ASTVผู้จัดการรายวัน - ศูนย์ข้อมูลฯ ระบุอสังหาฯต่างจังหวัดรุ่ง ปัจจัยหนุนเพียบทั้ง โครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ เศรษฐกิจโต สนข.ชี้รถไฟความเร็วสูงเป็นเครื่องมือกระจายความเจริญออกสู่ต่างจังหวัด ขณะที่กรมโยธาเปิดแผนพัฒนาเมืองรอบสถานี ด้านเอกชนแนะจังหวัดน่าลงทุนอสังหาฯต้องเติบโตหลายด้าน
วานนี้ (22 ต.ค.56) ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ จัดงานสัมมนาใหญ่ประจำปีภายใต้หัวข้อ “นโยบายและการลงทุนภาครัฐผลต่อการพัฒนาตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ” โดยนายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดที่อยู่อาศัยต่างจังหวัดมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเขตอำเภอเมือง เหตุจากความเจริญด้านการคมนาคมและนโยบายต่างๆของภาครัฐ อาทิ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท, นโยบายรับจำนำข้าว ,การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสนับสนุนหลักให้ผู้บริโภคมีความต้องการอยู่อาศัยในต่างจังหวัดมากขึ้น จนทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน
ทั้งนี้จังหวัดที่มีโอกาสในการพัฒนาตลาดที่อยู่อาศัย ต้องเป็นจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางของกลุ่มไม่ใช่จังหวัดบริวารหรือจังหวัดเดี่ยว รวมทั้งต้องมีโครงข่ายคมนาคมทางถนนเชื่อมโยงจังหวัดใกล้เคียง อาทิ มอเตอร์เวย์ ถนน 4 เลน ถนนวงแหวน หรือเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูง มีสนามบินให้บริการเชิงพาณิชย์ มีสถานศึกษาหรือศูนย์การแพทย์ที่มีชื่อเสียงเป็นเมืองราชการขนาดใหญ่ เป็นจังหวัดชายแดนหรืออยู่ใกล้เคียง จ.ชายแดน
นอกจากนี้การมีห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ เช่น โลตัส บิ๊กซี แม็คโคร ยังทำให้อสังหาฯ บริเวณโดยรอบห้างค้าปลีกเหล่านี้มีการเติบโตขึ้นทั้งราคาที่ดิน และที่อยู่อาศัย ฯลฯ จากสำรวจพบจังหวัดที่มีศักยภาพในการพัฒนาหลายจังหวัด กระจายตามภูมิภาคต่างๆ อาทิ พิษณุโลก , อุบลราชธานี , ขอนแก่น , ระยอง , กาญจนบุรี และฉะเชิงเทรา เป็นต้น
ยกตัวอย่าง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นจุดตัดของรถไฟความเร็วสูง East West Economic Corridor (EWEC) กับ North South Economic Corridor (NSEC) อีกทั้งเป็นเมืองราชการ มีกองทัพภาค 6 มีการเตรียมก่อสร้างศูนย์ราชการใหม่ มีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงทั้งของรัฐและเอกชน อีกทั้งยังมีเส้นทางบินตรงจากกรุงเทพฯ ตลอดสามารถเชื่อมต่อไปยังจังหวัดใกล้เคียงได้สะดวกตลอดจนห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่างเซ็นทรัลไปเปิดเมื่อปลายปี 2555 เป็นจังหวัดที่น่าสนใจ ส่งผลให้ราคาที่ดินมีการปรับขึ้นเท่าตัวในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่ดินรอบห้างสรรพสินค้าที่มีการซื้อขายกัน 6-9 หมื่นบาทต่อตร.ว. และมีโครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูงเปิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ซึ่งจังหวัดที่มีศักยภาพจะมีทิศทางการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ในทิศทางเดียวกัน
