การเคลื่อนไหวแสดงออกทางการเมืองอย่างสงบของกลุ่มคนหน้ากากขาว กลายเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรไปเสียแล้ว แม้จะเป็นการใช้สิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนภายใต้รัฐธรรมนูญก็ตาม
เพราะไม่เพียงการคุกคาม ข่มขู่ และใช้อำนาจรัฐสกัดกั้นความเคลื่อนไหวในทุกรูปแบบเท่านั้น แต่ยังสั่งคนเสื้อแดงตามรังควานแทบทุกหลายพื้นที่อีกด้วย
การเผชิญหน้าระหว่างคนหน้ากากขาวกับคนเสื้อแดง มีสัญญาณความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจถึงจุดระเบิดขึ้นวันใดวันหนึ่ง
เพราะไม่มีใครทนกลุ่มอันธพาลจัดตั้งได้ตลอด
สำหรับรัฐบาลคงไม่ยอมปล่อยให้กระแสคนหน้ากากขาวขยายตัวต่อไปแน่ เพราะการเติบโตของกระแส หมายถึงจุดจบของรัฐบาล แต่จะหยุดยั้งคนหน้ากากขาวที่ขยายตัวเป็นไฟลามทุ่งได้อย่างไร
ใบสั่งดับกระแสหน้ากากขาวถูกส่งมาแล้ว โดยลูกสมุนทำหน้าที่ออกมาเห่า ขณะที่ขี้ข้าตัวเอ้ออกมาหอนเป็นรายวัน ส่วนอันธพาลเสื้อแดงถูกสั่งให้ออกมาก่อกวน
วิธีการสกปรกโสโครกทุกชนิด ถูกนำมาใช้เพื่อทำลายกลุ่มคนหน้ากากขาว
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี แสดงการคุกคาม โดยเตือนให้ระวังการสร้างสถานการณ์จากมือที่สาม เตือนเรื่องระเบิดในที่ชุมนุม เพื่อทำลายขวัญของคนหน้ากากขาว
อันธพาลเสื้อแดงในหลายพื้นที่ ถูกสั่งให้ระดมพลเพื่อขัดขวางการชุมนุม
ข้าราชการบางคน แสดงตัวเป็นขี้ข้าอย่างไม่อายใจ ออกมากำราบกลุ่มคนหน้ากากขาว เตือนระวังจะถูกทำร้ายฟรี โดยกฎหมายเอาผิดไม่ได้ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
คนเสื้อแดงจะชุมนุมสร้างความเดือดร้อนรำคาญอย่างไร แสดงตัวเป็นอันธพาลขนาดไหน เที่ยวระรานทำร้ายใคร ไม่รู้ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน แต่ประชาชนที่สวมหน้ากากขาวชุมนุมโดยสงบ กลับโกรธเป็นฟื้นเป็นไฟ
ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ได้ตำแหน่งเพราะยอมก้มหัวรับใช้ตระกูลชินวัตร อาสาเป็นขี้ข้ารัฐบาลยิ่งลักษณ์หรือไม่ ความจริงไม่จำเป็นต้องแสดงตัวถึงขนาดออกมาทำหน้าที่เป็นองครักษ์พิทักษ์มารก็ได้
ไม่จำเป็นต้องประกาศให้คนทั้งประเทศรู้ก็ได้ว่า เป็นข้าราชการกินเงินเดือนภาษีของประชาชน แต่ทำงานขึ้นตรงต่อระบอบทักษิณ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เคยปรามาสคนหน้ากากขาวว่า เป็นคนเพียงหยิบมือเดียว แต่วันนี้คนหน้ากากขาว ทำให้ “เฉลิม” ต้องดิ้นทุรนทุราย และทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นอนไม่หลับ
จนต้องยกระดับประเด็นการทำลายล้างคนหน้ากากขาว เป็นวาระเร่งด่วนของรัฐบาลยิ่งลักษณ์
