ASTV ผู้จัดการรายวัน- ตร.ประสานญาติ"เอ็กซ์ จักรกฤษณ์" เพื่อขอเปิดตู้เซฟตามหลักฏหมาย เชื่อผู้เสียชีวิต เป็นคนฉลาด อาจทิ้งชนวนประเด็นนำไปสู่การสังหาร ขยายปมความขัดแย้งทางครอบครัว หลังมีข่าวไม่พอใจที่สองฝ่ายคืนดีกัน และไม่อยากให้กลับมาใช้ชีวิตร่วมกัน มั่นใจวันนี้จะมีความคืบหน้าด้านคดีเพิ่ม แฉจม.ระบายความในใจถึงสรยุทธ ก่อนถึงยิง ด้านผู้ใหญ่และคนดังวงการกีฬาแห่อาลัยร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ ที่ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน คุณพ่อมานพ และคุณแม่บุญคิด ขอให้ลูกหลับสบาย
จากกรณีคนร้ายขับขี่จักรยานยนต์ไม่ทราบรุ่นประกบยิงนายจักรกฤษณ์ หรือเอ็กซ์ พณิชย์ผาติกรรม อายุ 40 ปี อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 19 ต.ค. จนเสียชีวิต ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนี้ (24 ต.ค.) รายงานข่าวจากชุดสืบสวนคลี่คลายคดีแจ้งว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำ พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยา ได้ให้ปากคำว่าตู้เซฟที่นายจักรกฤษณ์เก็บทรัพย์สินไว้ยังอยู่ที่บ้าน ไม่ได้มีการเปิดทรัพย์สินออกมา และระบุว่าไม่มีกุญแจในการเปิดตู้เซฟดังกล่าว จึงทำให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีกำลังเร่งประสานงานการขออนุญาตญาติผู้เสียชีวิต ให้ผู้เชี่ยวชาญทำการเปิดตู้เซฟดังกล่าวให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย
โดยเชื่อว่าผู้ตายน่าจะทิ้งหลักฐานที่ทำให้เชื่อมโยงถึงตัวผู้บงการในการก่อเหตุ หรือปัญหาที่น่าจะเป็นสาเหตุในการยิงผู้ตายครั้งนี้ไว้ในตู้เซฟดังกล่าว เนื่องจากตรวจสอบพบว่านายจักรกฤษณ์รู้ตัวล่วงหน้าว่าจะถูกปองร้าย อีกทั้งนายจักรกฤษณ์เป็นคนฉลาด เชื่อว่าถ้าตนเองถูกทำร้ายจนถึงขั้นเสียชีวิตจะต้องทิ้งข้อมูลหลักฐานไว้ในที่ปลอดภัยเป็นอย่างดี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถแกะรอยติดตามจับกุมคนร้ายได้ โดยมีรายงานว่าจะให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบรอยนิ้วมือที่ตู้เซฟดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ชุดสืบสวนสอบสวน สน.มีนบุรี จะได้มีการสอบปากคำเพิ่มเติม พญ.นิธิวดี ภรรยาของนายจักรกฤษณ์ รวมถึงญาติทั้งสองฝ่าย เพื่อหาพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด ตลอดจนการสอบปากคำเพื่อนบ้านนายจักรกฤษณ์ และคนที่อยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ โดยจะเร่งสอบปากคำให้เร็วที่สุด และสอบผู้เกี่ยวข้องในประเด็นความขัดแย้งทางครอบครัวของฝ่ายภรรยานายจักรกฤษณ์ หลังมีข่าวไม่พอใจที่สองฝ่ายคืนดีกัน และไม่อยากให้กลับมาใช้ชีวิตร่วมกัน โดยสั่งการให้ สน.มีนบุรี เรียกญาติๆภรรยามาสอบเช่นกัน รวมถึงตัวภรรยาหากมีประเด็นใหม่ๆ เข้ามาก็จะสอบเพิ่มเติมอีก และตรวจสอบเปรียบเทียบคดีที่ พญ.นิธิวดี เคยแจ้งความไว้ทั้งคดีทำร้ายร่างกายและคดีแย่งชิงทรัพย์สิน ที่ผ่านมาทางภรรยาให้ความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อคดีเป็นอย่างดี ตอนนี้จะตรวจสอบทีละประเด็น โดยดูหลักฐานทั้งจากพยาน และนิติวิทยาศาสตร์ประกอบเพื่อดูว่าประเด็นใดเกี่ยวข้องมากที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากชุดสืบสวนนครบาลได้พุ่งไปเป้าไปที่ปัญหาครอบครัว และการฟ้องร้องธนาคารกสิกรไทย สาขารามคำแหง 151 เนื่องจากก่อนที่นายจักรกฤษณ์ จะถูกยิงเคยพยายามจะแถลงข่าวเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลัง และเป็นคนให้ พญ.ณิธิวดี มาเปิดเอาทรัพย์สินมีค่าในตู้เซฟมูลค่าหลักร้อยล้านบาทไป
ซึ่งจากประชุมเชิงลึกชุดสืบสวนบช.น.วานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตัดประเด็นเรื่องยาเสพติดออกไป เนื่องจากขณะนี้ได้พุ่งประเด็นไปที่ความขัดแย้งในเรื่องการซื้อขายพระเครื่องที่ผู้ตายนำมาปล่อยออกสู่ตลาดพระเครื่อง ที่สันนิษฐานได้ว่ามีการนำพระปลอมมาหลอกขายให้กับนักเล่นพระ ได้ขอเวลาในการเร่งรัดคดีอีก 2 วัน โดยให้ชุดสืบบสวนคลี่คลายคดีเข้าร่วมประชุมสรุปความชัดเจนอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 25 ต.ค.นี้ ที่ บช.น.
