ในที่สุดแล้วกรรมาธิการเสียงข้างมากจากพรรคเพื่อไทยก็คงจะเดินหน้าผลักดันการนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง เพื่อนิรโทษกรรมให้กับคนที่พวกเขาพูดปลุกปั่นคนเสื้อแดงมาตลอด 2-3 ปีมานี้ว่า เป็น “ฆาตกรสั่งฆ่าประชาชน” แลกกับให้ทักษิณได้กลับบ้านอย่างเท่ๆ
นับกันด้วยเหตุผลทางคณิตศาสตร์ กรรมาธิการเสียงข้างน้อยจากพรรคประชาธิปัตย์คงไม่สามารถต้านได้ และเมื่อเข้าสู่สภาฯ วาระ 2 และ 3 ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ก็คงจะคลอดออกมาเป็นกฎหมายในที่สุด ทักษิณได้กลับบ้านแลกกับคนเสื้อแดงที่ตายและบาดเจ็บจำนวนมาก
สะท้อนว่าที่สู้มาทั้งหมดไม่ได้สู้เพื่อประชาธิปไตยตรงไหน แต่สู้เพื่อให้ทักษิณกลายเป็นคนบริสุทธิ์ ถ้าใครไปถามทักษิณว่าอย่างนี้คนเสื้อแดงก็ตายฟรี ทักษิณก็คงตอบว่า ตายฟรีตรงไหนก็จ่าย 7.5 ล้านไปแล้วนั่นยังไง
แปลกนะครับคดีไต่สวนคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตกำลังเดินหน้ากว่า 10 ชีวิตแล้วที่ศาลชี้ว่าคนเสื้อแดงตายเพราะกระสุนของเจ้าหน้าที่ และอัยการกำลังจะสั่งคดีในอีกไม่นานไม่ช้านี้ ใครเป็นฆาตกรใครผิดใครถูกก็จะเห็นผลกันไม่นานต่อจากนี้ แต่คดีต้องมาหยุดกึกเพราะถูกเอาไปแลกกับการที่ทักษิณจะได้กลับบ้าน
คนเสื้อแดงและญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตก็คงได้แต่ตั้งคำถามที่ไม่มีใครฟัง เพราะการเสียชีวิตของมวลชนนั้นไม่มีความหมายไปกว่าอิสรภาพของทักษิณ
แกนนำเสื้อแดงที่ออกมาแสดงตัวเพื่อคัดค้านการนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งนั้น ก็ไม่ต่างกับการเล่นละครหลอกคนเสื้อแดงอีกชั้น ถ้าคนเหล่านี้คัดค้านการนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งจริง พวกเขาต้องแสดงพลังที่จริงจังกว่านั้น แต่ไม่มีใครทำหรอกครับ เพราะตอนที่ปลุกปั่นให้ประชาชนออกมาต่อสู้ คนพวกนี้รู้ตั้งแต่ปริปากพูดแล้วว่า พวกเขาเพียงแต่หลอกใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือให้ออกมาตายและเจ็บแทน แกนนำเหล่านี้สู้เพื่อทักษิณไม่ได้สู้เพื่อความแตกต่างทางชนชั้นและประชาธิปไตยตรงไหน
ร่างนิรโทษกรรมสุดซอยที่มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ทักษิณพ้นผิดนี้ ถ้าทำสำเร็จเท่ากับเป็นการแปรญัตติที่เปลี่ยนหลักการและเหตุผลจากวาระแรก ที่สภาผู้แทนราษฎรรับหลักการมาไปโดยสิ้นเชิง ถามว่า ถ้ายึดหลักการตามระบอบประชาธิปไตยแล้วทำแบบนี้ได้ไหม คำตอบผมคิดว่าไม่น่าจะทำได้นะครับ และคงต้องไปจบกันที่ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ
มีอย่างที่ไหนครับกฎหมายที่เขียนหลักการไว้ในวาระแรกว่า จะช่วยประชาชนที่ถูกดำเนินคดีจากการเข้าร่วมเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง และยืนยันการันตีอภิปรายกันในสภาฯ ในวาระที่ 1 กันว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่เกี่ยวกับแกนนำ ผู้สั่งการ รวมไปถึงทักษิณ มาเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือโดยมีเป้าหมายเดียวคือ เพื่อล้างความผิดให้กับทักษิณโดยเอารัฐธรรมนูญมาตรา 30 ที่มีเนื้อหาว่า บุคคลย่อมมีความเสมอภาคกันทางกฎหมายมาเป็นข้ออ้าง ทั้งที่กรณีของทักษิณนั้นเป็นเรื่องของการทุจริต ไม่ใช่คดีทางการเมือง
ถ้าอ้างมาตรา 30 จริง คำถามว่า ทำไมต้องนิรโทษกรรมเฉพาะความผิดนี้ ทำไมไม่นิรโทษกรรมให้เท่าเทียมกันทั้งประเทศล้างคุกไปเลยละครับ การอ้างรัฐธรรมนูญ มาตรา 30 จึงเป็นการอ้างที่ฟังไม่ขึ้น เป็นการแถตะแบงไปเพื่อช่วยทักษิณเท่านั้นเอง
เพราะกรณีที่นักการเมืองถูกกล่าวหาว่าทุจริตนั้นเป็นคนละเรื่องกับคดีที่เกิดจากความขัดแย้งทางการเมือง ทักษิณและพวกพ้องถูกกล่าวหาว่า ทุจริตเมื่ออยู่ในอำนาจซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนการรัฐประหาร ถ้าเห็นว่าคณะกรรมการ คตส.ที่ไต่สวนความผิดมาจากการรัฐประหาร อย่างน้อยที่สุดคดีของทักษิณจะต้องย้อนมาสู่การไต่สวนใหม่ไม่ใช่นิรโทษกรรมเพื่อลบล้างไปเลย
แต่พรรคที่ถือว่ามีเสียงข้างมากอย่างพรรคเพื่อไทยเขาไม่สนหลักการและความถูกต้องอยู่แล้ว เพราะมีความเป็นประชาธิปไตยแค่เปลือก
แล้วการนิรโทษกรรมครั้งนี้ เป็นการนิรโทษกรรมที่แปลกที่สุดก็คือ ญาติผู้เสียหายที่บาดเจ็บล้มตายจากเหตุการณ์การชุมนุมออกมาคัดค้าน ไม่แต่เท่านั้นคนที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นฆาตกรก็ปฏิเสธที่จะรับการนิรโทษโดยยืนยันว่า จะให้มีการดำเนินคดีต่อไป ในขณะที่ฝ่ายพันธมิตรฯ ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการนิรโทษด้วยก็ออกมายืนยันว่า ไม่เห็นด้วยและพร้อมจะต่อสู้คดีตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม
สรุปแล้วคนที่อยากให้นิรโทษก็มีแต่ทักษิณและเครือญาติของทักษิณเท่านั้น
แล้วถามว่า ในต่างประเทศมีใครเขานิรโทษกรรมแบบนี้กันบ้าง มีผู้ถ่ายทอดไว้น่าสนใจครับเขาบอกว่า
ประการแรก การนิรโทษต้องทำหลังจากไต่สวนจนหาผู้กระทำผิดได้แล้ว ประการที่สอง การนิรโทษจะต้องออกให้เฉพาะผู้กระทำผิดที่ยอมเปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำผิดของตัวเองอย่างหมดเปลือกเสียก่อน ประการที่สาม ผู้ที่จะได้นิรโทษ ต้องยอมรับผิดและขอขมาต่อเหยื่อของตนเองก่อน
ประการที่สี่ ก่อนจะนิรโทษผู้กระทำผิดคนใด ต้องปรึกษาเหยื่อของผู้กระทำผิดรายนั้นๆ ประการสุดท้าย แยกความผิดที่จะให้นิรโทษ โดยความผิดสถานเบา เช่น การละเมิดทรัพย์สินจะได้นิรโทษง่าย ส่วนความผิดสถานหนัก เช่น การเอาชีวิต หรือทรมานให้พิการ จะได้รับนิรโทษกรรมยากกว่ามาก
