เพื่อไทยสั่งปิดจ็อบ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยให้จบสิ้นเดือนนี้ เชื่อไม่ทำให้รัฐบาลอายุสั้น แต่กลัวม็อบจะปลุกรัฐประหาร อ้างถ้า “ทักษิณ” อยากได้เงินคืน ต้องใช้สิทธิฟ้องเองภายหลัง “ปชป.” ร้อง “เสื้อแดง” ลุกต้าน กม.นิรโทษฯ หากไม่อยากตายฟรี เผย “มาร์ค” ย้ำชัดไม่ต้องการล้างโทษ “เด็จพี่” ฉุน “สุเทพ-นิพิฏฐ์” ปลุกปั่นม็อบขู่รวมหลักฐานจ่อยื่นยุบพรรค “อนุสรณ์” ด่าอย่างเดียวพวกอิจฉาเข้าเส้น เหน็บสับสน ปชป.เป่านกหวีด
วันนี้ (21 ต.ค.) นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กล่าวว่า ในวันที่ 24-25 ต.ค. กรรมาธิการฯ จะให้ผู้แปรญัตติมาชี้แจงคำแปรญัตติต่อกรรมาธิการฯ จากเดิมที่กำหนดให้ผู้แปรญัตติมาชี้แจงคำแปรญัตติต่อกรรมาธิการฯในวันที่ 30-31 ต.ค. ซึ่งไม่ใช่การเร่งรีบที่จะนำร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสภาฯ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ทำเอกสารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ให้ผู้แปรญัตติมาชี้แจงคำแปรญัตติได้ทันที คาดว่ากรรมาธิการฯจะประชุมอีก 2 ครั้ง จะเสนอรายงานต่อสภาฯ ได้ในปลายเดือน ต.ค. จากนั้นสัปดาห์แรกของเดือน พ.ย.จะพิจารณาวาระ 2 ได้ ยืนยันว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่มีผลให้คืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณจะได้รับประโยชน์พ้นผิดจากคดีอาญาที่เป็นผลพวงจากการรัฐประหารเท่านั้น หาก พ.ต.ท.ทักษิณอยากได้เงิน 4.6 หมื่นล้านบาทคืน ต้องไปใช้สิทธิฟ้องร้องเองภายหลัง ยอมรับว่ากฎหมายฉบับนี้ถูกต้านอย่างหนัก เพราะไม่มีทางถูกใจทุกฝ่ายอยู่แล้ว แต่ไม่เชื่อว่าจะทำให้รัฐบาลอายุสั้น แค่กังวลว่า หากถูกปลุกระดมต่อต้านอย่างหนัก อาจเป็นเครื่องล่อให้การรัฐประหารคืนชีพมาอีกครั้ง
อีกด้านหนึ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยว่า ขณะนี้คนเสื้อแดงทั้งประเทศที่มีความเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็น่าจะตาสว่างแล้วว่าตกเป็นเพียงเบี้ยของกลุ่มการเมืองพรรคเพื่อไทย ในการใช้ขับเคลื่อนเพื่อจะเอาชีวิตเลือดเนื้อ และการสูญเสียของคนเสื้อแดงมาเป็นเครื่องมือการต่อรอง เพื่อเป้าหมายการคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทบวกดอกเบี้ย 1.1 หมื่นล้านบาท ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และขอเรียกการกระทำของแกนนำคนเสื้อแดงว่า เป็นการเล่นละครฉากใหญ่ เพราะการที่แกนนำออกมาทำทีเหมือนว่าไม่เห็นด้วยกับการล้างผิดแบบยกเข่ง เป็นเพียงละครที่พยายามเล่นบทสุดท้ายของละครอำมหิต เพราะคนอย่างนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง, นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ที่ออกมาพูดว่าจะต่อต้านเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด ก็คงเป็นละครที่จะไปจบลงในการประชุมสภาฯ เพราะไม่ว่าจะต่อต้านอย่างไร หรือต่อให้มีการยกมือไม่รับร่าง สุดท้ายมือของพรรคเพื่อไทยที่เหลือก็เพียงพอที่จะผ่านกฎหมายล้างผิดแบบยกเข่ง
