เงิน-กับ-ความไม่รู้จักพอ เป็น 2 สิ่งที่โหดร้ายมาก ผู้ตกเป็น “ทาส” ล้มตายมามากมายแล้ว!
เงินกับความไม่รู้จักพอ-ไม่เข้าใครออกใคร อภิมหาเศรษฐี “เหลี่ยม” รวยแล้ว..ยังอยากรวยอีก!!
เงิน..จะมีเพิ่มชนิดไม่สิ้นสุด ถ้าเหลี่ยมยังใช้เงินซื้อและรักษาอำนาจรัฐไว้ได้ เพื่อโกงชาติแบบ “ถูกกฎหมาย” ทั้งงบประมาณแผ่นดินและเงินกู้อีกมหาศาล
เมื่อเหลี่ยมมีเงิน-อำนาจรัฐ-ยศถาบรรดาศักดิ์ ไว้จ่ายแจกให้ “หุ่นเชิด” และ “ขี้ข้า” อภิมหาเศรษฐีหนีคุกเหลี่ยม ก็กลายเป็นนายกฯ ตัวจริงของชาติไทยทันที
ดังนั้น..ความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นกับชาติ และประชาชนคนไทยทุกเรื่อง ล้วนมีเหลี่ยมบงการอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังทั้งสิ้น
เหลี่ยมใช้เงินซื้อ “ผี-โม่แป้ง” ได้ทุกวงการ ส่วนจะซื้อ กกต.ใหญ่ 5 คนหรือไม่-ไม่รู้ ทว่าเหลี่ยมกับพวกที่ลงสมัครผู้แทน ได้ทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งสารพัด แต่กลับลอยนวลไม่โดนลงโทษตามกฎหมาย!
“เหลี่ยมคิด-ปูทำ” นั้น-ชัดแจ้ง เป็นคำขวัญโฆษณาหาเสียงของ “พรรคเพื่อใคร” ที่สำคัญมีการหาเสียงต้มตุ๋นคนไทยทั้งชาติ โดยเฉพาะนายกฯ “ปูกลวง” ถึงกับ “แตหลอ” ว่า
“หากได้เป็นรัฐบาล..เดี๊ยนจะยุบกองทุนน้ำมัน จะลดราคาน้ำมันเบนซินและดีเซล จะกระชากราคาสินค้าแพงลงทันที..”
หลังเลือกตั้ง..สภาฯ เสียงข้างมากของเหลี่ยม ก็มอบน้องสาวโง่ๆ ให้เป็นนายกฯชาติไทย เพื่อเริ่มมหกรรมเหลี่ยม “เชิดหุ่น” และ “ชี้นิ้วบงการ” รัฐบาลและสภาฯ ให้โกงชาติ ตั้งแต่ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ-แบบบูรณาการ!
“เหลี่ยม-ปูกลวง” บริหารชาติ ด้วยระบอบเผด็จการรัฐสภา โดยใช้ขี้ข้านักวิชาการกับสื่อมวลชนชั่ว โหมโฆษณาชื่นชมว่า ระบอบ “ประชาธิปไตย (พวกมึงโกง) กินได้” นั้น-“ดี!”
โดย กกต.ใหญ่บางคน ยังเพลินกับคำพังเพยและสุภาษิตไทยที่ว่า “กิ้งก่าได้ทอง” แล้ว “ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน” ด้วยการ “เอาหูไปนา เอาตาไปไร่” แบบ “นอนหลับไม่รู้ นอนคู้ไม่เห็น” ตามสไตล์ “เอาตัวรอดเป็นยอดดี” เพราะยึดหลัก “ทำดีไม่ได้ดีมีให้เห็น ทำชั่วได้ดีมีถมไป” งานนี้..สส.ชั่วจึงลอยนวลอยู่เต็มสภาฯ!
