แผนการล้างความผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรถูกขีดเส้นไว้แล้ว ไม่ว่าจะถูกกระแสต่อต้านอย่างไร แต่พรรคเพื่อไทยประกาศเดินหน้าชนอย่างเดียว
ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่ง บรรจุเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ อย่างเร่งด่วน และกำหนดให้ผ่านวาระ 3 ในวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายนนี้
พ.ต.ท.ทักษิณกำลังฝันหวานอยู่ โดยปลายปีนี้อาจได้กลับบ้านเสียที หลังจากรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ช่วยชำระล้างมลทินให้อย่างหมดจด ไม่ต้องติดคุกติดตะรางใดๆ
แต่ประชาชนจะยอมให้พ.ต.ท.ทักษิณลอยนวล กลับมาเป็นใหญ่ และทำร้ายประเทศอีกหรือ
การประกาศหักด่านผลักดันพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ท่ามกลางกระแสต่อต้านที่หนักหน่วง จนอาจนำไปสู่การเผชิญหน้าครั้งสำคัญ สะท้อนให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณมั่นใจว่า ไม่มีใครสามารถขัดขวางการกลับมากุมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จได้
และพ.ต.ท.ทักษิณก็มีสิทธิ์ที่จะคิดเข้าข้างตัวเอง เพราะมีลูกสมุนและขี้ข้าคอยรับใช้อยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ไม่ว่านักการเมือง ข้าราชการ โดยเฉพาะตำรวจ และทหารบางส่วน
ขวากหนามที่เหลืออยู่อันเดียวคือ ประชาชนกลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณเท่านั้น
พ.ต.ท.ทักษิณคงประเมินแล้ว เชื่อว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์จะเอาอยู่ คุมการลุกฮือต่อต้านของประชาชนได้ โดยใช้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเครื่องมือในการปราบ
ถ้าประเมินกระแสต่อต้านของประชาชนถูก “ทักษิณ” คงได้กลับบ้านมาเสวยสุขเสียที
แต่ใครจะประเมินกระแสต่อต้านของประชาชนได้
แม้ว่าประชาชนจะออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการบริหารประเทศของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เป็นระยะตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่เคยมีวาระใดที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะเรียกแขกได้เท่ากับการผลักดันพ.ร.บ.ล้างผิดให้พี่ชายตัวเอง
พรรคเพื่อไทยกำลังเหยียบย่ำกระบวนการยุติธรรม เพื่อช่วยเหลือคนเพียงคนเดียว คำถามคือ ประชาชนส่วนใหญ่จะนิ่งดูดาย ทำเป็นเมินเฉย ไม่รู้ร้อนรู้หนาว
ไม่ใส่ใจต่อการปกป้องสังคม และปล่อยให้ “ทักษิณ” ทำอะไรตามใจชอบ เหมือนประเทศไทยอยู่ใต้ฝ่าเท้าตระกูลชินวัตรหรือ
ไม่มีใครอีกแล้วที่จะขวาง “ทักษิณ” ได้ นอกจากประชาชน เพราะจะหวังพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้ บรรดาผู้นำเหล่าทัพก็ดูเหมือนจะศิโรราบไปแล้ว โดยคลิปนายพลถั่งเช่า น่าจะเป็นบทพิสูจน์จุดยืนของผู้นำกองทัพได้ดี
“ทักษิณ” กำลังลำพอง จึงสั่งสมุนบริวารเดินหน้าเต็มตัว ออกกฎหมายล้างผิดตัวเองให้ได้ ไม่กลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับใคร ไม่กังวลที่บ้านเมืองจะต้องลุกเป็นไฟ
เพราะถ้าจะรบกัน พ.ต.ท.ทักษิณและตระกูลชินวัตร ไม่ได้ออกมารบด้วย แต่บงการให้เหล่าขี้ข้าออกมารบแทน ถ้าจะเกิดความสูญเสียบาดเจ็บล้มตาย ก็ปล่อยให้มวลชนระดับรากหญ้ารับกรรมแทน เช่นเดียวกับเหตุการณ์ 19 พฤษภาคม 2553
หากพ่ายแพ้ กฎหมายนิรโทษกรรมไม่ผ่าน “ทักษิณ” ไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ แต่ถ้าชนะ เส้นทางกลับมารวบอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จก็อยู่แค่เอื้อม
แต่ “ทักษิณ” คิดง่ายเกินไปหรือเปล่า ประเมินกระแสต่อต้านของประชาชนต่ำไปหรือไม่
แม้ปฏิกิริยาการตื่นตัวในการต่อต้านระบอบทักษิณจะน้อยไปหน่อย แต่ไม่ได้หมายความว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ หรือยอมปล่อยให้ “ทักษิณ” ลอยนวล
ช่วงเวลา 2 ปีเศษที่นางสาวยิ่งลักษณ์บริหารประเทศ กลุ่มคนที่เคยศรัทธาระบอบทักษิณมีจำนวนลดลง ขณะที่กลุ่มคนที่ชิงชังและต่อต้านเพิ่มปริมาณมากขึ้น
เพียงแต่คนที่ชิงชัง “ทักษิณ” ยังไม่ถึงเวลาที่จะแสดงออกเท่านั้น
แต่กฎหมายนิรโทษกรรมเหมาเข่ง กำลังจุดชนวนให้คนทุกกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ลุกฮือขึ้นมาพร้อมกัน เพื่อประกาศเจตนารมณ์ร่วมกัน
ประเทศนี้จะไม่ยอมให้ตระกูลชินวัตรปกครอง ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีวันยอมก้มหัวให้ “ทักษิณ”
ใครก็ตามที่มีสำนึกในการปกป้องประเทศ ใครก็ตามที่เห็นแล้วว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์กำลังทำให้ชาติพินาศ และใครก็ตามที่ชิงชังระบอบทักษิณ ถึงเวลาแล้วที่ต้องออกมาแสดงพลังต่อต้าน
อย่าถามว่า ประชาชนกลุ่มไหนจะร่วมขบวนขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ถามตัวเองก่อนว่า จะทนเห็นกระบวนการยุติธรรมถูกทำลายได้หรือไม่ ทนไหวไหมที่พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาอย่างวีรบุรุษ และทนให้นางสาวยิ่งลักษณ์เป็นผู้นำประเทศ ทำให้ประชาชนคนไทยอับอายคนทั่วโลกต่อไปหรือ
เมื่อทนไม่ได้ อย่าเพียงแต่บ่นหรือด่าอยู่ในบ้าน ลุกกันออกมาเดินหน้าที่อุรุพงษ์ รวมพลังกับประชาชนที่ปักหลักต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่แล้ว
ถึงเวลาที่ต้องประกาศให้พ.ต.ท.ทักษิณรู้ว่า อย่าเหิมเกริมเกินไป อย่าคิดอะไรง่ายๆ อย่าคิดว่า ประชาชนส่วนใหญ่จะมีสันดานเป็นขี้ข้าเหมือนนักการเมืองหรือข้าราชการ
ถึงเวลาที่ต้องแตกหักแล้ว ให้รู้กันไปว่า ประเทศนี้ไม่มีใครขวาง “ทักษิณ” ได้ ให้รู้กันไปว่า ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ ยอมก้มหัวให้ตระกูลชินวัตรแล้ว
ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่ง บรรจุเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ อย่างเร่งด่วน และกำหนดให้ผ่านวาระ 3 ในวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายนนี้
พ.ต.ท.ทักษิณกำลังฝันหวานอยู่ โดยปลายปีนี้อาจได้กลับบ้านเสียที หลังจากรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ช่วยชำระล้างมลทินให้อย่างหมดจด ไม่ต้องติดคุกติดตะรางใดๆ
แต่ประชาชนจะยอมให้พ.ต.ท.ทักษิณลอยนวล กลับมาเป็นใหญ่ และทำร้ายประเทศอีกหรือ
การประกาศหักด่านผลักดันพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ท่ามกลางกระแสต่อต้านที่หนักหน่วง จนอาจนำไปสู่การเผชิญหน้าครั้งสำคัญ สะท้อนให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณมั่นใจว่า ไม่มีใครสามารถขัดขวางการกลับมากุมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จได้
และพ.ต.ท.ทักษิณก็มีสิทธิ์ที่จะคิดเข้าข้างตัวเอง เพราะมีลูกสมุนและขี้ข้าคอยรับใช้อยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ไม่ว่านักการเมือง ข้าราชการ โดยเฉพาะตำรวจ และทหารบางส่วน
ขวากหนามที่เหลืออยู่อันเดียวคือ ประชาชนกลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณเท่านั้น
พ.ต.ท.ทักษิณคงประเมินแล้ว เชื่อว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์จะเอาอยู่ คุมการลุกฮือต่อต้านของประชาชนได้ โดยใช้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเครื่องมือในการปราบ
ถ้าประเมินกระแสต่อต้านของประชาชนถูก “ทักษิณ” คงได้กลับบ้านมาเสวยสุขเสียที
แต่ใครจะประเมินกระแสต่อต้านของประชาชนได้
