xs
xsm
sm
md
lg

ธุรกิจงัดแผนรับกำลังซื้อ-ศก.หด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ธุรกิจขยาดไตรมาสสุดท้าย หวั่นสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจไม่ดี กำลังซื้อหดหาย เร่ง “ปรับแผน-งัดแผนสำรองมาใช้-ลดเป้ารายได้เติบโต” มุ่งหน้าทำตลาดผลักดันยอดขายเต็มที่ รับการทำตลาดจากนี้ยากขึ้น

ดูเหมือนว่าไตรมาสสุดท้ายที่เป็นโค้งสุดท้ายของปี 2556 นี้ หลายธุรกิจต่างก็ยังไม่ค่อยมั่นใจกับสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ จากกำลังซื้อที่ซบเซาลงของผู้บริโภค อีกทั้งยอดขายที่ไม่ค่อยเป็นไปตามเป้าหมายเท่าใดของหลายบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เพราะปัจจัยลบทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ

หลายบริษัทจึงจำเป็นต้องปรับแผนธุรกิจกันใหม่ หรือไม่ก็งัดแผนสำรองออกมาใช้เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่เป็นอยู่

นางรัตนา ชาญนรา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ปรับแผนธุรกิจใหม่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ โดยนำเอาแผนสำรองออกมาใช้ เนื่องจากว่า ไตรมาสสุดท้ายนี้ไม่แน่ใจว่าภาวะเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร เพราะหลายหน่วยงานเองก็ประเมินว่าจีดีพีจะเติบโตต่ำกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ ประกอบกับกำลังซื้อในช่วงนี้ก็ดูเหมือนจะแผ่วเบาลงไปด้วย ส่งผลให้ปีนี้แอมแวย์ได้ปรับลดเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมเหลือประมาณ 3-4% จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายเติบโต 7% จากรายได้รวม 18,000 ล้านบาทปีที่แล้ว

โดยบริษัทฯได้ทำการเพิ่มผลตอบแทนและสิทธิประโยชน์ต่างๆให้กับนักธุรกิจแอมเวย์มากขึ้น ซึ่งขณะนี้ก็เริ่มมีการนำมาใช้บางส่วนแล้ว ด้วยกลยุทธ์ต่างๆ ทั้งการเพิ่มสิทธิพิเศษและผลตอบแทนให้กับนักธุรกิจที่มีมากกว่า 330,000 ราย เช่นการเพิ่มรายได้ขั้นต่ำอีก 6% การเพิ่มแรงจูงใจอินเซนทีฟไปต่างประเทศ การให้สิทธิพิเศษเพิ่มเติมกับนักธุรกิจใหม่ ส่วนนักธุรกิจแอมเวย์เดิมหากรักษายอดขายไว้ได้ก็มีสิทธิพิเศษเพิ่ม เป็นต้น ขณะที่ตลาดผู้บริโภคนั้นก็จะมีการทำโปรโมชันมากขึ้น เช่นล่าสุดที่ทำขณะนี้คือสินค้าเครื่องกรองน้ำอีสปริงที่ทำร่วมกับบัตรเครดิตต่อเนื่องด้วยการผ่อนดอกเบี้ย 0% นาน 10 เดือน เป็นต้น

ขณะที่ค่ายใหญาอย่างอาวียองซ์ ของบริษัท ยูนิลีเวอร์ นางสุชาดา ธีรวชิรกุล ประธานบริหาร ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ทางยูนิลีเวอร์ได้เพิ่มผลตอบแทนให้กับนักธุกริจและสมาชิกผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายของอาวียองซ์อีก 4-5% คือ จะมอบรายได้ที่คุ้มค่าจากผลงานทางธุรกิจ และผลตอบแทนจากเครือข่ายทีมงานทั่วโลก สำหรับการสร้างยอดขายที่เพิ่มขึ้น และจากการเพิ่มจำนวนเครือข่ายได้มากขึ้น จากปัจจุบันในไทยมีสมาชิกกว่า 5 แสนรหัส