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าได้พบจดหมายที่ "เอ็กซ์" นายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม นักแม่นปืนทีมชาติไทย ได้เขียนระบายความรู้สึกถึง สรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ก่อนที่ตนจะถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิตเพียงไม่กี่วัน โดยเนื้อจดหมายมีเรื่องแฉเพื่อนไม่ประสงค์ดียศ "พ.ต.ท." ที่หวังจะเคลมทรัพย์สินของตน
นอกจากนี้ "เอ็กซ์ จักรกฤษณ์" ยังได้เขียนจนหมายระบายความรู้สึกถึงนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวช่อง 3 เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2556 ก่อนถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตสรุปได้ว่า
ผมได้ไตร่ตรองดีแล้ว จึงเขียน จม.ฉบับนี้เพื่ออธิบายและขอเล่าเหตุการณ์อีกทั้งวัตถุประสงค์ของผู้ไม่ประสงค์ดีที่ร่วมกันว่า ผมใช้สารเสพติดและมีสิ่งเสพติดในร่างกายจนเกิดภาวะจิตหลอน ซึ่งผมเองไม่มีโอกาสได้ทำความเข้าใจ ที่ผ่านมาในชีวิตผมมีจิตใจแห่งความเป็นสาธารณะ และตั้งใจรับใช้ชาติ กลับเป็นช่องโหว่ให้เพื่อนเข้ามาพูดคุยและกล่อมจนภรรยาเกิดความกลัว และกังวลใจ จนลุกลามไปถึงมารดา กลับครั้นผมได้พิสูจน์ปัสสาวะเพื่อค้นหาสารเสพติด และตรวจถึง 6 ครั้ง ไม่พบสารเสพติดตามที่ปรักปรำผม
มีเพื่อนที่ยุยงและไม่ประสงค์ดีนั่นคือ พ.ต.ท....เข้ามาเจรจาต่อรองเพื่อให้ผมเปลี่ยนนายประกัน และพยายามพูดในลักษณะเกลี้ยกล่อมให้ผมเข้ารักษาอาการทางจิตที่ รพ.มโนรมณ์ด้านจิตเวช ก่อนหน้านี้นั้นได้เคยบีบบังคับให้ผมไปมาแล้วในลักษณะนี้ แต่ผมรู้อุบายที่จะทำให้ผมเป็นเป็นบุคคลที่ไร้ซึ่งสภาพที่จะดำรงอยู่ในสังคมอย่างปกติ เพื่อประโยชน์ทางทรัพย์สินและการคุ้มครองบุตร
ผมกลัวสวัสดิภาพและความปลอดภัยของคนในครอบครัว โดยเฉพาะลูกๆทั้ง 2 คนครับ อีกหนึ่งคนในครรภ์ เป็น 3 คนครับ เรื่องที่มีทรัพย์สินที่ธนาคารกสิกรไทย สาขา สุขาภิบาล 3 ถนนรามคำแหงนั้นเป็นเซฟที่เก็บพระเครื่อง เครื่องเพชร และนาฬิกา ซึ่งจะเปิดได้นั้นต้องมีลายเซ็นและตัวผมพร้อมกุญแจอีก 1 ดอก ซึ่งทั้งหมดนั้นอยู่ที่ภรรยา เว้นแต่กระผมเองจะเป็นคนไปเซ็น ขอให้ทราบถึงพฤติกรรมที่กลุ่มคนกลุ่มนี้พยายามทำบ้าน 2 หลัง และสิ่งอื่นๆซึ่งอาจประเมินค่าไม่ได้เลยหากล่าช้าครับพี่ ขอให้พี่เร่งพิจารณาและตัดสินใจช่วยเหลือผมและครอบครัวด้วยครับ ขอให้พี่ชาย (พี่ยุทธ์) เชื่อมั่นในความเป็นลูกผู้ชาย เป็นนักต่อสู้ของผม
"อ๊อด นคปฐม" ยันในวงการพระเครื่องไม่มีความรุนแรง
วานนี้ (24 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รอง ผบช.น. ได้เชิญเซียนพระในวงการพระเครื่องจากศูนย์พระเครื่อง อาทิ ที่ท่าพระจันทร์ ห้างพันธุ์ทิพย์ และที่ จ.นครปฐม จำนวนเกือบ 10 คน ที่เคยมีการเช่า-ขายพระเครื่องกับ นายจักรกฤษณ์ รวมทั้ง นายสุนทร บุญญะทวีวัฒน์ หรือ “อ๊อด นครปฐม” เซียนพระเครื่องที่นายจักรกฤษณ์มีความสนิทสนมมากที่สุด มาสอบถามข้อมูลหารายละเอียดกันตลอดทั้งวัน เพื่อหาเบาะแสประเด็นในการสังหารอดีตนักแม่นปืนทีมชาติ
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังให้ชุดสืบสวนทุกหน่วยเร่งสืบสวนหาเบาะแสคนร้าย ส่วนประเด็นเรื่องพระเครื่องนั้นก็เชิญเซียนพระใหญ่รายคนมาให้ข้อมูลต่างๆ แต่ก็ยังไม่ได้ประเด็นนี้ทิ้งไป โดยจะพยายามหาข่าวให้ได้ว่า นายจักรกฤษณ์มีความขัดแย้งกับใครหรือไม่ หลังจากที่ประกันตัวแล้วไปอยู่ที่ จ.นครปฐม ตั้งเกือบเดือน และจากการสอบถามก็ไม่มีประเด็นดังกล่าว และยังไม่พบว่าจะมีการนำพาไปสู่การสังหาร ซึ่งก็มีแนวโน้มน่าจะตัดประเด็นเรื่องพระเครื่องทิ้งไป
