xs
xsm
sm
md
lg

‘สวัสดี! ประเทศไทยเฉย’

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์

ความอหังการ ลำพองในอำนาจรัฐ อิทธิพลเถื่อนของขบวนการบักเหลี่ยมไร้ขอบเขตจากรัฐไทย แผ่นดินน่าอยู่อาศัย คนไทยมีจิตใจโอบอ้อมอารีมาหลายร้อยปี เมื่อตระกูลกาลีเมืองมาเกิด ดินแดนที่เคยเป็นสุขกลายเป็นนรกอกแตก ชาวบ้านแบ่งเป็นฝักฝ่าย ต่อชื่อเป็น “ประเทศไทยเฉย” Ignorant Thailand

โครงสร้างพื้นฐานสังคมแห่งความดีงาม กลไก ระบบกฎหมายใกล้ล่มสลาย กลายเป็นรัฐล้มเหลว บ้านเมืองไร้ขื่อแป จะมีกองกำลังส่วนตัว ติดอาวุธ เมื่อไม่สามารถพึ่งพาเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งดูแลรักษาความปลอดภัย กฎหมาย

แต่ละวันผ่านไป มีแต่ความยโสโอหัง ดังเช่นกลุ่ม ส.ส. ส.ว.ขี้ข้าทักษิณ เครือข่ายนักการเมืองนอกสภาฯ มีชนักปักหลัง ถูกศาลตราหน้าว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

เราเห็นขบวนการเสื้อแดงถ่อยเถื่อน รับบทกุ๊ยการเมืองระรานราวี ไล่ทุบตีฝ่ายตรงข้าม ทำตัวเป็นตัวแทนระบอบเผด็จการ ปากพร่ำสิทธิประชาธิปไตย ผู้นำรัฐบาล เสนาบดี ตำรวจ อัยการ อยู่ในอำนาจทำตัวปากว่าตาขยิบ

คนดีกำลังไม่มีที่ยืน ไร้ที่พึ่ง ไม่มีสิทธิแสดงความคิดเห็น ร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากนักการเมืองเรืองอำนาจ ซึ่งมองว่าทุกข์ร้อนของประชาชนคนยากไร้ ด้อยโอกาส สร้างความรำคาญ ทำให้ผู้นำเครียด หน้าเฉาเหี่ยวย่น

แต่ละวันพร่ำพูดย้ำการเตรียมตัวสู่ระบบอาเซียน แต่พูดภาษาอังกฤษแบบงูๆ ปลาๆ อาศัยโพย อ่านให้คนต่างชาติฟัง ตัวเองไม่เข้าใจความหมาย สร้างความอับอายขายหน้าให้ชาวบ้าน ถูกกล่าวหาว่าเร่ขายชาติ ไร้จิตสำนึก

ความบ้าอำนาจถ่อยเถื่อนจากกลุ่ม ส.ส. ส.ว.ไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ส่งสัญญาณให้ม็อบแดงถ่อยปิดล้อม ดูหมิ่นศาลนานกว่าครึ่งเดือน กลไกรักษากฎหมายเพิกเฉย รัฐบาลให้ท้าย กำจัดก้างขวางคอหวังโกง

ไม่มีประเทศอารยะ ประชาธิปไตยที่ไหนในโลก ซึ่งกลุ่มม็อบ สมาชิกนิติบัญญัติไม่ยอมรับอำนาจศาล ทั้งตั้งศาลเตี้ย จะจับตัวตุลาการมาตัดหัวเอาเลือดล้างตีน ออกคำสั่ง พบตุลาการที่ไหน ให้จับตัวที่นั่น ตำรวจวางตัวเฉย

“บ้านเมืองนี้อยู่กันไม่ได้แล้ว” นั่นคือความรู้สึกร่วมของคนยังห่วงชาติบ้านเมือง เห็นแววของความหายนะอยู่ไม่ไกล ด้วยแผน “กู้มาโกง” ต่อเนื่อง จะทำให้คนไทยจมอยู่ในหนี้สินยาวนานถึงขั้นล้มละลายขายทรัพย์แผ่นดินใช้หนี้

ความผยองทำอะไรไม่ได้ดังใจ ทำให้มีคำขู่ว่าจะปลดผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยไม่เว้นแต่ละวัน ขุนคลังนักโกหกสีขาวสารภาพกลางงานสัมมนาว่าคิดทุกลมหายใจเข้าออกว่าจะเขี่ยผู้ว่าฯ แบงก์ชาติให้พ้นทาง