“ผมเห็นใจคนเสื้อแดง และอยากเรียกร้องให้ออกมาต่อต้านกฎหมายฉบับนี้โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบ หากคนเสื้อแดงออกมาเป็นผู้นำในการต่อต้านกฎหมายนี้ เชื่อว่ารัฐบาลจะต้องหยุดฟังและยอมถอย ดังนั้นช่วงเวลาที่เหลืออีกไม่กี่สัปดาห์จึงอยู่ที่คนเสื้อแดงว่าจะเอาอย่างไร จะยอมให้พ่อแม่พี่น้องตายฟรี หรือต้องการจะพิสูจน์ความยุติธรรมหาฆาตกรมาลงโทษ วันนี้เป็นละครที่เจ็บปวดสำหรับคนเสื้อแดง แต่ละครกำลังจะจบ โดยคนเสื้อแดงสามารถเลือกได้ว่าจะจบอย่างไร” นายชวนนท์กล่าว
นายชวนนท์กล่าวอีกว่า การที่ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ออกมาพูดพาดพิงถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่าพอใจกับการเปลี่ยนเนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมครั้งนี้ เพราะจะได้รับนิรโทษกรรมด้วยนั้น ถือเป็นความพยายามในการบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างน่าเกียจ เพราะนายอภิสิทธิ์ต่อต้านเรื่องนี้อย่างคงเส้นคงวา และพรรคประชาธิปัตย์เองก็จะเคลื่อนไหวรุนแรงทั้งในและนอกสภาฯ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้พูดในห้องประชุมกรรมาธิการฯ ชัดว่าไม่ต้องการนิรโทษกรรม ทำผิดรับผิด ซึ่งต่างกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทยบางคนที่เวลาอยู่บนเวทีเสื้อแดงก็ปลุกระดม พออยู่ในกรรมาธิการฯ ก็เป็นแมวเชื่องกันหมด
อีกด้านหนึ่งที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรค ปชป.ระบุว่า เตรียมระดมคนชุมนุมใหญ่วันที่ 6 พ.ย.นี้ รวมถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองหัวหน้า ปชป.ระบุว่าเตรียมเป่านกหวีดทันทีหากร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมผ่านวาระ 3 เท่ากับเป็นการปลุกปั่นให้ประชาชนออกมาชุมนุม นอกจากนี้ยังพบว่ามีสื่อโทรทัศน์ดาวเทียมบางช่องเผยแพร่ข่าวรับสมัครการ์ดเข้าร่วมการชุมนุม การกระทำเหล่านี้ทางพรรคจะรวบรวมว่ามีการเชื่อมเกี่ยวกับ ส.ส.ปชป.มากน้อยเพียงใด เพื่อเตรียมยื่นเอาผิดตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง และยื่นร้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 เข้าข่ายล้มล้างการปกครองเพื่อดำเนินการยุบพรรคต่อไป
ขณะที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ระบุว่าจะไม่ยอมให้มหาโจรปล้นประเทศรอบสอง และกำลังจะมีการล้างผิดให้คนโกง คืนเงินกว่า 50,000 ล้านบาท ว่าทุกจินตนาการ ทุกถ้อยคำ ชี้ชัดว่านายอภิสิทธิ์อาการหนัก อิจฉาเข้าเส้นเลยหรือไม่ การที่คณะกรรมาธิการฯเสียงข้างมากมีความเห็น เสนอการนิรโทษกรรม ครอบคลุมถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน ชวนสงสัย เป็นเพียงความเห็นของกรรมาธิการเสียงข้างมาก ยังมีโอกาสที่จะได้ไปว่ากันในสภา นายอภิสิทธิ์รู้ได้อย่างไรว่าสภาผู้แทนราษฎรจะมีความเห็นอย่างไร วุฒิสภาจะมีมติอย่างไร นายอภิสิทธิ์อย่าตกใจง่าย จ้องจะหาประโยชน์บนความขัดแย้ง หนักๆ เข้าปลุกระดมคนเสื้อแดงผ่านเวทีผ่าความจริง หวังจะใช้เรื่องนี้สร้างความหวาดระแวงระหว่างคนเสื้อแดงกับรัฐบาล
