ตำรวจเผย "เอ็กซ์ จักรกฤษณ์" หนีกบดานบ้านพ่อบุญธรรม "พยัพ คำพันธุ์" ก่อนพบจุดจบเพียง 1 วัน รายงาน "เอ็กซ์" มีเงินในบัญชีแค่แสนกว่าบาทไม่ได้มีหลายสิบล้าน พร้อมพบชนวนสำคัญสมคบแก๊งเซียนพระปลอม "อ๊อดขาว" นำพระปลอมมาหลอกขายคนเล่นพระหลายครั้ง จนเกิดปัญหาน่าจะเป็นประเด็นปมที่มีน้ำหนักมากสุด ส่วนพ่อ - แม่ เข้าให้ปากคำตำรวจ ด้าน"แจ๊ด" อัดฉีดรางวัลนำจับคนร้าย 2 แสนบาท
ความคืบหน้าจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ คนร้ายขี่จักรยานยนต์บิ๊กไบค์ สีดำประกบยิงนายจักรกฤษณ์ หรือ เอ็กซ์ พณิชย์ผาติกรรม อายุ 40 ปี อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ขณะขับรถยนต์ปอร์เช่สีดำคันหรู บริเวณปากซอยรามคำแหง 166 ถนนรามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. กระสุนทะลวงอก ซึ่งเอ็กซ์ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมาตามที่มเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น
วานนี้ (22 ต.ค.) รายงานข่าวในการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีภายหลังตรวจสอบพบว่านายจักรกฤษณ์ได้เดินทางไปพบกับนายไชยา สะสมทรัพย์ ส.ส.เพื่อไทย จ.นครปฐม ก่อนเสียชีวิตโดยนายไชยาออกมายอมรับว่าเป็นเรื่องจริงนั้น ล่าสุดทางตำรวจชุดสืบสวนฯ เปิดเผยว่านายจักรกฤษณ์ได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่กับเซียนพระชื่อดัง ในจังหวัดนนทบุรีด้วย
โดยมีรายงานว่าเซียนพระชื่อดังคนดังกล่าว คือ นายพยัพ คำพันธุ์ นายกสมาคมพระเครื่องแห่งประเทศไทย หรือ ต้อย เมืองนนท์ เซียนพระชื่อดังอีกราย นอกจากนี้ยังพบว่านายจักรกฤษณ์มีสถานะเป็นลูกบุญธรรมของ "พยัพ คำพันธุ์"ด้วย โดยตลอดเวลาที่พบเจอกับ "พยัพ คำพันธุ์" เอ็กซ์ จักรกฤษณ์จะเรียกว่า "พ่อ"ทุกคำด้วย
นอกจากนี้ในแนวทางสืบสวนเชิงลึกยังสืบทราบว่านายจักรกฤษณ์ภายหลังจากเดินทางกลับจากการหลบซ่อนตัวกับเซียนพระชื่อดังย่านจังหวัดนนทบุรีได้เดินทางกลับบ้านพักที่หมู่บ้านบัวขาวในวันศุกร์ที่ 18 ต.ค. จากนั้นได้ออกไปยุ่งเกี่ยวกับเครือข่ายยาไอซ์แวดวงคนชื่อดังก่อนมาพบจุดจบในช่วงเวลา 19.00 น.วันที่ 19 ต.ค.ด้วย
อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังพุ่งประเด็นไปที่ความขัดแย้งในวงการพระเครื่องและยาเสพติดเป็นหลัก ล่าสุดพบชนวนสาเหตุสำคัญหลังจากสืบสวนพบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความขัดแย้งในวงการพระเครื่องเพิ่มเติม หลังตรวจสอบพบผู้ตายมีการติดต่อ ซื้อขาย - เช่าพระ กับขบวนการทำพระปลอม ที่มีหัวหน้าแก๊งเป็นที่รู้จักกันดีในวงการพระเครื่อง ฉายาว่า "เซียนอ๊อดขาว" ซึ่งมีแหล่งผลิตพระปลอมอยู่ใน จังหวัดนครปฐม เป็นที่ล่ำลือในวงการพระเครื่องถึงฝีไม้ลายมือที่สามารถปลอมแปลงพระเครื่องและพระผงที่เป็นที่นิยมในตลาดพระเครื่องได้อย่างแนบเนียน ระดับมือพระกาฬ