รัฐมนตรีหลายคนออกมาเรียงหน้าเห่าหอน ข้าราชการหน้าขี้ข้าบางคนออกมาข่มขู่ และมีการสร้างข่าวบิดเบือนใส่ร้ายป้ายสี อ้างว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย มีเป้าหมายล้มล้างรัฐบาล ล้มล้างเจ้า แม้แต่อดีตนายกฯ ผีตายซากอย่างนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ยังไม่วาย อ้างกฎหมายระบุโทษหนักถึงประหาร สำหรับคนที่คิดล้มล้างรัฐบาล
คนหน้ากากขาว ไม่ได้ลุกฮือขึ้นมาล้มรัฐบาล แต่รวมพลังกันออกมาไล่ แม้จะรู้ว่า รัฐบาลชุดนี้หน้าทน จน “คอ-นก-รีด” เรียกพี่ก็ตาม
ความพยายามทำลายล้างคนหน้ากากขาว มีเป้าหมายเพื่อดับชนวนการขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพราะไม่ว่าจะใส่หน้ากากอะไร หรือไม่ใส่หน้ากากเลย แต่ถ้าชุมนุมเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลจะถูกสกัดกั้นทันที และพร้อมจะใช้อำนาจมืดหรือวิธีการที่ป่าเถื่อน
ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ถูกจำกัดสิทธิเฉพาะคนเสื้อแดงเท่านั้น จะทำตัวเป็นอันธพาลกวนเมือง หรือกระทั่งเผาบ้านเผาเมือง ก็ถือว่าไม่ผิด
ความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่าง เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามระบอบประชาธิปไตย แต่สำหรับประเทศไทยในพ.ศ.นี้ ใครคิดต่างกับรัฐบาล จะถูกขึ้นบัญชีเป็นศัตรู และถูกหมายหัวทำลายล้าง โดยนายเอกยุทธ อัญชันบุตร อาจเป็นเหยื่ออีกราย
การกำจัดฝ่ายที่เห็นต่าง การทำลายล้างฝ่ายที่ต่อต้านระบอบทักษิณจะดำเนินต่อไป เพื่อสถาปนารัฐบาลยิ่งลักษณ์ให้กุมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ และกดหัวประชาชนทั้งประเทศไม่ให้หือ
กระแสกลุ่มคนหน้ากากขาวที่บานสะพรั่ง ยกระดับขึ้นมาเป็นพลังมวลชนที่ไม่อาจประเมินศักยภาพต่ำๆ ได้ ทำให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์หวาดเกรง และพยายามดับกระแสให้เร็วที่สุด โดยบงการให้อันธพาลเสื้อแดงออกมาอาละวาด
สวัสดิภาพความปลอดภัยของกลุ่มคนหน้ากากขาว แม้จะน่าเป็นห่วง เพราะจะเจอกับวิธีการที่สกปรก ป่าเถื่อนและสามานย์
แต่สิ่งที่น่าดีใจคือ ความเคลื่อนไหวของคนหน้ากากขาว กำลังทำให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ลาน จนต้องส่งขี้ข้าออกมาเห่าหอนขู่เป็นรายวัน
กระแสคนหน้ากากขาวจุดติดแล้ว ธงสัญลักษณ์การขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์โบกสะบัดทั่วประเทศแล้ว รอวันเวลาสุกงอมเพื่อหลอมรวมคนทุกกลุ่มจากทั่วประเทศเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้น
รัฐบาลอาจสยบคนหน้ากากขาวในบางพื้นที่ได้ แต่ไม่อาจสยบคนหน้ากากขาวทั้งประเทศได้ และไม่อาจสยบกระแสขับไล่รัฐบาลที่กำลังลุกโชนได้
นางสาวยิ่งลักษณ์ควรจะรู้ตัวว่า ถ้ามีรัฐบาลที่ดี ใครจะไปไล่ แต่ถ้ามีรัฐบาลที่ทำลายชาติ จะปล่อยไว้ทำไม ประชาชนประเทศไหนๆ ก็ลุกฮือขับไล่ทั้งนั้น
