นโยบายรัฐบาลปูพ่นพิษ ตลาดชุดชั้นในพรีเมียมครวญยอดขายตกฮวบ 30% ในปีนี้ งัดสงครามราคาดึงรายได้ “ไคร่า” เดินเกมสู้ ชูนวัตกรรมใหม่สู่ตลาด หวังทั้งปีโต 13-15% แตะ 70 ล้านบาท
นางสาวโซเนีย ศรีชวาลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไคร่า โมด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดชั้นในไคร่า (kyra) เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนโยบายรถคันแรกที่ทำให้ปีนี้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องมีการนำเงินไปผ่อนรถ หรือมุ่งเรื่องของเทคโนโลยีมากขึ้น กับโทรศัพท์มือถือที่ใช้ต้องดี ให้ความสำคัญต่อภาพลักษณ์ภายนอก ทั้งเรื่องการแต่งตัว ความดูดีของเสื้อผ้าที่สวมใส่ ล้วนส่งให้ภาพรวมตลาดชุดชั้นในระดับพรีเมียมตกลงถึง 30% และหันไปซื้อในระดับราคาที่ถูกลงแทน ทำให้การซื้อเฉลี่ยลดลงเหลือ 3 ครั้งต่อปี จาก 4-7-8 ครั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หรือต่อปีมียอดซื้อต่อคนราว 3,000 บาทเท่านั้น
ส่งผลให้ปีนี้ตลาดชุดชั้นในพรีเมียมมีการแข่งขันที่สูงขึ้น หลายๆ แบรนด์มีการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมา โดยให้ความสำคัญต่อเรื่องของราคาเป็นหลักเพื่อให้ผู้บริโภคจับต้องได้ รวมถึงมีการจัดโปรโมชันทางด้านราคาส่งเสริมการขายให้มากขึ้น จากปัจจุบันกลุ่มชุดชั้นในพรีเมียมมีอยู่ราว 7-8 แบรนด์ และมีไทรอั้มส์เป็นผู้นำตลาด ส่วนไคร่าอยู่ในท็อปไฟว์ หรือส่วนแบ่งตลาดราว 15%
ส่วนของไคร่า ในปีนี้จะใช้งบกว่า 10 ล้านบาทสำหรับจัด 2 แคมเปญใหญ่ คือ 1. แคมเปญโฆษณา “Kyra Body Bliss คืนชีวิตให้ผู้หญิง” ด้วยการนำเสนอนวัตกรรม Body Bliss เข้ามาเสริมคุณภาพชุดชั้นในให้กลมกลืนไปกับรูปแบบของแฟชั่น และช่วยให้สวมใส่สบาย โดย Body Bliss ยังมี Body Touch Gel ที่เป็นนวัตกรรมเจลใหม่ล่าสุดที่มีความนิ่มพิเศษช่วยให้สวมใส่ชุดชั้นในได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น 2. เป็นแคมเปญที่ร่วมกับดีไซเนอร์ไทย จะเปิดตัวในช่วงเดือน ก.ย.ที่จะถึงนี้ เชื่อว่าจาก 2 แคมเปญหลักนี้จะช่วยให้ไคร่ามีรายได้เติบโตขึ้นได้ 13-15% ในสิ้นปีนี้ หรือคิดเป็นมูลค่าได้กว่า 70 ล้านบาท มาจากคนไทย 65% และนักท่องเที่ยว 35%
อย่างไรก็ตาม ปีนี้บริษัทได้ลงทุนกว่า 1.5 ล้านบาทในส่วนของระบบออนไลน์เพื่อเปิตตลาดต่างประเทศไปยังจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และประเทศในเออีซี คาดถึงสิ้นปีหน้าจะมีรายได้ประมาณ 15% ของรายได้ในประเทศ ส่วนในประเทศนั้นจะมุ่งเน้นขยายสาขาให้มากขึ้น โดยปีนี้จะเปิดสแตนด์อะโลนชอปเพิ่ม 1 แห่งที่ภูเก็ต ใช้งบลงทุนประมาณ 1ล้านบาทเศษ ส่วนปีหน้าเตรียมเปิดไคร่า แฟล็กชิปสโตร์ สาขาแรกในไทย ที่รวมทุกผลิตภัณฑ์ของไคร่ามาไว้ด้วยกัน คาดว่าต้องใช้งบราว 2.5 ล้านาท จากปัจจุบันมีสแตนด์อะโลนชอป 9 สาขา และในห้างสรรพสินค้า 37 สาขา รวมถึงจำหน่ายผ่านเว็บไซต์อีก 4เว็บ
นอกจากนี้ ในส่วนของชุดชั้นในแบรนด์เพลย์บอยที่บริษัทได้ไลเซนส์ทำตลาดในไทยกว่า 6 ปีนั้น ปีนี้จะใช้งบการตลาดราว 6 ล้านบาทสำหรับจัดแคมเปญฉลอง 60 ปีเพลย์บอยตลอดปี พร้อมเปิดตัวคอลเลกชันใหม่อย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่าถึงสิ้นปีจะมียอดขายเติบโต 10% เช่นปีที่ผ่านมา ซึ่งยอดขายของเพลย์บอลนี้คิดเป็น 1.5 เท่าจากรายได้แบรนด์ไคร่า