อีกทั้งยังตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ของผู้ตายพบหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาหานายจักรกฤษณ์ ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นเบอร์โทรของดารานักแสดงชื่อดัง "โด่ง สิทธิพร นิยม" ด้วย โดยดาราคนดังกล่าวออกมายอมรับว่าได้โทรศัพท์หาเอ็กซ์จริงในเวลาประมาณ 18.00 น.วันที่ 19 ต.ค.จริง ซึ่งล่าสุดตำรวจได้เชิญมาสอบปากคำแล้วเนื่องจากตรวจสอบบัญชีของผู้ตายพบมีการโอนเงินไปเข้าบัญชี "โด่ง สิทธิพร" เป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท โดยโด่งระบุว่าเอ็กซ์โอนเงินมาใช้หนี้ที่ยืมไปก่อนหน้านี้จำนวน 50,000 บาท พร้อมยืนยันว่าไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตของนายจักรกฤษณ์แต่อย่างใดและไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นยาเสพติดแต่อย่างใด
นอกจากนี้ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดียังได้ตรวจสอบสถานะทางการเงินของเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ พบว่าไม่ได้มีทรัพย์สินอยู่ในบัญชีธนาคารหลายสิบล้านบาทตามที่ปรากฏเป็นข่าวก่อนหน้านี้ พบเงินสดอยู่ในบัญชีธนาคารประมาณ 1 แสนกว่าบาทเท่านั้น
อีกด้านหนึ่ง เมื่อเวลา 13.00 น.ที่สน.มีนบุรี นายมานพ และนางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม บิดามารดานายจักรกฤษณ์ เดินทางมาพบ พ.ต.ท.ประดิษฐ์ ทะปะสิทธิ์จิตต์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.มีนสบุรี เพื่อให้ปากคำกรณีการเสียชีวิตของลูกชายโดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง
นายมานพเปิดเผยภายหลังให้ปากคำกับตำรวจว่าสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชายไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งในวงการพระเครื่องหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ ส่วนเรื่องความขัดแย้งในครอบครัวยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้นตนได้ให้ข้อมูลตำรวจไปหมดแล้ว ซึ่งให้ไปถามกับตำรวจเอาเอง ส่วนกรณีที่ลูกชายเดินทางไปหาอ๊อด นครปฐม เซียนพระชื่อดังนั้นยอมรับว่าเป็นความจริงเพราะเขาสนิทสนมกัน
ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น. ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บช.น. กล่าวภายหลังการสอบปากคำนายสุนทร บุญญะทวีวัฒน์ หรือ "อ๊อดขาวนครปฐม" อายุ 43 ปี เซียนพระชื่อดัง ในจ.นครปฐม ว่า ได้เชิญเซียนพระรายนี้มาให้ข้อมูลเนื่องจากมีความสนิมสนมคุ้นเคยกับนายจักรกฤษณ์ ซึ่งเหตุผลที่เชิญ นายสุนทร มาเพราะต้องการทราบข้อมูลว่าช่วงที่ นายจักรกฤษณ์ ไปอยู่ที่ จ.นครปฐม ได้มีปัญหากับใครบ้างหรือไม่ รวมทั้งสอบถามว่านายจักรกฤษณ์ เคยเล่าให้ฟังบ้างหรือไม่ว่าเคยมีปัญหากับใคร ทั้งนี้ ตำรวจเชื่อว่านายสุนทรไม่มีส่วนเกี่ยวข้องการเสียชีวิตของจักรกฤษณ์
พล.ต.ต.ประยนต์ กล่าวว่า จากการสอบถาม นายสุนทร ระบุว่า ประเด็นความขัดแย้งในวงการพระเครื่องไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาการเช่าพระราคาเป็นสิบล้านก็ไม่มีปัญหาอะไร พร้อมยืนยันว่านายจักรกฤษณ์ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายพระปลอมอย่างแน่นอน เพราะอย่างที่ทราบถ้าซื้อขายพระเครื่องที่มูลค่าเป็นล้าน จะต้องการนำพระไปให้เซียนพระหลายรายดูจนแน่ใจว่าเป็นพระแท้ คงไม่ได้ตกลงซื้อขายกัน หรือ จ่ายเงินทันที อย่างไรก็ตามประเด็นเกี่ยวความขัดแย้งในวงการพระเครื่องตำรวจยังไม่ได้ตัดทิ้ง ต้องตรวจสอบให้ครบถ้วน เพราะอย่างที่ทราบมีบางช่วงที่ นายจักรกฤษณ์ มีการให้เช่าพระเครื่องด้วย ซึ่งตรงนี้ต้องดูทั้งหมด โดยจะตรวจสอบบัญชี รวมทั้งเส้นทางการเงินของ นายจักรกฤษณ์ อีกครั้งว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร เมื่อรับเงินมาแล้วจ่ายไปให้ใคร รวมทั้งประเด็นความขัดแย้งในครอบครัวก็ต้องตามต่อ ตำรวจยังไม่ได้มีการตัดประเด็นนี้ทิ้งแต่อย่างใด
