โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
สภาพการเมือง เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยีก้าวหน้าไปไกล ยานอวกาศเดินทางไปถึงดาวอังคาร การสื่อสารเข้าสู่ยุคดิจิตัล มีแต่ความคิด จิตใจของคนและมนุษย์เท่านั้นเสื่อมโทรม ละทิ้งจริยธรรม ศีลธรรม เมตตาธรรม คุณความดี
เพราะแรงกระตุ้นของความโลภ คนส่วนหนึ่งมีโอกาสดีกว่าผู้อื่นมุ่งหาพระเจ้าเงินตรา อำนาจ วาสนา กล้าทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ความประสงค์ แม้จะต้องทำสงคราม ฆ่าฟันล้างผลาญคนร่วมแผ่นดินเดียวกัน
ยิ่งในประเทศไทย ดินแดนเคยรุ่งเรืองในความเมตตา กรุณา เอื้อเฟื้อไมตรี ไม่อดอยากยากแค้น ผู้คนไม่ขาดอาหาร ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว แต่นั่นเป็นยุคเก่า ถูกแปรเปลี่ยน ตกต่ำ เสื่อมโทรม ไร้ศีลธรรม เพราะการเมืองชั่วร้าย
การพัฒนาประชาธิปไตยแบบลุ่มๆ ดอนๆ ล้มลุกคลุกคลาน โดยกลุ่มชนชั้นสังคมระดับสูง บีบบังคับ เร่งการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทำให้เป็นสังคมประชาธิปไตยไร้รากฐาน ถูกฉกฉวยเป็นหน้าฉากของกลุ่มผลประโยชน์
ความเสื่อมโทรม ชั่วร้าย กาลีครอบงำบ้านเมือง เป็นขบวนการต้นตออยู่ที่บักเหลี่ยม คนหนีคุก ไฟนรกแห่งความอาฆาตพยาบาทสุมอยู่ในหัวอก ทุกลมหายใจเข้าออกหมกมุ่นครุ่นคิดวางแผนโกง ทำความชั่วร้ายทำลายแผ่นดินเกิด
มีเงินจากการผูกขาดธุรกิจ ติดสินบน ลัดขั้นตอน โกงกินให้ได้มาด้วยเงิน จากนั้นใช้เงินแสวงหาอำนาจ เมื่อได้อำนาจ อิทธิพลเถื่อน แล้วใช้เป็นเครื่องมือปล้นทรัพย์สินแผ่นดินต่อเนื่อง สร้างความมั่งคั่งให้โคตรเหง้าตระกูลกาลีเมือง
กว่า 10 ปี ขบวนการบักเหลี่ยมใช้เงินซ่องสุมบริวาร สมุน บริวาร สร้างเครือข่ายในทุกภาคส่วน ขยายฐานอำนาจเพื่อสร้างระบอบ “ขี้ข้าธิปไตย” โดยในวงจรสังคมบักเหลี่ยมมีเพียงคน 2 ประเภทคือ ขี้ข้าและศัตรู! ไม่มีเพื่อน
นั่นเป็นเพราะบักเหลี่ยมแปรสภาพเพื่อนให้เป็นศัตรู ลดระดับเพื่อนให้เป็นขี้ข้าบริวาร ทาสน้ำเงิน คอยรับใช้ภารกิจชั่วร้าย ใช้เงิน ตำแหน่งงานเป็นอามิสสินจ้าง ลงทุนในลักษณะค้ากำไรเกินควร ลงทุน 10 ส่วน โกง 100 ส่วน
ยุค “ขี้ข้าธิปไตย” เกิดขึ้นในแผ่นดินไทยขณะที่สังคมโลกเน้นธรรมาภิบาล ความโปร่งใส แต่แผนชั่วร้ายเพื่อกุมอำนาจรัฐของบักเหลี่ยมและบริวารคือการใช้ตัวแทน หุ่นเชิด เป็นผู้นำรัฐบาล ลงไปถึงเจ้าหน้าที่ปกครองท้องถิ่น
มีมวลชนรากหญ้าชนบท และรากหญ้าป่าคอนกรีต เป็นทั้งฐานอำนาจ และโล่มนุษย์เมื่อถึงวาระปลุกระดมใช้ชาวบ้านเป็นฐานชิงอำนาจ ปล้นทรัพย์ เหิมเกริม เผาบ้าน เผาเมือง สร้างบรรยากาศแห่งความหวาดกลัวทุกระดับ