เหลี่ยมนั้น-เก่งในการ “แปรวิกฤตผิดพลาดของตน ให้เป็นโอกาสโกงเงินชาติ”
รัฐบาล “เหลี่ยม-ปูกลวง” บริหารจัดการน้ำผิดพลาด จนเกิดมหาอุทกภัยร้ายแรง ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม 2554 จนถึง 16 มกราคม 2555
พื้นดินกว่า 150 ล้านไร่ ทั้งภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมใน 65 จังหวัด 684 อำเภอ จมอยู่ใต้บาดาล คนไทยต้องลำบากอย่างแสนสาหัสถึง 4,086,138 ครัวเรือน 13,595,192 คน ผู้คนตายจากฝีมือห่วยแตกของรัฐบาล “เหลี่ยม-ปูกลวง” ถึง 813 คน
ประชาชนทั้ง 813 คน ที่ตายโดยไม่มีความผิด และโดยรัฐบาล “เหลี่ยม-ปูกลวง”กระทำ ไม่ได้รับการเหลียวแลจากทางการ ไม่ได้รับเงินชดเชย 7.5 ล้านบาท ดังคนเผาบ้านเผาเมือง และคนฆ่าทหารกับประชาชนได้รับ จากผลงานโค่นล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ให้เหลี่ยมได้กลับมาครองอำนาจอีกครั้งในวันนี้
ธนาคารโลกได้ประเมินความเสียหาย มหาอุทกภัยจากน้ำมือ “เหลี่ยม-ปูกลวง” ในครั้งนั้นสูงถึง 1.44 ล้านล้านบาท ซึ่งจัดเป็นภัยพิบัติสร้างความเสียหายมากเป็นอันดับ 4 ของโลก!
บนความตายและชาติวิบัติที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบ รัฐบาล “เหลี่ยม-ปูกลวง” ยังฉวยโอกาสออก พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท นอกเงินงบประมาณแผ่นดิน ด้วยข้ออ้างจะแก้ปัญหาน้ำท่วมในอนาคต ด้วยแผนงานคร่าวๆ ในการผลาญเงินเท่านั้น
แถมเหลี่ยมยังแอบไป “จ๊ะเอ๋” กับบริษัท “เค-วอเตอร์” ของเกาหลี ก่อนที่ “ปูกลวง” จะบินปร๋อตามหลังเหลี่ยมไปพบกับผู้นำและนักธุรกิจของเกาหลี จนคนในวงการก่อสร้างฟันธงล่วงหน้าว่า งานนี้ “เค-วอเตอร์” จากเมืองกิมจิ คงได้งาบงานก่อสร้างชิ้นโตอย่างแน่นอน
“แม่นเหมือนตาเห็นล่วงหน้า” เพราะ “เค-วอเตอร์” ได้งาน 1.53 แสนล้านบาทไปสวาปามตามคาด!
นักการเมืองชอบงานก่อสร้าง เพราะได้เงินค่าคอมมิชชันสูงและเร็ว ที่สำคัญยังบวกราคาเพิ่มได้สะดวกดาย ดังนั้นเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท และ 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาลนี้ จึงถูกผลาญและโกงด้วยโครงการก่อสร้างสารพัด
แค่สร้างเขื่อนอย่างเดียวก็ 28 แห่งแล้ว โดยรัฐบาลไม่ได้แยแสกับการที่ชาติต้องสูญเสียทั้งสัตว์ป่านานาชนิด ป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ ระบบนิเวศน์อันล้ำค่า รวมทั้งธรรมชาติอันงดงามที่ประเมินค่ามิได้ ฯลฯ
ใครบางคนบอกว่า รัฐบาลนี้ไม่เอาทั้งชาติและประชาชน เพราะมันเอาแต่เงินว่ะ..!
การเร่งผลาญเงิน 3.5 แสนล้านบาท เพื่อทำโครงการด้วยข้ออ้างป้องกันน้ำท่วม ทั้งๆ ที่ยังไม่เคยทำหรือยังไม่ผ่าน การศึกษาผลกระทบในทุกมิติ ทั้งเขื่อนแม่วงก์-เขื่อนแก่งเสือเต้น-เขื่อนอีกสารพัดนั้น
เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องโปร่งใส และผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ จึงถูกผู้คนคัดค้านต่อต้านกันอย่างกว้างขวาง ดังจะเห็นได้จากกรณีนายศศิน เฉลิมลาภ เดินเท้าฉายเดี่ยวจากนครสวรรค์-สู่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่10 กันยายน 2556 ด้วยระยะทางไกลถึง 388 กิโลเมตร ยาวนานถึง 13 วัน
22 กันยายน 2556 ณ ปลายทางหอศิลป์กทม. “ศศิน” ได้พบ “คนหัวใจเดียวกัน” กว่า 10,000 คน ที่มาชุมนุมร่วมตะโกนเสียงกึกก้องว่า “พวกเราไม่เอาเขื่อนแม่วงก์”
โดยอีกหลายคนยังบอกไปถึงรัฐบาลนี้ว่า “พวกกูไม่เอาเขื่อนแม่มึงด้วยนะเฟ้ย..!!!”
