ถามไถ่กันมาสักพักว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทำไมเงียบไป ไม่ออกมาเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ออกมาแล้ว
แต่ไม่ได้เป่านกหวีด ระดมพลเพื่อชุมนุมขับไล่รัฐบาล แต่ออกมาตอกย้ำถึงการบริหารประเทศที่ล้มเหลว และสุ่มเสี่ยงการนำประเทศไปสู่วิกฤตเท่านั้น
จุดยืดของกลุ่มพันธมิตรฯ ล่าสุดคือ ประณามการลุแก่อำนาจ การทุจริตคอร์รัปชันอย่างมโหฬาร การไม่ฟังเสียงประชาชน การแสวงหาประโยชน์เข้าตัวเองและพวกพ้อง
กิจกรรมที่เป็นชิ้นเป็นอันในการออกโรงครั้งนี้คือ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญขอคุ้มครองชั่วคราวร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ขอให้ยุติการทำหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎรของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ขอให้ยุบ 6 พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลที่ลงมติออกกฎหมายและออกแถลงการณ์ไม่ยอมรับอำนาจศาล รัฐธรรมนูญ รวมทั้งตัดสิทธิ์ทางการเมือง หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปี
กลุ่มพันธมิตรฯ ได้เตือนพรรคเพื่อไทย ถึงการเหิมเกริมลุแก่อำนาจ เดินหน้าออกกฎหมายล้างผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและพวกพ้อง ซึ่งจะคัดค้านจนถึงที่สุด
หลายคนอาจรู้สึกไม่สะใจ ทำไมกลุ่มพันธมิตรฯ ทำได้เพียงเท่านี้ แต่จะให้ทำอะไรได้มากกว่านี้อีก ในเมื่อสถานการณ์ยังไม่สุกงอม
การเป่านกหวีด ระดมคนชุมนุมขับไล่รัฐบาล ไม่ใช่เรื่องยาก และประชาชนกลุ่มต่างๆ ก็รู้สึกอยากจะลุกขึ้นตะเพิดนางสาวยิ่งลักษณ์เต็มแก่แล้ว แต่ช่วงเวลาอาจยังไม่เหมาะสม
ส่วนจะรอเวลาถึงเมื่อไหร่นั้น รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะเป็นฝ่ายที่ให้คำตอบกับประชาชนที่ใกล้หมดความอดกลั้นเอง
การชุมนุมของประชาชนกลุ่มต่างๆ แตกต่างจากการชุมนุมของคนเสื้อแดง ซึ่งนอกจากมีตำรวจอำนวยความสะดวกคุ้มกันแล้ว มีเงินสนับสนุนจากนักการเมืองที่ปล้นประเทศ
แต่ประชาชนกลุ่มอื่น การชุมนุมแต่ละครั้งมีต้นทุนสูง ต้องมีเงินบริจาคสนับสนุน ต้องเหน็ดเหนื่อย ต้องเสี่ยงต่อการถูดำเนินคดี เสี่ยงต่อการเจ็บเนื้อเจ็บตัวหรือเสี่ยงต่อชีวิตจากน้ำมือของตำรวจที่กลายเป็น “ขี้ข้า” รับใช้พ.ต.ท.ทักษิณ
การชุมนุมใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรฯ ครั้งใหม่ จึงต้องรอเวลาที่สุกงอมจริง รอจนกว่าประชาชนส่วนใหญ่จะรู้สึกว่า ทนต่อรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ไหวแล้ว และพร้อมผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียว ลุกฮือขึ้นมาทำลายล้างระบอบทักษิณให้สิ้นซาก
เวลาที่ทุกฝ่ายรอคอยใกล้เข้ามาทุกขณะ อาจจะอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าหรือภายในปีนี้
ความชอบธรรมที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะบริหารประเทศต่อไปเหลือน้อยเต็มทีเพราะโกงกันทุกหย่อมหญ้า ปล้นทุกอย่างที่ขวางหน้า เหิมเกริมในอำนาจ และจงใจทำลายระบบนิติรัฐเพื่อประโยชน์ของตระกูลชินวัตรและบรรดาสมุนขี้ข้า
เมื่อไม่ยอมรับกติกา ไม่ยอมรับกฎหมาย พยายามล้มล้างศาลรัฐธรรมนูญ รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ จึงกลายเป็นรัฐบาลเถื่อน และประชาชนจะยอมรับรัฐบาลได้อย่างไร
พรรคเพื่อไทยอาจไม่หวั่นไหวกลุ่มพันธมิตรฯ โดยมองเป็นคนเพียงกลุ่มเดียว ขณะที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์มีทั้งเงิน และอำนาจ มีขี้ข้าอยู่ทั่วแผ่นดิน จึงเดินหน้า “กินรวบ”ประเทศไทย
แต่อย่าลืมว่า ประชาชนกลุ่มต่างๆ อีกมากมายที่รอรุมกินโต๊ะนางสาวยิ่งลักษณ์