ผบช.น. กล่าวด้วยว่า ในวันนี้ได้มีการเปิดตู้เซฟที่ธนาคารโดยทาง พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยาของนายจักรกฤษณ์ ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งในตู้เซฟก็มีแต่พระเครื่องเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวกรณีที่มีการโยงถึงนายตำรวจยศ พ.ต.ท.คนหนึ่ง ที่ตั้งข้อสงสัยอาจมีส่วนเกี่ยวข้องเพราะเคยช่วยเหลือพา พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ และนางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม ภรรยาและแม่ แจ้งความดำเนินคดีนายจักรกฤษณ์ ที่ สน.มีนบุรี นั้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า มีการเรียกมาพบแล้ว ทาง พญ.นิธิวดีและญาติพี่น้องก็ไม่ได้ติดใจเพราะว่า พ.ต.ท.ดังกล่าวก็พยายามช่วยเรื่องการประกันตัว
เมื่อถามถึงด้านการสืบสวนติดตามมือปืน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบทราบว่ามือปืนที่ก่อเหตุไม่ได้มาดักรออยู่ที่บริเวณหน้าบ้านของนายจักรกฤษณ์ ขณะนี้ให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบอย่างละเอียด โดยวันที่ 25 ตุลาคม เวลา 10.00 น. จะมีการประชุมชุดสืบสวนเพื่อรายงานความคืบหน้ากรณีดังกล่าว และสรุปผลการจะตัดประเด็นเรื่องพระหรือไม่
นายสุนทร บุญญะทวีวัฒน์ หรือ “อ๊อด นครปฐม” เซียนพระ ที่นายจักรกฤษณ์ เดินทางไปพักอยู่ด้วยก่อนที่จะถูกสังหารเสียชีวิต ได้เดินทางเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขายพระเครื่องของนายจักรกฤษณ์ ใช้เวลานานกว่า 3 ชม.โดยภายหลังเสร็จสิ้นการให้ข้อมูล นายสุนทร กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขายพระเครื่องของนายจักรกฤษณ์ พร้อมทั้งมายืนยันว่าในวงการพระเครื่องไม่มีความรุนแรงถึงขนาดต้องสังหารกัน ปมความขัดแย้งเรื่องพระเครื่องไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้จักรกฤษณ์ถูกสังหารแน่นอน โดยหลังจากที่นายจักรกฤษณ์ออกจากเรือนจำก็เดินทางไปพักอยู่กับตนทันที และระบายความในใจเกี่ยวกับปัญหาส่วนตัวให้ฟัง ซึ่งพูดถึงความปลอดภัยของตัวเอง และหวาดระแวงจากคนใกล้ชิดที่ทำให้ติดคุก หลังจากที่ได้รับการประกันตัวจักรกฤษณ์ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังแทบทุกฝีก้าว ทุกครั้งที่เดินทางไปไหนมาไหนใน จ.นครปฐม จะใช้รถยนต์ของผม และคนรอบข้างตลอด ไม่ใช่รถของตัวเอง กระทั่งในวันเกิดเหตุ จักรกฤษณ์ เดินทางไปพบภรรยา และนัดกินข้าวกัน ทำให้ไม่มีการระวังตัว อาจจะชะล่าใจ
พ.ต.ท.ชี้แจงความบริสุทธิ์ใจ
ด้านพ.ต.ท. รัฐวิทย์ แสนทวีสุข หรือ “สารวัตรหนุ่ม” ช่วยราชการสำนักงาน ผ บก.ปคม. นายตำรวจที่ถูกพาดพิง ได้ออกมาเปิดเผยว่า รู้จักกับเอ็กซ์มาได้ประมาณ 6 ปีแล้ว เนื่องจากภรรยาของตนกับ “หมอนิ่ม” พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยาของเอ็กซ์ เคยสนิทกันมาก่อน จนเอ็กซ์ได้มาร่วมงานวันเกิดของตนก็เลยรู้จักกัน หลังจากนั้นต่อมาก็คบหากินเที่ยวด้วยกัน จนเกิดความสนิทสนม เวลาเขามีปัญหาอะไรก็มักโทรศัพท์มาปรึกษาตลอดทุกเรื่อง
พ.ต.ท. รัฐวิทย์ กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมาทุกครั้งที่เกิดปัญหา ภรรยาของเอ็กซ์มักจะโทรมาระบายปัญกับตนและภรรยา นอกจากนี้ยีงเคยเข้าไปไปห้ามปราม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีกหลายครั้งด้วย ส่วนเรื่องในจดหมาย เอ็กซ์เขาไม่ชอบตนเพราะ หลอกพาเขาไปบำบัดและจับเด็กเดินยาที่นำยาเสพติดมาส่ง ที่ทำลงไปก็เพราะความปรารถนาดี เพราะที่จริงแล้วก็ไม่อยากยุ่งกับเรื่องของครอบครัวคนอื่น แต่ที่ทำลงไปก็เพราะความสงสารเอ็กซ์และภรรยาเขา ล่าสุดตอนที่เอ็กซ์ติดคุก ตอนไปเยี่ยมเมื่อเห็นเขาถูกล่ามตรวน ภรรยาของตนเห็นสภาพก็ถึงกับร้องไห้ และร้องให้ตนช่วยเหลือ ก็เลยไปหาทนายและนำโฉนดบ้านไปเป็นหลักทรัพย์เพื่อขอประกันตัว