เงินกับความไม่รู้จักพอ-ไม่เข้าใครออกใคร อภิมหาเศรษฐี “เหลี่ยม” รวยแล้ว..ยังอยากรวยอีก!!
เงิน..จะมีเพิ่มชนิดไม่สิ้นสุด ถ้าเหลี่ยมยังใช้เงินซื้อและรักษาอำนาจรัฐไว้ได้ เพื่อโกงชาติแบบ “ถูกกฎหมาย” ทั้งงบประมาณแผ่นดินและเงินกู้อีกมหาศาล
เมื่อเหลี่ยมมีเงิน-อำนาจรัฐ-ยศถาบรรดาศักดิ์ ไว้จ่ายแจกให้ “หุ่นเชิด” และ “ขี้ข้า” อภิมหาเศรษฐีหนีคุกเหลี่ยม ก็กลายเป็นนายกฯ ตัวจริงของชาติไทยทันที
ดังนั้น..ความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นกับชาติ และประชาชนคนไทยทุกเรื่อง ล้วนมีเหลี่ยมบงการอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังทั้งสิ้น
เหลี่ยมใช้เงินซื้อ “ผี-โม่แป้ง” ได้ทุกวงการ ส่วนจะซื้อ กกต.ใหญ่ 5 คนหรือไม่-ไม่รู้ ทว่าเหลี่ยมกับพวกที่ลงสมัครผู้แทน ได้ทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งสารพัด แต่กลับลอยนวลไม่โดนลงโทษตามกฎหมาย!
“เหลี่ยมคิด-ปูทำ” นั้น-ชัดแจ้ง เป็นคำขวัญโฆษณาหาเสียงของ “พรรคเพื่อใคร” ที่สำคัญมีการหาเสียงต้มตุ๋นคนไทยทั้งชาติ โดยเฉพาะนายกฯ “ปูกลวง” ถึงกับ “แตหลอ” ว่า
“หากได้เป็นรัฐบาล..เดี๊ยนจะยุบกองทุนน้ำมัน จะลดราคาน้ำมันเบนซินและดีเซล จะกระชากราคาสินค้าแพงลงทันที..”
หลังเลือกตั้ง..สภาฯ เสียงข้างมากของเหลี่ยม ก็มอบน้องสาวโง่ๆ ให้เป็นนายกฯชาติไทย เพื่อเริ่มมหกรรมเหลี่ยม “เชิดหุ่น” และ “ชี้นิ้วบงการ” รัฐบาลและสภาฯ ให้โกงชาติ ตั้งแต่ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ-แบบบูรณาการ!
“เหลี่ยม-ปูกลวง” บริหารชาติ ด้วยระบอบเผด็จการรัฐสภา โดยใช้ขี้ข้านักวิชาการกับสื่อมวลชนชั่ว โหมโฆษณาชื่นชมว่า ระบอบ “ประชาธิปไตย (พวกมึงโกง) กินได้” นั้น-“ดี!”
โดย กกต.ใหญ่บางคน ยังเพลินกับคำพังเพยและสุภาษิตไทยที่ว่า “กิ้งก่าได้ทอง” แล้ว “ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน” ด้วยการ “เอาหูไปนา เอาตาไปไร่” แบบ “นอนหลับไม่รู้ นอนคู้ไม่เห็น” ตามสไตล์ “เอาตัวรอดเป็นยอดดี” เพราะยึดหลัก “ทำดีไม่ได้ดีมีให้เห็น ทำชั่วได้ดีมีถมไป” งานนี้..สส.ชั่วจึงลอยนวลอยู่เต็มสภาฯ!
