ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ต้องบอกว่ายังคงแสดงอิทธิฤทธิ์อย่างต่อเนื่องทีเดียวสำหรับ “นายศรัณย์ ฉุยฉาย” หรือ “อั้ม เนโกะ” นักศึกษาข้ามเพศ คณะศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลังจากรณรงค์ต่อการการแต่งชุดนักศึกษาด้วยการจัดทำโปสเตอร์ขณะสวมใส่ชุดนักศึกษาและแสดงท่าทางประหนึ่งกำลังมีเพศสัมพันธ์ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นที่เกินเลยอย่างไร้ขอบเขต
มาคราวนี้ อั้ม เนโกะที่กำลังเปี่ยมล้มไปด้วยความมั่นใจอย่างถึงขีดสุดด้วยการด่ากราดอาจารย์ พร้อมทั้งตามราวีเพื่อถ่ายรูปมานำเสนอในเครือข่ายสังคมออนไลน์ หลังจากที่ถูกตำหนิเรื่องการแต่งกายด้วยชุดเสื้อเกาะอก และกางเกงสั้นเสมอหูว่าไม่เหมาะสม
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่อั้ม เนโกะใส่ชุดเกาะอกสีชมพูลายจุด กับกางเกงขาสั้นเสมอหูไปกินข้าวที่โรงอาหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยในระหว่างนั้นมีอาจารย์คนหนึ่งเดินเข้ามาสอบถามและตำหนิถึงการแต่งตัวที่ไม่เหมาะสม จนอั้ม เนโกะถึงกับระเบิดอารมณ์ใส่อาจารย์ท่านนั้นอย่างรุนแรงด้วยคำว่า “อี...อก” เลยทีเดียว
จากนั้นอั้ม เนโกะได้นำเหตุการณ์ดังกล่าวมาโพสต์ในเฟซบุ๊ก “Aum Neko” กระทั่งตกเป็นข่าวและเป็นที่วิพาก์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง
“...พอสอบเสร็จส่งใบคำตอบเราก็เดินมาที่กระเป๋า พร้อมถอดเสื้อ กระโปรง ออกมาเป็นชุดเกาะอกสีชมพูลายจุด กับกางเกงขาสั้นเสมอหู ....ไปกินยำที่โรงอาหาร ...แต่ขณะที่กินยำอยู่นั้นก็มีนางคนหนึ่งเดินมาลักษณะท้วมๆ มาถามดิฉันด้วยหน้าตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ว่า “ขอโทษนะคะ เป็นนักศึกษาหรือเปล่าคะ” เราก็ตอบ “ใช่ค่ะ” นางก็มาระรานดิฉันว่าทำไมแต่งตัวแบบนี้ ไม่อายเขาหรอ ฉันตอบ “ไม่อายค่ะ” นางบอกไม่อายนักก็ให้ฉันยืน ฉันก็ยืน แล้วก็ถามแล้วไงคะนางก็ด่าฉันแต่งตัวอย่างกับพารากอน ฉันก็เฉยๆ ยิ้มๆ แล้วนางก็บอกว่าเอาบัตร นศ.มา (ไม่รู้มีอำนาจอะไร) ก็ยื่นให้ดู นางจะหยิบ ฉันไม่ให้ นางโกรธๆๆ ค่ะ ถามฉันอยู่คณะอะไรก็บอก สินสาดค่ะ”
“แล้วฉันก็ยิ้มเยาะนางก่อนนางจะเดินไปพร้อมคำด่าที่นางด่าฉันว่า “หน้าตาอุบาทว์” กูเลยบอกว่า “ส่องกระจกเถอะค่ะ :)) จากนั้นดิฉันก็นั่งกินยำต่อค่ะจนจะหมดละ เจ้คนนั้นก็เดินกลับมาพร้อมกับ “ยาม” สองคนค่ะ นางบอกเอาบัตร นศ.มา อั้มบอก “ไม่ให้” มันเริ่มจะระรานดิฉันมากไปละ ฉันยืนขึ้นขณะนางจ้องหน้า…”
“...มันก็ตะโกนด่าฉันว่า “เป็น นศ.แต่แต่งตัวเป็น กะหรี่!” กูโกรธมากค่ะถามนางกลับ “เออ กะหรี่แล้วทำไม” นางบอกประมาณทำลายชื่อเสียงสถาบันบลาๆๆ กูตะโกนกลับไป “กะหรี่ก็คน อีดอก!”