พ.ต.ท.รัฐวิทย์ กล่าวด้วยว่า เมื่อเอ็กซ์เห็นหน้าตน เขาก็ปฎิเสธ บอกว่าไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับเขาอีก พี่เป็นตำรวจมากี่ปี ยังมียศแค่ พ.ต.ท. แต่ตอนนี้เขาน่ะเป็นมือหนึ่งของประเทศ ให้กลับไปดูแ ครอบครัวตัวเองดีกว่า อย่ามายุ่งกับครอบครัวคนอื่นเลย เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าวจึงถอยออกมาและก็ไม่ได้เข้าไปคลุกคลีเหมือนเมื่อก่อน หลังจากเขาออกมาจากคุกไม่นาน เมื่อเขาทราบความจริง จึงสำนึกผิดและให้เลขา ฯ ส่วนตัวโทรมาหาบอกว่าจะมากราบขอโทษ แต่ตนปฏิเสทไป บอกว่ายกโทษให้ แต่ไม่ต้องมากราบขอโทษดีกว่า หลังจากนั้ไม่นานก็มาทราบข่าวว่าเขาถูกยิงดังกล่าว
“หลังเกิดเหตุพล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บช.น. ได้เรียกผมไปสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งผมก็เล่าให้ท่านฟังถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ร่วมทั้งเรื่องที่เขาคิดว่าผมไปเป็นกิ๊กกับภรรยาเขา และหวังฮุบสมบัติ นั้น ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นเพราะอะไร” พ.ต.ท.รัฐวิทย์ กล่าว
ผู้ใหญ่และคนดังวงการกีฬาแห่อาลัยร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ
ขณะเดียวกัน วานนี้ (24ต.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ณ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน จัดงานพิธีพระราชทานเพลิงศพ “เอ็กซ์” จ.ส.อ.จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม โดยมี นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นของมนุษย์ เป็นประธานในงาน รวมถึงผู้ใหญ่คนในแวดวงกีฬา ครอบครัว และเพื่อนสนิท ร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย
บรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความโศกเศร้า และได้รับเกียรติจากผู้ใหญ่ในวงการกีฬาอย่าง นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย, นายศักดา รัตนสุบรรณ บรรณาธิการนิตยสาร “คิวทอง”, นายมนตรี ไชยพันธุ์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นพ.วารินทร์ ตันศุภศิริ รองเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ, นพ.เอาชัย กาญจนพิทักษ์ รักษาการเลขาธิการสมาคมกีฬายิงปืนฯ, นายอธิปรัฐ กาญจนสุวรรณ รักษาการนายกสมาคมยิงปืนฯ และ นางสมคิด ปิ่นทอง อดีตรองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ขึ้นทอดผ้าไตร จากนั้นเป็นคิวของกลุ่มฮาเลย์ไอ้มดแดงร่วมร้องเพลงแสงสุดท้าย ซึ่งเป็นเพลงโปรดของ “เอ็กซ์” ก่อนเจ้าหน้าที่พนักงานจากสำนักพระราชวังอัญเชิญไฟหลวงพระราชทานเพลิงศพ
นายมานพ พณิชย์ผาติกรรม บิดา กล่าวถึงความรู้สึกถึงลูกชายครั้งสุดท้ายว่า “รู้สึกภูมิใจกับลูกที่ได้สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติ จากนี้ขอให้ลูกไปสบายสู่สุคติ ไปอยู่ในที่สบายหลังจากต้องเหนื่อยกับปัญหาต่างๆ มามาก หากชาติหน้ามีจริงหวังว่าจะได้เกิดมาเป็นพ่อลูกกันอีก ส่วนเรื่องลูกทั้งสองอยากให้ได้อยู่กับ พญ.ณิธวดี ภู่เจริญยศ เนื่องจากแม่น่าจะเลี้ยงดูและให้ความอบอุ่นได้ดีกว่า”
ด้าน นางบุญคิด มารดา ขอให้ลูกชายได้พักผ่อนอย่างสงบ หลังจากประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ในการแข่งยิงปืน พร้อมกล่าวของคุณ นายมนตรี ไชยพันธุ์ ที่เป็นผู้เดินเรื่องขอพระราชทานไฟหลวงพระราชทานเพลงศพให้ลูกชายในครั้งนี้ โดนยืนยันทางครอบครัวไม่มีปัญหาคาใจหรือติดใจใดๆ กับทางสมาคมยิงปืนฯ และเชื่อว่าน่าจะไม่ใช่ปมสังหารที่ตำรวจมองไว้แน่นอน