นางสาวโซเนีย ศรีชวาลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไคร่า โมด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดชั้นในไคร่า (kyra) เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนโยบายรถคันแรกที่ทำให้ปีนี้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องมีการนำเงินไปผ่อนรถ หรือมุ่งเรื่องของเทคโนโลยีมากขึ้น กับโทรศัพท์มือถือที่ใช้ต้องดี ให้ความสำคัญต่อภาพลักษณ์ภายนอก ทั้งเรื่องการแต่งตัว ความดูดีของเสื้อผ้าที่สวมใส่ ล้วนส่งให้ภาพรวมตลาดชุดชั้นในระดับพรีเมียมตกลงถึง 30% และหันไปซื้อในระดับราคาที่ถูกลงแทน ทำให้การซื้อเฉลี่ยลดลงเหลือ 3 ครั้งต่อปี จาก 4-7-8 ครั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หรือต่อปีมียอดซื้อต่อคนราว 3,000 บาทเท่านั้น
ส่งผลให้ปีนี้ตลาดชุดชั้นในพรีเมียมมีการแข่งขันที่สูงขึ้น หลายๆ แบรนด์มีการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมา โดยให้ความสำคัญต่อเรื่องของราคาเป็นหลักเพื่อให้ผู้บริโภคจับต้องได้ รวมถึงมีการจัดโปรโมชันทางด้านราคาส่งเสริมการขายให้มากขึ้น จากปัจจุบันกลุ่มชุดชั้นในพรีเมียมมีอยู่ราว 7-8 แบรนด์ และมีไทรอั้มส์เป็นผู้นำตลาด ส่วนไคร่าอยู่ในท็อปไฟว์ หรือส่วนแบ่งตลาดราว 15%
ส่วนของไคร่า ในปีนี้จะใช้งบกว่า 10 ล้านบาทสำหรับจัด 2 แคมเปญใหญ่ คือ 1. แคมเปญโฆษณา “Kyra Body Bliss คืนชีวิตให้ผู้หญิง” ด้วยการนำเสนอนวัตกรรม Body Bliss เข้ามาเสริมคุณภาพชุดชั้นในให้กลมกลืนไปกับรูปแบบของแฟชั่น และช่วยให้สวมใส่สบาย โดย Body Bliss ยังมี Body Touch Gel ที่เป็นนวัตกรรมเจลใหม่ล่าสุดที่มีความนิ่มพิเศษช่วยให้สวมใส่ชุดชั้นในได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น 2. เป็นแคมเปญที่ร่วมกับดีไซเนอร์ไทย จะเปิดตัวในช่วงเดือน ก.ย.ที่จะถึงนี้ เชื่อว่าจาก 2 แคมเปญหลักนี้จะช่วยให้ไคร่ามีรายได้เติบโตขึ้นได้ 13-15% ในสิ้นปีนี้ หรือคิดเป็นมูลค่าได้กว่า 70 ล้านบาท มาจากคนไทย 65% และนักท่องเที่ยว 35%
อย่างไรก็ตาม ปีนี้บริษัทได้ลงทุนกว่า 1.5 ล้านบาทในส่วนของระบบออนไลน์เพื่อเปิตตลาดต่างประเทศไปยังจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และประเทศในเออีซี คาดถึงสิ้นปีหน้าจะมีรายได้ประมาณ 15% ของรายได้ในประเทศ ส่วนในประเทศนั้นจะมุ่งเน้นขยายสาขาให้มากขึ้น โดยปีนี้จะเปิดสแตนด์อะโลนชอปเพิ่ม 1 แห่งที่ภูเก็ต ใช้งบลงทุนประมาณ 1ล้านบาทเศษ ส่วนปีหน้าเตรียมเปิดไคร่า แฟล็กชิปสโตร์ สาขาแรกในไทย ที่รวมทุกผลิตภัณฑ์ของไคร่ามาไว้ด้วยกัน คาดว่าต้องใช้งบราว 2.5 ล้านาท จากปัจจุบันมีสแตนด์อะโลนชอป 9 สาขา และในห้างสรรพสินค้า 37 สาขา รวมถึงจำหน่ายผ่านเว็บไซต์อีก 4เว็บ
นอกจากนี้ ในส่วนของชุดชั้นในแบรนด์เพลย์บอยที่บริษัทได้ไลเซนส์ทำตลาดในไทยกว่า 6 ปีนั้น ปีนี้จะใช้งบการตลาดราว 6 ล้านบาทสำหรับจัดแคมเปญฉลอง 60 ปีเพลย์บอยตลอดปี พร้อมเปิดตัวคอลเลกชันใหม่อย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่าถึงสิ้นปีจะมียอดขายเติบโต 10% เช่นปีที่ผ่านมา ซึ่งยอดขายของเพลย์บอลนี้คิดเป็น 1.5 เท่าจากรายได้แบรนด์ไคร่า