ด้านนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนง.) กล่าวว่า โครงการรถไฟความเร็วสูง เป็นเครื่องมือกระจายความเจริญออกไปสู่ต่างจังหวัด ซึ่งดูได้จากการพัฒนารถไฟความเร็วสูงในต่างประเทศ โดยจะมีการพัฒนาเมืองเกิดขึ้นโดยรอบสถานี ซึ่งไม่ใช่เฉพาะพื้นที่โดยรอบสถานีเท่านั้นแต่เมืองทั้งเมืองที่เป็นที่ตั้งสถานีจะมีการเจริญเติบโตขึ้นอย่างมาก
ด้านนางสิริรักษ์ ไสยวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านการผังเมือง กรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า กรมฯได้ออกแบบและวางผังเมืองบริเวณโดยรอบสถานีของรถไฟความเร็วสูง ตาม 4 เส้นทาง ได้แก่ 1.สายเหนือ กรุงเทพฯ-พิษณุโลก, 2. กรุงเทพ- หัวหิน 3.กรุงเทพฯ - นครราชสีมา และ 4. กรุงเทพฯ -ระยอง จากการประชุมคณะกรรมการจัดตั้งสถานี 17 สถานีใน 4 เส้นทาง ขณะนี้ได้ได้ข้อสรุปร่วมกันแล้ว 14 สถานี และมีอีก 3 สถานีที่คณะกรรมการมีความเห็นต่าง ซึ่งจะได้มาหาข้อสรุปกันภายหลัง
สำหรับหลักการพัฒนาเมืองที่เป็นที่ตั้งสถานีรถไฟความเร็วสูง รวมถึงแผนพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีรัศมี 1-5 กิโลเมตร แบ่งเป็น เมืองขนาดใหญ่ ได้แก่ นครราชสีมา : ประตูสู่อีสาน ศูนย์กลางโลจิสติกส์, พัทยา : เมืองท่องเที่ยวระดับโลก, พิษณุโลก : ประตูเศรษฐกิจสี่แยกอินโดจีน เมืองขนาดกลาง ได้แก่ นครสวรรค์ : ศูนย์กลางการผลิตและการค้าข้าว, ระยอง : เมืองอุตสาหกรรม และโลจิสติกส์, อยุธยา : เมืองมรดกโลก / เมืองอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง,หัวหิน : เมืองพักผ่อนวัยเกษียณ, ศรีราชา : เมืองสีเขียวและสุขภาพ,นครปฐม : เมืองการศึกษา / ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เมืองขนาดเล็ก ได้แก่ สระบุรี : เมืองอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง, ลพบุรี : แหล่งผลิตอาหารและเกษตรปลอดภัย, ปากช่อง : ตลาดกลางและศูนย์วิจัยเกษตร, ราชบุรี : เมืองเกษตร อุตสาหกรรมแปรรูป, เพชรบุรี : เมืองท่องเที่ยวธรรมชาติ และประวัติศาสตร์, พิจิตร : แหล่งผลิตข้าว และสินค้าเกษตร และ ฉะเชิงเทรา : เมืองพักอาศัยรองรับมหานคร
ด้ายนายอธิป พีชานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้ลงทุนพัฒนาอสังหาฯในต่างจังหวัดมากว่า 20 ปี โดยเลือกลงทุนที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาเป็นแห่งแรก หลังจากนั้นลงทุนที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งในปัจจุบันได้ขยายการลงทุนออกไปในหลายจังหวัด ซึ่งจังหวัดที่จะไปลงทุนจะต้องมีการเจริญเติบโตในหลายๆ ด้านหรือหลายขา เพื่อจะยืนอยู่ได้ เช่น สงขลา เป็นเมืองการค้าชายแดน เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ อีกภาคหนึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว ซึ่งมีนักลงท่องเที่ยวชาวมาเลเชียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเข้ามาซื้อบ้านในสงขลาอีกด้วย เชียงใหม่เป็นเมืองพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม การลงในต่างจังหวัดจะมีความแตกต่างจากส่วนกลาง มีแบบเฉพาะของตัวเอง รวมไปถึงทำเลในการลงทุนก็จะมีเฉพาะ แม้ว่ามองว่าเป็นทำเลที่ดี แต่คนในพื้นไม่นิยมอยู่อาศัย ดังนั้นจึงต้องศึกษาให้รอบครอบ