รัฐบาลนางโพยปูโพรกเน่าในคุยฟุ้งว่าจะกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทจากแหล่งในประเทศ ผู้รู้บอกว่าไม่มีนายธนาคาร สถาบันการเงินหน้าโง่ที่ไหนจะปล่อยกู้เงินจำนวนมหาศาลให้โครงการมีกระดาษไม่กี่แผ่น แถมมีเรื่องฉาวงาบคำโต

ทั้งยุโรป สหรัฐฯ ต่างมีปัญหาหนี้สิน หลายประเทศใกล้ล้มละลายต้องขายสมบัติเพื่อความอยู่รอด ออกมาตรการเข้มงวดตามคำสั่งเจ้าหนี้ สร้างความทุกข์ให้ประชาชน หลังจากบริหารงานผิดพลาด สร้างหนี้สินเกินรายได้

รัฐบาลนางโพยปูโพรก กำลังนำพาชาติบ้านเมืองสู่หายนะด้วยการกู้มาโกง เร่งออกกฎหมายแก้รัฐธรรมนูญ ยุบองค์กรอิสระ ช่วยเหลืออาชญากรให้พ้นโทษอาญา สร้างระบบกฎหมาย หนุนอำนาจเถื่อน ยุบโรงเรียนเพื่อหวังได้งบพันล้านบาทซื้อรถตู้ ซึ่งก็ไม่พ้นถูกกล่าวหาว่าเป็นแผนโกงแบบหน้าด้านๆ

เมื่อแผนปลดผู้ว่าฯ แบงก์ชาติมีอุปสรรค ก็หาทางโยนบาปเรื่องค่าเงินบาทแข็ง จะดันทุรังทำให้ได้ ไม่สนใจสังคมโลกจะมองแบงก์ชาติไร้ความน่าเชื่อถือ หาความผิดว่าเป็นเหตุให้ข้าวเน่าเต็มโกดังทั่วประเทศ ขายไม่ออก

เมื่อความเหิมเกริมกระฉูด มีข่าวปล่อยว่าจะเด้งแม่ทัพบก โยกไปเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ทำให้มีข่าวลือเรื่องรัฐประหาร จึงมีเสียงปฏิเสธว่าไม่มีเหตุต้องย้ายพลเอกล้งเล้งไปไหน แม่ทัพบกกับรัฐบาลทำงานเข้าขากันดี

ที่ผ่านมา เสียงร่ำลือเรื่องโยกย้ายข้าราชการตัวเป้ง มักมาก่อนความเป็นจริงเสมอ! เช่นเดียวกับคำปฏิเสธว่าจะไม่มีการปฏิวัติรัฐประหาร ผลตามมาคือการเคลื่อนยานยนต์ตีนตะขาบ กองกำลังออกมาเด้งผู้นำรัฐบาลให้ตกเก้าอี้

จังหวะเหมาะช่วงนี้ สำหรับการรัฐประหาร ใช่ว่าจะไร้เหตุ และข้ออ้าง! ในอดีต การรัฐประหารเกิดพร้อมกับการฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง แต่รอบปัจจุบันอาจมีคำประกาศอ้างว่าเป็นการปกป้องรัฐธรรมนูญ ซึ่งนักการเมืองถ่อย ขี้ข้าอาชญากรหนีคุกเร่งเดินหน้าแก้ไข ช่วยคนหนีคุกให้พ้นโทษ ได้เงินโกงคืน

น่าเสียดาย พวกแม่ทัพนายกองยังเฉย ปล่อยให้ข้าราชการ นักการเมืองขี้ข้าทักษิณย่ำยีบ้านเมือง ตัดสิทธิประชาชน จะล้มล้างรัฐธรรมนูญ ล้มศาล ซึ่งร้ายแรงกว่าการรัฐประหาร ซึ่งไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับองค์กรในกระบวนการยุติธรรม

ประชาชนกลุ่มหนึ่งปักหลักที่สนามหลวง หวังจุดกระแสขับไล่รัฐบาลกังฉินขายชาติ อดีตนายตำรวจใหญ่ผู้ชราเปิดฉากรณรงค์กู้ศักดิ์ศรีแผ่นดิน พร้อมถามดังๆ ว่าคนไทยจะแปรสภาพเป็นชนเผ่า “ไทยเฉย” ทั้งแผ่นดินหรือ
กำลังโหลดความคิดเห็น