xs
xsm
sm
md
lg

40 ส.ว.จี้หนังสือ “ย้ำยุครุกสมัย” นโยบายปรองดอง-พาดพิงสถาบัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(21 ต.ค.56) นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา มีคำสั่งนัดประชุมวุฒิสภา โดยมีวาระสำคัญ คือ การแถลงผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรี ตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ ต่อวุฒิสภา ระหว่างวันที่ 23 ส.ค.54 - 23 ส.ค.55 หรือผลการดำเนินงานรัฐบาลครบรอบ 1 ปี ที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ทั้งนี้ มีสมาชิกวุฒิสภาแจ้งความประสงค์จะอภิปราย จำนวน 65 คน และคาดว่าจะเสร็จสิ้นในเวลาประมาณ 22.00 น.
ก่อนหน้านั้น รัฐบาลได้มอบหมายให้ นายสุรพงษ์ โตวิจักรษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ เป็นตัวแทนแถลงผลงานอย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เดินทางเข้ามายังรัฐสภาเมื่อช่วงบ่าย เพื่อชี้แจงต่อที่ประชุมวุฒิสภาด้วยตัวเอง หลังจากร่วมประชุมหารือเตรียมความพร้อม ในการฟังคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก ในคดีปราสาทพระวิหาร ที่กระทรวงกลาโหม ในช่วงเช้าและงดภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันเดียวกัน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชี้แจงว่า ช่วงเริ่มต้นที่รัฐบาลเข้ามาบริหารงาน การบริหารของรัฐบาลมีเป้าหมายการสร้างเศรษฐกิจสมดุล เพิ่มความเข้มแข็ง สร้างความเชื่อมั่น ทั้งในและต่างประเทศ การสร้างความปรองดอง ลดความเหลื่อมล้ำ และก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ท่ามกลางความท้าท้ายปัญหาด้านเศรษฐกิจ ที่พึ่งพาการส่งออก ในภาวะตลาดโลกผันผวน จึงเป็นที่มาของนโยบายสร้างเศรษฐกิจแข็งแรง ความเข้มแข็งด้านการเกษตร ลดช่องว่างรายได้ แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ยาเสพติด พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน รองรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งเป็นปัจจัยทั้งภายในและภายนอก
โดยเฉพาะการสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและตัวเลขการท่องเที่ยว แม้จะประสบปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ ทำให้ตัวเลขจีดีพี ปี 2555 เติบโตขึ้นร้อยละ 6.7 และจัดสรรงบประมาณจากทุกกระทรวงมาเป็นงบกลาง 1 แสน 2 หมื่นล้าน เพื่อเยียวยาประชาชนและซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย และการกู้เงิน 3 แสน 5 หมื่นล้านบาท ที่ช่วยแก้ปัญหาน้ำทั้งระบบปี 2555 และ 2556 ด้วย ขณะเดียวกัน ยังมีการดำเนินนโยบายเร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหาควบคู่กันในปีต่อมา ซึ่งนโยบายทั้งหมด จะนำมาปรับใช้ในการบริหารงานรัฐบาลปีที่ 3 ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่การอภิปรายของ ส.ว.ส่วนใหญ่ ต่างตำหนิการบริหารงานของรัฐบาล อย่างการแก้ไขปัญหายาเสพติด รัฐบาลที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังแสดงความเป็นห่วงการบริหารงานของกระทรวงศึกษาธิการ ที่เปลี่ยนรัฐมนตรีถึง 4 คน ที่ใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงการบริหารจัดการน้ำ3.5 แสนล้านที่ผิดพลาด
โดยเฉพาะ นางพรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์ ส.ว.สรรหา กลุ่ม 40 ส.ว. ท้วงติงว่า การที่รัฐบาลบอกว่าพยายามสร้างความปรองดองในชาติ แต่จากการจัดงานรำลึกครอบ 40 ปี 14 ตุลาฯ กลับมีบางส่วนที่พาดพิงถึงสถาบัน โดยเฉพาะการจัดทำหนังสือ “ย้ำยุครุกสมัย” ที่ให้ร้ายโจมตีสถาบันกษัตริย์
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ หนึ่งในคณะกรรมการจัดทำหนังสือ“ย้ำยุครุกสมัย” ชี้แจงว่า การจัดกิจกรรมครบรอบ 40 ปี 14 ตุลาฯ แต่ละกิจกรรมมีความเห็นที่แตกต่างกัน หนังสือดังกล่าวตนเองยังไม่ได้อ่านรายละเอียด แต่ปกติการจัดงานจะมีการขอรับการสนับสนุน จากรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ องค์กรต่างๆ เพราะถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญ ส่วนตัวในฐานะที่ปรึกษาการจัดกิจกรรม ได้ให้คำปรึกษาไปบ้าง ที่ท้วงติงว่าเนื้อหาในหนังสือให้ร้ายสถาบันนั้น เท่าที่ตนได้ดูและสอบถามคนทำแล้ว มีแต่ข้อความสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ และเนื้อหาเป็นเชิงวิชาการ ไม่มีถ้อยคำที่เป็นการบ่อนทำลายหรือดูหมิ่นสถาบัน หากผิดกฎหมายสามารถดำเนินคดีทางกฎหมายได้ แต่รับจะไปตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง
นายวันชัย สอนศิริ กล่าวว่า นโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลแถลงไว้ต่อรัฐสภา 16 ข้อนั้น องค์กรคลังสมองได้ประเมินว่าที่ทำสำเร็จมีเพียง 2 เรื่อง คือ 1. การแก้ปัญหายาเสพย์ติด และ2. ฟื้นฟูสัมพันธ์ประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนเรื่องอื่นไม่สำเร็จอย่างการสร้างความปรองดองสมานฉันท์คนในชาติ ที่นอกจากไม่สำเร็จกลับสร้างความแตกแยกยิ่งกว่าเดิม และเรื่องอื่น ไม่ว่าจะเป็น การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ บัตรเครดิตพลังงาน การดูแลเรื่องราคาสินค้าอุปโภคบริโภค การตรึงราคาสินค้า ทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จ หรือโครงการธงฟ้าที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า จึงถือเป็นความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง จึงอยากให้นายกฯจริงจังในการแก้ปัญหา
กำลังโหลดความคิดเห็น