ASTVผู้จัดการรายวัน-อคส.พร้อมรับจำนำข้าว 1 ต.ค.นี้ ไม่มีชะลอ แม้หลายพื้นที่เจอน้ำท่วม ส่วนการเก็บข้าวให้เน้นเก็บโกดังพื้นที่สูงก่อน พร้อมตั้งสำนักงาน อคส. ในทุกจังหวัดที่มีการจำนำ ช่วยดูแลโครงการ เล็งตรวจสอบหนังสือค้ำประกันคู่สัญญา อคส. ทั้งโรงสี โกดัง คลังกลาง และเซอร์เวย์ หวั่นเกิดทุจริตซ้ำ “นิวัฒน์ธำรง” ยันเกษตรกรจำนำได้เงินแน่ โต้ไม่ขาดทุนสูงถึง 4 แสนล้าน คาดถึงสิ้นปีส่งเงินคืนได้ 2 แสนล้าน
นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2556/57 ที่จะเริ่มวันที่ 1 ต.ค.2556 ว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ อคส. เตรียมความพร้อมในการรับจำนำข้าว ทั้งการตรวจความพร้อมของโรงสี และโกดังกลางเก็บข้าว โดยจะไม่มีการชะลอการรับจำนำออกไป แม้ว่าหลายๆ พื้นที่เริ่มมีปัญหาน้ำท่วม โดยให้ดูแลเป็นพิเศษที่พื้นที่ภาคอีกสาน และพื้นที่ๆ ข้าวเริ่มออกสู่ตลาด เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำข้าวไปจำนำได้ รวมทั้งให้ตั้งสำนักงาน อคส. ในทุกจังหวัดที่มีการจำนำข้าว เพื่อช่วยในการดูแลและแก้ปัญหาโครงการรับจำนำ
ส่วนการดูแลโกดังกลางที่เก็บข้าวสาร เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม อคส.จะใช้มาตรการเดียวกันกับปี 2554 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ โดยได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาประเมินสถานการณ์แล้ว โดยพื้นที่ไหนปลอดภัย อยู่ในที่สูง ก็จะสั่งสีแปรแล้วส่งเข้าไปเก็บในโกดังนั้นก่อน เพื่อป้องกันข้าวรัฐเสียหาย ส่วนโกดังเก็บข้าวที่มีการเก็บข้าวอยู่ในปัจจุบัน และมีโอกาสเสี่ยงถูกน้ำท่วม
ก็ให้หาทางป้องกัน โดยจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีโกดัง หรือคลังใดถูกน้ำท่วม แต่ยอมรับว่า พื้นที่อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และอ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เป็นพื้นที่เสี่ยง
สำหรับโรงสีที่มีความพร้อมในการรับจำนำข้าวได้ทันทีมีประมาณ 400 แห่งทั่วประเทศ น้อยกว่าปีก่อนที่มีประมาณ 590 แห่ง ซึ่งโรงสีที่ยังค้างส่งมอบข้าวเข้าโกดังกลาง จะยังเข้าร่วมโครงการไม่ได้ โดยมีประมาณ 100 แห่ง ปริมาณข้าวกว่า 4 แสนตัน แต่คาดว่าภายใน 1 สัปดาห์น่าจะส่งมอบได้ครบ ซึ่งจะเน้นให้ส่งมอบเข้าโกดังกลางที่ประเมินแล้วว่าไม่มีปัญหาน้ำท่วม โดยยืนยันว่าโกดังกลางที่ใช้เก็บข้าวจะมีเพียงพอ ล่าสุดมีเข้าร่วมโครงการแล้ว 370 ราย รวม 874 แห่ง ใน 48 จังหวัด และยังเปิดรับเพิ่ม รวมทั้งมีแผนผลักดันให้เอกชนสร้างไซโลเก็บข้าวเพิ่มขึ้น และอคส.เองก็มีแผนที่จะสร้างไซโลเองด้วย
ในด้านการประกันภัย อคส. ได้ทำประกันภัยกับ 8 บริษัท ที่เสนอตัวเข้ามาทำประกันภัยโกดังและคลังสินค้า โดยครอบคลุมอัคคีภัย น้ำท่วม และพายุ
นายชนุตร์ปกรณ์กล่าวว่า ได้มีการตรวจสอบพบบริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าว (บริษัทเซอร์เวย์) ที่เข้ามารับงานตรวจสอบคุณภาพข้าวในโครงการรับจำนำ มีการปลอมแปลงหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงไทยรวม 9 ฉบับ วงเงิน 10 ล้านบาท ซึ่งทางกรุงไทยได้ยืนยันมาแล้วว่าไม่ได้ออกหนังสือค้ำประกันให้ จึงได้ประสานไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไป) ให้รับคดีดังกล่าวไปทำต่อแล้ว และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อคส. ตรวจหนังสือค้ำประกันทุกฉบับที่เอกชนเข้าร่วมงานกับอคส. ทั้งโรงสี โกดัง คลังสินค้า และบริษัทเซอร์เวย์ หากพบจะดำเนินการตามกฎหมาย หรือหากมีเจ้าหน้าที่ อคส. ไปเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดเช่นกัน
