xs
xsm
sm
md
lg

ผวาพายุหวู่ติ๊บ เขื่อนป่าสักเร่งระบายน้ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เร่งระบายน้ำรับมือพายุ" หวู่ติ๊บ" เตือนร้านค้า-ชาวบ้านริมแม่น้ำป่าสักสระบุรี-อยุธยา ขนของขึ้นที่สูงด่วน ชาวนาสุโขทัยขู่ยกพลปิดสนามบิน เหตุทำคันล้อมรอบจนท่วมนาข้าวกว่า 6 พันไร่ใกล้เน่า กทม.รับไร้แผนแก้ฝั่งตะวันออก แถมเจอน้ำทะเลหนุนอีก

เมื่อเวลา 11.30 น. วานนี้ (29 ก.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางด้วยรถจีเอ็มซีของกองทัพบก มายังประตูระบายน้ำกระพ้อใหญ่ (ท่าแห ) ต.วังดาร อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พร้อมมอบสิ่งของ ยังที่ว่าการอำเภอกบินทร์บุรี โดยกล่าวว่า ปีนี้มีปริมาณน้ำมากกว่าทุกปี รัฐบาลก็พยายามแก้ปัญหาและช่วยเหลือประชาชน การลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดี ที่รัฐมนตรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนายบรรหารได้มาเห็นสภาพปัญหา เพื่อนำไปเร่งรัดช่วยเหลือทั้งระยะสั้น และระยะยาว ส่วนการแก้ปัญหาจ.ปราจีนบุรี แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ กรมชลประทาน นำเครื่องสูบน้ำมาระบายน้ำลงสู่แม่น้ำบางปะกง และในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้กองทัพเข้าขนย้ายสิ่งของและลำเลียงประชาชนออกนอกพื้นที่ พร้อมให้จังหวัดเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติโดยเร็ว

น.ส.จิตรา พรหมชุติมา ผู้ว่าราชการจังหวัด รายงานว่า จ.ปราจีนบุรี มีแม่น้ำปราจีนบุรีไหลผ่านอ.กบินทร์บุรี อ.ศรีมหาโพธิ อ.เมือง และอ.บ้านสร้าง พื้นที่ตอนบนมีศักยภาพสร้างอ่างเก็บน้ำ แต่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จึงไม่มีเครื่องมือบริหารจัดการน้ำ เมื่อฝนตกทำให้เกิดอุทกภัยทุกปี นอกจากนี้ฝนที่ตกในลำน้ำสาขาที่ไหลมาจากจ.สระแก้ว มาบรรจบที่แควหนุมาน ซึ่งไหลมาจากเขาใหญ่ ที่อ.กบินทร์บุรี ประกอบกับเมื่อวันที่ 19 กันยายน มีฝนตกเกิน 100 มิลลิเมตร ทั้งในจ.ปราจีนบุรี และจ.สระแก้ว ส่งผลให้ท่วมชุมชนตลาดเก่าตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน จนถึงวันที่ 27 กันยายน ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 3.31 เมตร สูงที่สุดเท่าที่มีการจัดเก็บสถิติตั้งแต่ปี 2484 พื้นที่ประสบอุทกภัย 7 อำเภอ 45 ตำบล 363 หมู่บ้าน 3 เทศบาลตำบล 21 ชุมชน ราษฎร 11,765 ครัวเรือน