จากกรณีคนร้ายขับขี่จักรยานยนต์ไม่ทราบรุ่นประกบยิงนายจักรกฤษณ์ หรือเอ็กซ์ พณิชย์ผาติกรรม อายุ 40 ปี อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 19 ต.ค. จนเสียชีวิต ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนี้ (24 ต.ค.) รายงานข่าวจากชุดสืบสวนคลี่คลายคดีแจ้งว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำ พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยา ได้ให้ปากคำว่าตู้เซฟที่นายจักรกฤษณ์เก็บทรัพย์สินไว้ยังอยู่ที่บ้าน ไม่ได้มีการเปิดทรัพย์สินออกมา และระบุว่าไม่มีกุญแจในการเปิดตู้เซฟดังกล่าว จึงทำให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีกำลังเร่งประสานงานการขออนุญาตญาติผู้เสียชีวิต ให้ผู้เชี่ยวชาญทำการเปิดตู้เซฟดังกล่าวให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย
โดยเชื่อว่าผู้ตายน่าจะทิ้งหลักฐานที่ทำให้เชื่อมโยงถึงตัวผู้บงการในการก่อเหตุ หรือปัญหาที่น่าจะเป็นสาเหตุในการยิงผู้ตายครั้งนี้ไว้ในตู้เซฟดังกล่าว เนื่องจากตรวจสอบพบว่านายจักรกฤษณ์รู้ตัวล่วงหน้าว่าจะถูกปองร้าย อีกทั้งนายจักรกฤษณ์เป็นคนฉลาด เชื่อว่าถ้าตนเองถูกทำร้ายจนถึงขั้นเสียชีวิตจะต้องทิ้งข้อมูลหลักฐานไว้ในที่ปลอดภัยเป็นอย่างดี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถแกะรอยติดตามจับกุมคนร้ายได้ โดยมีรายงานว่าจะให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบรอยนิ้วมือที่ตู้เซฟดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ชุดสืบสวนสอบสวน สน.มีนบุรี จะได้มีการสอบปากคำเพิ่มเติม พญ.นิธิวดี ภรรยาของนายจักรกฤษณ์ รวมถึงญาติทั้งสองฝ่าย เพื่อหาพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด ตลอดจนการสอบปากคำเพื่อนบ้านนายจักรกฤษณ์ และคนที่อยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ โดยจะเร่งสอบปากคำให้เร็วที่สุด และสอบผู้เกี่ยวข้องในประเด็นความขัดแย้งทางครอบครัวของฝ่ายภรรยานายจักรกฤษณ์ หลังมีข่าวไม่พอใจที่สองฝ่ายคืนดีกัน และไม่อยากให้กลับมาใช้ชีวิตร่วมกัน โดยสั่งการให้ สน.มีนบุรี เรียกญาติๆภรรยามาสอบเช่นกัน รวมถึงตัวภรรยาหากมีประเด็นใหม่ๆ เข้ามาก็จะสอบเพิ่มเติมอีก และตรวจสอบเปรียบเทียบคดีที่ พญ.นิธิวดี เคยแจ้งความไว้ทั้งคดีทำร้ายร่างกายและคดีแย่งชิงทรัพย์สิน ที่ผ่านมาทางภรรยาให้ความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อคดีเป็นอย่างดี ตอนนี้จะตรวจสอบทีละประเด็น โดยดูหลักฐานทั้งจากพยาน และนิติวิทยาศาสตร์ประกอบเพื่อดูว่าประเด็นใดเกี่ยวข้องมากที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากชุดสืบสวนนครบาลได้พุ่งไปเป้าไปที่ปัญหาครอบครัว และการฟ้องร้องธนาคารกสิกรไทย สาขารามคำแหง 151 เนื่องจากก่อนที่นายจักรกฤษณ์ จะถูกยิงเคยพยายามจะแถลงข่าวเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลัง และเป็นคนให้ พญ.ณิธิวดี มาเปิดเอาทรัพย์สินมีค่าในตู้เซฟมูลค่าหลักร้อยล้านบาทไป
ซึ่งจากประชุมเชิงลึกชุดสืบสวนบช.น.วานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตัดประเด็นเรื่องยาเสพติดออกไป เนื่องจากขณะนี้ได้พุ่งประเด็นไปที่ความขัดแย้งในเรื่องการซื้อขายพระเครื่องที่ผู้ตายนำมาปล่อยออกสู่ตลาดพระเครื่อง ที่สันนิษฐานได้ว่ามีการนำพระปลอมมาหลอกขายให้กับนักเล่นพระ ได้ขอเวลาในการเร่งรัดคดีอีก 2 วัน โดยให้ชุดสืบบสวนคลี่คลายคดีเข้าร่วมประชุมสรุปความชัดเจนอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 25 ต.ค.นี้ ที่ บช.น.
