ASTVผู้จัดการรายวัน- กมธ.นิรโทษฯ เร่งปิดจ๊อบ เรียกผู้แปรญัตติมาชี้แจง 24-25 ต.ค.นี้ ก่อนดันเข้าสภาพิจารณาวาระ 2 ต้นพ.ย. ขณะที่ญาติผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ปี 53 ด่ากราดรัฐบาลโกหกมาตลอด สุดท้ายนิรโทษทหารที่ฆ่าประชาชน แลก"ทักษิณ" ลั่นบุกสภาทางถามความยุติธรรม 24 ต.ค.นี้ ด้านปชป. ยังไม่เป่านกหวีด อ้างเกมยังไม่เริ่ม รอให้มีการพิจารณาในสภาก่อน ด้านตำรวจนางเลิ้งจับนักเรียนขึ้นเวทีอุรุพงษ์ทำประวัติ ทนายโร่ร้อง กสม.
นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กล่าวว่า ในวันที่ 24-25 ต.ค. กรรมาธิการฯ จะให้ผู้แปรญัตติมาชี้แจงคำแปรญัตติต่อกรรมาธิการฯ จากเดิมที่กำหนดให้ผู้แปรญัตติมาชี้แจงคำแปรญัตติต่อกรรมาธิการฯในวันที่ 30-31 ต.ค. ซึ่งไม่ใช่การเร่งรีบที่จะนำ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสภาฯ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ทำเอกสารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ให้ผู้แปรญัตติมาชี้แจงคำแปรญัตติได้ทันที คาดว่ากรรมาธิการฯจะประชุมอีก 2 ครั้ง จะเสนอรายงานต่อสภาฯ ได้ ในปลายเดือนต.ค. จากนั้นสัปดาห์แรกของเดือนพ.ย. จะพิจารณาวาระ 2 ได้ ยืนยันว่า ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ ไม่มีผลให้คืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทแก่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณจะได้รับประโยชน์พ้นผิดจากคดีอาญาที่เป็นผลพวงจากการรัฐประหารเท่านั้น หากพ.ต.ท.ทักษิณ อยากได้เงิน 4.6 หมื่นล้านบาทคืน ต้องไปใช้สิทธิฟ้องร้องเองภายหลัง ยอมรับว่ากฎหมายฉบับนี้ถูกต้านอย่างหนัก เพราะไม่มีทางถูกใจทุกฝ่ายอยู่แล้ว แต่ไม่เชื่อว่าจะทำให้รัฐบาลอายุสั้น แค่กังวลว่า หากถูกปลุกระดมต่อต้านอย่างหนัก อาจเป็นเครื่องล่อให้การรัฐประหารคืนชีพมาอีกครั้ง
นายสามารถ กล่าวด้วยว่า ตนและกรรมาธิการ ต้องโหวตสนับสนุนตาม ร่าง ที่กรรมาธิการลงมติมา และมีหน้าที่อธิบายร่าง ของกรรมาธิการ จะถอยกลางสภาไม่ได้ เพราะเป็นข้อยุติของกรรมาธิการเสียงข้างมากแล้ว
ส่วนของ นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ก็ได้ขอสงวนความเห็นตามร่างเดิม ก็ขึ้นอยู่กับสภาใหญ่ ว่าจะตัดสินใจอย่างไร
"เข้าใจว่าพรรคคงไม่มาก้าวก่ายอะไร เพราะเป็นมติกรรมาธิการเสียงข้างมากไปแล้ว ส่วนจะอยู่ในสภาใหญ่จะเป็นอย่างไร ก็ว่ากันอีกที" ประธานกมธ.กล่าว
"ตู่"ให้ปล่อย"แม้ว" แต่"มาร์ค-เทือก" ต้องรับโทษ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. เปิดเผยถึงกรณีที่ คณะกมธ. พิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ เสียงข้างมาก เห็นชอบให้มีการนิรโทษกรรมทุกฝ่าย ที่กระทำความผิด เนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง โดยยืนยันว่า จะไม่ขอรับการนิรโทษกรรมทั้งสิ้น และจะต่อต้านไม่ยอมให้มีการนิรโทษกรรมให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งบุคคลทั้ง 2 มีคดีที่มีโทษถึงขั้นประหารชีวิตทุกคดี และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล รวมทั้งของ ดีเอสไอ เพราะเป็นผู้กระทำที่สั่งฆ่าประชาชน
ทั้งนี้ ในส่วนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้นเห็นว่า สมควรได้รับการนิรโทษกรรม เพราะเป็นผู้ถูกกระทำที่เกิดจากการรัฐประหาร อย่างไรก็ตาม ยังยืนยันจุดยืนว่า จะดำเนินการทุกอย่างเพื่อที่จะนำ นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และรับโทษให้ได้ และคนเสื้อแดง จะประคับประคองรัฐบาลให้ทำงานอยู่ครบ 4 ปี ให้ได้
"แม่น้องเกด"ด่ารัฐบาลโกหก
วานนี้ (21ต.ค.) ที่ รร.รัตนโกสินตร์ กลุ่มญาติผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองปี 53 นำโดย นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ บิดาของนายสมาพันธ์ ศรีเทพ ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 นายสุนัย ผาสุข ผู้ประสานงานฮิวแมนไรท์วอช ร่วมแถลง กรณี กรรมาธิการพรรคเพื่อไทย ลักไก่นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง
โดยนางพะเยาว์ เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์กลุ่มญาติผู้สูญเสียฯ ว่า ตามที่กมธ.วิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมได้มีมติแก้ไข มาตรา 3 ซึ่งเป็นการนิรโทษให้ผู้กระทำผิดทุกกลุ่ม ซึ่งการแก้ไขข้อความเป็นที่ชัดเจนว่า พรรคเพื่อไทยมีเจตนาเอื้อประโยชน์ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แลกกับการนิรโทษกรรมทหารที่สังหารหมู่ประชาชน รวมทั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล และประธานศูนย์อำนวยการเยียวยาสถานการณ์ฉุกเฉินในขณะนั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พรรคเพื่อไทยไม่เคยฟังเสียงประชาชน โดยเฉพาะญาติผู้เสียหาย ที่ต้องการให้กระบวนการยุติธรรม พยายามหาความจริง และเป็นการเน้นย้ำความสงสัยของของสังคม ต่อพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ทั้งเรื่องทำตามใบสั่ง เอาทักษิณกลับบ้านโดยไม่คำนึงถึงวิธีการ และเพิกเฉยต่อกระบวนการยุติธรรม ขณะเดียวกันนายอภิสิทธิ์ กลับแสดงเจตนารมย์ว่า ต้องการพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรม ถึงแม้ว่าจะเป็นเทคนิคทางการเมืองก็ตาม แต่การแสดงเจตนารมย์ดังกล่าว ก็จะเป็นการผูกมัดตัวเองด้วย ทั้งนี้หากมีการผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มีผลบังคับใช้ จะเป็นการปิดกั้นโอกาสในการดำเนินคดีในศาลอาญาระหว่างประเทศ
นางพะเยาว์ กล่าวว่า ทางกลุ่มญาติผู้สูญเสีย เสนอรัฐบาลซึ่งเป็นเสียงข้างมากต้องฟังเสียงประชาชนในการแก้ไขข้อความในร่างฯ ให้ผู้เกี่ยวข้องทำผิดต้องเข้าสู่กระบวนยุติธรรม ดังที่ศาลอาญาได้มีการไต่สวนการตาย และรัฐบาลต้องเร่งรัดมาตรการทางนโยบายให้นักโทษการเมืองได้รับการประกันกันตัวตามสิทธิมนุษยชน และจะต้องตั้งคณะทำงานในการเร่งรัดกระบวนการยุติธรรมเพื่อไม่ให้ล่าช้า
นอกจากนี้รัฐบาลจะต้องย้าย นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ออกจากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และให้พ้นจากหัวหน้าคณะสอบสวนกรณีการสังหารหมู่ประชาชนปี 2553 เนื่องจากเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อให้กระบวนการยุติธรรม มีความถูกต้องตามหลักธรรมาภิบาล
"ขอคัดค้านการนิรโทษแบบเหมายกเข่ง ของกรรมาธิการ ดิฉันเชื่อว่ามันยอมรับไม่ได้ ถึงแม้ไม่ใช่สีเสื้อก็ไม่เห็นด้วย และดิฉันขอบอกรัฐบาลให้หยุดโกหก 3 ปีที่ผ่านมาชัดมาก และการโกหกต้องหยุดได้แล้ว อย่างกระบวนการศาลโลก ที่คนเสื้อแดงเข้าใจผิดอยู่ กรณี ICC นายธาริต บอกตลอดว่าคดีมีการขับเคลื่อน หลอกให้เข้าใจผิด แต่รัฐบาลต้องการใช้การนิรโทษฯ เป็นเป้าหมายหลัก และสุดท้ายคดีที่ค้างในศาลโลก ก็ต้องยุติลง การเหมายกเข่งทำเพื่ออะไร เพราะอภิสิทธิ์ บอกว่าไม่ต้องการ ขอสู้ตามกระบวนการยุติธรรม เมื่อบอกแบบนั้น ไม่รู้ว่า กรรมาธิการทำเรื่องนี้เพื่ออะไร ในเมื่อเขาไม่อยากได้ แล้วให้เพื่ออะไร จะรีบนิรโทษไปทำไม และถ้าจะเสนอจริงก็ขอเสนอนิรโทษเฉพาะประชาชนล้วนๆ และอย่าอ้างว่าฝ่ายค้านไม่ยอม เพราะดิฉันเชื่อว่า รัฐบาลทำได้ เพราะเป็นเสียงข้างมาก การนิรโทษฯ ให้เป็นเฉพาะประชาชนเท่านั้น มีประโยชน์มากที่สุด และกลุ่มญาติ ก็จะเห็นด้วย ถ้ามีการนิรโทษทั้งหมด กระบวนการทุกอย่างก็ต้องจบ จะมาให้รำลึกเหมือน 14 ตุลา หรือ 6 พฤษภาฯ หรือ แล้วจะมีพ.ศ.อะไรอีกขอให้คิดเสียใหม่" นางพะเยาว์ กล่าว
ทั้งนี้ วันที่ 24 ต.ค.นี้ เวลา 11.00 น. กลุ่มญาติผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ทางการเมืองปี 53 จะรวมตัวกันบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แล้วเคลื่อนไปยัง รัฐสภา เพื่อมอบของขวัญ และทวงถามไปยังคณะกมธ. ถึงการแก้ไขข้อความในร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวด้วย เนื่องจากวันพฤหัสบดี เป็นวันที่มีการประชุมของคณะกมธ.ชุดดังกล่าวอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ทางญาติผู้สูญเสียฯ ยืนยันว่า จะเข้าไปยังหน้ารัฐสภาให้ได้ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในเขตพื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ก็ตาม
ปชป.เคลื่อนไหวต้าน 6 พ.ย.
