xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

พญาปลวกฝันอร่อย คุมกระทรวงทรัพยากรน้ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบให้ “คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย(กบอ.)” ที่มี “นายปลอดประสพ สุรัสวดี” เป็นประธานให้ไปพิจารณาความจำเป็นในการจัดตั้งกระทรวงทรัพยากรน้ำ และหาก กบอ.ของนายปลอดประสพเห็นควรด้วยก็ให้จัดทำร่างกฎหมายกำหนดจัดตั้งกระทรวงทรัพยากรน้ำขึ้นมา

ทั้งนี้ เมื่อถอดรหัสจากแก่นแกนความคิดของนายปลอดประสพผ่านการให้สัมภาษณ์ก็ทำให้เห็นเค้าโครงของกระทรวงนี้ว่า จะมีการดึง 20 หน่วยงานที่กระจัดกระจายอยู่ในหน่วยงานต่างๆ เข้ามาอยู่ด้วยกัน และโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทของรัฐบาลน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงนี้

เชื่ออย่างยิ่งว่า ทุกคนเห็นด้วยกับการจัดตั้งกระทรวงทรัพยากรน้ำ เพราะความจริงประเทศไทยสมควรมีกระทรวงนี้มาตั้งนานแล้ว

เป็นไปได้อย่างไรสำหรับประเทศเกษตรกรรมซึ่งที่มีแม่น้ำลำคลองไหล ผ่านจำนวนมากกลับปล่อยปะละเลยในเรื่องนี้ ยิ่งในอนาคตปัญหาเรื่องน้ำก็จะ ยิ่ง มีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาอุทกภัย หรือปัญหาภัยแล้งที่จำเป็นจะต้องจัดสรรทรัพยากรน้ำให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน

แต่ปัญหาสำคัญก็คือ คนที่จะมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงนี้จะต้องมีความรู้และความสามารถ มิใช่เอาพวกกเฬวรากที่จ้องจะเข้ามาทำมาหากิน หรือพวกพญาปลวกที่ไปอยู่ที่ไหนก็ล้วนเกิดเรื่องอื้อฉาวมานั่งบริหารงาน เพราะมิฉะนั้นแล้ว จะรังแต่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมิอาจประมาณค่าได้ ดังเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2554 หรืออุทกภัยที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นแต่ก็เกิดขึ้นแล้วในปี 2556 นี้

ไปที่เรื่องอื่นๆ กันบ้าง เริ่มจากสยามเซ็นเตอร์ซึ่งร่วมกับหลักสูตรนิเทศศาสตร์มหาบัณทิต สาขาวิชาการบริหารธุรกิจบันเทิงและการผลิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จัดการประกวดหนังสั้น ในหัวข้อ A.I.R. (Amazed, Inspired, Revolutionary) โดยผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ หนังสั้นเรื่อง ALIVE (อะไลฟ์), รองชนะเลิศอันดับ 1 กับผลงานที่มีชื่อว่า นางสาวมัดหมี่ รับทุนการศึกษา 30,000 บาท, รองชนะเลิศอันดับ 2 ตกเป็นของหนังสั้นเรื่อง Then & Now (เดน แอนด์ นาว) รับทุนการศึกษา 20,000 บาท และ รางวัลชมเชย กับผลงานเรื่อง กลิ่น รับทุนการศึกษา 5,000 บาท

ตามต่อด้วย โรงพยาบาลปิยะเวทที่จัดกิจกรรม “Organic to Hospital - Go Green Grow Good Health” เชิญชวนประชาชนคนรักสุขภาพช้อปสินค้าอุปโภคบริโภคปลอดสารพิษ และร่วมกิจกรรมสร้างสรรค์ความรู้ประจำเดือนกับเวิร์คชอป “การเพาะเห็ดฟางในตระกร้า” แบบง่ายที่ใครๆ ก็สามารถทำเองได้ที่บ้าน โดยตลาดนัดจัดขึ้นเป็นประจำทุกวันศุกร์ที่ 1 และ 3 ของแต่ละเดือน ตั้งแต่เวลา 09.00 - 15.00 น. ณ ลานกิจกรรม ชั้น 2 โรงพยาบาลปิยะเวท ด้านกิจกรรมเวิร์ค ชอปจะมีทุกวันศุกร์ที่ 1 ของเดือนส่วนครั้งต่อไปจะเป็นกิจกรรมอะไร สอบถามได้ที่ โทร.02-625-6555

