xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” โวไม่โลเลเป่านกหวีดต้านนิรโทษ ยันคนโกงได้คืน 5.7 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“อภิสิทธิ์” ยันพร้อมสู้คดีไม่เดือดร้อนหากโดนลอยแพอดนิรโทษในชั้นแปรญัตติ ชี้ขัดหลักการชัด คนโกงได้ประโยชน์ 5.7 หมื่นล้าน แย้มชงศาล รธน.หวังสื่อช่วยแฉใครโกหกประชาชน เจอถามนกหวีดบอกสั่งลูกพรรคเตรียมพร้อม กำหนดเป้าหมายร่วมม็อบอื่น แต่อ้าง “สุเทพ” ขู่วาระ 3 แค่เพียงส่วนหนึ่ง โวพรรคไม่มีโลเล เชื่อ "ทักษิณ" ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว “นิพิฏฐ์” คาดชงเข้าสภา 6 พ.ย.“ชวนนท์” ถามแดงยังมองไม่ออกอีกหรือ แต่คาดแกนนำ นปช.เล่นละครแถลงค้านแน่

วันนี้ (20 ต.ค.) ที่เขตสายไหม กทม.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการคืนแก้วตาสดใสสู่ปวงชนของพี่น้องชาวเขตสายไหม โดยมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมตรวจวัดสายตาและรับแว่นสายตาจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุ หลังจากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับกรณีที่กรรมาธิการนิรโทษกรรมฯของสภา เปลี่ยนแปลงร่างกฎหมายเป็นการนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งรวมทั้งกรณีทุจริตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีด้วยว่า เป็นเป้าหมายใหญ่ที่พยายามจะนิรโทษกรรมพวกตัวเองและคดีทุจริตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งในส่วนของตนและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร ไม่ประสงค์ที่จะได้ประโยชน์จากกฎหมายฉบับนีิ้ แต่พร้อมต่อสู้คดีในศาล และตนเชื่อด้วยว่าจะมีการเสนอคำแปรญัตติไม่ให้ถึงตนกับนายสุเทพอยู่แล้ว ซึ่งตนไม่เดือดร้อนเพราะไม่ได้ต้องการและยืนยันในกรรมาธิการชัดเจนว่าใครทำผิดกฎหมายต้องรับผิด ยกเว้นประชาชนธรรมดาที่ใช้สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานแล้วไปทำผิดกฎหมายในช่วงนั้นแต่ต้องไม่ใช่การทำความผิดต่อร่างกาย ชีวิต ทรัพย์สิน หรือก่อให้เกิดอันตรายกับประชาชน ไม่ต้องมาอ้างพวกตนขอให้ยึดในความถูกต้อง

ผู้สื่อข่าวถามว่า การแปรญัตติกลายเป็นนิรโทษเหมาเข่งจะขัดกับหลักการที่รับในวาระแรกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กรณีนิรโทษกรรมการทุจริตขัดหลักการชัดเจนเพราะเขียนไว้ว่ากฎหมายนิรโทษกรรมประชาชนที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมืองและการแสดงออกทางการเมือง ตนมองไม่เห็นว่าการทุจริตจะเกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมได้อย่างไร เป็นเรื่องขัดหลักการอยู่แล้ว แต่ประธานกรรมาธิการฯและเสียงข้างมากบอกว่า ไม่ขัด ซึ่งในเรื่องนี้สภาก็ต้องพิจารณาที่สำคัญคือกฎหมายนี้จะสร้างภาระผูกพันทางการเมืองชัดเจน 5 หมื่นกว่าล้าน ที่ประชาชนต้องเสียเพราะมีคนทุจริตได้ประโยชน์จากกฎหมายฉบับนี้ เพราะมีการเขียนชัดเจนว่าการกระทำผิดตามที่ คตส.กล่าวหาให้ได้รับการนิรโทษกรรม โดยหยิบเงื่อนไข คตส.ขึ้นมาอ้าง และตนเห็นว่าเป็นกฎหมายการเงินเพราะสร้างภาระผูกพันทางงบประมาณ แต่ก็คงจะมีการอ้างว่าตัวกฎหมายขณะนี้ไม่ใช่กฎหมายการเงิน แต่หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นผิดก็จะมีการร้องเรียนเพื่อขอทรัพย์สินคืนเนื่องจากไม่ได้กระทำความผิดแล้ว ก่อนที่จะออกกฎหมายจัดงบประมาณคืนให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งต้องถามรัฐบาลว่าเมื่อมีข้อผูกพันทางกฎหมายแล้วก็จะไม่มีทางเลือก ขนาดงบประมาณเสนอเข้าสภาข้อผูกมัดตามกฎหมายเขายังห้ามแปรญัตติตัดแปลว่าต้องผูกมัดรัฐบาลอยู่แล้ว