แม้ว่าประชาชนจะออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการบริหารประเทศของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เป็นระยะตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่เคยมีวาระใดที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะเรียกแขกได้เท่ากับการผลักดันพ.ร.บ.ล้างผิดให้พี่ชายตัวเอง
พรรคเพื่อไทยกำลังเหยียบย่ำกระบวนการยุติธรรม เพื่อช่วยเหลือคนเพียงคนเดียว คำถามคือ ประชาชนส่วนใหญ่จะนิ่งดูดาย ทำเป็นเมินเฉย ไม่รู้ร้อนรู้หนาว
ไม่ใส่ใจต่อการปกป้องสังคม และปล่อยให้ “ทักษิณ” ทำอะไรตามใจชอบ เหมือนประเทศไทยอยู่ใต้ฝ่าเท้าตระกูลชินวัตรหรือ
ไม่มีใครอีกแล้วที่จะขวาง “ทักษิณ” ได้ นอกจากประชาชน เพราะจะหวังพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้ บรรดาผู้นำเหล่าทัพก็ดูเหมือนจะศิโรราบไปแล้ว โดยคลิปนายพลถั่งเช่า น่าจะเป็นบทพิสูจน์จุดยืนของผู้นำกองทัพได้ดี
“ทักษิณ” กำลังลำพอง จึงสั่งสมุนบริวารเดินหน้าเต็มตัว ออกกฎหมายล้างผิดตัวเองให้ได้ ไม่กลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับใคร ไม่กังวลที่บ้านเมืองจะต้องลุกเป็นไฟ
เพราะถ้าจะรบกัน พ.ต.ท.ทักษิณและตระกูลชินวัตร ไม่ได้ออกมารบด้วย แต่บงการให้เหล่าขี้ข้าออกมารบแทน ถ้าจะเกิดความสูญเสียบาดเจ็บล้มตาย ก็ปล่อยให้มวลชนระดับรากหญ้ารับกรรมแทน เช่นเดียวกับเหตุการณ์ 19 พฤษภาคม 2553
หากพ่ายแพ้ กฎหมายนิรโทษกรรมไม่ผ่าน “ทักษิณ” ไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ แต่ถ้าชนะ เส้นทางกลับมารวบอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จก็อยู่แค่เอื้อม
แต่ “ทักษิณ” คิดง่ายเกินไปหรือเปล่า ประเมินกระแสต่อต้านของประชาชนต่ำไปหรือไม่
แม้ปฏิกิริยาการตื่นตัวในการต่อต้านระบอบทักษิณจะน้อยไปหน่อย แต่ไม่ได้หมายความว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ หรือยอมปล่อยให้ “ทักษิณ” ลอยนวล
ช่วงเวลา 2 ปีเศษที่นางสาวยิ่งลักษณ์บริหารประเทศ กลุ่มคนที่เคยศรัทธาระบอบทักษิณมีจำนวนลดลง ขณะที่กลุ่มคนที่ชิงชังและต่อต้านเพิ่มปริมาณมากขึ้น
เพียงแต่คนที่ชิงชัง “ทักษิณ” ยังไม่ถึงเวลาที่จะแสดงออกเท่านั้น
แต่กฎหมายนิรโทษกรรมเหมาเข่ง กำลังจุดชนวนให้คนทุกกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ลุกฮือขึ้นมาพร้อมกัน เพื่อประกาศเจตนารมณ์ร่วมกัน
ประเทศนี้จะไม่ยอมให้ตระกูลชินวัตรปกครอง ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีวันยอมก้มหัวให้ “ทักษิณ”
ใครก็ตามที่มีสำนึกในการปกป้องประเทศ ใครก็ตามที่เห็นแล้วว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์กำลังทำให้ชาติพินาศ และใครก็ตามที่ชิงชังระบอบทักษิณ ถึงเวลาแล้วที่ต้องออกมาแสดงพลังต่อต้าน
อย่าถามว่า ประชาชนกลุ่มไหนจะร่วมขบวนขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ถามตัวเองก่อนว่า จะทนเห็นกระบวนการยุติธรรมถูกทำลายได้หรือไม่ ทนไหวไหมที่พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาอย่างวีรบุรุษ และทนให้นางสาวยิ่งลักษณ์เป็นผู้นำประเทศ ทำให้ประชาชนคนไทยอับอายคนทั่วโลกต่อไปหรือ
เมื่อทนไม่ได้ อย่าเพียงแต่บ่นหรือด่าอยู่ในบ้าน ลุกกันออกมาเดินหน้าที่อุรุพงษ์ รวมพลังกับประชาชนที่ปักหลักต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่แล้ว
ถึงเวลาที่ต้องประกาศให้พ.ต.ท.ทักษิณรู้ว่า อย่าเหิมเกริมเกินไป อย่าคิดอะไรง่ายๆ อย่าคิดว่า ประชาชนส่วนใหญ่จะมีสันดานเป็นขี้ข้าเหมือนนักการเมืองหรือข้าราชการ
ถึงเวลาที่ต้องแตกหักแล้ว ให้รู้กันไปว่า ประเทศนี้ไม่มีใครขวาง “ทักษิณ” ได้ ให้รู้กันไปว่า ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ ยอมก้มหัวให้ตระกูลชินวัตรแล้ว