สำหรับอุปสรรค คือ เรือไม่เพียงพอในการช่วยเหลือ ความขัดแย้งระหว่างชุมชนเมืองและชุมชนเกษตรกรรม ด้านการระบายน้ำ ซึ่งต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือระบบป้องกันและบรรเทาอุทกภัยหรือฟลัดเวย์ จากอ.ศรีมหาโพธิ ไปลงคลองคูมอญ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ระยะทาง 54.5 กิโลเมตร สร้างอ่างเก็บน้ำใสน้อย ใสใหญ่ และอ่างเก็บน้ำคลองหนองแก้ว อ.ประจันตคาม
ที่ จ.บุรีรัมย์ น้ำชีที่เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน วัด ถนน และนาข้าวในอ.สตึก โดยบ้านดอนแก้ว หมู่ 9 ต.ทุ่งวัง สูงกว่า 1 เมตร ถนนทางเข้า-ออกหมู่บ้านใช้การไม่ได้ บ้านเรือนถูกน้ำท่วม 30 หลัง นาข้าวจมน้ำหลายพันไร่ หากน้ำไม่ลดภายใน 1- 2 สัปดาห์ ข้าวจะเน่าตายทั้งหมด ขณะเดียวกันน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง จ.สุรินทร์ ล้นสปิลเวย์ รวมทั้งน้ำชีหนุนสูง ไหลเข้าท่วมบ้านบ้านสวายสอ และบ้านสวรรค์น้อย ต.ชุมแสง อ.กระสัง เป็นครั้งที่ 2 ระดับน้ำสูงกว่า 30 เซนติเมตร นาข้าวต.ชุมแสง กำลังตั้งท้องเกือบ 10,000 ไร่ คาดว่าจะเสียหายทั้งหมด โรงเรียนบ้านสวายสอ ต้องปิดการเรียนการสอนไม่มีกำหนด

จ.ศรีสะเกษ น้ำในเขื่อนห้วยติ๊กชู อ.ภูสิงห์ ล้นสปิลเวย์หรือทางน้ำล้น ลงไปตามลำห้วยสำราญ เข้าท่วมบ้านเรือนไร่นาในอ.บึงบูรพ์ อ.ศิลาลาด อ.ยางชุมน้อย และอ.กันทรารมย์ ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจากลำห้วยต่างๆลงลำน้ำมูล จ.อุบลราชธานี ขณะที่แม่น้ำมูลมีปริมาณน้ำจำนวนมากเช่นกัน จึงระบายลงไปได้ช้า ส่วนที่ชุมชนโนนสวรรค์ อ.เมือง นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นั่งเรือท้องแบนนำถุงยังชีพไปมอบให้ประชาชนที่ต้องขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน

ที่ จ.สุโขทัย สถานการณ์น้ำท่วมในหมู่ 5 , 6 , 8 ,10 ,11 ต.ย่านยาว หมู่ 4 และ 10 ต.คลองกระจง บ้านหนองชุมแสง ต.ท่าทอง บ้านหนองแขม ต.หนองกลับ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย นาข้าวเสียหายกว่า 6,000 ไร่ โดยที่หมู่ 5 ต.ย่านยาว ชาวนาต้องระดมญาติพี่น้องช่วยกันทำคันดินกั้นไม่ให้น้ำทะลักท่วมนาข้าวทีเหลืออยู่ โดยนางจำเรียง ศรีสวัสดิ์ ชาวนาหมู่ 5 ต.ย่านยาว กล่าวว่า ทำนา 150 ไร่กำลังจะเก็บเกี่ยวได้แล้ว แต่ถูกน้ำท่วมจนเน่าตายเกือบหมด จึงขอให้สนามบินสุโขทัย ช่วยเร่งเปิดทางระบายน้ำให้ด้วย เพราะถ้าไม่เปิด ชาวนาทั้ง 4 ตำบล จะนำรถไถ รถอีแต๋นไปปิดทางเข้าออกสนามบิน เพื่อให้รับรู้ถึงความเดือดร้อน ที่ต้องทนกันมากว่า 10 ปีแล้ว

วันเดียวกัน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นผู้แทนพระองค์ นำชุดธารน้ำใจพระราชทาน พร้อมน้ำดื่มตามโครงการน้ำทิพย์ปันน้ำใจให้กาชาด จากมูลนิธิโคคา โคลา ประเทศไทย (จำกัด) 600 ชุด มูลค่า 600,000 บาท ไปมอบให้ราษฎรที่ประสบอุทกภัยใน ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง

ขณะที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัด สั่งให้นายอำเภอริมแม่น้ำเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากแม่น้ำป่าสักจะสูงขึ้นอีก 80-90 เซนติเมตร หลังเขื่อนพระราม 6 ระบายน้ำที่ 415 ลบ.ม.ต่อวินาที จะทำให้ระดับน้ำในอ.ท่าเรือ อ.นครหลวง อ.พระนครศรีอยุธยา สูงขึ้น 20-40 เซนติเมตร เข้าท่วมอ.ผักไห่ อ.บางบาล อ.เสนา อ.บางไทร อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน รวม 84 ตำบล 2 เทศบาล 535 หมู่บ้าน 29,364 ครัวเรือน วัด 34 แห่ง โรงเรียน 27 แห่ง สถานที่ราชการ 4 แห่ง มัสยิด 1 แห่ง

