“คำรณวิทย์” เชิญเซียนพระให้ปากคำ รวมทั้ง “อ๊อด นครปฐม” ยันในวงการพระเครื่องไม่มีความรุนแรงถึงขนาดต้องสังหารกัน แต่ “เอ็กซ์” หวาดระแวงจากคนใกล้ชิดที่ทำให้ติดคุก
วันนี้ (24 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รอง ผบช.น.ได้เชิญเซียนพระในวงการพระเครื่องจากศูนย์พระเครื่อง อาทิ ที่ท่าพระจันทร์ ห้างพันธุ์ทิพย์ และที่ จ.นครปฐม จำนวนเกือบ 10 คน ที่เคยมีการเช่า-ขายพระเครื่องกับ นายจักรกฤษณ์ รวมทั้ง นายสุนทร บุญญะทวีวัฒน์ หรือ “อ๊อด นครปฐม” เซียนพระเครื่องที่นายจักรกฤษณ์ มีความสนิทสนมมากที่สุด มาสอบถามข้อมูลหารายละเอียดกันตลอดทั้งวัน เพื่อหาเบาะแสประเด็นในการสังหารอดีตนักแม่นปืนทีมชาติ
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังให้ชุดสืบสวนทุกหน่วยเร่งสืบสวนหาเบาะแสคนร้าย ส่วนประเด็นเรื่องพระเครื่องนั้น ก็เชิญเซียนพระใหญ่รายคนมาให้ข้อมูลต่างๆ แต่ก็ยังไม่ได้ประเด็นนี้ทิ้งไป โดยจะพยายามหาข่าวให้ได้ว่า นายจักรกฤษณ์มีความขัดแย้งกับใครหรือไม่ หลังจากที่ประกันตัวแล้วไปอยู่ที่ จ.นครปฐม ตั้งเกือบเดือน นายจักรกฤษณ์คลุกคลีอยู่ในวงการพระเครื่องเช่าพระ และปล่อยพระแล้วก็มีการนำเงินมาแบ่งกันกับบรรดาเซียนพระ ตนจึงเชิญมาสอบถามเพื่อหาจุด ว่า มีเรื่องขัดแย้งกันเกี่ยวกับส่วนแบ่ง ราคาพระ และพระปลอมหรือไม่ ขณะที่อยู่ใน จ.นครปฐม จากการสอบถามก็ไม่มีประเด็นดังกล่าว และยังไม่พบว่าจะมีการนำพาไปสู่การสังหารนายจักรกฤษณ์ ซึ่งก็มีแนวโน้มน่าจะตัดประเด็นเรื่องพระเครื่องทิ้งไป
ผบช.น.กล่าวด้วยว่า ในวันนี้ได้มีการเปิดตู้เซฟที่ธนาคาร โดยทาง พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยาของนายจักรกฤษณ์ ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งในตู้เซฟก็มีแต่พระเครื่องเท่านั้น โดยมีการสอบถามเกี่ยวกับพระเครื่องว่า องค์ไหนได้มาอย่างไร ทราบว่าก็มีการเช่ามาไม่น่าจะมีการขัดแย้งในเรื่องนี้ โดยจะมีการสรุปประเด็นนี้กับชุดสืบสวนอีกครั้ง ส่วนเรื่องความขัดแย้งในครอบครัวก็กำลังสืบสวนอยู่คงต้องรอให้ฌาปนกิจศพก่อนแล้วจะเชิญญาติพี่น้องทั้งหมดในครอบครัว รวมทั้งคนใช้มาสอบปากคำให้ชัดเจนอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการโยงถึงนายตำรวจยศ พ.ต.ท.คนหนึ่ง ที่ตั้งข้อสงสัยอาจมีส่วนเกี่ยวข้องเพราะเคยช่วยเหลือพา พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ และ นางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม ภรรยาและแม่ แจ้งความดำเนินคดีนายจักรกฤษณ์ ที่ สน.มีนบุรี นั้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า มีการเรียกมาพบแล้ว ทาง พญ.นิธิวดี และญาติพี่น้องก็ไม่ได้ติดใจ เพราะว่า พ.ต.ท.ดังกล่าวก็พยายามช่วยเรื่องการประกันตัว