เหลี่ยมนั้น-เก่งในการ “แปรวิกฤตผิดพลาดของตน ให้เป็นโอกาสโกงเงินชาติ”
รัฐบาล “เหลี่ยม-ปูกลวง” บริหารจัดการน้ำผิดพลาด จนเกิดมหาอุทกภัยร้ายแรง ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม 2554 จนถึง 16 มกราคม 2555
พื้นดินกว่า 150 ล้านไร่ ทั้งภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมใน 65 จังหวัด 684 อำเภอ จมอยู่ใต้บาดาล คนไทยต้องลำบากอย่างแสนสาหัสถึง 4,086,138 ครัวเรือน 13,595,192 คน ผู้คนตายจากฝีมือห่วยแตกของรัฐบาล “เหลี่ยม-ปูกลวง” ถึง 813 คน
ประชาชนทั้ง 813 คน ที่ตายโดยไม่มีความผิด และโดยรัฐบาล “เหลี่ยม-ปูกลวง”กระทำ ไม่ได้รับการเหลียวแลจากทางการ ไม่ได้รับเงินชดเชย 7.5 ล้านบาท ดังคนเผาบ้านเผาเมือง และคนฆ่าทหารกับประชาชนได้รับ จากผลงานโค่นล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ให้เหลี่ยมได้กลับมาครองอำนาจอีกครั้งในวันนี้
ธนาคารโลกได้ประเมินความเสียหาย มหาอุทกภัยจากน้ำมือ “เหลี่ยม-ปูกลวง” ในครั้งนั้นสูงถึง 1.44 ล้านล้านบาท ซึ่งจัดเป็นภัยพิบัติสร้างความเสียหายมากเป็นอันดับ 4 ของโลก!
บนความตายและชาติวิบัติที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบ รัฐบาล “เหลี่ยม-ปูกลวง” ยังฉวยโอกาสออก พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท นอกเงินงบประมาณแผ่นดิน ด้วยข้ออ้างจะแก้ปัญหาน้ำท่วมในอนาคต ด้วยแผนงานคร่าวๆ ในการผลาญเงินเท่านั้น
แถมเหลี่ยมยังแอบไป “จ๊ะเอ๋” กับบริษัท “เค-วอเตอร์” ของเกาหลี ก่อนที่ “ปูกลวง” จะบินปร๋อตามหลังเหลี่ยมไปพบกับผู้นำและนักธุรกิจของเกาหลี จนคนในวงการก่อสร้างฟันธงล่วงหน้าว่า งานนี้ “เค-วอเตอร์” จากเมืองกิมจิ คงได้งาบงานก่อสร้างชิ้นโตอย่างแน่นอน
“แม่นเหมือนตาเห็นล่วงหน้า” เพราะ “เค-วอเตอร์” ได้งาน 1.53 แสนล้านบาทไปสวาปามตามคาด!
นักการเมืองชอบงานก่อสร้าง เพราะได้เงินค่าคอมมิชชันสูงและเร็ว ที่สำคัญยังบวกราคาเพิ่มได้สะดวกดาย ดังนั้นเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท และ 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาลนี้ จึงถูกผลาญและโกงด้วยโครงการก่อสร้างสารพัด
แค่สร้างเขื่อนอย่างเดียวก็ 28 แห่งแล้ว โดยรัฐบาลไม่ได้แยแสกับการที่ชาติต้องสูญเสียทั้งสัตว์ป่านานาชนิด ป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ ระบบนิเวศน์อันล้ำค่า รวมทั้งธรรมชาติอันงดงามที่ประเมินค่ามิได้ ฯลฯ
ใครบางคนบอกว่า รัฐบาลนี้ไม่เอาทั้งชาติและประชาชน เพราะมันเอาแต่เงินว่ะ..!
การเร่งผลาญเงิน 3.5 แสนล้านบาท เพื่อทำโครงการด้วยข้ออ้างป้องกันน้ำท่วม ทั้งๆ ที่ยังไม่เคยทำหรือยังไม่ผ่าน การศึกษาผลกระทบในทุกมิติ ทั้งเขื่อนแม่วงก์-เขื่อนแก่งเสือเต้น-เขื่อนอีกสารพัดนั้น
เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องโปร่งใส และผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ จึงถูกผู้คนคัดค้านต่อต้านกันอย่างกว้างขวาง ดังจะเห็นได้จากกรณีนายศศิน เฉลิมลาภ เดินเท้าฉายเดี่ยวจากนครสวรรค์-สู่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่10 กันยายน 2556 ด้วยระยะทางไกลถึง 388 กิโลเมตร ยาวนานถึง 13 วัน
22 กันยายน 2556 ณ ปลายทางหอศิลป์กทม. “ศศิน” ได้พบ “คนหัวใจเดียวกัน” กว่า 10,000 คน ที่มาชุมนุมร่วมตะโกนเสียงกึกก้องว่า “พวกเราไม่เอาเขื่อนแม่วงก์”
โดยอีกหลายคนยังบอกไปถึงรัฐบาลนี้ว่า “พวกกูไม่เอาเขื่อนแม่มึงด้วยนะเฟ้ย..!!!”