การเมืองผันผวน ครม.ชุดใหม่ยังไม่รู้จะเป็นอย่างไร แต่เชื่อกำลังซื้อหดลง ส่งครึ่งปีหลังประเมินสถานการณ์ยาก “ซาบีน่า” จัดหนักทำการตลาดเพิ่ม ออกคอลเลกชันใหม่ ส่ง “แฮปปี้ ไพรส์ บาย ซาบีน่า” เจาะลูกค้าระดับแมสในไฮเปอร์มาร์เกต หวังรักษารายได้ทั้งปีเติบโตที่ 20% หรือกว่า 2,400 ล้านบาท
นายอมรเทพ อสีปัญญา ผู้อำนวยสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมสถานการณ์ในครึ่งปีหลังนี้ค่อนข้างประเมินยาก เพราะมีความผันผวนขึ้นลงของเศรษฐกิจอยู่ตลอดเวลา และการเมืองเองก็ยังไม่นิ่ง ยิ่งมีการปรับ ครม.ชุดใหม่ออกมา ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เนื่องจากรัฐบาลเองก็ชูนโยบายต่างๆ ออกมาใช้หมดแล้ว โดยในส่วนของตลาดชุดชั้นในนั้นเชื่อว่ายังคงเติบโตไปตามปกติ หรือน่าจะไม่เกิน 5% จากมูลค่ารวม 12,000 ล้านบาทเพราะเป็นสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน โดยพบว่าในส่วนของช่องทางรีเทลในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป พบว่าถึงแม้จะยังคงมีผู้เข้าใช้บริการอย่างต่อเนื่องแต่กำลังตกลง คนใช้เงินน้อยลง
ในส่วนของซาบีน่า ครึ่งปีหลังนี้จะเน้นปรับตัวรับความผันผวนที่เกิดขึ้น โดยการออกสินค้าใหม่มากขึ้น อย่างคอลเลกชันรุ่นโมเดิร์นเคิร์ฟที่ได้รับการตอบรับที่ดีก็จะทำการตลาดมากขึ้น มีการดีไซน์รุ่นใหม่ออกมาเพิ่มเติม รวมถึงการเปิดตัว “แฮปปี้ ไพรส์ บาย ซาบีน่า” ราคา 349 บาท, 399 บาท และ 459 บาท ในช่องไฮเปอร์มาร์เกตเพิ่มเติม จากเดิมที่มีวางจำหน่ายอยู่แล้วในระดับราคา 500-600 บาท เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายในต่างจังหวัดได้เป็นอย่างดี หลังพบนโยบายค่าแรง 300 บาททำให้กำลังซื้อในต่างจังหวัดพร้อมใช้เงินมากขึ้น นอกจากนี้ยังเตรียมรุกการตลาดในส่วนของชุดชั้นในสำหรับกลุ่มผู้ใหญ่อายุ 40-50 ปีขึ้นไปด้วย มั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายในครึ่งปีหลังนี้เติบโตที่ 20% เช่นครึ่งปีแรก และทำรายได้รวมถึงสิ้นปีนี้ตามเป้า 2,400 ล้านบาทได้
นายอมรเทพกล่าวต่อว่า จากความผันผวนในประเทศส่งผลให้บริษัทต้องให้ความสำคัญต่อตลาดต่างประเทศมากยิ่งขึ้นด้วย โดยขณะนี้เริ่มสร้างแบรนด์ซาบีน่าในหลายประเทศในอาเซียนแล้ว เช่น พม่าเริ่มมาได้ 3 ปี เวียดนาม 1 ปี มาเลเซีย และฟิลิปปินส์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มั่นใจว่ารายได้จากต่างประเทศปีนี้น่าจะทำได้ไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท
นายอมรเทพ อสีปัญญา ผู้อำนวยสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมสถานการณ์ในครึ่งปีหลังนี้ค่อนข้างประเมินยาก เพราะมีความผันผวนขึ้นลงของเศรษฐกิจอยู่ตลอดเวลา และการเมืองเองก็ยังไม่นิ่ง ยิ่งมีการปรับ ครม.ชุดใหม่ออกมา ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เนื่องจากรัฐบาลเองก็ชูนโยบายต่างๆ ออกมาใช้หมดแล้ว โดยในส่วนของตลาดชุดชั้นในนั้นเชื่อว่ายังคงเติบโตไปตามปกติ หรือน่าจะไม่เกิน 5% จากมูลค่ารวม 12,000 ล้านบาทเพราะเป็นสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน โดยพบว่าในส่วนของช่องทางรีเทลในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป พบว่าถึงแม้จะยังคงมีผู้เข้าใช้บริการอย่างต่อเนื่องแต่กำลังตกลง คนใช้เงินน้อยลง
ในส่วนของซาบีน่า ครึ่งปีหลังนี้จะเน้นปรับตัวรับความผันผวนที่เกิดขึ้น โดยการออกสินค้าใหม่มากขึ้น อย่างคอลเลกชันรุ่นโมเดิร์นเคิร์ฟที่ได้รับการตอบรับที่ดีก็จะทำการตลาดมากขึ้น มีการดีไซน์รุ่นใหม่ออกมาเพิ่มเติม รวมถึงการเปิดตัว “แฮปปี้ ไพรส์ บาย ซาบีน่า” ราคา 349 บาท, 399 บาท และ 459 บาท ในช่องไฮเปอร์มาร์เกตเพิ่มเติม จากเดิมที่มีวางจำหน่ายอยู่แล้วในระดับราคา 500-600 บาท เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายในต่างจังหวัดได้เป็นอย่างดี หลังพบนโยบายค่าแรง 300 บาททำให้กำลังซื้อในต่างจังหวัดพร้อมใช้เงินมากขึ้น นอกจากนี้ยังเตรียมรุกการตลาดในส่วนของชุดชั้นในสำหรับกลุ่มผู้ใหญ่อายุ 40-50 ปีขึ้นไปด้วย มั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายในครึ่งปีหลังนี้เติบโตที่ 20% เช่นครึ่งปีแรก และทำรายได้รวมถึงสิ้นปีนี้ตามเป้า 2,400 ล้านบาทได้
นายอมรเทพกล่าวต่อว่า จากความผันผวนในประเทศส่งผลให้บริษัทต้องให้ความสำคัญต่อตลาดต่างประเทศมากยิ่งขึ้นด้วย โดยขณะนี้เริ่มสร้างแบรนด์ซาบีน่าในหลายประเทศในอาเซียนแล้ว เช่น พม่าเริ่มมาได้ 3 ปี เวียดนาม 1 ปี มาเลเซีย และฟิลิปปินส์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มั่นใจว่ารายได้จากต่างประเทศปีนี้น่าจะทำได้ไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท
