ว และข้อ 4.อีกทั้งต้องไม่เอาผิดต่อผู้ชุมนุม ซึ่งจะรอฟังคำตอบในเวลา 18.00 น. ของวันนี้

ด้าน พล.ต.ต.ธเนตฐ สุนทรสุข ผบก.ตร.ภ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดใจว่า การที่จะย้ายตนนั้นไม่ทราบว่าจะเป็นประโยชน์ต่อใคร ซึ่งตนอยู่ จ.ประจวบคีรีขันธ์มา 1 ปีเต็มไม่เคยกลั่นแกล้งใคร ซึ่งการที่ตนเองสลายม็อบปิดถนนเมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ถ้าเขาคิดว่าตนไม่ทำงานตามหน้าที่ก็ให้ตั้งทนายฟ้องมาได้ และไปว่ากันที่ศาล หากแพ้ก็จะฟ้องกลับ ในส่วนของผู้บังคับบัญชาจะดำเนินการอย่างไรนั้นก็เป็นความเห็นของผู้บังคับบัญชา

“แต่ผมยืนยันว่าผมทำตามหน้าที่สุดความสามารถ การเรียกร้องให้ย้ายผมนั้นเป็นประโยชน์แก่ใคร ในขณะที่ผู้บังคับบัญชาให้กำลังใจในการทำงานตลอด” พล.ต.ต.ธเนตฐ กล่าวว่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังที่ประชุมไตรภาคีเมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไตรภาคีขึ้นมาพิจารณาข้อเรียกร้องต่างๆ แต่ขอให้ผู้ชุมนุมเปิดถนน แต่ปรากฏว่า ผู้ชุมนุมบางส่วนมีมติไม่ยอมรับข้อเสนอ และไม่เปิดถนน โดยต้องการได้ข้อสรุปเรื่องการช่วยเหลือจากรัฐบาลภายในเวลา 18.00 น. วันนี้ (29 ต.ค.) ไม่เช่นนั้นจะเคลื่อนขบวนไปปิดถนนเส้นเลียบชายทะเลบางสะพานที่เป็นเพียงเส้นทางเลี่ยงเส้นเดียวที่ใช้สัญจรขึ้น-ล่องภาคใต้ อย่างไรก็ตาม แกนนำและผู้ชุมนุมบางส่วนยอมรับข้อเสนอ และไม่เห็นด้วยที่จะยกระดับการชุมนุม โดยได้ประกาศยุติบทบาท และเดินทางออกจากที่ชุมนุมไป

นายจำลอง ดีทองอ่อน แกนนำภาคีเครือข่ายชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ กล่าวว่า ตนได้ประกาศยุติบทบาทในการทำหน้าที่ผู้ประสานงานของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์แล้ว เนื่องจากส่วนตัวต้องการใช้หลักการเจราจาต่อรองเพื่อหาทางออก และยุติปัญหาการปิดถนนเพชรเกษม ซึ่งสร้างความเดือดร้อน และสร้างความเสียหายให้แก่เศรษฐกิจในพื้นที่

ทั้งนี้ เงื่อนไขเวลาในการเจรจาภายใน 30 วัน กรณีของผู้ไม่มีเอกสารสิทธิควรให้โอกาสรัฐบาลพิจารณา ซึ่งข้อเท็จจริงอาจจะดำเนินการเสร็จได้ภายใน 3-7 วัน แต่การเรียกร้องแบบหักดิบโดยใช้ความรุนแรงไปต่อรองเชื่อว่าจะไม่เกิดประโยชน์แก่ชาวบ้านที่มาชุมนุม และผลประโยชน์ที่ชาวบ้านจะได้รับจึงขอยุติการทำหน้าที่

สำหรับแกนนำในการเคลื่อนไหวได้ปฏิเสธการให้ข้อมูลกรณีการยุติบทบาทของนายจำลอง และขณะนี้ นายวัชรพล ควรเพิ่ม แกนนำการเคลื่อนไหวจาก จ.นครศรีธรรมราช จะทำหน้าที่แกนนำหลัก ทั้งนี้ มีการประเมินว่าหากภาคีเครือข่ายยังมีเงื่อนไขต่อรองในข้อเสนอที่รัฐบาลไม่สามารถดำเนินการได้ คาดว่าสถานการณ์การชุมนุมจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น และมีความเสี่ยงต่อการถูกสลายการชุมนุม

ขณะที่มีตำรวจปราบปราบจราจล (ปจ.) จากตำรวจภูธรภาค 7 และภาค 8 สนธิกำลังจำนวนกว่า 5,000 นาย เตรียมความพร้อมในพื้นที่ อ.บางสะพาน และ อ.บางสะพานน้อย และบางส่วนได้จัดวางกำลังเพื่อป้องกันการปิดถนนสายบางสะพาน-หนองหัดไท ซึ่งเป็นถนนสายรอง

**ผู้ว่าฯ ประจวบฯ เน้นเจรจาม็อบยาง

เวลา 15.00 น. วันนี้ (29 ต.ค.) นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เรียกประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและผู้นำชุมชนที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอบางสะพาน เพื่อแก้ปัญหาการชุมนุมของชาวสวนยางในพื้นที่บ้านศรีนคร อ.บางสะพานน้อย ซึ่งชุมนุมมาถึง 4 วันแล้ว เกรงว่าจะกระทบกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะภาคการขนส่งผ่านถนนเพชรเกษมสู่ 14 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เน้นย้ำใช้วิธีการเจรจาสร้างความเข้าใจเป็นสำคัญ

ด้านนายกฤษดา หมวดน้อย เจ้าหน้าที่ประจำสถานีขนส่ง อ.บางสะพาน รายงานว่า การปิดถนนเพชรเกษมกระทบต่อการเดินทางของประชาชนจากภาคใต้ไปภาคอื่น โดยเฉพาะในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จ.ภูเก็ต และ จ.กระบี่ ผู้ประกอบการรถโดยสารได้ลดจำนวนเที่ยวในการรับ-ส่งผู้โดยสาร เนื่องจากการเดินทางผ่านเส้นทางเลี่ยงที่ อ.บางสะพาน ถึง อ.บางสะพานน้อย ระยะทาง 30 กิโลเมตร ต้องเสียเวลากว่า 4 ชั่วโมง














กำลังโหลดความคิดเห็น