อีกทั้งล่าสุด ได้ปรับชื่อธุรกิจใหม่จากอาวียองซ์มาเป็น ยูนิลีเวอร์ เน็ตเวิร์ค มีผลตั้งแต่ 1 ก.ย.เป็นต้นไป เพือ่เหตุผลหลักคือ การใช้ชื่อยูนิลีเวอร์จะทำให้การรุกธุรกิจเครือข่ายขายตรงจะเข้าใจได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น เพราะชื่อของยูนิลีเวอร์ ในตลาดผู้บริโภครู้จักดีอยู่แล้วจึงสามารถการันตีได้ และจะทำให้โอกาสในการเติบโตมีมากขึ้นด้วย และยังเตรียมที่จะเพิ่มไลน์สินค้ใหม่เข้ามาทำตลาดด้วย ทั้งนี้ มั่นใจว่าภายในปี 2020 ยูนิลีเวอร์ เน็ตเวิร์ค จะเข้าถึงจำนวนประชากรกว่า 3,000 ล้านคนได้

ปัจจุบันยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค มีอยู่ 3 ประเทศ คือ ไทย มาเลเซีย และกัมพูชา โดยใน 2 ประเทศหลังนี้จะเปลี่ยนชื่อจากอาวียองซ์มาเป็นยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ภายในเดือน ต.ค.นี้ และเตรียมขยายสู่ประเทศอื่นๆ ในเอเชียต่อไปซึ่งทั้งสามประเทศที่ทำตลาดอยู่นี้มีสมาชิกรวมกัน 5.2 แสนรหัส

สำหรับการเปลี่ยนชื่อจาก อาวียองซ์ เชื่อว่าจะทำให้ธุรกิจเติบโตดีขึ้นและสามารถครอบคลุมภูมิภาคเอเชียได้ทั้งหมด พร้อมมีรายได้รวมเติบโต 2 เท่า เร็วกว่าภาพรวมรายได้ของยูนิลีเวอร์ที่ตั้งไว้ในปี 2020 ด้วยเช่นเดียวกัน

โดยในช่วง 3 เดือนสุดท้ายนี้เศรษฐกิจจะทรงตัว ผู้บริโภคจะระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น มีพฤติกรรมในการซื้อเปลี่ยนไป จากเดิมมีซื้อเก็บกักตุน ปัจจุบันต้องชูเรื่องคุณภาพสินค้าให้ตรงและเข้าถึงมากขึ้นจึงจะยอมซื้อสินค้านั้น ในส่วนของยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค จะต้องทำงานหนักมากขึ้น ใช้ความเป็นเครือข่ายช่วยในการเพิ่มยอดขาย รวมถึงโปรโมชั่นส่งเสริมการขายอีกส่วนหนึ่ง เชื่อว่าจะช่วยให้รายได้รวมเป็นไปตามเป้าที่วางไว้

นายเจริญ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่วา บริษัทฯได้ทำการปรับลดรายได้รวมที่คาดว่าในปีนี้จะเติบโตเพียง 10% จากเดิมที่ต้นปีตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 15% จากรายได้รวมปีที่แล้วประมาณ 1,800 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังนี้ พบว่าสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศโดยรวมอยู่ในภาวะชะลอตัวลง กำลังซื้อของผู้บริโภคก็ลดน้อยลงด้วย ประกอบกับต้นทุนการผลิตต่างๆก็เพิ่มสูงขึ้นจากวัตถุดิบต่างๆเช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ ที่เพิ่มขึ้น 6-7% ในช่วงไตรมาสแรก