ผบก.สส. กล่าวด้วยว่า สำหรับความคืบหน้าทางคดีที่ผ่านมาได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลแล้วกว่า 10 ราย ขณะที่การตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุ และตามเส้นทางหลบหนีของคนร้าย ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงไปตรวจสอบเพิ่มเติมแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสุนทร ได้ให้ข้อมูลหรือไม่ว่านายจักรกฤษณ์ หลบไปอยู่ที่ จ.นครปฐม เพราะสาเหตุอะไร พล.ต.ต.ประยนต์ กล่าวว่า นายสุนทร บอกเพียงว่า นายจักรกฤษณ์ หลบไปพักผ่อน เพราะทั้งคู่มีความสนิทสนมคุ้นเคยกัน ก่อนหน้านี้ที่นายจักรกฤษณ์ ต้องติดคุก นายสุนทรก็เป็นผู้ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวออกไป ส่วนที่ นายจักรกฤษณ์ กลับมากทม. เพราะว่าคิดถึงลูก
ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความคดีล่าสุดตนเองได้ตั้งรางวัลนำจับ หรือคนที่ชี้เบาะแสในคดีนี้ เพื่อจับกุมคนร้ายจำนวน 2 แสนบาท ซึ่งสามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่ตำรวจเจ้าของคดีได้ทันที
ส่วนปมสังหารนั้น จะยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง เพราะหากตำรวจไปมุ่งประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ทั้งเรื่องขัดแย้งพระเครื่อง หรืออื่นๆ อาจหลงทางในคดีได้ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (23 ต.ค.) เวลา 10.00 น.จะเรียกประชุมทีมคลี่คลายคดีทั้งหมดมารายงานผล ซึ่งคาดว่าจะชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทั้งปมสังหารและอื่นๆ
อีกด้าน พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยความคืบหน้าการส่งผลตรวจพิสูจน์ศพนายจักรกฤษณ์ว่า ทางสถาบันนิติเวช ได้ทำการผ่าพิสูจน์ศพ นายจักรกฤษณ์ แล้ว แต่ยังไม่สามารถส่งผลตรวจพิสูจน์ดังกล่าวให้พนักงานสอบสวนรวบรวมในสำนวนได้ เนื่องจาก ทางเจ้าหน้าที่ จำเป็นต้องตรวจแอลกอฮอล์และสารเสพติดภายในร่างกายของ นายจักรกฤษณ์ ก่อนจะส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไป ซึ่งจะต้องใช้เวลาสักระยะในการดำเนินการ
ทั้งนี้ในการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีคนร้ายลอบยิงนายจักรกฤษณ์ หรือ เอ็กซ์ พณิชย์ผาติกรรม อายุ 40 ปี อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ครั้งนี้ได้มี พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน ผบก.สส.น.3 เข้ามามีบทบาทสำคัญในการสืบสวนข้อมูลเชิงลึกในการคลี่คลายคดีนี้ มีประวัติการสืบสสวนคดีคลายคดีสำคัญ ๆ มาอย่างโชกโชน ถือเป็นนายตำรวจฝีมือดี มีประสบการณ์ทำงานด้านการสืบสวนสอบสวนให้กับ พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง ผบช.ภ.4 สมัยดำรงตำแหน่ง รอง ผบช.น.ด้านสืบสวนสอบสวน และ พล.ต.ท.เขตต์ นิ่มสมบุญ อดีตผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และ พล.ต.ท.ธนู หอมหวล อดีต ผบช.ก.