ทำไมเราจึงไม่ยอมให้กระบวนการไต่สวนดำเนินคดีเดินหน้าต่อไปก่อนเพื่อหาผู้กระทำผิดให้ได้ อย่างน้อยก็ให้คนกระทำผิดได้สำนึกผิด ที่ตลกก็คือ ผู้ถูกกล่าวหาว่า กระทำความผิดก็ไม่ได้ออกมาเรียกร้องเพื่อให้นิรโทษตัวเอง แต่ผู้ที่กล่าวหาเขากลับผลักดันเพื่อให้ลบล้างความผิดทั้งหมดไปเสีย แล้วถามว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยและแกนนำเสื้อแดงปลุกปั่นมวลชนของตัวเองว่า อภิสิทธิ์-สุเทพเป็นฆาตกรฆ่าประชาชนนั้น อยู่ๆ จะมานิรโทษกรรมให้ฆาตกรฆ่าประชาชนได้อย่างไรครับ
และนี่จะมีความหมายต่อการออกมาชุมนุมทางการเมืองของประชาชนในอนาคตใช่หรือไม่ครับว่า ต่อไปนี้การชุมนุมไม่จำเป็นต้องเป็นไปอย่างสันติอหิงสาภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญสามารถติดอาวุธ และใช้ความรุนแรง การสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่รัฐไม่ต้องทำตามขั้นตอนของกฎหมายแบบเหตุการณ์ 7 ตุลาที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดแล้ว เพราะสุดท้ายทุกคนจะได้รับการนิรโทษกรรมตามมาตรฐานที่กำลังจะวางเอาไว้
นักการเมืองที่มีอำนาจต่อไปก็สามารถทุจริตคอร์รัปชันได้อย่างเต็มที่ เพราะถ้าถูกดำเนินคดีก็สามารถใช้เสียงข้างมากออกกฎหมายลบล้างความผิดได้
แล้วการแบ่งแยกอำนาจระหว่างฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ จะมีความหมายอะไร ในเมื่อฝ่ายนิติบัญญัติสามารถออกกฎหมายลบล้างคำพิพากษาของฝ่ายตุลาการได้
คำถามสำคัญก็คือว่า การไม่พยายามที่จะค้นหาความจริงที่นำไปสู่ความยุติธรรมอย่างแท้จริงนั้น จะสามารถสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองได้จริงหรือ
หรือเราควรจะยกให้ทักษิณอยู่เหนือกฎหมายทำอะไรก็ไม่ผิดไปเลย เขียนในรัฐธรรมนูญไว้ด้วยดีไหมว่าไม่มีใครสามารถกล่าวหาหรือฟ้องร้องทักษิณได้
นับกันด้วยเหตุผลทางคณิตศาสตร์ กรรมาธิการเสียงข้างน้อยจากพรรคประชาธิปัตย์คงไม่สามารถต้านได้ และเมื่อเข้าสู่สภาฯ วาระ 2 และ 3 ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ก็คงจะคลอดออกมาเป็นกฎหมายในที่สุด ทักษิณได้กลับบ้านแลกกับคนเสื้อแดงที่ตายและบาดเจ็บจำนวนมาก
สะท้อนว่าที่สู้มาทั้งหมดไม่ได้สู้เพื่อประชาธิปไตยตรงไหน แต่สู้เพื่อให้ทักษิณกลายเป็นคนบริสุทธิ์ ถ้าใครไปถามทักษิณว่าอย่างนี้คนเสื้อแดงก็ตายฟรี ทักษิณก็คงตอบว่า ตายฟรีตรงไหนก็จ่าย 7.5 ล้านไปแล้วนั่นยังไง
แปลกนะครับคดีไต่สวนคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตกำลังเดินหน้ากว่า 10 ชีวิตแล้วที่ศาลชี้ว่าคนเสื้อแดงตายเพราะกระสุนของเจ้าหน้าที่ และอัยการกำลังจะสั่งคดีในอีกไม่นานไม่ช้านี้ ใครเป็นฆาตกรใครผิดใครถูกก็จะเห็นผลกันไม่นานต่อจากนี้ แต่คดีต้องมาหยุดกึกเพราะถูกเอาไปแลกกับการที่ทักษิณจะได้กลับบ้าน
คนเสื้อแดงและญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตก็คงได้แต่ตั้งคำถามที่ไม่มีใครฟัง เพราะการเสียชีวิตของมวลชนนั้นไม่มีความหมายไปกว่าอิสรภาพของทักษิณ