ถ้ากลุ่มพันธมิตรฯ ลุกขึ้นมาเมื่อไหร่ จะเป็นธงนำของประชาชนกลุ่มต่างๆ ซึ่งจะรวมพลังเป็นหนึ่งเพื่อเป้าหมายเดียวกันคือ ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ออกไปให้พ้น
พ.ต.ท.ทักษิณมั่นใจแล้วหรือว่า น้องสาวจะเอาอยู่ มั่นใจหรือว่า บรรดาลูกสมุนขี้ข้าจะยอมถวายหัว เผชิญหน้ากับม็อบกลุ่มต่างๆ และเชื่อจริงๆ หรือว่า อำนาจที่มีอยู่ จะต้านทานพลังประชาชนทั้งประเทศได้
ถ้ามั่นใจ ก็เดินหน้าออกกฎหมายเพื่อล้างความชั่วให้ตัวเองและพวกพ้อง เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อรวบอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ ก้มหน้าก้มตาปล้นประเทศต่อไป
แต่อย่าลืมว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ได้เตือนคุณแล้ว เตือนคุณว่าอย่าบ้าอำนาจ เตือนคุณว่าประชาชนกำลังเหลืออด และย้ำด้วยซ้ำว่า ไม่ทนดูรัฐบาลโจรนำประเทศไปสู่หายนะโดยไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรแน่
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เป็นไงเป็นกัน เพราะปล่อยให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์เหลิงอำนาจต่อไปไม่ไหวแล้ว ถ้าประเทศเกิดหายนะ ลูกหลานทุกคนจะต้องเกิดมารับกรรม
พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมถอยแน่ เพราะบ้าไปแล้ว แต่นางสาวยิ่งลักษณ์และลูกสมุนขี้ข้าที่กำลังเสวยสุขอยู่ จะเดินหน้าชนหรือไม่ ถ้ายังเป็นขี้ข้าที่แสนเชื่อง รับคำบงการของพ.ต.ท.ทักษิณ ดันทุรังเดินหน้าทำเรื่องบัดซบต่อไป อีกไม่นานคงเจอกัน
และเนื่องจากบ่มเพาะศัตรูไว้เยอะ จึงอย่าหวังว่า จะต้องเจอกับกลุ่มพันธมิตรฯเท่านั้น แต่จะต้องเจอกับประชาชนทุกคน ที่รอฤกษ์รอชัยรุมสกรัมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
ถึงวันนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเอาอยู่ไหม
แต่ไม่ได้เป่านกหวีด ระดมพลเพื่อชุมนุมขับไล่รัฐบาล แต่ออกมาตอกย้ำถึงการบริหารประเทศที่ล้มเหลว และสุ่มเสี่ยงการนำประเทศไปสู่วิกฤตเท่านั้น
จุดยืดของกลุ่มพันธมิตรฯ ล่าสุดคือ ประณามการลุแก่อำนาจ การทุจริตคอร์รัปชันอย่างมโหฬาร การไม่ฟังเสียงประชาชน การแสวงหาประโยชน์เข้าตัวเองและพวกพ้อง
กิจกรรมที่เป็นชิ้นเป็นอันในการออกโรงครั้งนี้คือ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญขอคุ้มครองชั่วคราวร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ขอให้ยุติการทำหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎรของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ขอให้ยุบ 6 พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลที่ลงมติออกกฎหมายและออกแถลงการณ์ไม่ยอมรับอำนาจศาล รัฐธรรมนูญ รวมทั้งตัดสิทธิ์ทางการเมือง หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปี
กลุ่มพันธมิตรฯ ได้เตือนพรรคเพื่อไทย ถึงการเหิมเกริมลุแก่อำนาจ เดินหน้าออกกฎหมายล้างผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและพวกพ้อง ซึ่งจะคัดค้านจนถึงที่สุด
หลายคนอาจรู้สึกไม่สะใจ ทำไมกลุ่มพันธมิตรฯ ทำได้เพียงเท่านี้ แต่จะให้ทำอะไรได้มากกว่านี้อีก ในเมื่อสถานการณ์ยังไม่สุกงอม
การเป่านกหวีด ระดมคนชุมนุมขับไล่รัฐบาล ไม่ใช่เรื่องยาก และประชาชนกลุ่มต่างๆ ก็รู้สึกอยากจะลุกขึ้นตะเพิดนางสาวยิ่งลักษณ์เต็มแก่แล้ว แต่ช่วงเวลาอาจยังไม่เหมาะสม
ส่วนจะรอเวลาถึงเมื่อไหร่นั้น รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะเป็นฝ่ายที่ให้คำตอบกับประชาชนที่ใกล้หมดความอดกลั้นเอง
