xs
xsm
sm
md
lg

สภา(ปาหี่) ปฏิรูป

เผยแพร่:   โดย: สุนันท์ ศรีจันทรา

การเดินหน้าจัดตั้งสภาปฏิรูปการเมือง กำลังดำเนินไปในลักษณะถูลู่ถูกัง และแม้จะถูกตอบรับด้วยกลุ่มคนเพียงฝ่ายเดียว หรือเป็นเพียงการตบมือเพียงข้างเดียว แต่รัฐบาลคงดันทุรังออกมาจนได้

กลุ่มที่เห็นต่างประกาศจุดยืนชัด ไม่ขอร่วมสังฆกรรมกับรัฐบาล เพราะไม่เชื่อว่า สภาปฏิรูปฯ จะนำไปสู่การสร้างความปรองดองในสังคม

แต่เป็นความพยายามสร้างภาพเพื่อกลบเกลื่อนกระแสต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเท่านั้น เพราะถ้าต้องการสร้างความปรองดองจริง ทำไมต้องจุดชนวนความแตกแยกครั้งใหม่

ทำไมไม่ถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกจากสภาฯ ก่อน เพื่อให้ทุกฝ่ายมาร่วมจับเข่าหารือกันว่า ควรจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมหรือไม่

รัฐบาลตั้งธงไว้ชัดเจนแล้วว่า จะต้องออกกฎหมายล้างความผิดให้พวกพ้องก่อน โดยไม่ยอมฟังเสียงคัดค้านจากฝ่ายใด และแม้จะเสี่ยงต่อการเผชิญหน้า หรือเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง แต่พรรคเพื่อไทยก็ยืนกรานผ่าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้ได้

คำประกาศการสร้างความปรองดอง เป็นเพียงโฆษณาชวนเชื่อ เป็นเพียงการสร้างภาพเท่านั้น แต่ความเป็นจริงกับตรงกันข้าม เพราะรัฐบาลเป็นผู้จุดชนวนความแตกแยกเสียเอง

รัฐบาลเรียกร้องให้คนกลุ่มต่างๆ ฟัง แต่รัฐบาลไม่เคยฟังเสียงใครเลย จึงไม่แปลกที่ไม่มีใครตอบรับเข้าร่วมสภาปฏิรูปฯ เว้นแต่นักการเมืองประเภท “ขี้ข้า” หรือไม่ก็เป็นนักวิชาการและนักการเมืองแก่ที่ยังมีกิเลสในตำแหน่ง

การสร้างความปรองดองในสังคม ไม่ใช่แนวความคิดใหม่ เพราะเคยมีความพยายามมาแล้วจากกลุ่มคนที่ไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใดเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องล้มเลิกไป

เนื่องจากไม่สามารถอธิบายให้ทุกฝ่ายเห็นอย่างเป็นรูปธรรมได้ว่า จะดำเนินแนวทางอย่างไร เพื่อนำไปสู่ความปรองดองที่แท้จริงใด

ใครจะไปเจรจาให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยอมถอย เลิกเคียดแค้น เลิกคิดจะกลับมากุมอำนาจ และที่สำคัญคือ ยอมรับในกติกาของสังคม

การตระเวนเที่ยวเจรจากับฝ่ายโน้นฝ่ายนี้ และทึกทักเอาว่า จะสร้างความปรองดองได้ เป็นเพียงแค่ความเพ้อฝัน เพราะแม้จะคุยกับคนเพื่อไทยทั้งพรรค คุยกับคนในรัฐบาลทั้งคณะ เจรจาจนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรียอมรับในเงื่อนไขได้

ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมเสียคนเดียว แผนการปรองดองต้องล่มสลาย สูญเวลาเปล่าในทันที

เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ทั้งชุด พรรคเพื่อไทยทั้งหมดอยู่ภายใต้การบงการของพ.ต.ท.ทักษิณเพียงคนเดียว และรู้กันอยู่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีวันยอมเสียสละ ไม่มีวันถอย ไม่มีวันยอมรับกติกาใดๆ ถ้าตัวเองไม่ได้ประโยชน์

แผนการสร้างความปรองดองที่ถูกปลุกขึ้นมาใหม่ รัฐบาลประกาศตัวเป็นเจ้าภาพ จัดตั้งทีมเดินสาย ชักจูง หว่านล้อมให้ใครต่อใครเข้าร่วม เพื่อให้การสร้างภาพดูสมจริงสมจัง

แต่นักการเมืองหรือนักวิชาการที่ตอบรับคำเชิญแทบจะทันที ส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองที่ถูกสังคมประทับตราเป็น “ขี้ข้า” พ.ต.ท.ทักษิณแทบทั้งสิ้น

ที่ดูหน้าใหม่หน่อยมีเพียงนายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น ซึ่งการตอบรับคำชวน สร้างความประหลาดใจไม่น้อย แต่พอทำความเข้าใจได้

นายพิชัยถอยห่างจากเวทีการเมืองไปนาน ไม่มีบทบาทอะไรเหลืออยู่ เมื่อมีตำแหน่งมาล่อ เมื่อถูกเชิดให้มีความสำคัญอีกครั้ง จึงคว้าไว้ทันที

เพราะไม่มีเหตุผลใดที่จะร่วมในการปาหี่ครั้งนี้ ถึงแม้จะอายุมาก แต่นายพิชัยจะไม่รู้หรือว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์เล่ห์จัดขนาดไหน

นายพิชัยเชื่อจริงๆ หรือว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์มุ่งมั่นที่จะทำให้สังคมไทยเกิดความปรองดองเหนือสิ่งอื่นใด ตั้งใจจะนำความปรองดองมากกว่านำพ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้าน

สำหรับกลุ่มที่ไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือในการ “ปาหี่” ปฏิรูปการเมืองครั้งใหม่ จะถูกป้ายสีทันที ถูกกล่าวหาจากบรรดา “ขี้ข้า” พ.ต.ท.ทักษิณว่าเป็นตัวถ่วง เป็นคนที่ไม่อยากเห็นความปรองดอง

ใครบ้างล่ะที่ไม่อยากเห็นสังคมเกิดความปรองดอง ใครบ้างล่ะที่ไม่ต้องการเห็นบ้านเมืองสงบสุข แต่จะให้ร่วมมือกับคนที่สร้างความแตกแยก จะให้ตกเป็นเครื่องมือของการสร้างภาพ เพื่อประคับประคองอำนาจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ให้คงอยู่ต่อไป มีแต่คนบ้าๆ หรือคนประเภทขี้ข้าเท่านั้นที่ยอม

แผนการเดินหน้าตั้งสภาปฏิรูปการเมือง แม้รู้ทั้งรู้กันว่า เป็นการสร้างประเด็น เพื่อเบี่ยงกระแสการต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และเป็นการ “ปาหี่” ระดับชาติครั้งใหม่

แต่แม้จะรู้ทั้งรู้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ดื้อด้านพอที่จะทำ และแม้จะรู้ทั้งรู้ว่า คนที่ร่วม “ปาหี่” ครั้งนี้ ล้วนเป็นสาย “ขี้ข้า” ทักษิณ แต่ก็จะดันทุรังจนได้

ใครไม่เล่นด้วย “ยิ่งลักษณ์” ตบมือข้างเดียวก็เอา ด้านเสียอย่างเดียว ทำได้ทุกอย่าง
กำลังโหลดความคิดเห็น