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าได้พบจดหมายที่ "เอ็กซ์" นายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม นักแม่นปืนทีมชาติไทย ได้เขียนระบายความรู้สึกถึง สรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ก่อนที่ตนจะถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิตเพียงไม่กี่วัน โดยเนื้อจดหมายมีเรื่องแฉเพื่อนไม่ประสงค์ดียศ "พ.ต.ท." ที่หวังจะเคลมทรัพย์สินของตน
นอกจากนี้ "เอ็กซ์ จักรกฤษณ์" ยังได้เขียนจนหมายระบายความรู้สึกถึงนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวช่อง 3 เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2556 ก่อนถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตสรุปได้ว่า
ผมได้ไตร่ตรองดีแล้ว จึงเขียน จม.ฉบับนี้เพื่ออธิบายและขอเล่าเหตุการณ์อีกทั้งวัตถุประสงค์ของผู้ไม่ประสงค์ดีที่ร่วมกันว่า ผมใช้สารเสพติดและมีสิ่งเสพติดในร่างกายจนเกิดภาวะจิตหลอน ซึ่งผมเองไม่มีโอกาสได้ทำความเข้าใจ ที่ผ่านมาในชีวิตผมมีจิตใจแห่งความเป็นสาธารณะ และตั้งใจรับใช้ชาติ กลับเป็นช่องโหว่ให้เพื่อนเข้ามาพูดคุยและกล่อมจนภรรยาเกิดความกลัว และกังวลใจ จนลุกลามไปถึงมารดา กลับครั้นผมได้พิสูจน์ปัสสาวะเพื่อค้นหาสารเสพติด และตรวจถึง 6 ครั้ง ไม่พบสารเสพติดตามที่ปรักปรำผม
มีเพื่อนที่ยุยงและไม่ประสงค์ดีนั่นคือ พ.ต.ท....เข้ามาเจรจาต่อรองเพื่อให้ผมเปลี่ยนนายประกัน และพยายามพูดในลักษณะเกลี้ยกล่อมให้ผมเข้ารักษาอาการทางจิตที่ รพ.มโนรมณ์ด้านจิตเวช ก่อนหน้านี้นั้นได้เคยบีบบังคับให้ผมไปมาแล้วในลักษณะนี้ แต่ผมรู้อุบายที่จะทำให้ผมเป็นเป็นบุคคลที่ไร้ซึ่งสภาพที่จะดำรงอยู่ในสังคมอย่างปกติ เพื่อประโยชน์ทางทรัพย์สินและการคุ้มครองบุตร
ผมกลัวสวัสดิภาพและความปลอดภัยของคนในครอบครัว โดยเฉพาะลูกๆทั้ง 2 คนครับ อีกหนึ่งคนในครรภ์ เป็น 3 คนครับ เรื่องที่มีทรัพย์สินที่ธนาคารกสิกรไทย สาขา สุขาภิบาล 3 ถนนรามคำแหงนั้นเป็นเซฟที่เก็บพระเครื่อง เครื่องเพชร และนาฬิกา ซึ่งจะเปิดได้นั้นต้องมีลายเซ็นและตัวผมพร้อมกุญแจอีก 1 ดอก ซึ่งทั้งหมดนั้นอยู่ที่ภรรยา เว้นแต่กระผมเองจะเป็นคนไปเซ็น ขอให้ทราบถึงพฤติกรรมที่กลุ่มคนกลุ่มนี้พยายามทำบ้าน 2 หลัง และสิ่งอื่นๆซึ่งอาจประเมินค่าไม่ได้เลยหากล่าช้าครับพี่ ขอให้พี่เร่งพิจารณาและตัดสินใจช่วยเหลือผมและครอบครัวด้วยครับ ขอให้พี่ชาย (พี่ยุทธ์) เชื่อมั่นในความเป็นลูกผู้ชาย เป็นนักต่อสู้ของผม
"อ๊อด นคปฐม" ยันในวงการพระเครื่องไม่มีความรุนแรง
วานนี้ (24 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รอง ผบช.น. ได้เชิญเซียนพระในวงการพระเครื่องจากศูนย์พระเครื่อง อาทิ ที่ท่าพระจันทร์ ห้างพันธุ์ทิพย์ และที่ จ.นครปฐม จำนวนเกือบ 10 คน ที่เคยมีการเช่า-ขายพระเครื่องกับ นายจักรกฤษณ์ รวมทั้ง นายสุนทร บุญญะทวีวัฒน์ หรือ “อ๊อด นครปฐม” เซียนพระเครื่องที่นายจักรกฤษณ์มีความสนิทสนมมากที่สุด มาสอบถามข้อมูลหารายละเอียดกันตลอดทั้งวัน เพื่อหาเบาะแสประเด็นในการสังหารอดีตนักแม่นปืนทีมชาติ
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังให้ชุดสืบสวนทุกหน่วยเร่งสืบสวนหาเบาะแสคนร้าย ส่วนประเด็นเรื่องพระเครื่องนั้นก็เชิญเซียนพระใหญ่รายคนมาให้ข้อมูลต่างๆ แต่ก็ยังไม่ได้ประเด็นนี้ทิ้งไป โดยจะพยายามหาข่าวให้ได้ว่า นายจักรกฤษณ์มีความขัดแย้งกับใครหรือไม่ หลังจากที่ประกันตัวแล้วไปอยู่ที่ จ.นครปฐม ตั้งเกือบเดือน และจากการสอบถามก็ไม่มีประเด็นดังกล่าว และยังไม่พบว่าจะมีการนำพาไปสู่การสังหาร ซึ่งก็มีแนวโน้มน่าจะตัดประเด็นเรื่องพระเครื่องทิ้งไป