“ต้องถามนายกฯว่าเห็นประเทศร่ำรวยขนาดเอาเงินห้าหมื่นกว่าล้านไปคืน พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ทุจริตและกระทำผิด เพียงเพราะ คตส.กล่าวหาเลยต้องยกเงินให้ นางสาวยิ่งลักษณ์คิดว่า 5.7 หมื่นล้านเป็นธรรมกับประชาชนหรือไม่ ซึ่งในส่วนของพรรคจะดูร่างสุดท้ายว่าผิด รธน.หรือไม่ เพราะมีหลายประเด็นที่จะโต้แย้งไปยังศาลรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องรัฐบาลที่ต้องดูแลการเงินของประเทศ เห็นว่าเหมาะสมหรือไม่ที่จะจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวในภาวะที่รัฐบาลต้องกู้เงินให้คนไทยเป็นหนี้ 50 ปี กลับเอาเงินห้าหมื่นกว่าล้านไปใช้จ่ายอย่างนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลยืนยันว่ากฎหมายฉบับนี้ไม่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่ง พรรคพูดมาโดยตลอดว่าสุดท้ายจะมีการแปรญัตติเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงอยากให้ประชาชนได้พิจารณาว่าใครพูดความจริง ใครโกหก และการโกหกอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลนั้นตนอยากให้สื่อมวลชนได้นำเสนอต่อสังคมว่าใครพูดความจริง ใครพูดความเท็จ เพราะถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ ก็โกหกเรื่องใหม่ทับเรื่องเก่า

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในกรณีนี้หากมีการส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วมีความเห็นว่าเป็นกฎหมายการเงินนั้น นายกรัฐมนตรีก็ต้องเซ็นรับรอง แต่ตอนนี้ผ่านขั้นตอนไปแล้วความรับผิดชอบจึงอยู่ที่ประธานสภาที่ใช้ดุลพินิจว่าไม่ใช่กฎหมายการเงิน ส่วนนายกฯ ไม่มีอำนาจไปรับรองก่อน แต่เมื่อตอนนี้รับทราบแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ความรับผิดชอบของนายกจึงต้องทักท้วงไปที่สภา โดยแย้งว่าสภากำลังจะออกกฎหมายที่ผูกมัดค่าใช้จ่ายจำนวนมากซึ่งเป็นกฎหมายการเงิน แต่ถ้านายกฯอ้างว่าเป็นเรื่องของสภา ก็คงต้องชี้ให้เห็นอย่างเป็นทางการว่าเป็นกฎหมายการเงินที่จะสร้างภาระผูกพันให้กับฝ่ายบริหาร โดยจะดูขั้นตอนก่อน เพราะการพิจารณาในกรรมาธิการยังไม่แล้วเสร็จ เมื่อรายงานเข้าสภาก็จะเป็นเงื่อนไขที่เหมาะสม