ทั้งนี้ อคส. จะเชิญธนาคารพาณิชย์ มาหารือถึงแนวทางการทำงาน หรือการส่งข้อมูลเกี่ยวกับการทำหนังสือค้ำประกันของคู่ค้ามาให้ อคส. เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นด้วย
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ยืนยันที่จะเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวต่อไป และจะไม่มีปัญหาเรื่องเงินที่จะจ่ายให้กับเกษตรกร เพราะเป็นหน้าที่ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่จะต้องดูแลเรื่องนี้ ส่วนกระทรวงพาณิชย์ก็จะเร่งขายข้าวเพื่อส่งเงินคืนอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันได้คืนไปแล้ว 1.6 แสนล้าน และจนถึงสิ้นปีน่าจะคืนได้รวม 2 แสนล้านบาท และล่าสุดมีข้าวในสต๊อกเหลือประมาณ 15 ล้านตันตัน เป็นข้าวที่จะขายได้ประมาณ 10 ล้านตัน มีภาระผูกพันแล้ว 5 ล้านตัน ส่วนการขายข้าวให้จีน 1.2 ล้านตัน จะมีการเซ็นสัญญาภายใน 2 สัปดาห์นับจากนี้
ส่วนกรณีที่น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ออกมาระบุว่ารัฐบาลขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวมากถึง 4 แสนล้านบาทนั้น ยืนยันว่า ไม่ได้ขาดทุนมากขนาดนั้น เพราะ 2 ปี ใช้เงินจำนำประมาณ 6.7 แสนล้านบาท แต่เป็นไปไม่ได้ที่ข้าวที่มีอยู่จะขายข้าวได้เพียง 2 แสนล้านบาท ต้องขายได้มากกว่าแน่นอน ส่วนจะขาดทุนเท่าไร ยังสรุปไม่ได้ เพราะข้าวยังขายไม่หมด จึงยังปิดโครงการรับจำนำไม่ได้ แต่เชื่อว่ายอดขาดทุนน่าจะอยู่ในกรอบไม่เกิน 8 หมื่นถึง 1 แสนล้านบาท/ปี
นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2556/57 ที่จะเริ่มวันที่ 1 ต.ค.2556 ว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ อคส. เตรียมความพร้อมในการรับจำนำข้าว ทั้งการตรวจความพร้อมของโรงสี และโกดังกลางเก็บข้าว โดยจะไม่มีการชะลอการรับจำนำออกไป แม้ว่าหลายๆ พื้นที่เริ่มมีปัญหาน้ำท่วม โดยให้ดูแลเป็นพิเศษที่พื้นที่ภาคอีกสาน และพื้นที่ๆ ข้าวเริ่มออกสู่ตลาด เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำข้าวไปจำนำได้ รวมทั้งให้ตั้งสำนักงาน อคส. ในทุกจังหวัดที่มีการจำนำข้าว เพื่อช่วยในการดูแลและแก้ปัญหาโครงการรับจำนำ
ส่วนการดูแลโกดังกลางที่เก็บข้าวสาร เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม อคส.จะใช้มาตรการเดียวกันกับปี 2554 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ โดยได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาประเมินสถานการณ์แล้ว โดยพื้นที่ไหนปลอดภัย อยู่ในที่สูง ก็จะสั่งสีแปรแล้วส่งเข้าไปเก็บในโกดังนั้นก่อน เพื่อป้องกันข้าวรัฐเสียหาย ส่วนโกดังเก็บข้าวที่มีการเก็บข้าวอยู่ในปัจจุบัน และมีโอกาสเสี่ยงถูกน้ำท่วม
ก็ให้หาทางป้องกัน โดยจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีโกดัง หรือคลังใดถูกน้ำท่วม แต่ยอมรับว่า พื้นที่อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และอ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เป็นพื้นที่เสี่ยง