ผบช.น. กล่าวด้วยว่า ในวันนี้ได้มีการเปิดตู้เซฟที่ธนาคารโดยทาง พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยาของนายจักรกฤษณ์ ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งในตู้เซฟก็มีแต่พระเครื่องเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวกรณีที่มีการโยงถึงนายตำรวจยศ พ.ต.ท.คนหนึ่ง ที่ตั้งข้อสงสัยอาจมีส่วนเกี่ยวข้องเพราะเคยช่วยเหลือพา พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ และนางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม ภรรยาและแม่ แจ้งความดำเนินคดีนายจักรกฤษณ์ ที่ สน.มีนบุรี นั้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า มีการเรียกมาพบแล้ว ทาง พญ.นิธิวดีและญาติพี่น้องก็ไม่ได้ติดใจเพราะว่า พ.ต.ท.ดังกล่าวก็พยายามช่วยเรื่องการประกันตัว
เมื่อถามถึงด้านการสืบสวนติดตามมือปืน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบทราบว่ามือปืนที่ก่อเหตุไม่ได้มาดักรออยู่ที่บริเวณหน้าบ้านของนายจักรกฤษณ์ ขณะนี้ให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบอย่างละเอียด โดยวันที่ 25 ตุลาคม เวลา 10.00 น. จะมีการประชุมชุดสืบสวนเพื่อรายงานความคืบหน้ากรณีดังกล่าว และสรุปผลการจะตัดประเด็นเรื่องพระหรือไม่
นายสุนทร บุญญะทวีวัฒน์ หรือ “อ๊อด นครปฐม” เซียนพระ ที่นายจักรกฤษณ์ เดินทางไปพักอยู่ด้วยก่อนที่จะถูกสังหารเสียชีวิต ได้เดินทางเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขายพระเครื่องของนายจักรกฤษณ์ ใช้เวลานานกว่า 3 ชม.โดยภายหลังเสร็จสิ้นการให้ข้อมูล นายสุนทร กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขายพระเครื่องของนายจักรกฤษณ์ พร้อมทั้งมายืนยันว่าในวงการพระเครื่องไม่มีความรุนแรงถึงขนาดต้องสังหารกัน ปมความขัดแย้งเรื่องพระเครื่องไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้จักรกฤษณ์ถูกสังหารแน่นอน โดยหลังจากที่นายจักรกฤษณ์ออกจากเรือนจำก็เดินทางไปพักอยู่กับตนทันที และระบายความในใจเกี่ยวกับปัญหาส่วนตัวให้ฟัง ซึ่งพูดถึงความปลอดภัยของตัวเอง และหวาดระแวงจากคนใกล้ชิดที่ทำให้ติดคุก หลังจากที่ได้รับการประกันตัวจักรกฤษณ์ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังแทบทุกฝีก้าว ทุกครั้งที่เดินทางไปไหนมาไหนใน จ.นครปฐม จะใช้รถยนต์ของผม และคนรอบข้างตลอด ไม่ใช่รถของตัวเอง กระทั่งในวันเกิดเหตุ จักรกฤษณ์ เดินทางไปพบภรรยา และนัดกินข้าวกัน ทำให้ไม่มีการระวังตัว อาจจะชะล่าใจ
พ.ต.ท.ชี้แจงความบริสุทธิ์ใจ
ด้านพ.ต.ท. รัฐวิทย์ แสนทวีสุข หรือ “สารวัตรหนุ่ม” ช่วยราชการสำนักงาน ผ บก.ปคม. นายตำรวจที่ถูกพาดพิง ได้ออกมาเปิดเผยว่า รู้จักกับเอ็กซ์มาได้ประมาณ 6 ปีแล้ว เนื่องจากภรรยาของตนกับ “หมอนิ่ม” พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยาของเอ็กซ์ เคยสนิทกันมาก่อน จนเอ็กซ์ได้มาร่วมงานวันเกิดของตนก็เลยรู้จักกัน หลังจากนั้นต่อมาก็คบหากินเที่ยวด้วยกัน จนเกิดความสนิทสนม เวลาเขามีปัญหาอะไรก็มักโทรศัพท์มาปรึกษาตลอดทุกเรื่อง
พ.ต.ท. รัฐวิทย์ กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมาทุกครั้งที่เกิดปัญหา ภรรยาของเอ็กซ์มักจะโทรมาระบายปัญกับตนและภรรยา นอกจากนี้ยีงเคยเข้าไปไปห้ามปราม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีกหลายครั้งด้วย ส่วนเรื่องในจดหมาย เอ็กซ์เขาไม่ชอบตนเพราะ หลอกพาเขาไปบำบัดและจับเด็กเดินยาที่นำยาเสพติดมาส่ง ที่ทำลงไปก็เพราะความปรารถนาดี เพราะที่จริงแล้วก็ไม่อยากยุ่งกับเรื่องของครอบครัวคนอื่น แต่ที่ทำลงไปก็เพราะความสงสารเอ็กซ์และภรรยาเขา ล่าสุดตอนที่เอ็กซ์ติดคุก ตอนไปเยี่ยมเมื่อเห็นเขาถูกล่ามตรวน ภรรยาของตนเห็นสภาพก็ถึงกับร้องไห้ และร้องให้ตนช่วยเหลือ ก็เลยไปหาทนายและนำโฉนดบ้านไปเป็นหลักทรัพย์เพื่อขอประกันตัว