คนดีไม่มีที่พึ่ง จึงไม่กล้าโวยวาย คัดค้านต่อต้านแผนชั่วร้าย! จากการใช้รัฐตำรวจกำราบปราบปรามประชาชน มาถึงขั้นปลอมแปลงร่างกฎหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใช้ขี้ข้าโกงด้วยการเสียบบัตรลงคะแนนเสียง ปิดปากฝ่ายค้าน
สังคมตั้งคำถามซ้ำซาก จะโกงทั้งโคตร ชั่วทั้งโคตร ล้างผลาญชาติให้ถึงขั้นล่มจม เป็นเพราะตัวเองไม่มีที่ยืนในแผ่นดินตามคำประกาศ “ถ้ากูอยู่ไม่ได้ อย่าหวังว่าพวกเอ็งจะอยู่ได้อย่างเป็นสุข” เช่นนั้นหรือ จึงไม่คิดทำความดี
“ขี้ข้าธิปไตย” จึงเป็นสภาพสังคมการเมืองยุคใหม่ ข้าราชการยอมสยบ ถ้าไม่อยากโดนย้าย ต้องกล้าทำความชั่วรับใช้ หาเงินตอบสนองความอยากไม่รู้จบ! กระบวนการยุติธรรมทั้งตำรวจ อัยการ และตุลาการบางส่วนมัวหมอง
บักเหลี่ยมประกาศ “ใครยอมสยบต่อข้าก็อยู่ ใครขวางข้าถ้าไม่ตาย ก็ไม่รุ่ง” ดังนั้นจึงเห็นตำรวจและข้าราชการหลายหน่วยงานแห่กันไปต่างประเทศ กราบไหว้อ้อนวอนขอตำแหน่ง เพื่อให้ได้เงิน อย่างไร้ศักดิ์ศรี สิ้นหิริโอตตัปปะ
ผู้นำองค์กรตำรวจอยู่แบบไร้ความน่าเชื่อถือ ถูกตำรวจต่ำยศ ต่ำระดับคุกคามด้วยความอหังการเพื่อถือตัวว่าเป็นขี้ข้าเชื่องชั้นยอดของบักเหลี่ยม! อัยการระดับหัวหน้ากลายเป็นขี้ข้า รับคำสั่งทั้งฟ้อง ไม่ฟ้อง ไม่อุทธรณ์ ฯลฯ
เป็นสภาวะแห่งความอัปยศในแผ่นดิน! แม้แต่ในองค์กรขนาดใหญ่ เคยมีศักดิ์ศรี เกียรติภูมิอย่างกองทัพก็ไม่อยู่นอกเหนืออิทธิพลแห่งการครอบงำ เมื่อมีเสียงร่ำลือว่าในค่ายทหารมี “ตู้เอทีเอ็ม” ซื้อใจผู้นำหน่วยให้จงรักภักดี
ยุค “ขี้ข้าธิปไตย” จึงย้อนยุค! สภาพกาลีครองเมืองทำให้ชาวบ้านด้อยโอกาสดำรงชีพในสภาพอกไหม้ไส้ขม มีชีวิตแต่ละวันสิ้นสภาพลืมตาอ้าปากไม่ได้ จะหวังร่ำรวยคือการพึ่งโชคให้ถูกล็อตเตอรี่ หวยเถื่อน หรือเลือกการปล้น
อาชญากรรมจึงเป็นทางเลือกสุดท้ายของคนด้อยโอกาส ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด แต่ละวันมีแต่ข่าวฉกชิงวิ่งราว ค้ายาเสพติด ปล้นธนาคาร!
กระบวนการตรวจสอบโดยองค์กรอิสระ สถาบันยุติธรรม ถ้าไม่ถูกยื่นข้อเสนอด้วยอามิสสินจ้าง ผลประโยชน์ ก็ถูกข่มขู่คุกคาม ประสงค์ร้ายต่อชีวิต ทำให้การตรวจสอบ ดำเนินคดีเผชิญกับความยากลำบากเพราะอิทธิพลเถื่อน หรือไม่กล้าทำตามหน้าที่ เจ้าหน้าจึงต้องการเอาตัวรอด หรือยอมสยบเพื่อเงิน
“ขี้ข้าธิปไตย” ในระบอบบักเหลี่ยมกำลังผยอง อหังการในอำนาจ ท้าทายสถาบัน ไม่ยอมรับอำนาจศาล มุ่งแปรสภาพคนทั้งแผ่นดินให้อยู่ไต้ตีน ไม่กล้าหือ ตัวแทนหุ่นเชิด ตัวโชว์โง่ ล้างผลาญเงินภาษี สร้างหนี้ให้ทุกครัวเรือน
ประเทศไทยกำลังใกล้สิ้นสภาพเพราะอำนาจ “ขี้ข้าธิปไตย” เช่นนั้นหรือ!