แกนนำเสื้อแดงที่ออกมาแสดงตัวเพื่อคัดค้านการนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งนั้น ก็ไม่ต่างกับการเล่นละครหลอกคนเสื้อแดงอีกชั้น ถ้าคนเหล่านี้คัดค้านการนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งจริง พวกเขาต้องแสดงพลังที่จริงจังกว่านั้น แต่ไม่มีใครทำหรอกครับ เพราะตอนที่ปลุกปั่นให้ประชาชนออกมาต่อสู้ คนพวกนี้รู้ตั้งแต่ปริปากพูดแล้วว่า พวกเขาเพียงแต่หลอกใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือให้ออกมาตายและเจ็บแทน แกนนำเหล่านี้สู้เพื่อทักษิณไม่ได้สู้เพื่อความแตกต่างทางชนชั้นและประชาธิปไตยตรงไหน
ร่างนิรโทษกรรมสุดซอยที่มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ทักษิณพ้นผิดนี้ ถ้าทำสำเร็จเท่ากับเป็นการแปรญัตติที่เปลี่ยนหลักการและเหตุผลจากวาระแรก ที่สภาผู้แทนราษฎรรับหลักการมาไปโดยสิ้นเชิง ถามว่า ถ้ายึดหลักการตามระบอบประชาธิปไตยแล้วทำแบบนี้ได้ไหม คำตอบผมคิดว่าไม่น่าจะทำได้นะครับ และคงต้องไปจบกันที่ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ
มีอย่างที่ไหนครับกฎหมายที่เขียนหลักการไว้ในวาระแรกว่า จะช่วยประชาชนที่ถูกดำเนินคดีจากการเข้าร่วมเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง และยืนยันการันตีอภิปรายกันในสภาฯ ในวาระที่ 1 กันว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่เกี่ยวกับแกนนำ ผู้สั่งการ รวมไปถึงทักษิณ มาเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือโดยมีเป้าหมายเดียวคือ เพื่อล้างความผิดให้กับทักษิณโดยเอารัฐธรรมนูญมาตรา 30 ที่มีเนื้อหาว่า บุคคลย่อมมีความเสมอภาคกันทางกฎหมายมาเป็นข้ออ้าง ทั้งที่กรณีของทักษิณนั้นเป็นเรื่องของการทุจริต ไม่ใช่คดีทางการเมือง
ถ้าอ้างมาตรา 30 จริง คำถามว่า ทำไมต้องนิรโทษกรรมเฉพาะความผิดนี้ ทำไมไม่นิรโทษกรรมให้เท่าเทียมกันทั้งประเทศล้างคุกไปเลยละครับ การอ้างรัฐธรรมนูญ มาตรา 30 จึงเป็นการอ้างที่ฟังไม่ขึ้น เป็นการแถตะแบงไปเพื่อช่วยทักษิณเท่านั้นเอง
เพราะกรณีที่นักการเมืองถูกกล่าวหาว่าทุจริตนั้นเป็นคนละเรื่องกับคดีที่เกิดจากความขัดแย้งทางการเมือง ทักษิณและพวกพ้องถูกกล่าวหาว่า ทุจริตเมื่ออยู่ในอำนาจซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนการรัฐประหาร ถ้าเห็นว่าคณะกรรมการ คตส.ที่ไต่สวนความผิดมาจากการรัฐประหาร อย่างน้อยที่สุดคดีของทักษิณจะต้องย้อนมาสู่การไต่สวนใหม่ไม่ใช่นิรโทษกรรมเพื่อลบล้างไปเลย
แต่พรรคที่ถือว่ามีเสียงข้างมากอย่างพรรคเพื่อไทยเขาไม่สนหลักการและความถูกต้องอยู่แล้ว เพราะมีความเป็นประชาธิปไตยแค่เปลือก
แล้วการนิรโทษกรรมครั้งนี้ เป็นการนิรโทษกรรมที่แปลกที่สุดก็คือ ญาติผู้เสียหายที่บาดเจ็บล้มตายจากเหตุการณ์การชุมนุมออกมาคัดค้าน ไม่แต่เท่านั้นคนที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นฆาตกรก็ปฏิเสธที่จะรับการนิรโทษโดยยืนยันว่า จะให้มีการดำเนินคดีต่อไป ในขณะที่ฝ่ายพันธมิตรฯ ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการนิรโทษด้วยก็ออกมายืนยันว่า ไม่เห็นด้วยและพร้อมจะต่อสู้คดีตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม
สรุปแล้วคนที่อยากให้นิรโทษก็มีแต่ทักษิณและเครือญาติของทักษิณเท่านั้น
แล้วถามว่า ในต่างประเทศมีใครเขานิรโทษกรรมแบบนี้กันบ้าง มีผู้ถ่ายทอดไว้น่าสนใจครับเขาบอกว่า
ประการแรก การนิรโทษต้องทำหลังจากไต่สวนจนหาผู้กระทำผิดได้แล้ว ประการที่สอง การนิรโทษจะต้องออกให้เฉพาะผู้กระทำผิดที่ยอมเปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำผิดของตัวเองอย่างหมดเปลือกเสียก่อน ประการที่สาม ผู้ที่จะได้นิรโทษ ต้องยอมรับผิดและขอขมาต่อเหยื่อของตนเองก่อน
ประการที่สี่ ก่อนจะนิรโทษผู้กระทำผิดคนใด ต้องปรึกษาเหยื่อของผู้กระทำผิดรายนั้นๆ ประการสุดท้าย แยกความผิดที่จะให้นิรโทษ โดยความผิดสถานเบา เช่น การละเมิดทรัพย์สินจะได้นิรโทษง่าย ส่วนความผิดสถานหนัก เช่น การเอาชีวิต หรือทรมานให้พิการ จะได้รับนิรโทษกรรมยากกว่ามาก
ทำไมเราจึงไม่ยอมให้กระบวนการไต่สวนดำเนินคดีเดินหน้าต่อไปก่อนเพื่อหาผู้กระทำผิดให้ได้ อย่างน้อยก็ให้คนกระทำผิดได้สำนึกผิด ที่ตลกก็คือ ผู้ถูกกล่าวหาว่า กระทำความผิดก็ไม่ได้ออกมาเรียกร้องเพื่อให้นิรโทษตัวเอง แต่ผู้ที่กล่าวหาเขากลับผลักดันเพื่อให้ลบล้างความผิดทั้งหมดไปเสีย แล้วถามว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยและแกนนำเสื้อแดงปลุกปั่นมวลชนของตัวเองว่า อภิสิทธิ์-สุเทพเป็นฆาตกรฆ่าประชาชนนั้น อยู่ๆ จะมานิรโทษกรรมให้ฆาตกรฆ่าประชาชนได้อย่างไรครับ
และนี่จะมีความหมายต่อการออกมาชุมนุมทางการเมืองของประชาชนในอนาคตใช่หรือไม่ครับว่า ต่อไปนี้การชุมนุมไม่จำเป็นต้องเป็นไปอย่างสันติอหิงสาภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญสามารถติดอาวุธ และใช้ความรุนแรง การสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่รัฐไม่ต้องทำตามขั้นตอนของกฎหมายแบบเหตุการณ์ 7 ตุลาที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดแล้ว เพราะสุดท้ายทุกคนจะได้รับการนิรโทษกรรมตามมาตรฐานที่กำลังจะวางเอาไว้
นักการเมืองที่มีอำนาจต่อไปก็สามารถทุจริตคอร์รัปชันได้อย่างเต็มที่ เพราะถ้าถูกดำเนินคดีก็สามารถใช้เสียงข้างมากออกกฎหมายลบล้างความผิดได้
แล้วการแบ่งแยกอำนาจระหว่างฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ จะมีความหมายอะไร ในเมื่อฝ่ายนิติบัญญัติสามารถออกกฎหมายลบล้างคำพิพากษาของฝ่ายตุลาการได้
คำถามสำคัญก็คือว่า การไม่พยายามที่จะค้นหาความจริงที่นำไปสู่ความยุติธรรมอย่างแท้จริงนั้น จะสามารถสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองได้จริงหรือ
หรือเราควรจะยกให้ทักษิณอยู่เหนือกฎหมายทำอะไรก็ไม่ผิดไปเลย เขียนในรัฐธรรมนูญไว้ด้วยดีไหมว่าไม่มีใครสามารถกล่าวหาหรือฟ้องร้องทักษิณได้