ความคืบหน้าจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ คนร้ายขี่จักรยานยนต์บิ๊กไบค์ สีดำประกบยิงนายจักรกฤษณ์ หรือ เอ็กซ์ พณิชย์ผาติกรรม อายุ 40 ปี อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ขณะขับรถยนต์ปอร์เช่สีดำคันหรู บริเวณปากซอยรามคำแหง 166 ถนนรามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. กระสุนทะลวงอก ซึ่งเอ็กซ์ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมาตามที่มเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น
วานนี้ (22 ต.ค.) รายงานข่าวในการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีภายหลังตรวจสอบพบว่านายจักรกฤษณ์ได้เดินทางไปพบกับนายไชยา สะสมทรัพย์ ส.ส.เพื่อไทย จ.นครปฐม ก่อนเสียชีวิตโดยนายไชยาออกมายอมรับว่าเป็นเรื่องจริงนั้น ล่าสุดทางตำรวจชุดสืบสวนฯ เปิดเผยว่านายจักรกฤษณ์ได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่กับเซียนพระชื่อดัง ในจังหวัดนนทบุรีด้วย
โดยมีรายงานว่าเซียนพระชื่อดังคนดังกล่าว คือ นายพยัพ คำพันธุ์ นายกสมาคมพระเครื่องแห่งประเทศไทย หรือ ต้อย เมืองนนท์ เซียนพระชื่อดังอีกราย นอกจากนี้ยังพบว่านายจักรกฤษณ์มีสถานะเป็นลูกบุญธรรมของ "พยัพ คำพันธุ์"ด้วย โดยตลอดเวลาที่พบเจอกับ "พยัพ คำพันธุ์" เอ็กซ์ จักรกฤษณ์จะเรียกว่า "พ่อ"ทุกคำด้วย
นอกจากนี้ในแนวทางสืบสวนเชิงลึกยังสืบทราบว่านายจักรกฤษณ์ภายหลังจากเดินทางกลับจากการหลบซ่อนตัวกับเซียนพระชื่อดังย่านจังหวัดนนทบุรีได้เดินทางกลับบ้านพักที่หมู่บ้านบัวขาวในวันศุกร์ที่ 18 ต.ค. จากนั้นได้ออกไปยุ่งเกี่ยวกับเครือข่ายยาไอซ์แวดวงคนชื่อดังก่อนมาพบจุดจบในช่วงเวลา 19.00 น.วันที่ 19 ต.ค.ด้วย
อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังพุ่งประเด็นไปที่ความขัดแย้งในวงการพระเครื่องและยาเสพติดเป็นหลัก ล่าสุดพบชนวนสาเหตุสำคัญหลังจากสืบสวนพบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความขัดแย้งในวงการพระเครื่องเพิ่มเติม หลังตรวจสอบพบผู้ตายมีการติดต่อ ซื้อขาย - เช่าพระ กับขบวนการทำพระปลอม ที่มีหัวหน้าแก๊งเป็นที่รู้จักกันดีในวงการพระเครื่อง ฉายาว่า "เซียนอ๊อดขาว" ซึ่งมีแหล่งผลิตพระปลอมอยู่ใน จังหวัดนครปฐม เป็นที่ล่ำลือในวงการพระเครื่องถึงฝีไม้ลายมือที่สามารถปลอมแปลงพระเครื่องและพระผงที่เป็นที่นิยมในตลาดพระเครื่องได้อย่างแนบเนียน ระดับมือพระกาฬ
อีกทั้งยังตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ของผู้ตายพบหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาหานายจักรกฤษณ์ ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นเบอร์โทรของดารานักแสดงชื่อดัง "โด่ง สิทธิพร นิยม" ด้วย โดยดาราคนดังกล่าวออกมายอมรับว่าได้โทรศัพท์หาเอ็กซ์จริงในเวลาประมาณ 18.00 น.วันที่ 19 ต.ค.จริง ซึ่งล่าสุดตำรวจได้เชิญมาสอบปากคำแล้วเนื่องจากตรวจสอบบัญชีของผู้ตายพบมีการโอนเงินไปเข้าบัญชี "โด่ง สิทธิพร" เป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท โดยโด่งระบุว่าเอ็กซ์โอนเงินมาใช้หนี้ที่ยืมไปก่อนหน้านี้จำนวน 50,000 บาท พร้อมยืนยันว่าไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตของนายจักรกฤษณ์แต่อย่างใดและไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นยาเสพติดแต่อย่างใด