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
สภาพการเมือง เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยีก้าวหน้าไปไกล ยานอวกาศเดินทางไปถึงดาวอังคาร การสื่อสารเข้าสู่ยุคดิจิตัล มีแต่ความคิด จิตใจของคนและมนุษย์เท่านั้นเสื่อมโทรม ละทิ้งจริยธรรม ศีลธรรม เมตตาธรรม คุณความดี
เพราะแรงกระตุ้นของความโลภ คนส่วนหนึ่งมีโอกาสดีกว่าผู้อื่นมุ่งหาพระเจ้าเงินตรา อำนาจ วาสนา กล้าทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ความประสงค์ แม้จะต้องทำสงคราม ฆ่าฟันล้างผลาญคนร่วมแผ่นดินเดียวกัน
ยิ่งในประเทศไทย ดินแดนเคยรุ่งเรืองในความเมตตา กรุณา เอื้อเฟื้อไมตรี ไม่อดอยากยากแค้น ผู้คนไม่ขาดอาหาร ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว แต่นั่นเป็นยุคเก่า ถูกแปรเปลี่ยน ตกต่ำ เสื่อมโทรม ไร้ศีลธรรม เพราะการเมืองชั่วร้าย
การพัฒนาประชาธิปไตยแบบลุ่มๆ ดอนๆ ล้มลุกคลุกคลาน โดยกลุ่มชนชั้นสังคมระดับสูง บีบบังคับ เร่งการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทำให้เป็นสังคมประชาธิปไตยไร้รากฐาน ถูกฉกฉวยเป็นหน้าฉากของกลุ่มผลประโยชน์
ความเสื่อมโทรม ชั่วร้าย กาลีครอบงำบ้านเมือง เป็นขบวนการต้นตออยู่ที่บักเหลี่ยม คนหนีคุก ไฟนรกแห่งความอาฆาตพยาบาทสุมอยู่ในหัวอก ทุกลมหายใจเข้าออกหมกมุ่นครุ่นคิดวางแผนโกง ทำความชั่วร้ายทำลายแผ่นดินเกิด
มีเงินจากการผูกขาดธุรกิจ ติดสินบน ลัดขั้นตอน โกงกินให้ได้มาด้วยเงิน จากนั้นใช้เงินแสวงหาอำนาจ เมื่อได้อำนาจ อิทธิพลเถื่อน แล้วใช้เป็นเครื่องมือปล้นทรัพย์สินแผ่นดินต่อเนื่อง สร้างความมั่งคั่งให้โคตรเหง้าตระกูลกาลีเมือง
กว่า 10 ปี ขบวนการบักเหลี่ยมใช้เงินซ่องสุมบริวาร สมุน บริวาร สร้างเครือข่ายในทุกภาคส่วน ขยายฐานอำนาจเพื่อสร้างระบอบ “ขี้ข้าธิปไตย” โดยในวงจรสังคมบักเหลี่ยมมีเพียงคน 2 ประเภทคือ ขี้ข้าและศัตรู! ไม่มีเพื่อน
นั่นเป็นเพราะบักเหลี่ยมแปรสภาพเพื่อนให้เป็นศัตรู ลดระดับเพื่อนให้เป็นขี้ข้าบริวาร ทาสน้ำเงิน คอยรับใช้ภารกิจชั่วร้าย ใช้เงิน ตำแหน่งงานเป็นอามิสสินจ้าง ลงทุนในลักษณะค้ากำไรเกินควร ลงทุน 10 ส่วน โกง 100 ส่วน
ยุค “ขี้ข้าธิปไตย” เกิดขึ้นในแผ่นดินไทยขณะที่สังคมโลกเน้นธรรมาภิบาล ความโปร่งใส แต่แผนชั่วร้ายเพื่อกุมอำนาจรัฐของบักเหลี่ยมและบริวารคือการใช้ตัวแทน หุ่นเชิด เป็นผู้นำรัฐบาล ลงไปถึงเจ้าหน้าที่ปกครองท้องถิ่น
มีมวลชนรากหญ้าชนบท และรากหญ้าป่าคอนกรีต เป็นทั้งฐานอำนาจ และโล่มนุษย์เมื่อถึงวาระปลุกระดมใช้ชาวบ้านเป็นฐานชิงอำนาจ ปล้นทรัพย์ เหิมเกริม เผาบ้าน เผาเมือง สร้างบรรยากาศแห่งความหวาดกลัวทุกระดับ