วานนี้ (22 ต.ค.56) ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ จัดงานสัมมนาใหญ่ประจำปีภายใต้หัวข้อ “นโยบายและการลงทุนภาครัฐผลต่อการพัฒนาตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ” โดยนายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดที่อยู่อาศัยต่างจังหวัดมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเขตอำเภอเมือง เหตุจากความเจริญด้านการคมนาคมและนโยบายต่างๆของภาครัฐ อาทิ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท, นโยบายรับจำนำข้าว ,การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสนับสนุนหลักให้ผู้บริโภคมีความต้องการอยู่อาศัยในต่างจังหวัดมากขึ้น จนทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน
ทั้งนี้จังหวัดที่มีโอกาสในการพัฒนาตลาดที่อยู่อาศัย ต้องเป็นจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางของกลุ่มไม่ใช่จังหวัดบริวารหรือจังหวัดเดี่ยว รวมทั้งต้องมีโครงข่ายคมนาคมทางถนนเชื่อมโยงจังหวัดใกล้เคียง อาทิ มอเตอร์เวย์ ถนน 4 เลน ถนนวงแหวน หรือเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูง มีสนามบินให้บริการเชิงพาณิชย์ มีสถานศึกษาหรือศูนย์การแพทย์ที่มีชื่อเสียงเป็นเมืองราชการขนาดใหญ่ เป็นจังหวัดชายแดนหรืออยู่ใกล้เคียง จ.ชายแดน
นอกจากนี้การมีห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ เช่น โลตัส บิ๊กซี แม็คโคร ยังทำให้อสังหาฯ บริเวณโดยรอบห้างค้าปลีกเหล่านี้มีการเติบโตขึ้นทั้งราคาที่ดิน และที่อยู่อาศัย ฯลฯ จากสำรวจพบจังหวัดที่มีศักยภาพในการพัฒนาหลายจังหวัด กระจายตามภูมิภาคต่างๆ อาทิ พิษณุโลก , อุบลราชธานี , ขอนแก่น , ระยอง , กาญจนบุรี และฉะเชิงเทรา เป็นต้น
ยกตัวอย่าง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นจุดตัดของรถไฟความเร็วสูง East West Economic Corridor (EWEC) กับ North South Economic Corridor (NSEC) อีกทั้งเป็นเมืองราชการ มีกองทัพภาค 6 มีการเตรียมก่อสร้างศูนย์ราชการใหม่ มีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงทั้งของรัฐและเอกชน อีกทั้งยังมีเส้นทางบินตรงจากกรุงเทพฯ ตลอดสามารถเชื่อมต่อไปยังจังหวัดใกล้เคียงได้สะดวกตลอดจนห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่างเซ็นทรัลไปเปิดเมื่อปลายปี 2555 เป็นจังหวัดที่น่าสนใจ ส่งผลให้ราคาที่ดินมีการปรับขึ้นเท่าตัวในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่ดินรอบห้างสรรพสินค้าที่มีการซื้อขายกัน 6-9 หมื่นบาทต่อตร.ว. และมีโครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูงเปิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ซึ่งจังหวัดที่มีศักยภาพจะมีทิศทางการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ในทิศทางเดียวกัน