นอกจากการปรับลดเป้ารายได้ลงแล้ว บริษัทฯยังตัดสินใจที่จะชะลอแผนการลงทุนโครงกาต่างๆอีกด้วยเช่น เลื่อนการเปิดโรงงานแห่งใหม่ที่จะผลิตอาหารฮาลาล พวกลูกชิ้นปลา สแน็ก ที่โรงงานมหาชัย ออกไปก่อน คาดว่าไตรมาสแรกปี 2556 จะนำกลับมาพิจารณาใหม่ จากเดิมที่จะลงทุนและเปิดดำเนินการในไตรมาสสี่ปีนี้ เพื่อเพิ่มกำลังผลิตอีก 15,000 ตันต่อปี จากเดิมผลิต 7,000 ตันต่อปี

นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯจะเร่งจัดการเรื่องปัญหาสต๊อกสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นจากนี้ รวมทั้งจะใช้งบการตลาดอีก 70 ล้านบาทจากนี้ เพื่อกระตุ้นการตลาดและการจัดกิจกรรมต่างส่งเสริมการขาย เพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจช่วงไตรมาสที่สี่นี้ เนื่องจากเป้าหมายการเติบโตปีนี้ที่ตั้งไว้ 10% คาดว่าอาจจะทำไม่ถึงเป้าหมายแน่นอน

เนื่องจากในขณนี้มีสัญญาณบ่งบอกแล้วว่า ภาวะเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว ผู้คนเริ่มชะลอการจับจ่ายใช้เฉพาะสิ่งที่จำเป็นจริงๆ สังเกตุจากตลาดชุดชั้นในซึ่งบริษัทฯทำตลาดอยู่ พบว่า ตลาดชุดชั้นในโดยรวมครึ่งปีแรกนี้แม้ว่าจะยังดีอยู่ก็ตาม แต่พบว่า ในช่วง 2 เดือนล่าสุดคือ เดือนกรกฎาคมและสิงหาคมนี้ ตลาดรวมตกลง 6% ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นตัวเลขที่แย่ที่สดในรอบ 7 ปีของตลาดชุดชั้นในก็ว่าได้

นายชิตชัย เธียรกาญจนวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บิ๊ก คาเมร่า จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดกล้องก็เป็นตลาดที่ตกลงเช่นกันมากกว่า 30% ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ด้วยปัจจัยลบหลายประการ ทั้ง กำลังซื้อที่ลดลง อันเนื่องมาจาก ผู้คนต้องมีภาระค่าครองชีพสูงขึ้น รวมทั้งเงินส่วนหนึ่งต้องเป็นภาระกับการผ่อนรถโครงการรถคันแรก และการที่ตลาดมือถือสมาร์ทโฟนเข้ามาแย่งตลาดกล้องไปด้วย ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทฯในช่วงครึ่งปีแรกนี้ตกลง 7%

ทั้งนี้บริษัทฯได้ปรับแผนตลาดเชิงรุกมากขึ้นในช่วงจากนี้ จะเน้นการทำตลาดหนักทั้งแคมเปญใหญ่ๆออกมาต่อเนื่อง และการจัดกิจกรรมต่างๆ กระตุ้นยอดขายเป็นหลัก ซึ่งคาดว่าจะทำให้สามารถบรรลุยอดขาย 2,500 ล้านบาทในสิ้นปีนี้ได้

นางวรรณา สวัสดิกูล ประธานฝ่ายการตลาด เทสโก้โลตัส เปิดเผยว่าบริษัทฯได้ปรับแผนกาทำตลาดและแคมเปญไตรมาสสุดท้ายนี้ใหม่ เพื่อรับมือกับกำลังซื้อที่ลดลง โดยล่าสุดได้ทุ่มงบ 20 ล้านบาท จัดแคมเปญฉลองเทสโก้โลตัสครบ 19 ปีในไทย ซึ่งถือว่าใช้งบสูงสุุดเท่าที่จัดมา แจกรางวัลใหญ่คือ ซูซูกิสวืฟท์ จำนวน 5 คัน โดยได้ดึงร้านค้าเช่าจากพลาซ่าเข้าร่วมแคมเปญด้วยเป็นครั้งแรก ซึ่งยอมรับการทำตลาดจากนี้ไปยากมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น