“ธนะศักดิ์” นั่ง ปธ.ประชุม ผบ.เหล่าทัพ ครั้งแรกปีงบฯ 57 ชมปฏิบัติงานร่วมกัน จนกองทัพเป็นที่ยอมรับทั้งใน-ตปท. ก่อนแถลงนโยบายกองทัพเป็นตามแนวเดิม ยกผลงานที่ผ่านมาน่าชื่นชม พร้อมรับ AEC ปีหน้าเป็นเจ้าภาพฝึกร่วม 10 ชาติ ย้ำเหล่าทัพเป็นเอกภาพ ชม ตร.ดูแลม็อบดี มาแยะไร้ปัญหา อ้างเพื่อนบ้านประท้วงแปปเดียวเลิกโยงคนไทยต้องรักสามัคคีกัน เผยมีแต่คนอยากมาเยือน ลั่นเป็นทหารในหลวง อยู่กับ ปชช. หนุนรัฐฯ ทำตาม กม.
วันนี้ (14 ต.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 1/2557 โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) และพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ซึ่งการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมตามปกติครั้งแรกของปีงบประมาณ 2557 โดยที่ประชุมได้มีการสรุปการปฏิบัติงานของกองทัพไทยในปีที่ผ่านมาทั้งการพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพกองทัพ และระบบป้องกันประเทศให้มีความพร้อมในการพิทักษ์รักษาเอกราชอธิปไตย อธิปไตย ความมั่นคงและผลประโยชน์แห่งชาติ โดยพล.อ.ธนะศักดิ์ ได้ชื่นชมหน่วยที่ปฏิบัติงานร่วมกันเป็นผลดีจนทำให้กองทัพไทยได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง
จากนั้น พล.อ.ธนะศักดิ์แถลงว่า นโยบายการทำงานของเหล่าทัพยังคงเป็นไปตามแนวทางเดิม ถ้าเปลี่ยนนโยบายทุกปีการทำงานจะไปไม่ได้ ดังนั้นการประชุมวันนี้เป็นการสำรวจการทำงานที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลงานที่น่าชื่นชม ทั้งเรื่องการป้องประเทศ การช่วยเหลือประชาชน การเพิ่มสมรรถภาพพัฒนาขีดความสามารถให้พร้อม เพื่อก้าวไปข้างหน้า ส่วนแนวทางของเหล่าทัพจะเหมือนกัน คิดเหมือนกันเพื่อเดินร่วมกัน
พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้กองทัพมีการเตรียมความพร้อมที่จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยมีความมั่นคงและมั่นใจมาก ทั้งนี้จากการเยือนประเทศต่างๆ ทุกคนจะชื่นชมกองทัพ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราสร้างสมความเชื่อถือ ความสนิท จริงใจ และความพร้อมของกำลังพลที่ก้าวไปข้างหน้า โดยในปี 2557 จะเป็นเจ้าภาพฝึกร่วม 10 ประเทศ และประเทศที่เกี่ยวข้องกับการบรรเทาสาธารณภัย (เอชเอดีอาร์) สำหรับนโยบายความมั่นคงปี 2557 นั้น กองทัพได้ทำงานเต็ม 100% ส่วนผลจะออกมาดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม อยากเรียนว่าไม่ใช่ทหารคนเดียว แต่เราทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเราทุ่มเทเต็มขีดความสามารถ บางครั้งเราทำเกินกว่าหน้าที่ด้วยซ้ำ เพราะใช้ใจทำ ทั้งนี้ยืนยันว่าการทำงานของเหล่าทัพยังเป็นเอกภาพหนึ่งเดียวเช่นเดิมในการทำงานเพื่อประเทศชาติ
ผู้บัญชาการทหารสูงสุดยังกล่าวถึงการทำงานของตำรวจในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยจากการชุมนุมทางการเมืองว่า การชุมนุมต่อต้านรัฐบาล ขณะนี้สถานการณ์เป็นไปได้ด้วยดี ถือว่าตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในขั้นสถานการณ์ปกติ ส่วนทหารป้องกันประเทศ สำหรับเรื่องกฎหมายเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบตามมาตรฐานสากล กองทัพเป็นเพียงผู้ให้การสนับสนุน ซึ่งในมุมมองของกองทัพขอชื่นชมตำรวจที่ทำได้ดี เป็นไปตามกฎ กติกา และขั้นตอน ซึ่งทุกคนอยากแสดงออกเพียงแต่ว่า วิธีการแสดงออกจะเป็นอย่างไรเท่านั้นเอง วันนี้ตำรวจทำได้ดี และทหารพร้อมสนับสนุน ทั้งนี้มองว่าการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยถือว่ามีความเหมาะสม หากมองย้อนกลับไปคนที่ทำแบบนี้ก็อยากแสดงออก เราจึงต้องกลับมาดูว่าถึงเวลาหรือยังที่ประเทศเราจะเป็นประชาธิปไตย และการแสดงออกควรไปที่ไหน หรือแสดงอย่างไร ประเทศเพื่อนบ้านเวลาเขาแสดงออก เขาประท้วง 3 หรือ 10 วันแล้วเลิก ทางเจ้าหน้าที่จึงจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้ เราคนไทยด้วยกันไม่รักกันจะเรียกคนไทยได้อย่างไร
เมื่อถามว่า กองทัพมองการชุมนุมขณะนี้อย่างไร พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า ทุกคนเป็นคนไทย เรามีชื่อเสียงด้านความรักความสามัคคี ถ้าเราไม่รัก ไม่สามัคคีกัน ผลประโยชน์สิ่งต่างๆ หรือความก้าวหน้าก็จะไปได้ช้า ทุกครั้งที่ตนไปต่างประเทศ ไม่มีใครว่า ประเทศไทย มีแต่ชมและอยากเดินทางมา สิ่งดีๆเหล่านี้เราต้องช่วยกันว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศอยู่สุขสบาย ทั้งนี้ คิดว่าการที่ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากมาดูแลความสงบเรียบร้อยนั้น ไม่มีปัญหา เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดูแลรักษาความปลอดภัยไม่ให้เกิดเหตุจากมือที่สาม ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะเกินกว่าเหตุ เมื่อถามว่า วันครบรอบ 40 ปี 14 ตุลา 2516 กองทัพจะวางตัวต่อสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันอย่างไร พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า กองทัพทำตามหน้าที่ เราเป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราอยู่กับประชาชน สนับสนุนรัฐบาลที่เป็นไปตามกฎหมายและเป็นไปตามกฎกติกา