ASTV ผู้จัดการรายวัน - ผบช.น. ประชุมเครียดชุดสืบสวนคลี่คลายคดีคนร้ายลอบยิง “เอ็กซ์ จักรกฤษณ์” เสียชีวิต พุ่งปมขัดแย้งพระเครื่อง หลังทำพระเก๊หลอกขายเซียนพระ พร้อมตัดทิ้งประเด็นเครือข่ายค้ายาเสพติด เหตุเป็นผู้เสพไม่ใช่ผู้ค้า ส่วนความขัดแย้งครอบครัวยังไม่ตัดทิ้ง ภรรยาให้ปากคำยืนยันความขัดแย้งในครอบครัวไม่ใช่ปมฆ่า เพราะความสัมพันธ์เริ่มดีขึ้นตามลำดับ ขณะที่เพื่อนชี้มือสังหารเชี่ยวชาญสูง
ความคืบหน้าจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ คนร้ายขี่จักรยานยนต์บิ๊กไบค์สีดำ ประกบยิงนายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม หรือเอ็กซ์ อายุ 40 ปี อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ขณะขับรถยนต์ปอร์เช่สีดำ บริเวณปากซอยรามคำแหง 166 ถนนรามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร (กทม.) กระสุนทะลวงอก ซึ่งเอ็กซ์ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น
วานนี้ (23 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คํารณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนติดตามความคืบหน้านานกว่า 1 ชั่วโมง
พล.ต.ท.คํารณวิทย์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ได้ตัดประเด็นยาเสพติดทิ้ง ยืนยันว่านายจักรกฤษณ์มีการเสพยาจริง แต่ไม่ได้มีการจําหน่าย โดยนายจักรกฤษณ์ร่วมเสพยากับพวกอีก 2-3 คน แต่ไม่ได้เป็นคนนําไปจําหน่ายให้เพื่อนแน่นอน ทำให้ไม่เห็นความขัดแย้งใดๆ ส่วนประเด็นที่เหลือยังคงไว้ทั้งประเด็นเรื่องพระเครื่อง ความขัดแย้งในครอบครัว และความขัดแย้งในสมาคมยิงปืน ในประเด็นครอบครัวที่เรายังไม่ได้ตัดทิ้ง เพราะตอนนี้กําลังอยู่ในช่วงระหว่างงานศพ ทําให้ครอบครัวยังไม่สามารถมาให้ปากคํากันอย่างเต็มที่ แต่ได้มีการเรียกสอบบ้างแล้ว และจะมีการเรียกสอบสวนเพิ่ม ทําให้ยังไม่สามารถตัดทิ้งได้
ส่วนประเด็นพระเครื่องนั้น มีการเรียกตัวบุคคลใกล้ชิด และเซียนพระที่สนิทกับนายจักรกฤษณ์มาสอบอย่างต่อเนื่อง โดยตนก็เป็นคนหนึ่งที่อยู่ในวงการพระเครื่อง อยากให้ทราบว่าถ้าเกิดกรณีที่ไม่พอใจในพระเครื่องที่ถูกซื้อขายกันไปอยากจะขอคืน ก็จะมีการเจรจากัน ตนก็เคยเป็นคนกลางในการเจรจาคืนพระให้เพื่อนมาแล้ว ซึ่งให้น้ำหนักในเรื่องการเจรจาไม่เป็นผล จึงมีใบสั่งฆ่า โดยทางชุดสืบสวนเร่งติดพระที่นายจักรกฤษณ์ขายไป ซึ่งมีการเรียกมาตรวจสอบแล้วบางองค์
"ขณะนี้คดีคืบหน้าไปมาก เพราะมีการร่วมกันจากทุกหน่วย เรื่องการดูกล้องวงจรปิด ก็มีการเรียกดูทุกจุดที่คาดว่าจะได้เบาะแสของคนร้าย แต่คนร้ายไม่ทิ้งหลักฐานอะไรไว้ นอกจากปลอกกระสุนปืนที่ตกอยู่ แต่ไม่หนักใจเพราะช่วยกันหลายหน่วย ไม่มีการทับซ้อนงานกัน ช่วยกันทํางาน อีกทั้งยังตั้งเงินรางวัลไว้เหมือนเดิม 2 แสนบาท หากใครรู้เบาะแสคนร้ายและคนบงการ โดยจะดําเนินการให้ถึงที่สุดแน่นอน ไม่มีการละเว้น"พล.ต.ต.คํารณวิทย์กล่าว
ทั้งนี้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ได้ขอเวลาในการเร่งรัดคดีอีก 2 วัน โดยให้ชุดสืบสวนคลี่คลายคดี เข้าร่วมประชุมสรุปความชัดเจนอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 25 ต.ค.นี้ ที่ บช.น. ซึ่งคงจะมีความคืบหน้าพอสมควร