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ประเทศไทยไม่เคยนิรโทษกรรมคืนเงินให้แก่คนทุจริต ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีที่ถูกยึดเงิน มีทั้งหมด 3 คน คือ จอมพลถนอม กิตติขจร จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายกรัฐมนตรี และพ.ต.ท.ทักษิณ ถามว่า หากพ.ต.ท.ทักษิณได้เงินคืน เช่นนั้นจอมพลถนอม และจอมพลสฤษดิ์ ก็ต้องได้เงินคืนด้วย ดังนั้นตนจะแปรญัตติ คืนเงินแก่ จอมพลถนอม และจอมพลสฤษดิ์
สำหรับการเคลื่อนไหวของปชป. ที่จะให้เคลื่อนไหวตามที่หลายฝ่ายอยากให้มีนั้น คงยังไม่ใช่ เพราะเราจะเคลื่อนไหวก็ต่อเมื่อมีเงื่อนไข คือ ทันทีที่นำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่คณะกรรมาธิการศึกษาเสร็จแล้วเข้าสู่สภา ในวาระ 2 และ 3 ซึ่งคาดว่า น่าจะเข้าในวันที่ 6 พ.ย.
“การเป่านกหวีดก็เหมือนกับเล่นเกม ถ้าเป่าโดยที่ยังไม่เริ่มเกม เขาจะหาว่าบ้าหรืออย่างไร การเป่านกหวีดจะเป่าก็ต่อเมื่อมีการทำผิดกฎหมาย กติกา หรือทำฟาวล์เสียก่อน ส่วนที่นายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ระบุว่า แนวโน้มน่าจะพิจารณา ร่าง รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ... มาตรา 68 และ มาตรา 237 แล้ว จึงตามด้วย ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นคนละเรื่องกัน เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นการประชุมร่วมรัฐสภา ซึ่งสามารถนัดในวัน 4-5 พ.ย.ได้ ส่วน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในวาระ 2 และ 3 เป็นเรื่องของประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่ปกติจะประชุมทุกวันพุธ และพฤหัสบดี หรือที่นี่คือวันที่ 6-7 พ.ย. การที่รัฐบาลกล้ากระทำการฮึกเหิม เพราะรัฐบาลประเมินแล้วว่า ตัวเองแข็งแกร่งที่สุด พร้อมทั้งอำนาจ, เงิน, คน รวมทั้งสถาปนารัฐตำรวจได้แล้ว ขณะเดียวกัน เขาก็ประเมินเราถูกว่า เราอยู่ในช่วงอ่อนแอที่สุด"
ร้องกสม.กรณีตร.จับเด็กนร.ขึ้นเวทีปราศรัย
วานนี้ ( 21 ต.ค.) น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความ เครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำเอกสาร และข้อมูลของเด็กนักเรียนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง พาตัวไปทำประวัติ เนื่องจากขึ้นเวทีปราศรัย คปท. ไปมอบให้กับ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในฐานะประธานอนุกรรมการสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง เพิ่มเติมกรณีที่ คปท.ร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ขอให้ตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐบาล ที่เข้าข่ายละเมิดสิทธิการชุมนุมของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 ซึ่งมีการขัดขวางการชุมนุม โดย นพ.นิรันดร์ เปิดเผยว่า จะเชิญผู้เกี่ยวข้องกรณีการชุมนุม คปท. ที่บริเวณแยกอุรุพงษ์ ซึ่งประกอบด้วย แกนนำ คปท. ประชาชนที่มาร่วมชุมนุม และได้รับบาดเจ็บจากเหตุก่อกวน ทั้งการโรยหมามุ่ย และการปาระเบิดเพลิง นักเรียนที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. นางเลิ้ง พาตัวไปทำประวัติ เนื่องจากขึ้นเวทีปราศรัย รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงที่ชุมนุม เพื่อเข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองในวันที่ 28 ต.ค. เวลา 10.00 น.