นั่นคือส่วนหนึ่งของถ้อยคำผรุสวาทที่สำรากออกมาจากปากของอั้ม เนโกะที่เต็มไปด้วยความรุนแรง
กระนั้นก็ดีสิ่งที่ต้องตั้งคำถามกลับไปถึงอั้ม เนโกะก็คือ นี่หรือคือการแสดงออกซึ่งความเสมอภาค หรือสิทธิเสรีภาพตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตยอย่างที่เธอเรียกร้องและปรารถนา
การแต่งตัวด้วยชุดเกาะอก และกางเกงขาสั้นที่เธอภูมิใจนักหนาด้วยการใช้คำว่า สั้นเสมอหูนั้น เป็นการแต่งกายที่คำนึงถึง“กาละ” และ “เทศะ” ซึ่งเหมาะสมกับสถานภาพความเป็นนักศึกษาของเธอหรือไม่ แม้เธอจะอ้างว่า ไม่มีรัฐธรรมนูญข้อไหนห้ามก็ตาม
ทั้งนี้ อั้ม เนโกะยอมรับหรือไม่ว่า การที่เธอใส่เสื้อเกาะอกและกางเกงสั้นเสมอหูนั้น ไม่ใช่เป็นชุดปกติสำหรับนักศึกษาที่สังคมได้เห็นกัน ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมอาจารย์ท่านนั้นถึงสงสัยว่า เธอเป็นนักศึกษาหรือไม่ เพราะถ้าจะว่าไปแล้ว ชุดของเธอก็มิได้ต่างจากชุดของสตรีผู้ประกอบอาชีพขายบริการทางเพศสวมใส่จริงๆ
แน่นอน ไม่มีใครห้ามหรือต่อว่าอั้ม เนโกะที่จะไม่แต่งชุดนักศึกษามาเรียน ยิ่งสำหรับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ซึ่งมีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องนี้มายาวนาน สังคมก็ยิ่งเข้าใจ
แต่ถามว่า การที่เธอใส่เสื้อเกาะอกและกางเกงสั้นเสมอหูนั้นมีความเหมาะสมกับความเป็นนักศึกษาหรือไม่ แล้วถ้าหากมีใครบ้าทำตามเธอจะยิ่งมิใช่เป็นการยั่วยุกามารมณ์และนำไปสู่การประกอบอาชญากรรมทางเพศหรอกหรือ
หรือเพียงแค่เธออยากดัง หรือเพียงแค่เธอต้องการสร้างจุดเด่นให้กับตนเอง โดยที่ตัวเองก็ยังไม่รู้ว่า ทำไปทำไม
ที่สำคัญคือถ้าเธอจบการศึกษาและออกไปประกอบหน้าชีพในหน่วยงานราชการหรือบริษัทห้างร้านต่างๆ อั้ม เนโกะจะแต่งตัวเช่นนั้นไปทำงานหรือ และจะมีหน่วยงานไหนรับเข้าทำงาน เว้นเสียแต่ว่า เธอจะประกอบอาชีพส่วนตัว ซึ่งนั่นก็เป็นสิทธิที่เธอสามารถทำได้เช่นกัน
ทั้งนี้ กรณีที่เกิดขึ้น ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการอิสระด้านสื่อสารมวลชน และอดีตคณบดีคณะวารสารศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้แสดงความคิดเห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับอั้ม เนโกะเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า การที่คนเราอยู่ในสังคมร่วมกัน ต้องเข้าใจว่าในสังคมต้องมีระเบียบกติกา ซึ่งกติกาบางอย่างถ้าไม่ปฏิบัติตามก็ไม่ได้มีใครบังคับ แต่จะถูกคนในสังคมตำหนิ
ที่สำคัญคือ การบังคับการแต่งกายของมหาวิทยาลัยนั้น ไม่ได้ให้บังคับให้แต่งทุกวัน แต่ขอในวันสำคัญๆ เท่านั้น ซึ่งถ้าปฏิบัติไม่ได้ เวลาจบจากมหาวิทยาลัยก็คงไปทำงานในหน่วยงานที่เขามีเครื่องแบบไม่ได้ ถ้าต้องการอิสระในเรื่องการแต่งกาย ก็ให้กลับไปอยู่บ้านคนเดียว
“เธอเป็นกะเทย ซึ่งไม่รู้ว่าจะแต่งเครื่องแบบอะไร จะแต่งเป็นหญิงหรือเป็นชายก็ไม่รู้ จึงต้องการสร้างจุดเด่นและพยายามต่อต้านอะไรต่างๆ เพื่อต้องการเรียกร้องความสนใจ ซึ่งควรจะเคารพระเบียบกติกาในการอยู่ร่วมกันในรั้วมหาวิทยาลัย เกินเหตุ ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ ไม่ถูกต้อง ใช้ไม่ได้ และเลยจุดความสนใจไปแล้ว อย่าให้ความสนใจ เพราะถ้ายิ่งสนใจจะยิ่งทำให้เขาดัง”อาจารย์เสรีให้ทัศนะอย่างตรงไปตรงมา
….เห็นอั้ม เนโกะแสดงอิทธิฤทธิ์ในเรื่องชุดนักศึกษา เรื่องการแต่งตัวเกาะอก สั้นเสมอหูแล้ว ไม่รู้ว่า นักศึกษาข้ามเพศที่ประกาศตัวว่ามีเสรีภาพสุดขั้วนั้น เคยคิดถึงหรือเคลื่อนไหวเรื่องของส่วนร่วมที่เกิดประโยชน์แก่ชาติบ้างหรือไม่ เช่นกรณี EHIA เขื่อนแม่วงก์ หรือกรณีเหมืองทองทุ่งคำ จ.เลย
เพราะถ้าเมื่อใดก็ตามที่อั้ม เนโกะปลดแอกจากความหมกมุ่นจากเรื่องเครื่องแบบนักศึกษาได้ พร้อมทั้งใช้สิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคของเธอต่อสู้เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและปกป้องผืนแผ่นดินไทยเหมือนที่เธอทุ่มสุดตัวเพื่อต่อต้านชุดนักศึกษา เมื่อนั้น อั้ม เนโกะจะเกิดใหม่ กลายเป็นนักคิดและนักต่อสู้ที่สังคมให้การยอมรับอีกคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ก็เป็นได้
เว้นเสียแต่ว่า เธอถูกล้างสมองเสียจนยากเกินเยียวยาไปแล้ว