จะมีไทยเพียงประเทศเดียวหรือที่ห้ามไล่รัฐบาลชั่ว
เพราะไม่เพียงการคุกคาม ข่มขู่ และใช้อำนาจรัฐสกัดกั้นความเคลื่อนไหวในทุกรูปแบบเท่านั้น แต่ยังสั่งคนเสื้อแดงตามรังควานแทบทุกหลายพื้นที่อีกด้วย
การเผชิญหน้าระหว่างคนหน้ากากขาวกับคนเสื้อแดง มีสัญญาณความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจถึงจุดระเบิดขึ้นวันใดวันหนึ่ง
เพราะไม่มีใครทนกลุ่มอันธพาลจัดตั้งได้ตลอด
สำหรับรัฐบาลคงไม่ยอมปล่อยให้กระแสคนหน้ากากขาวขยายตัวต่อไปแน่ เพราะการเติบโตของกระแส หมายถึงจุดจบของรัฐบาล แต่จะหยุดยั้งคนหน้ากากขาวที่ขยายตัวเป็นไฟลามทุ่งได้อย่างไร
ใบสั่งดับกระแสหน้ากากขาวถูกส่งมาแล้ว โดยลูกสมุนทำหน้าที่ออกมาเห่า ขณะที่ขี้ข้าตัวเอ้ออกมาหอนเป็นรายวัน ส่วนอันธพาลเสื้อแดงถูกสั่งให้ออกมาก่อกวน
วิธีการสกปรกโสโครกทุกชนิด ถูกนำมาใช้เพื่อทำลายกลุ่มคนหน้ากากขาว
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี แสดงการคุกคาม โดยเตือนให้ระวังการสร้างสถานการณ์จากมือที่สาม เตือนเรื่องระเบิดในที่ชุมนุม เพื่อทำลายขวัญของคนหน้ากากขาว
อันธพาลเสื้อแดงในหลายพื้นที่ ถูกสั่งให้ระดมพลเพื่อขัดขวางการชุมนุม
ข้าราชการบางคน แสดงตัวเป็นขี้ข้าอย่างไม่อายใจ ออกมากำราบกลุ่มคนหน้ากากขาว เตือนระวังจะถูกทำร้ายฟรี โดยกฎหมายเอาผิดไม่ได้ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
คนเสื้อแดงจะชุมนุมสร้างความเดือดร้อนรำคาญอย่างไร แสดงตัวเป็นอันธพาลขนาดไหน เที่ยวระรานทำร้ายใคร ไม่รู้ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน แต่ประชาชนที่สวมหน้ากากขาวชุมนุมโดยสงบ กลับโกรธเป็นฟื้นเป็นไฟ
ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ได้ตำแหน่งเพราะยอมก้มหัวรับใช้ตระกูลชินวัตร อาสาเป็นขี้ข้ารัฐบาลยิ่งลักษณ์หรือไม่ ความจริงไม่จำเป็นต้องแสดงตัวถึงขนาดออกมาทำหน้าที่เป็นองครักษ์พิทักษ์มารก็ได้
ไม่จำเป็นต้องประกาศให้คนทั้งประเทศรู้ก็ได้ว่า เป็นข้าราชการกินเงินเดือนภาษีของประชาชน แต่ทำงานขึ้นตรงต่อระบอบทักษิณ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เคยปรามาสคนหน้ากากขาวว่า เป็นคนเพียงหยิบมือเดียว แต่วันนี้คนหน้ากากขาว ทำให้ “เฉลิม” ต้องดิ้นทุรนทุราย และทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นอนไม่หลับ
จนต้องยกระดับประเด็นการทำลายล้างคนหน้ากากขาว เป็นวาระเร่งด่วนของรัฐบาลยิ่งลักษณ์
รัฐมนตรีหลายคนออกมาเรียงหน้าเห่าหอน ข้าราชการหน้าขี้ข้าบางคนออกมาข่มขู่ และมีการสร้างข่าวบิดเบือนใส่ร้ายป้ายสี อ้างว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย มีเป้าหมายล้มล้างรัฐบาล ล้มล้างเจ้า แม้แต่อดีตนายกฯ ผีตายซากอย่างนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ยังไม่วาย อ้างกฎหมายระบุโทษหนักถึงประหาร สำหรับคนที่คิดล้มล้างรัฐบาล