เมื่อถามว่า จากเงื่อนไขเหล่านี้ถึงเวลาที่พรรคประชาธิปัตย์ จะเป่านกหวีดหรือยัง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราบอกกับประชาชนและตนคุยกับสาขา กทม.ให้เตรียมความพร้อม บอกกล่าวประชาชน ให้ความจริงให้มากที่สุด เพราะสื่อหลักบางสื่อไม่นำเสนอเลย ตนเชื่อว่าหากประชาชนทราบจะไม่พอใจแน่กับความไม่ถูกต้องที่เกิดขึ้น แต่คนที่ไม่รู้ยังมีเยอะมาก ซึ่งเราต้องทำให้เกิดความเป็นเอกภาพด้วยการกำหนดเป้าหมายร่วมกันกับหลายกลุ่มที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ และนำเสนอช่องทางสื่อสารให้มีความเป็นเอกภาพมากขึ้น ทั้งนี้ปัจจัยที่จะทำให้พรรคออกมาอยู่แถวหน้านำประชาชนเคลื่อนไหวนั้น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ได้ประกาศว่าประมาณไม่เกินวาระสามและมีเงื่อนไขอื่นๆ ซึ่งก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะการเคลื่อนไหวของประชาชนกลุ่มต่างๆ มีมากซึ่งจะต้องหลอมรวมกัน

“ผมยืนยันว่าพรรคไม่มีโลเล ต่อสู้เต็มที่จุดยืนไม่เคยเปลี่ยน แม้ว่าในสภาจะแพ้เสียงข้างมากก็ยังเป็นหน้าที่ต้องทำอย่างเต็มที่ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลต้องการให้ประเทศเข้าสู่ความขัดแย้ง เรื่องที่ควรทำไม่ทำ เช่น การดูแลหลักเกณฑ์ช่วยเหลือน้ำท่วม แก้ปัญหาปากท้องของแพง รัฐบาลไม่ทำ กลับมุ่งกู้เงิน ช่วยคนโกง ช่วยคนผิด รื้อรัฐธรรมนูญ จนทำให้เกิดความขัดแย้งมากมาย หากคิดถึงประเทศชาติและประชาชนก็ไม่ควรทำ แต่รัฐบาลคงมั่นใจกองกำลังตำรวจที่กลายเป็นกองกำลังส่วนตัวของรัฐบาล ผมจึงอยากเตือนไว้ว่าคนที่มั่นใจในเรื่องแบบนี้คิดผิดมาหลายรอบแล้ว” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ทักษิณ กำลังเดินเกมเข้าสู่การแตกหักเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวน่าจะเป็นหลัก ส่วนการเปลี่ยนแปลงประเทศตนก็ไม่ทราบว่าเป็นเป้าหลักเป้าลอง เพราะเขาคิดถึงแต่เรื่องตัวเองและไม่สนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับสังคมกับประเทศชาติ ทั้งนี้ตนขอฝากถึงตำรวจและข้าราชการทุกคนให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา คำนึงถึงวิชาชีพของตนเอง ความจริงมีข้าราชการที่ไม่ยอมต่อความไม่ถูกต้องหลายคน ซึ่งตนขอเป็นกำลังใจให้เพราะรู้ว่าโดนกลั่นแกล้ง คุกคาม แต่ก็ยังยืนหยัดต่อสู้

ด้าน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ เขียนข้อความผ่านเว็บไซต์เฟซบุ๊ก ส.ส.นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ว่า การชุมนุมคัดค้าน กม.นิรโทษกรรม คาดว่า จะมีขึ้นประมาณวันที่ 6 พ.ย.56 ซึ่งเป็นวันที่ “คาดว่า” รัฐบาลจะนำ กม.นี้เข้าพิจารณาในวาระที่ 3 (เว้นแต่รบ.กลัวและเลื่อนออกไป) ในชั้นนี้ขอให้เตรียมความพร้อมไว้ในวันที่ 6 พ.ย.เป็นเกณฑ์ ใครต้องการรักษาความถูกต้อง ต้องการรักษาหลักนิติรัฐของประเทศไว้ ให้ประสานงานกับ ส.ส.ในพื้นที่หรือแกนนำได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และคิดว่าคงไม่ได้รับการต่อต้านจากคนเสื้อแดง เพราะแดงปัญญาชน และญาติของผู้ชุมนุมที่เสียชีวิตก็เตรียมจะแถลงคัดค้าน กม.ฉบับนี้ด้วย