นอกจากนี้ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดียังได้ตรวจสอบสถานะทางการเงินของเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ พบว่าไม่ได้มีทรัพย์สินอยู่ในบัญชีธนาคารหลายสิบล้านบาทตามที่ปรากฏเป็นข่าวก่อนหน้านี้ พบเงินสดอยู่ในบัญชีธนาคารประมาณ 1 แสนกว่าบาทเท่านั้น
อีกด้านหนึ่ง เมื่อเวลา 13.00 น.ที่สน.มีนบุรี นายมานพ และนางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม บิดามารดานายจักรกฤษณ์ เดินทางมาพบ พ.ต.ท.ประดิษฐ์ ทะปะสิทธิ์จิตต์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.มีนสบุรี เพื่อให้ปากคำกรณีการเสียชีวิตของลูกชายโดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง
นายมานพเปิดเผยภายหลังให้ปากคำกับตำรวจว่าสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชายไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งในวงการพระเครื่องหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ ส่วนเรื่องความขัดแย้งในครอบครัวยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้นตนได้ให้ข้อมูลตำรวจไปหมดแล้ว ซึ่งให้ไปถามกับตำรวจเอาเอง ส่วนกรณีที่ลูกชายเดินทางไปหาอ๊อด นครปฐม เซียนพระชื่อดังนั้นยอมรับว่าเป็นความจริงเพราะเขาสนิทสนมกัน
ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น. ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บช.น. กล่าวภายหลังการสอบปากคำนายสุนทร บุญญะทวีวัฒน์ หรือ "อ๊อดขาวนครปฐม" อายุ 43 ปี เซียนพระชื่อดัง ในจ.นครปฐม ว่า ได้เชิญเซียนพระรายนี้มาให้ข้อมูลเนื่องจากมีความสนิมสนมคุ้นเคยกับนายจักรกฤษณ์ ซึ่งเหตุผลที่เชิญ นายสุนทร มาเพราะต้องการทราบข้อมูลว่าช่วงที่ นายจักรกฤษณ์ ไปอยู่ที่ จ.นครปฐม ได้มีปัญหากับใครบ้างหรือไม่ รวมทั้งสอบถามว่านายจักรกฤษณ์ เคยเล่าให้ฟังบ้างหรือไม่ว่าเคยมีปัญหากับใคร ทั้งนี้ ตำรวจเชื่อว่านายสุนทรไม่มีส่วนเกี่ยวข้องการเสียชีวิตของจักรกฤษณ์
พล.ต.ต.ประยนต์ กล่าวว่า จากการสอบถาม นายสุนทร ระบุว่า ประเด็นความขัดแย้งในวงการพระเครื่องไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาการเช่าพระราคาเป็นสิบล้านก็ไม่มีปัญหาอะไร พร้อมยืนยันว่านายจักรกฤษณ์ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายพระปลอมอย่างแน่นอน เพราะอย่างที่ทราบถ้าซื้อขายพระเครื่องที่มูลค่าเป็นล้าน จะต้องการนำพระไปให้เซียนพระหลายรายดูจนแน่ใจว่าเป็นพระแท้ คงไม่ได้ตกลงซื้อขายกัน หรือ จ่ายเงินทันที อย่างไรก็ตามประเด็นเกี่ยวความขัดแย้งในวงการพระเครื่องตำรวจยังไม่ได้ตัดทิ้ง ต้องตรวจสอบให้ครบถ้วน เพราะอย่างที่ทราบมีบางช่วงที่ นายจักรกฤษณ์ มีการให้เช่าพระเครื่องด้วย ซึ่งตรงนี้ต้องดูทั้งหมด โดยจะตรวจสอบบัญชี รวมทั้งเส้นทางการเงินของ นายจักรกฤษณ์ อีกครั้งว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร เมื่อรับเงินมาแล้วจ่ายไปให้ใคร รวมทั้งประเด็นความขัดแย้งในครอบครัวก็ต้องตามต่อ ตำรวจยังไม่ได้มีการตัดประเด็นนี้ทิ้งแต่อย่างใด