***เร่งระบายน้ำรับมือ "หวู่ติ๊บ"

นายภาณุกิจ ดิษพึ่ง ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 10 กล่าวว่า จากกรณีกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนว่าพายุไต้ฝุ่น"หวู่ติ๊บ"(WUTIP) จะขึ้นฝั่งที่เมืองเว้ วันที่ 30 กันยายน จากนั้นจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว และเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจ.นครพนม ขอให้ประชาชนบริเวณจ.นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ หนองคาย สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติด้วย โดยจะเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้นทางด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บ่ายวันที่ 30 กันยายนทำให้ต้องระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี สูงสุด 200 ลบ.ม.ต่อวินาที รวมปริมาณน้ำรายทางที่ไหลลงแม่น้ำป่าสักอีก 300 ลบ.ม. เขื่อนพระรามหก จ.พระนครศรีอยุธยา ต้องระบายน้ำ 500 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก จ.สระบุรี เพิ่มขึ้น 65 เซนติเมตร และเขื่อนพระรามหก เพิ่มขึ้น 120-150 เซนติเมตร จึงขอให้ผู้ประกอบการและประชาชน ที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำ ขนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

ด้านศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร(กทม.) รายงานว่า ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไปน้ำทะเลจะเพิ่มสูงขึ้นจาก 80 เซนติเมตร เป็น 1.10 เมตร ประกอบกับพายุหวู่ติ๊บจะเข้าไทยทำให้กทม.มีฝนมากขึ้น จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะบ้านเรือนนอกแนวคันกั้นน้ำ ส่วนคลองหลักได้เร่งระบายน้ำออกให้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อรับน้ำฝนแล้ว

นายอดิศักดิ์ ขันตี ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. กล่าวว่า ยังไม่มีมาตรการแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากฝั่งตะวันออก ที่อยู่นอกคันกั้นน้ำตามแนวพระราชดำริ วิธีเดียว คือ ต้องเร่งสูบน้ำออกให้แห้งโดยเร็ว โดยระบายไปทางอ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา
น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่รัฐบาลใช้งบ 1.2 แสนล้านบาท โดยรายงานผ่านเว็บไซต์สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าดำเนินการไป 154 โครงการ สำเร็จ 146 โครงการ ที่เหลือคืบหน้ากว่า 60% อยากถามว่าแล้วทำไมจึงเกิดน้ำท่วม 29 จังหวัด ทั้งที่โครงการมีทั้งขุดลอก ทำฝาย พนังกั้นน้ำ แต่เห็นได้ว่าการระบายน้ำไม่ได้คล่องตัว หรือเป็นเพราะข่าวทุจริตเรียกรับหัวคิว 40% ที่ "เจ๊ ด." เป็นผู้รับผลประโยชน์เป็นเรื่องจริงหรือไม่ การขุดลอกคูคลองเป็นการขุดแปะแค่ริมตลิ่งหรือไม่

"เหตุน้ำท่วม 29 จังหวัดจะเป็นหลักฐานมัดคอรัฐบาล เพราะไม่สามารถบริหารงบให้เกิดประสิทธิภาพได้ ประชาชนต้องเจ็บปวด และการที่นายปลอดประสพบอกใช้งบตามพ.ร.ก.เงินกู้ 3.5 แสนล้านไปแล้ว 1 หมื่นล้านบาท อยากถามว่าใช้ทำอะไรบ้าง ขอให้ประกาศลงในเว็บไซต์ ซึ่งพรรคจะยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบด้วย"

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า การประชุมส.ส.พรรค วันที่ 1 ตุลาคม เพื่อสะท้อนข้อมูลพื้นที่ซึ่งมีความเดือดร้อน และวิธีการแก้ปัญหา และนำเสนอนายกรัฐมนตรี เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นห่วงประชาชน จึงสั่งการส.ส.ให้ตั้งศูนย์ ประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อช่วยเหลือประชาชน.
กำลังโหลดความคิดเห็น