พ.ต.ท.รัฐวิทย์ กล่าวด้วยว่า เมื่อเอ็กซ์เห็นหน้าตน เขาก็ปฎิเสธ บอกว่าไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับเขาอีก พี่เป็นตำรวจมากี่ปี ยังมียศแค่ พ.ต.ท. แต่ตอนนี้เขาน่ะเป็นมือหนึ่งของประเทศ ให้กลับไปดูแ ครอบครัวตัวเองดีกว่า อย่ามายุ่งกับครอบครัวคนอื่นเลย เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าวจึงถอยออกมาและก็ไม่ได้เข้าไปคลุกคลีเหมือนเมื่อก่อน หลังจากเขาออกมาจากคุกไม่นาน เมื่อเขาทราบความจริง จึงสำนึกผิดและให้เลขา ฯ ส่วนตัวโทรมาหาบอกว่าจะมากราบขอโทษ แต่ตนปฏิเสทไป บอกว่ายกโทษให้ แต่ไม่ต้องมากราบขอโทษดีกว่า หลังจากนั้ไม่นานก็มาทราบข่าวว่าเขาถูกยิงดังกล่าว
“หลังเกิดเหตุพล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บช.น. ได้เรียกผมไปสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งผมก็เล่าให้ท่านฟังถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ร่วมทั้งเรื่องที่เขาคิดว่าผมไปเป็นกิ๊กกับภรรยาเขา และหวังฮุบสมบัติ นั้น ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นเพราะอะไร” พ.ต.ท.รัฐวิทย์ กล่าว
ผู้ใหญ่และคนดังวงการกีฬาแห่อาลัยร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ
ขณะเดียวกัน วานนี้ (24ต.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ณ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน จัดงานพิธีพระราชทานเพลิงศพ “เอ็กซ์” จ.ส.อ.จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม โดยมี นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นของมนุษย์ เป็นประธานในงาน รวมถึงผู้ใหญ่คนในแวดวงกีฬา ครอบครัว และเพื่อนสนิท ร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย
บรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความโศกเศร้า และได้รับเกียรติจากผู้ใหญ่ในวงการกีฬาอย่าง นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย, นายศักดา รัตนสุบรรณ บรรณาธิการนิตยสาร “คิวทอง”, นายมนตรี ไชยพันธุ์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นพ.วารินทร์ ตันศุภศิริ รองเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ, นพ.เอาชัย กาญจนพิทักษ์ รักษาการเลขาธิการสมาคมกีฬายิงปืนฯ, นายอธิปรัฐ กาญจนสุวรรณ รักษาการนายกสมาคมยิงปืนฯ และ นางสมคิด ปิ่นทอง อดีตรองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ขึ้นทอดผ้าไตร จากนั้นเป็นคิวของกลุ่มฮาเลย์ไอ้มดแดงร่วมร้องเพลงแสงสุดท้าย ซึ่งเป็นเพลงโปรดของ “เอ็กซ์” ก่อนเจ้าหน้าที่พนักงานจากสำนักพระราชวังอัญเชิญไฟหลวงพระราชทานเพลิงศพ
นายมานพ พณิชย์ผาติกรรม บิดา กล่าวถึงความรู้สึกถึงลูกชายครั้งสุดท้ายว่า “รู้สึกภูมิใจกับลูกที่ได้สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติ จากนี้ขอให้ลูกไปสบายสู่สุคติ ไปอยู่ในที่สบายหลังจากต้องเหนื่อยกับปัญหาต่างๆ มามาก หากชาติหน้ามีจริงหวังว่าจะได้เกิดมาเป็นพ่อลูกกันอีก ส่วนเรื่องลูกทั้งสองอยากให้ได้อยู่กับ พญ.ณิธวดี ภู่เจริญยศ เนื่องจากแม่น่าจะเลี้ยงดูและให้ความอบอุ่นได้ดีกว่า”
ด้าน นางบุญคิด มารดา ขอให้ลูกชายได้พักผ่อนอย่างสงบ หลังจากประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ในการแข่งยิงปืน พร้อมกล่าวของคุณ นายมนตรี ไชยพันธุ์ ที่เป็นผู้เดินเรื่องขอพระราชทานไฟหลวงพระราชทานเพลงศพให้ลูกชายในครั้งนี้ โดนยืนยันทางครอบครัวไม่มีปัญหาคาใจหรือติดใจใดๆ กับทางสมาคมยิงปืนฯ และเชื่อว่าน่าจะไม่ใช่ปมสังหารที่ตำรวจมองไว้แน่นอน