อย่างไรก็ตาม มีรายงานผลการประชุมเชิงลึกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตัดประเด็นเรื่องยาเสพติดออกไป เนื่องจากได้พุ่งประเด็นไปที่ความขัดแย้งในเรื่องการซื้อขายพระเครื่องที่ผู้ตายนำมาปล่อยออกสู่ตลาดพระเครื่อง ที่สันนิษฐานได้ว่ามีการนำพระปลอมมาหลอกขายให้กับนักเล่นพระ ส่วนประเด็นเรื่องครอบครัวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดทิ้งเช่นกัน เนื่องจากอยู่ในช่วงอาการเศร้าโศกเสียใจของคนในครอบครัว
ล่าสุดที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.3 บก.สส.บช.น. พาตัว พญ.ณิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยา นายจักรกฤษณ์ เข้าพบ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ และ พล.ต.ต.ฐิติราช เพื่อสอบถามประเด็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว โดยการพูดคุยดำเนินไปเพียงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น ก่อนที่ พญ.ณิธิวดี จะขออนุญาตเดินทางไปให้การเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี
พญ.ณิธิวดี กล่าวว่า มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวันของสามี และได้รับแจ้งจาก ผบช.น. ว่า ชุดคลี่คลายคดีตัดประเด็นยาเสพติดทิ้งไปแล้ว แต่ที่หลายฝ่ายสงสัยว่าชนวนสังหารมาจากเรื่องความขัดแย้งภายในครอบครัวหรือไม่ ตนยืนยันว่า ไม่น่าใช่ เพราะความสัมพันธ์ของตนกับสามีเริ่มมีสถานการณ์ดีขึ้น ส่วนเรื่องตู้เซฟของสามีที่อยู่ภายในบ้าน ขณะนี้ก็ยังไม่ได้เปิด เนื่องจากไม่มีใครมีกุญแจ หลังจากนี้ต้องปล่อยให้ตำรวจจับกุมคนร้ายให้ได้
มีรายงานว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ผู้ตายทำเอาไว้อย่างละเอียด เบื้องต้นพบมีมูลค่าถึงหลักสิบล้านบาท ซึ่งจะต้องทำการพิจารณาต่อไปว่าเมื่อเสียชีวิตแล้ว มีใครได้ประโยชน์บ้าง ส่วนประเด็นความขัดแย้งกับคนในครอบครัว ก่อนหน้านี้ ได้มีผู้ใหญ่ที่นายจักรกฤษณ์ให้ความเคารพเข้าให้การว่า ช่วงที่นายจักรกฤษณ์ ยังไม่ได้รับการประกันตัวออกมาจากคุก ได้มีการให้ผู้ใหญ่คนดังกล่าวพูดคุยเชื่อมความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวทั้งภรรยาและญาติฝ่ายภรรยา ซึ่งนายจักรกฤษณ์ รับปากว่า หากได้ประกันตัวออกมาแล้วจะเดินทางไปกราบขอขมาญาติผู้ใหญ่ฝ่ายภรรยาทั้งหมด กระทั่งเมื่อได้รับอิสรภาพชั่วคราวกลับไม่ทำอย่างที่พูดเอาไว้ หนำซ้ำยังไปด่ากราดพร้อมกำชับไม่ให้ยุ่งเรื่องผัวเมีย ซึ่งทีมสืบสวนมองว่าอาจเป็นประเด็นหนึ่งที่ทำให้ปมความขัดแย้งในครอบครัวดูมีน้ำหนักมากขึ้น
ที่สน.มีนบุรี นายโอภาส เรืองปัญญาวุฒิ อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประดิษฐ์ ทะประสิทธิ์จิตต์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.มีนบุรี เจ้าของคดี เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเอ็กซ์ โดยระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเอ็กซ์ ขอตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับมือปืนว่าผู้ที่ยิงในลักษณะซ้อนรถจักรยานยนต์อยู่นั้น ต้องมีความชำนาญมาก เพราะการยิงต้องมีการเอี้ยวตัวมุ่งหาเป้าหมาย ซึ่งน่าจะได้รับการฝึกฝนและมีทักษะในการยิงปืนเป็นอย่างดี