และปิดท้ายกับนายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นางมิ่งขวัญ วิชยารังสฤษดิ์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ประธานกรรมการบริหาร และ ผศ.ดร.วีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน)ร่วมกันเปิดตัวตราสัญลักษณ์ส่งเสริมผลิตภัณฑ์จากฐานทรัพยากรชีวภาพ หรือ ไบโอ อีโคโนมี (Bio-Economy) เพื่อเป็นการสนับสนุน ส่งเสริม และเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ แก่ชุมชน ผู้ประกอบการ และประชาชน ให้ตระหนักถึงการใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างยั่งยืนเมื่อเร็วๆ นี้

พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ...

คอลัมน์// หนังสือน่าอ่าน

พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนอะไร?

3 ตุลาคม 2556 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเจริญพระชันษา 100 ปี นับเป็นสมเด็จพระสังฆราชที่มีพระชันษายืนยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย ดังนั้น เนื่องในวาอันเป็นมหามงคลนี้ จึงอยากจะขอแนะนำหนังสือ ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์พระองค์นี้มีพระนิพนธ์เอาไว้ให้พุทธศาสนิกชนคนไทยได้อ่านกัน

พระนิพนธ์เล่มนี้มีชื่อว่า “พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนอะไร?” หรือชื่อในภาษาอังกฤษว่า “WHAT DID THE BUDDHA TEACH?”

ทั้งนี้ หนังสือเล่มนี้เกิดขึ้นจากการที่สมเด็จพระศรีนคินทราบรมราชชนนี ทรงมีพระปรารภว่า นักเรียนนักศึกษาตลอดถึงข้าราชการผู้ที่ไปศึกษาต่อหรือไปรับราชการ ณ ต่างประเทศ ควรจะมีหนังสือแนะแนวคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนาเป็นคู่มือสำหรับอ่านเพื่อให้เกิดความรู้เป็นแนวทางสำหรับปฏิบัติตนเอง และเพื่ออธิบายให้บรรดามิตรชาวต่างประเทศผู้ต้องการจะทราบเข้าใจได้ถึงหลักธรรมบางประการในพระพุทธศาสนา จึงทรงอาราธนา “พระสาสนโสภณ”(สมณศักดิ์ของสมเด็จพระสังฆราชในขณะนั้น) ให้เรียบเรียงเรื่อง “พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนอะไร” ในแนวความโดยพระประสงค์ในพากษ์ภาษาไทย และทรงอาราธนาให้พระขนติปาโล วัดบวรนิเวศวิหารและพระนาคเสโน วัดเบญจมบพิตร แปลเป็นภาษาอังกฤษขึ้นก่อน และโปรดให้พระยาศรีวิสารวาจา พันตำรวจโทเอ็จ ณ ป้อมเพ็ชร์และนายจอห์น โบลแฟลด์ ตรวจแปลเรียบเรียงขึ้นอีกโดยตลอด จนเป็นที่พอพระหฤทัยในพากษ์ภาษาอังกฤษแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้จัดพิมพ์ขึ้นเนื่องในวันคล้ายวันประสูติวันที่ 21 ตุลาคม 2510

ดังนั้น หนังสือเล่มนี้จึงเป็นหนังสือที่นอกจากจะทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์แล้ว ยังถือเป็นคู่มือสำหรับทำความเข้าใจถึงหลักที่สำคัญของพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งสามารถนำมาปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย

ลุงอ้วน
managerweekend@yahoo.com




กำลังโหลดความคิดเห็น