ผบก.สส. กล่าวด้วยว่า สำหรับความคืบหน้าทางคดีที่ผ่านมาได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลแล้วกว่า 10 ราย ขณะที่การตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุ และตามเส้นทางหลบหนีของคนร้าย ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงไปตรวจสอบเพิ่มเติมแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสุนทร ได้ให้ข้อมูลหรือไม่ว่านายจักรกฤษณ์ หลบไปอยู่ที่ จ.นครปฐม เพราะสาเหตุอะไร พล.ต.ต.ประยนต์ กล่าวว่า นายสุนทร บอกเพียงว่า นายจักรกฤษณ์ หลบไปพักผ่อน เพราะทั้งคู่มีความสนิทสนมคุ้นเคยกัน ก่อนหน้านี้ที่นายจักรกฤษณ์ ต้องติดคุก นายสุนทรก็เป็นผู้ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวออกไป ส่วนที่ นายจักรกฤษณ์ กลับมากทม. เพราะว่าคิดถึงลูก
ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความคดีล่าสุดตนเองได้ตั้งรางวัลนำจับ หรือคนที่ชี้เบาะแสในคดีนี้ เพื่อจับกุมคนร้ายจำนวน 2 แสนบาท ซึ่งสามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่ตำรวจเจ้าของคดีได้ทันที
ส่วนปมสังหารนั้น จะยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง เพราะหากตำรวจไปมุ่งประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ทั้งเรื่องขัดแย้งพระเครื่อง หรืออื่นๆ อาจหลงทางในคดีได้ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (23 ต.ค.) เวลา 10.00 น.จะเรียกประชุมทีมคลี่คลายคดีทั้งหมดมารายงานผล ซึ่งคาดว่าจะชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทั้งปมสังหารและอื่นๆ
อีกด้าน พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยความคืบหน้าการส่งผลตรวจพิสูจน์ศพนายจักรกฤษณ์ว่า ทางสถาบันนิติเวช ได้ทำการผ่าพิสูจน์ศพ นายจักรกฤษณ์ แล้ว แต่ยังไม่สามารถส่งผลตรวจพิสูจน์ดังกล่าวให้พนักงานสอบสวนรวบรวมในสำนวนได้ เนื่องจาก ทางเจ้าหน้าที่ จำเป็นต้องตรวจแอลกอฮอล์และสารเสพติดภายในร่างกายของ นายจักรกฤษณ์ ก่อนจะส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไป ซึ่งจะต้องใช้เวลาสักระยะในการดำเนินการ
ทั้งนี้ในการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีคนร้ายลอบยิงนายจักรกฤษณ์ หรือ เอ็กซ์ พณิชย์ผาติกรรม อายุ 40 ปี อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ครั้งนี้ได้มี พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน ผบก.สส.น.3 เข้ามามีบทบาทสำคัญในการสืบสวนข้อมูลเชิงลึกในการคลี่คลายคดีนี้ มีประวัติการสืบสสวนคดีคลายคดีสำคัญ ๆ มาอย่างโชกโชน ถือเป็นนายตำรวจฝีมือดี มีประสบการณ์ทำงานด้านการสืบสวนสอบสวนให้กับ พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง ผบช.ภ.4 สมัยดำรงตำแหน่ง รอง ผบช.น.ด้านสืบสวนสอบสวน และ พล.ต.ท.เขตต์ นิ่มสมบุญ อดีตผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และ พล.ต.ท.ธนู หอมหวล อดีต ผบช.ก.