คนดีไม่มีที่พึ่ง จึงไม่กล้าโวยวาย คัดค้านต่อต้านแผนชั่วร้าย! จากการใช้รัฐตำรวจกำราบปราบปรามประชาชน มาถึงขั้นปลอมแปลงร่างกฎหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใช้ขี้ข้าโกงด้วยการเสียบบัตรลงคะแนนเสียง ปิดปากฝ่ายค้าน
สังคมตั้งคำถามซ้ำซาก จะโกงทั้งโคตร ชั่วทั้งโคตร ล้างผลาญชาติให้ถึงขั้นล่มจม เป็นเพราะตัวเองไม่มีที่ยืนในแผ่นดินตามคำประกาศ “ถ้ากูอยู่ไม่ได้ อย่าหวังว่าพวกเอ็งจะอยู่ได้อย่างเป็นสุข” เช่นนั้นหรือ จึงไม่คิดทำความดี
“ขี้ข้าธิปไตย” จึงเป็นสภาพสังคมการเมืองยุคใหม่ ข้าราชการยอมสยบ ถ้าไม่อยากโดนย้าย ต้องกล้าทำความชั่วรับใช้ หาเงินตอบสนองความอยากไม่รู้จบ! กระบวนการยุติธรรมทั้งตำรวจ อัยการ และตุลาการบางส่วนมัวหมอง
บักเหลี่ยมประกาศ “ใครยอมสยบต่อข้าก็อยู่ ใครขวางข้าถ้าไม่ตาย ก็ไม่รุ่ง” ดังนั้นจึงเห็นตำรวจและข้าราชการหลายหน่วยงานแห่กันไปต่างประเทศ กราบไหว้อ้อนวอนขอตำแหน่ง เพื่อให้ได้เงิน อย่างไร้ศักดิ์ศรี สิ้นหิริโอตตัปปะ
ผู้นำองค์กรตำรวจอยู่แบบไร้ความน่าเชื่อถือ ถูกตำรวจต่ำยศ ต่ำระดับคุกคามด้วยความอหังการเพื่อถือตัวว่าเป็นขี้ข้าเชื่องชั้นยอดของบักเหลี่ยม! อัยการระดับหัวหน้ากลายเป็นขี้ข้า รับคำสั่งทั้งฟ้อง ไม่ฟ้อง ไม่อุทธรณ์ ฯลฯ
เป็นสภาวะแห่งความอัปยศในแผ่นดิน! แม้แต่ในองค์กรขนาดใหญ่ เคยมีศักดิ์ศรี เกียรติภูมิอย่างกองทัพก็ไม่อยู่นอกเหนืออิทธิพลแห่งการครอบงำ เมื่อมีเสียงร่ำลือว่าในค่ายทหารมี “ตู้เอทีเอ็ม” ซื้อใจผู้นำหน่วยให้จงรักภักดี
ยุค “ขี้ข้าธิปไตย” จึงย้อนยุค! สภาพกาลีครองเมืองทำให้ชาวบ้านด้อยโอกาสดำรงชีพในสภาพอกไหม้ไส้ขม มีชีวิตแต่ละวันสิ้นสภาพลืมตาอ้าปากไม่ได้ จะหวังร่ำรวยคือการพึ่งโชคให้ถูกล็อตเตอรี่ หวยเถื่อน หรือเลือกการปล้น
อาชญากรรมจึงเป็นทางเลือกสุดท้ายของคนด้อยโอกาส ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด แต่ละวันมีแต่ข่าวฉกชิงวิ่งราว ค้ายาเสพติด ปล้นธนาคาร!
กระบวนการตรวจสอบโดยองค์กรอิสระ สถาบันยุติธรรม ถ้าไม่ถูกยื่นข้อเสนอด้วยอามิสสินจ้าง ผลประโยชน์ ก็ถูกข่มขู่คุกคาม ประสงค์ร้ายต่อชีวิต ทำให้การตรวจสอบ ดำเนินคดีเผชิญกับความยากลำบากเพราะอิทธิพลเถื่อน หรือไม่กล้าทำตามหน้าที่ เจ้าหน้าจึงต้องการเอาตัวรอด หรือยอมสยบเพื่อเงิน
“ขี้ข้าธิปไตย” ในระบอบบักเหลี่ยมกำลังผยอง อหังการในอำนาจ ท้าทายสถาบัน ไม่ยอมรับอำนาจศาล มุ่งแปรสภาพคนทั้งแผ่นดินให้อยู่ไต้ตีน ไม่กล้าหือ ตัวแทนหุ่นเชิด ตัวโชว์โง่ ล้างผลาญเงินภาษี สร้างหนี้ให้ทุกครัวเรือน
ประเทศไทยกำลังใกล้สิ้นสภาพเพราะอำนาจ “ขี้ข้าธิปไตย” เช่นนั้นหรือ!