วันเดียวกันนี้ นายมานพ และนางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม บิดามารดาเอ็กซ์ พร้อม พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยา และครอบครัว เดินทางมาทำพิธีทางศาสนา โดยให้พระสงฆ์ 1 รูป เชิญดวงวิญญาณของเอ็กซ์ จากรถสปอร์ตคันเกิดเหตุให้กลับไปวัดพระศรีมหาธาตุ เนื่องจากในวันที่ 24 ต.ค. จะเป็นวันฌาปนกิจ
ความคืบหน้าจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ คนร้ายขี่จักรยานยนต์บิ๊กไบค์สีดำ ประกบยิงนายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม หรือเอ็กซ์ อายุ 40 ปี อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ขณะขับรถยนต์ปอร์เช่สีดำ บริเวณปากซอยรามคำแหง 166 ถนนรามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร (กทม.) กระสุนทะลวงอก ซึ่งเอ็กซ์ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น
วานนี้ (23 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คํารณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนติดตามความคืบหน้านานกว่า 1 ชั่วโมง
พล.ต.ท.คํารณวิทย์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ได้ตัดประเด็นยาเสพติดทิ้ง ยืนยันว่านายจักรกฤษณ์มีการเสพยาจริง แต่ไม่ได้มีการจําหน่าย โดยนายจักรกฤษณ์ร่วมเสพยากับพวกอีก 2-3 คน แต่ไม่ได้เป็นคนนําไปจําหน่ายให้เพื่อนแน่นอน ทำให้ไม่เห็นความขัดแย้งใดๆ ส่วนประเด็นที่เหลือยังคงไว้ทั้งประเด็นเรื่องพระเครื่อง ความขัดแย้งในครอบครัว และความขัดแย้งในสมาคมยิงปืน ในประเด็นครอบครัวที่เรายังไม่ได้ตัดทิ้ง เพราะตอนนี้กําลังอยู่ในช่วงระหว่างงานศพ ทําให้ครอบครัวยังไม่สามารถมาให้ปากคํากันอย่างเต็มที่ แต่ได้มีการเรียกสอบบ้างแล้ว และจะมีการเรียกสอบสวนเพิ่ม ทําให้ยังไม่สามารถตัดทิ้งได้
ส่วนประเด็นพระเครื่องนั้น มีการเรียกตัวบุคคลใกล้ชิด และเซียนพระที่สนิทกับนายจักรกฤษณ์มาสอบอย่างต่อเนื่อง โดยตนก็เป็นคนหนึ่งที่อยู่ในวงการพระเครื่อง อยากให้ทราบว่าถ้าเกิดกรณีที่ไม่พอใจในพระเครื่องที่ถูกซื้อขายกันไปอยากจะขอคืน ก็จะมีการเจรจากัน ตนก็เคยเป็นคนกลางในการเจรจาคืนพระให้เพื่อนมาแล้ว ซึ่งให้น้ำหนักในเรื่องการเจรจาไม่เป็นผล จึงมีใบสั่งฆ่า โดยทางชุดสืบสวนเร่งติดพระที่นายจักรกฤษณ์ขายไป ซึ่งมีการเรียกมาตรวจสอบแล้วบางองค์
"ขณะนี้คดีคืบหน้าไปมาก เพราะมีการร่วมกันจากทุกหน่วย เรื่องการดูกล้องวงจรปิด ก็มีการเรียกดูทุกจุดที่คาดว่าจะได้เบาะแสของคนร้าย แต่คนร้ายไม่ทิ้งหลักฐานอะไรไว้ นอกจากปลอกกระสุนปืนที่ตกอยู่ แต่ไม่หนักใจเพราะช่วยกันหลายหน่วย ไม่มีการทับซ้อนงานกัน ช่วยกันทํางาน อีกทั้งยังตั้งเงินรางวัลไว้เหมือนเดิม 2 แสนบาท หากใครรู้เบาะแสคนร้ายและคนบงการ โดยจะดําเนินการให้ถึงที่สุดแน่นอน ไม่มีการละเว้น"พล.ต.ต.คํารณวิทย์กล่าว
ทั้งนี้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ได้ขอเวลาในการเร่งรัดคดีอีก 2 วัน โดยให้ชุดสืบสวนคลี่คลายคดี เข้าร่วมประชุมสรุปความชัดเจนอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 25 ต.ค.นี้ ที่ บช.น. ซึ่งคงจะมีความคืบหน้าพอสมควร
อย่างไรก็ตาม มีรายงานผลการประชุมเชิงลึกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตัดประเด็นเรื่องยาเสพติดออกไป เนื่องจากได้พุ่งประเด็นไปที่ความขัดแย้งในเรื่องการซื้อขายพระเครื่องที่ผู้ตายนำมาปล่อยออกสู่ตลาดพระเครื่อง ที่สันนิษฐานได้ว่ามีการนำพระปลอมมาหลอกขายให้กับนักเล่นพระ ส่วนประเด็นเรื่องครอบครัวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดทิ้งเช่นกัน เนื่องจากอยู่ในช่วงอาการเศร้าโศกเสียใจของคนในครอบครัว