การชุมนุมของประชาชนกลุ่มต่างๆ แตกต่างจากการชุมนุมของคนเสื้อแดง ซึ่งนอกจากมีตำรวจอำนวยความสะดวกคุ้มกันแล้ว มีเงินสนับสนุนจากนักการเมืองที่ปล้นประเทศ
แต่ประชาชนกลุ่มอื่น การชุมนุมแต่ละครั้งมีต้นทุนสูง ต้องมีเงินบริจาคสนับสนุน ต้องเหน็ดเหนื่อย ต้องเสี่ยงต่อการถูดำเนินคดี เสี่ยงต่อการเจ็บเนื้อเจ็บตัวหรือเสี่ยงต่อชีวิตจากน้ำมือของตำรวจที่กลายเป็น “ขี้ข้า” รับใช้พ.ต.ท.ทักษิณ
การชุมนุมใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรฯ ครั้งใหม่ จึงต้องรอเวลาที่สุกงอมจริง รอจนกว่าประชาชนส่วนใหญ่จะรู้สึกว่า ทนต่อรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ไหวแล้ว และพร้อมผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียว ลุกฮือขึ้นมาทำลายล้างระบอบทักษิณให้สิ้นซาก
เวลาที่ทุกฝ่ายรอคอยใกล้เข้ามาทุกขณะ อาจจะอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าหรือภายในปีนี้
ความชอบธรรมที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะบริหารประเทศต่อไปเหลือน้อยเต็มทีเพราะโกงกันทุกหย่อมหญ้า ปล้นทุกอย่างที่ขวางหน้า เหิมเกริมในอำนาจ และจงใจทำลายระบบนิติรัฐเพื่อประโยชน์ของตระกูลชินวัตรและบรรดาสมุนขี้ข้า
เมื่อไม่ยอมรับกติกา ไม่ยอมรับกฎหมาย พยายามล้มล้างศาลรัฐธรรมนูญ รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ จึงกลายเป็นรัฐบาลเถื่อน และประชาชนจะยอมรับรัฐบาลได้อย่างไร
พรรคเพื่อไทยอาจไม่หวั่นไหวกลุ่มพันธมิตรฯ โดยมองเป็นคนเพียงกลุ่มเดียว ขณะที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์มีทั้งเงิน และอำนาจ มีขี้ข้าอยู่ทั่วแผ่นดิน จึงเดินหน้า “กินรวบ”ประเทศไทย
แต่อย่าลืมว่า ประชาชนกลุ่มต่างๆ อีกมากมายที่รอรุมกินโต๊ะนางสาวยิ่งลักษณ์
ถ้ากลุ่มพันธมิตรฯ ลุกขึ้นมาเมื่อไหร่ จะเป็นธงนำของประชาชนกลุ่มต่างๆ ซึ่งจะรวมพลังเป็นหนึ่งเพื่อเป้าหมายเดียวกันคือ ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ออกไปให้พ้น
พ.ต.ท.ทักษิณมั่นใจแล้วหรือว่า น้องสาวจะเอาอยู่ มั่นใจหรือว่า บรรดาลูกสมุนขี้ข้าจะยอมถวายหัว เผชิญหน้ากับม็อบกลุ่มต่างๆ และเชื่อจริงๆ หรือว่า อำนาจที่มีอยู่ จะต้านทานพลังประชาชนทั้งประเทศได้
ถ้ามั่นใจ ก็เดินหน้าออกกฎหมายเพื่อล้างความชั่วให้ตัวเองและพวกพ้อง เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อรวบอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ ก้มหน้าก้มตาปล้นประเทศต่อไป
แต่อย่าลืมว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ได้เตือนคุณแล้ว เตือนคุณว่าอย่าบ้าอำนาจ เตือนคุณว่าประชาชนกำลังเหลืออด และย้ำด้วยซ้ำว่า ไม่ทนดูรัฐบาลโจรนำประเทศไปสู่หายนะโดยไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรแน่
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เป็นไงเป็นกัน เพราะปล่อยให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์เหลิงอำนาจต่อไปไม่ไหวแล้ว ถ้าประเทศเกิดหายนะ ลูกหลานทุกคนจะต้องเกิดมารับกรรม
พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมถอยแน่ เพราะบ้าไปแล้ว แต่นางสาวยิ่งลักษณ์และลูกสมุนขี้ข้าที่กำลังเสวยสุขอยู่ จะเดินหน้าชนหรือไม่ ถ้ายังเป็นขี้ข้าที่แสนเชื่อง รับคำบงการของพ.ต.ท.ทักษิณ ดันทุรังเดินหน้าทำเรื่องบัดซบต่อไป อีกไม่นานคงเจอกัน
และเนื่องจากบ่มเพาะศัตรูไว้เยอะ จึงอย่าหวังว่า จะต้องเจอกับกลุ่มพันธมิตรฯเท่านั้น แต่จะต้องเจอกับประชาชนทุกคน ที่รอฤกษ์รอชัยรุมสกรัมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
ถึงวันนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเอาอยู่ไหม