คนหน้ากากขาว ไม่ได้ลุกฮือขึ้นมาล้มรัฐบาล แต่รวมพลังกันออกมาไล่ แม้จะรู้ว่า รัฐบาลชุดนี้หน้าทน จน “คอ-นก-รีด” เรียกพี่ก็ตาม
ความพยายามทำลายล้างคนหน้ากากขาว มีเป้าหมายเพื่อดับชนวนการขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพราะไม่ว่าจะใส่หน้ากากอะไร หรือไม่ใส่หน้ากากเลย แต่ถ้าชุมนุมเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลจะถูกสกัดกั้นทันที และพร้อมจะใช้อำนาจมืดหรือวิธีการที่ป่าเถื่อน
ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ถูกจำกัดสิทธิเฉพาะคนเสื้อแดงเท่านั้น จะทำตัวเป็นอันธพาลกวนเมือง หรือกระทั่งเผาบ้านเผาเมือง ก็ถือว่าไม่ผิด
ความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่าง เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามระบอบประชาธิปไตย แต่สำหรับประเทศไทยในพ.ศ.นี้ ใครคิดต่างกับรัฐบาล จะถูกขึ้นบัญชีเป็นศัตรู และถูกหมายหัวทำลายล้าง โดยนายเอกยุทธ อัญชันบุตร อาจเป็นเหยื่ออีกราย
การกำจัดฝ่ายที่เห็นต่าง การทำลายล้างฝ่ายที่ต่อต้านระบอบทักษิณจะดำเนินต่อไป เพื่อสถาปนารัฐบาลยิ่งลักษณ์ให้กุมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ และกดหัวประชาชนทั้งประเทศไม่ให้หือ
กระแสกลุ่มคนหน้ากากขาวที่บานสะพรั่ง ยกระดับขึ้นมาเป็นพลังมวลชนที่ไม่อาจประเมินศักยภาพต่ำๆ ได้ ทำให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์หวาดเกรง และพยายามดับกระแสให้เร็วที่สุด โดยบงการให้อันธพาลเสื้อแดงออกมาอาละวาด
สวัสดิภาพความปลอดภัยของกลุ่มคนหน้ากากขาว แม้จะน่าเป็นห่วง เพราะจะเจอกับวิธีการที่สกปรก ป่าเถื่อนและสามานย์
แต่สิ่งที่น่าดีใจคือ ความเคลื่อนไหวของคนหน้ากากขาว กำลังทำให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ลาน จนต้องส่งขี้ข้าออกมาเห่าหอนขู่เป็นรายวัน
กระแสคนหน้ากากขาวจุดติดแล้ว ธงสัญลักษณ์การขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์โบกสะบัดทั่วประเทศแล้ว รอวันเวลาสุกงอมเพื่อหลอมรวมคนทุกกลุ่มจากทั่วประเทศเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้น
รัฐบาลอาจสยบคนหน้ากากขาวในบางพื้นที่ได้ แต่ไม่อาจสยบคนหน้ากากขาวทั้งประเทศได้ และไม่อาจสยบกระแสขับไล่รัฐบาลที่กำลังลุกโชนได้
นางสาวยิ่งลักษณ์ควรจะรู้ตัวว่า ถ้ามีรัฐบาลที่ดี ใครจะไปไล่ แต่ถ้ามีรัฐบาลที่ทำลายชาติ จะปล่อยไว้ทำไม ประชาชนประเทศไหนๆ ก็ลุกฮือขับไล่ทั้งนั้น
จะมีไทยเพียงประเทศเดียวหรือที่ห้ามไล่รัฐบาลชั่ว