ขณะที่ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนบอกได้ว่าฉบับดังกล่าวไม่ใช่ฉบับสุดซอย แต่เป็นฉบับทะลุซอย เพราะนอกจากจะนิรโทษกรรมให้กับประชาชนคนเสื้อแดง แกนนำคนเสื้อแดง คนที่กระทำผิดคดีอาญา ยังเลยไปถึงแกนนำทุกรูปแบบ และเลยไปถึงคดีความการทุจริตคอร์รัปชั่น และระบุชัดถึงขนาดล้มล้างคดีความทุกคดี ที่มีที่มาจาก คตส.และยังสงวนสิทธิ์ ให้ผู้ที่ถูกยึดทรัพย์มีสิทธิในการเรียกร้องทรัพย์คืน ซึ่งก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ และเมื่อกฎหมายฉบับนี้ผ่านเงินจำนวนดังกล่าวก็จะถูกโอนไปบัญชี พ.ต.ท.ทักษิณ ทันที ทั้งนี้ตามกฎหมายแพ่งที่มีสิทธิเรียกร้องเอาดอกเบี้ย หรือความเสียหายคืนร้อยละ 7.5 ต่อปี ก็จะได้ดอกเบี้ยรวมประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท ดังนั้นยอมรวมที่จะได้คือ 5 .7 หมื่นล้านบาท สิ่งเหล่านี้ เป็นกระบวนการทำลายประเทศไทยอย่างรุนแรงที่สุด

นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า หากกฏหมายฉบับนี้ผ่าน นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรอีกต่อไป คนเสื้อแดงยังมองไม่ออกอีก หรือ เลือกทุกหยดที่เสียไป เพื่อแลกกับเงิน 5.7 หมื่นล้านบาท ที่ต้องส่งคืน พ.ต.ท.ทักษิณ ทุกศพที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ปี 2552-2553 กำลังจะตายฟรี หรือ เอา 99 ศพไปหาร 5.7 หมื่นล้าน ก็จะตกศพละ 570 ล้าน ซึ่งตรงนี้ไม่ควรจะเรียกว่า กระบวนการยุติธรรมหรือนิติรัฐอีกต่อไป และถ้าวิ่งเหล่านี้ผ่านไป ประเทศไทยไม่สามารถเรียว่าเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบนิติรัฐ หรือมีกระบวนการยุติธรรมได้

นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่าในอีก 1-2 วันนี้ นปช.ก็จะออกมาแถลงในลักษณะเล่นละครต่อต้านกฎหมายฉบับนี้เพราะเขารู้ว่า หากแกนนำคนเสื้อแดงในสภาจะคัดค้าน กฎหมายก็ผ่านเพราะมีการนับมือนับหัวกันแล้ว ตนแปลกใจว่าถ้าคนเสื้อแดงจะถูกต้มถูกหลอกต่อไป โดยที่พวกท่านยังไม่รู้ตัว พรรคประชาธิปัตย์ จะต่อต้านกฎหมายฉบับนี้อย่างรุนแรง ทั้งในและนอกสภา และเมื่อกฎหมายฉบับนี้ผ่านวาระที่ 3 ในสภา การเคลื่อนไหวของประชาชนจะเดินหน้าอย่างเต็ม พรรคประชาธิปัตย์ เพียงเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อน เพราะตรงนี้คือการออกมาแสดงจุดยืนของประชาชนทั้งประเทศไม่ใช่ของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง



กำลังโหลดความคิดเห็น