ด้านนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนง.) กล่าวว่า โครงการรถไฟความเร็วสูง เป็นเครื่องมือกระจายความเจริญออกไปสู่ต่างจังหวัด ซึ่งดูได้จากการพัฒนารถไฟความเร็วสูงในต่างประเทศ โดยจะมีการพัฒนาเมืองเกิดขึ้นโดยรอบสถานี ซึ่งไม่ใช่เฉพาะพื้นที่โดยรอบสถานีเท่านั้นแต่เมืองทั้งเมืองที่เป็นที่ตั้งสถานีจะมีการเจริญเติบโตขึ้นอย่างมาก
ด้านนางสิริรักษ์ ไสยวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านการผังเมือง กรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า กรมฯได้ออกแบบและวางผังเมืองบริเวณโดยรอบสถานีของรถไฟความเร็วสูง ตาม 4 เส้นทาง ได้แก่ 1.สายเหนือ กรุงเทพฯ-พิษณุโลก, 2. กรุงเทพ- หัวหิน 3.กรุงเทพฯ - นครราชสีมา และ 4. กรุงเทพฯ -ระยอง จากการประชุมคณะกรรมการจัดตั้งสถานี 17 สถานีใน 4 เส้นทาง ขณะนี้ได้ได้ข้อสรุปร่วมกันแล้ว 14 สถานี และมีอีก 3 สถานีที่คณะกรรมการมีความเห็นต่าง ซึ่งจะได้มาหาข้อสรุปกันภายหลัง
สำหรับหลักการพัฒนาเมืองที่เป็นที่ตั้งสถานีรถไฟความเร็วสูง รวมถึงแผนพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีรัศมี 1-5 กิโลเมตร แบ่งเป็น เมืองขนาดใหญ่ ได้แก่ นครราชสีมา : ประตูสู่อีสาน ศูนย์กลางโลจิสติกส์, พัทยา : เมืองท่องเที่ยวระดับโลก, พิษณุโลก : ประตูเศรษฐกิจสี่แยกอินโดจีน เมืองขนาดกลาง ได้แก่ นครสวรรค์ : ศูนย์กลางการผลิตและการค้าข้าว, ระยอง : เมืองอุตสาหกรรม และโลจิสติกส์, อยุธยา : เมืองมรดกโลก / เมืองอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง,หัวหิน : เมืองพักผ่อนวัยเกษียณ, ศรีราชา : เมืองสีเขียวและสุขภาพ,นครปฐม : เมืองการศึกษา / ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เมืองขนาดเล็ก ได้แก่ สระบุรี : เมืองอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง, ลพบุรี : แหล่งผลิตอาหารและเกษตรปลอดภัย, ปากช่อง : ตลาดกลางและศูนย์วิจัยเกษตร, ราชบุรี : เมืองเกษตร อุตสาหกรรมแปรรูป, เพชรบุรี : เมืองท่องเที่ยวธรรมชาติ และประวัติศาสตร์, พิจิตร : แหล่งผลิตข้าว และสินค้าเกษตร และ ฉะเชิงเทรา : เมืองพักอาศัยรองรับมหานคร
ด้ายนายอธิป พีชานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้ลงทุนพัฒนาอสังหาฯในต่างจังหวัดมากว่า 20 ปี โดยเลือกลงทุนที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาเป็นแห่งแรก หลังจากนั้นลงทุนที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งในปัจจุบันได้ขยายการลงทุนออกไปในหลายจังหวัด ซึ่งจังหวัดที่จะไปลงทุนจะต้องมีการเจริญเติบโตในหลายๆ ด้านหรือหลายขา เพื่อจะยืนอยู่ได้ เช่น สงขลา เป็นเมืองการค้าชายแดน เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ อีกภาคหนึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว ซึ่งมีนักลงท่องเที่ยวชาวมาเลเชียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเข้ามาซื้อบ้านในสงขลาอีกด้วย เชียงใหม่เป็นเมืองพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม การลงในต่างจังหวัดจะมีความแตกต่างจากส่วนกลาง มีแบบเฉพาะของตัวเอง รวมไปถึงทำเลในการลงทุนก็จะมีเฉพาะ แม้ว่ามองว่าเป็นทำเลที่ดี แต่คนในพื้นไม่นิยมอยู่อาศัย ดังนั้นจึงต้องศึกษาให้รอบครอบ