เมื่อถามถึงด้านการสืบสวนติดตามมือปืน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบทราบว่ามือปืนที่ก่อเหตุไม่ได้มาดักรออยู่ที่บริเวณหน้าบ้านของนายจักรกฤษณ์ ขณะนี้ให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบอย่างละเอียด โดยวันที่ 25 ตุลาคม เวลา 10.00 น.จะมีการประชุมชุดสืบสวนเพื่อรายงานความคืบหน้ากรณีดังกล่าว และสรุปผลการจะตัดประเด็นเรื่องพระหรือไม่
ต่อข้อถามว่าประเด็นเรื่องความขัดแย้งในครอบครัวให้น้ำหนักมากที่สุดใช่หรือไม่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ตอนนี้ยังเหมือนกับประเด็นอื่นๆ ต้องขอข้อมูลก่อนเพราะมีหลายอย่างประกอบกัน อย่างเช่น ประเด็นชู้สาวก็มีข้อมูลเข้ามาเหมือนกัน โดยหลังจากที่มีการประชุมความคืบหน้าคดีแล้วน่าจะตัดประเด็นบางอย่างไปได้
นายสุนทร บุญญะทวีวัฒน์ หรือ “อ๊อด นครปฐม” เซียนพระ ที่นายจักรกฤษณ์ เดินทางไปพักอยู่ด้วยก่อนที่จะถูกสังหารเสียชีวิต ได้เดินทางเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขายพระเครื่องของนายจักรกฤษณ์ ใช้เวลานานกว่า 3 ชม.โดยภายหลังเสร็จสิ้นการให้ข้อมูล นายสุนทร กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขายพระเครื่องของนายจักรกฤษณ์ พร้อมทั้งมายืนยันว่าในวงการพระเครื่องไม่มีความรุนแรงถึงขนาดต้องสังหารกัน ปมความขัดแย้งเรื่องพระเครื่องไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้จักรกฤษณ์ถูกสังหารแน่นอน เนื่องจากมีการพิสูจน์ทราบเรียบร้อยแล้ว โดยพระเครื่องที่จักรกฤษณ์นำไปให้เช่านั้น ได้รับการยืนยันจากเซียนพระหลายคนแล้วว่าไม่ใช่พระปลอม อีกทั้งบุคคลที่ซื้อพระจากนายจักรกฤษณ์ก็มาแสดงตัวและให้ข้อมูลแล้ว ปมความขัดแย้งเรื่องพระเครื่องน่าจะเป็นการเบี่ยงเบนประเด็นให้เกิดความสับสนในการสืบสวนหาตัวคนร้าย ทั้งนี้ หลังจากที่นายจักรกฤษณ์ออกจากเรือนจำก็เดินทางไปพักอยู่กับตนทันที และระบายความในใจเกี่ยวกับปัญหาส่วนตัวให้ฟัง
“เขาพูดถึงความปลอดภัยของตัวเอง และหวาดระแวงจากคนใกล้ชิดที่ทำให้ติดคุก หลังจากที่ได้รับการประกันตัวจักรกฤษณ์ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังแทบทุกฝีก้าว ทุกครั้งที่เดินทางไปไหนมาไหนใน จ.นครปฐม จะใช้รถยนต์ของผม และคนรอบข้างตลอด ไม่ใช้รถของตัวเอง หากไปนอกพื้นที่ จ.นครปฐม ก็จะมีคนติดตามไปด้วย ระหว่างที่อยู่บ้าน จักรกฤษณ์ก็ติดต่อกับครอบครัวตลอด แต่ไม่เคยกลับมาอยู่ด้วยกัน กระทั่งในวันเกิดเหตุ จักรกฤษณ์ เดินทางไปพบภรรยา และนัดกินข้าวกัน ทำให้ไม่มีการระวังตัว อาจจะชะล่าใจ คิดว่าจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว ซึ่งระหว่างนั้นไม่มีลางบอกเหตุอะไรเลยว่าจักรกฤษณ์จะถูกลอบยิง” เซียนพระชื่อดังระบุ