ล่าสุดที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.3 บก.สส.บช.น. พาตัว พญ.ณิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยา นายจักรกฤษณ์ เข้าพบ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ และ พล.ต.ต.ฐิติราช เพื่อสอบถามประเด็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว โดยการพูดคุยดำเนินไปเพียงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น ก่อนที่ พญ.ณิธิวดี จะขออนุญาตเดินทางไปให้การเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี
พญ.ณิธิวดี กล่าวว่า มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวันของสามี และได้รับแจ้งจาก ผบช.น. ว่า ชุดคลี่คลายคดีตัดประเด็นยาเสพติดทิ้งไปแล้ว แต่ที่หลายฝ่ายสงสัยว่าชนวนสังหารมาจากเรื่องความขัดแย้งภายในครอบครัวหรือไม่ ตนยืนยันว่า ไม่น่าใช่ เพราะความสัมพันธ์ของตนกับสามีเริ่มมีสถานการณ์ดีขึ้น ส่วนเรื่องตู้เซฟของสามีที่อยู่ภายในบ้าน ขณะนี้ก็ยังไม่ได้เปิด เนื่องจากไม่มีใครมีกุญแจ หลังจากนี้ต้องปล่อยให้ตำรวจจับกุมคนร้ายให้ได้
มีรายงานว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ผู้ตายทำเอาไว้อย่างละเอียด เบื้องต้นพบมีมูลค่าถึงหลักสิบล้านบาท ซึ่งจะต้องทำการพิจารณาต่อไปว่าเมื่อเสียชีวิตแล้ว มีใครได้ประโยชน์บ้าง ส่วนประเด็นความขัดแย้งกับคนในครอบครัว ก่อนหน้านี้ ได้มีผู้ใหญ่ที่นายจักรกฤษณ์ให้ความเคารพเข้าให้การว่า ช่วงที่นายจักรกฤษณ์ ยังไม่ได้รับการประกันตัวออกมาจากคุก ได้มีการให้ผู้ใหญ่คนดังกล่าวพูดคุยเชื่อมความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวทั้งภรรยาและญาติฝ่ายภรรยา ซึ่งนายจักรกฤษณ์ รับปากว่า หากได้ประกันตัวออกมาแล้วจะเดินทางไปกราบขอขมาญาติผู้ใหญ่ฝ่ายภรรยาทั้งหมด กระทั่งเมื่อได้รับอิสรภาพชั่วคราวกลับไม่ทำอย่างที่พูดเอาไว้ หนำซ้ำยังไปด่ากราดพร้อมกำชับไม่ให้ยุ่งเรื่องผัวเมีย ซึ่งทีมสืบสวนมองว่าอาจเป็นประเด็นหนึ่งที่ทำให้ปมความขัดแย้งในครอบครัวดูมีน้ำหนักมากขึ้น
ที่สน.มีนบุรี นายโอภาส เรืองปัญญาวุฒิ อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประดิษฐ์ ทะประสิทธิ์จิตต์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.มีนบุรี เจ้าของคดี เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเอ็กซ์ โดยระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเอ็กซ์ ขอตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับมือปืนว่าผู้ที่ยิงในลักษณะซ้อนรถจักรยานยนต์อยู่นั้น ต้องมีความชำนาญมาก เพราะการยิงต้องมีการเอี้ยวตัวมุ่งหาเป้าหมาย ซึ่งน่าจะได้รับการฝึกฝนและมีทักษะในการยิงปืนเป็นอย่างดี
วันเดียวกันนี้ นายมานพ และนางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม บิดามารดาเอ็กซ์ พร้อม พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยา และครอบครัว เดินทางมาทำพิธีทางศาสนา โดยให้พระสงฆ์ 1 รูป เชิญดวงวิญญาณของเอ็กซ์ จากรถสปอร์ตคันเกิดเหตุให้กลับไปวัดพระศรีมหาธาตุ เนื่องจากในวันที่ 24 ต.ค. จะเป็นวันฌาปนกิจ