“นายอภิสิทธิ์คงจะจิตว่างจัด เลยมีเวลามานั่งคำนวณดอกเบี้ยอะไรให้เสร็จสรรพ สังคมรู้แล้วว่านายอภิสิทธิ์พร้อมติดคุก และวันนี้ถ้าไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม มีโอกาสติดคุกสูงสมใจ แต่ก็อยากให้เอาเวลาว่างๆไปเตรียมตัวสู้คดีในข้อหา ก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าโดยเจตนาและเล็งเห็นผล กรณีที่ ศอฉ.มีคำสั่งใช้กำลังเจ้าหน้าที่กระชับพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ระหว่างเดือน เม.ย. ถึง พ.ค.ปี 2553ของตัวเองจะดีกว่า มาทำในสิ่งที่ธุระไม่ใช่ มหาโจรอะไรไม่มี ที่เห็นๆ มีแต่ฆาตกรต่อเนื่อง องคุลิมาลยังสำนึกบาปกลับใจ แต่คนบางพวกกลับไม่สำนึก” นายอนุสรณ์กล่าว
ส่วนกรณีที่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์จะเป่านกหวีดเรียกคนมาชุมนุมคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า วันนี้สังคมงงกันไปหมดว่าตกลงแกนนำพรรคประชาธิปัตย์คนไหน ใครมีหน้าที่เป่านกหวีดบ้าง เห็นขู่กันจะเป่าทั้งพรรค จนนกหวีดขาดตลาดไปหมดแล้ว เชื่อว่าสังคมอยากให้แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ รีบเป่านกหวีดเร็วๆ เสียที จะได้ยืนยันเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดว่า พรรคประชาธิปัตย์ เชื่อมั่นในระบบฟุตปาธมากกว่าระบบรัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังระบุขอสะสมกำลังทั่วประเทศ 2 เดือน ตกลงจะเป็นผู้แทนหรือผู้ก่อเหตุไม่สงบขึ้นในบ้านเมืองกันแน่ นายอภิสิทธิ์กำลังคิดจะทำอะไรหรือ จึงต้องใช้เวลาอีกสองเดือนในการสะสมกำลัง
ทั้งนี้ การเป็นผู้แทนราษฎรนั้นถ้าทำในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม ตามครรลองประชาธิปไตย ชาวบ้านสนับสนุนเต็มที่อยู่แล้ว จึงอยากถามว่า กำลังคิดจะทำอะไรที่ฝืนหลักการประชาธิปไตย สร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองหรือ จึงต้องประกาศสะสมกำลังกันขนาดนี้ แล้วที่มีอยู่ทั้งม็อบสวนยาง สวนลุม อุรุพงษ์ ยังสะสมกำลังกันไม่เพียงพออีกหรือ สู้พรรคเพื่อไทยไม่ได้ แพ้เขาทุกรูปแบบ จึงพากันเกลียดและอิจฉา ไปรวมหัวกับพวกอกหัก พวกผิดหวัง มาล้มรัฐบาลด้วยกระบวนการที่ไม่เป็นประชาธิปไตย หวังอัพเกรดจากนักเลงคุมซอย เป็นอันธพาลระดับชาติ ก่อนล้มรัฐบาล ช่วยคิดตัดสินใจกันให้ดีว่าจะให้ใครเป็นนายกฯ เพราะนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ก็ประกาศจะเป็นนายกฯ ตัดหน้านายอภิสิทธิ์ไปแล้ว