สำหรับโรงสีที่มีความพร้อมในการรับจำนำข้าวได้ทันทีมีประมาณ 400 แห่งทั่วประเทศ น้อยกว่าปีก่อนที่มีประมาณ 590 แห่ง ซึ่งโรงสีที่ยังค้างส่งมอบข้าวเข้าโกดังกลาง จะยังเข้าร่วมโครงการไม่ได้ โดยมีประมาณ 100 แห่ง ปริมาณข้าวกว่า 4 แสนตัน แต่คาดว่าภายใน 1 สัปดาห์น่าจะส่งมอบได้ครบ ซึ่งจะเน้นให้ส่งมอบเข้าโกดังกลางที่ประเมินแล้วว่าไม่มีปัญหาน้ำท่วม โดยยืนยันว่าโกดังกลางที่ใช้เก็บข้าวจะมีเพียงพอ ล่าสุดมีเข้าร่วมโครงการแล้ว 370 ราย รวม 874 แห่ง ใน 48 จังหวัด และยังเปิดรับเพิ่ม รวมทั้งมีแผนผลักดันให้เอกชนสร้างไซโลเก็บข้าวเพิ่มขึ้น และอคส.เองก็มีแผนที่จะสร้างไซโลเองด้วย
ในด้านการประกันภัย อคส. ได้ทำประกันภัยกับ 8 บริษัท ที่เสนอตัวเข้ามาทำประกันภัยโกดังและคลังสินค้า โดยครอบคลุมอัคคีภัย น้ำท่วม และพายุ
นายชนุตร์ปกรณ์กล่าวว่า ได้มีการตรวจสอบพบบริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าว (บริษัทเซอร์เวย์) ที่เข้ามารับงานตรวจสอบคุณภาพข้าวในโครงการรับจำนำ มีการปลอมแปลงหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงไทยรวม 9 ฉบับ วงเงิน 10 ล้านบาท ซึ่งทางกรุงไทยได้ยืนยันมาแล้วว่าไม่ได้ออกหนังสือค้ำประกันให้ จึงได้ประสานไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไป) ให้รับคดีดังกล่าวไปทำต่อแล้ว และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อคส. ตรวจหนังสือค้ำประกันทุกฉบับที่เอกชนเข้าร่วมงานกับอคส. ทั้งโรงสี โกดัง คลังสินค้า และบริษัทเซอร์เวย์ หากพบจะดำเนินการตามกฎหมาย หรือหากมีเจ้าหน้าที่ อคส. ไปเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดเช่นกัน
ทั้งนี้ อคส. จะเชิญธนาคารพาณิชย์ มาหารือถึงแนวทางการทำงาน หรือการส่งข้อมูลเกี่ยวกับการทำหนังสือค้ำประกันของคู่ค้ามาให้ อคส. เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นด้วย
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ยืนยันที่จะเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวต่อไป และจะไม่มีปัญหาเรื่องเงินที่จะจ่ายให้กับเกษตรกร เพราะเป็นหน้าที่ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่จะต้องดูแลเรื่องนี้ ส่วนกระทรวงพาณิชย์ก็จะเร่งขายข้าวเพื่อส่งเงินคืนอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันได้คืนไปแล้ว 1.6 แสนล้าน และจนถึงสิ้นปีน่าจะคืนได้รวม 2 แสนล้านบาท และล่าสุดมีข้าวในสต๊อกเหลือประมาณ 15 ล้านตันตัน เป็นข้าวที่จะขายได้ประมาณ 10 ล้านตัน มีภาระผูกพันแล้ว 5 ล้านตัน ส่วนการขายข้าวให้จีน 1.2 ล้านตัน จะมีการเซ็นสัญญาภายใน 2 สัปดาห์นับจากนี้
ส่วนกรณีที่น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ออกมาระบุว่ารัฐบาลขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวมากถึง 4 แสนล้านบาทนั้น ยืนยันว่า ไม่ได้ขาดทุนมากขนาดนั้น เพราะ 2 ปี ใช้เงินจำนำประมาณ 6.7 แสนล้านบาท แต่เป็นไปไม่ได้ที่ข้าวที่มีอยู่จะขายข้าวได้เพียง 2 แสนล้านบาท ต้องขายได้มากกว่าแน่นอน ส่วนจะขาดทุนเท่าไร ยังสรุปไม่ได้ เพราะข้าวยังขายไม่หมด จึงยังปิดโครงการรับจำนำไม่ได้ แต่เชื่อว่ายอดขาดทุนน่าจะอยู่ในกรอบไม่เกิน 8 หมื่นถึง 1 แสนล้านบาท/ปี