xs
xsm
sm
md
lg

หลอนอีก”ปู”เอาอยู่ กทม.ผวาอีก2วันน้ำจ่อขึ้น ถนนจมน้ำแล้ว32 สาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - “ กทม.” เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง หวั่นน้ำทขึ้นอีก 50 เซนติเมตร  เร่งอุดจุดรั่วซึม  กรมศิลป์หวั่นโบราณสถานพังเสียหาย  ถนนจมน้ำ 32 สาย หลอนคนไทยอีก “ปู” บอกเอาอยู่อีกแล้ว สั่งกบอ.ไปดูแล มั่นใจเอาอยู่ ไม่ซ้ำรอย ปี 54  ครม.เพิ่งอนุมัติเงินช่วยเหลือเกษตรกรเจอน้ำท่วมปี 54 จำนวน 57 ล้าน  

    นายสัญญา ชีนิมิตร รองปลัด กทม. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ ที่ประตูระบายน้ำคลองซุง เขตบางซื่อ โดยระบุว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ที่ระดับ 2,300 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ประกอบกับน้ำที่มีฝนตกลงมาใต้เขื่อนตามพื้นที่ต่างๆในภาคกลางตอนล่างอาจจะไหลมาสมทบ ขณะที่ระดับน้ำเหนือและน้ำหนุนในแม่น้ำเจ้าพระยาที่บริเวณปากคลองตลาด วัดได้สูงสุดเมื่อเช้านี้ ที่ระดับ 1.72 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง   ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าอีก 1-2 วันนี้ ระดับน้ำในภาคกลางจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 40-50 เซนติเมตรนั้น ทาง กทม.กำชับเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชม.

ส่วนบริเวณแนวเขื่อนแม่น้ำเจ้าพระยา หรือจุดฟันหลอที่มีการรั่วซึมนั้น  โดยเฉพาะแนวคันกั้นน้ำชั่วคราว เช่น ถนนทรงวาด บริเวณใต้สะพานซังฮี้ ร้านขนาบน้ำ และร้านริเวอร์บาร์ ขณะนี้ได้จัดเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ เข้าไปดูแลพื้นที่แล้ว นอกจากนี้ สำนักการระบายน้ำ ยังได้เตรียมกระสอบทรายอีก จำนวน 5 ล้านใบ เพื่อเตรียมพร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ อีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสัญญา ได้เดินทางไปตรวจการก่อสร้างแนวเขื่อนถาวร ที่บริเวณสถานีสูบน้ำคลองบางพระครู ที่มีความยาวถึงหลังซอยจรัญสนิทวงศ์ 74/1 เขตบางพลัด ระยะทาง 145 เมตร ระดับความสูงเขื่อนอยู่ที่ 3.50 เมตร ซึ่งเป็นจุดฟันหลอเดิม และมีปัญหาน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และขณะนี้การก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้

กรมศิลป์ ห่วงน้ำท่วมโบราณสถานกรุงเก่า

    นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ตนได้รับรายงานน้ำท่วมของสำนักศิลปากร 15 แห่งทั่วประเทศ สำหรับภาคเหนือยังไม่พบว่ามีโบราณสถานถูกน้ำท่วม ส่วนสำนักศิลปากรที่ 11 อุบลราชธานี แจ้งว่าที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ อุบลราชธานี เกิดน้ำท่วมฉับพลัน เจ้าหน้าที่ได้สูบน้ำออกจาพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังแล้วอาคารและโบราณวัตถุไมได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้จากการประเมินเบื้องต้นโบราณสถานที่มีความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมและต้องเฝ้าระวังมีทั้งหมด 6 แห่ง ได้แก่ พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ป้อมแผลงไฟฟ้า จ.สมุทรปราการ วัดกุฏิ (ท่าแร้ง) จ.เพชรบุรี วัดเพชรสมุทรวรวิหาร จ.สมุทรสงคราม วัดเกาะศาลพระ จ.ราชบุรี และวัดใหญ่จอมปราสาท จ.สมุทรสาคร

    สำนักศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรี รายงานว่าในพื้นที่ วัดป่าเลย์ไลย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีน้ำท่วมขัง เนื่องจากเขื่อนด้านหน้าริมแม่น้ำพังตั้งแต่ปีที่ผ่านมาและยังไม่ได้แก้ไขทำให้น้ำกัดเซาะถึงฐานเจดีย์ของวัด ส่วนที่ จ.สุพรรณบุรี พบว่าที่วัดแค อ.เมือง น้ำจากแม่น้ำท่าจีนเข้าท่วมวิหารและเจดีย์ สูง 25 เซนติเมตร และที่วัดปู่บัว อ.เมือง น้ำจากแม่น้ำท่าจีนเข้าท่วมบริเวณฐานเจดีย์ สูง 70 เซนติเมตร ส่วนที่วัดสำปะซิวและวัดโพธิ์คลาน อ.เมือง น้ำจากแม่น้ำท่าจีนเข้าท่วมจนไม่สามารถเข้าไปได้ ขณะที่วัดพระรูป อ.เมือง มีน้ำท่วมขังเจดีย์ด้านที่ติดแม่น้ำ รวมถึงที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ขณะนี้มีน้ำท่วมขังลานประทักษิณ สูง 50 เซนติเมตร

สำหรับพื้นที่ของสำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย รายงานว่าอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร พบโบราณสถานที่ได้รับผลกระทบ 3 แห่ง ได้แก่ วัดหนองพิกุล พบว่ากำแพงแก้วที่มุมทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของวัดบางส่วนจมน้ำที่ล้นออกมาจากคูน้ำรอบวัด และวัดซุ้มกอ มีน้ำขังอยู่โดยรอบวัด รวมถึงป้อมทุ่งเศรษฐี พบว่ามีน้ำท่วมขังทั่วทั้งโบราณสถาน อย่างไรก็ตามในพื้นที่ภาคใต้และพื้นที่อื่นจากรายงานยังไม่พบว่ามีโบราณสถานถูกน้ำท่วมแต่อย่างใด

นายเอนก กล่าวว่า ขณะนี้ได้เฝ้าระวังโบราณสถานสำคัญ โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อาทิ บริเวณป้อมเพชร วัดไชยวัฒนารามนั้น จากข้อมูลคาดว่าภายใน 1-2 วันหลังนี้ระดับน้ำในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยาจะเพิ่มสูงขึ้นและน่าเป็นห่วง ดังนั้นให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังโบราณสถานสำคัญๆเป็นพิเศษ

ถนนจมน้ำเพิ่มเป็น 32 สาย

      นายชัชวาลย์ บุญเจริญกิจ อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) เปิดเผยว่า ถนนของกรมทางหลวงที่ต้องประสบภาวะน้ำท่วมจนถึงวันที่ 24 กันยายน เพิ่มเป็น 32 สายทาง (รวม 34 แห่ง) ในพื้นที่ 16 จังหวัด โดยรถสัญจรผ่านได้ 27 แห่ง และไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 7 แห่ง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัด ซึ่งต้องหลีกเลี่ยงไปไปใช้เส้นทางของกรมทางหลวงชนบท(ทช.) แทน เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางประกอบด้วย   จังหวัดอุทัยธานี  ทางหลวงหมายเลข 3319 บันไดสามขั้น - ทัพทัน ท้องที่อำเภอทัพทัน ช่วงกม.ที่ 17 - 18 ระดับน้ำสูง 70 เซนติเมตร  , ทางหลวงหมายเลข 3456 หนองกระดี่ - คลองข่อย ท้องที่อำเภอสว่างอารมณ์ ช่วงกม.ที่ 3 - 4 ระดับน้ำสูง 70 เซนติเมตรจังหวัดสุรินทร์ ทางหลวงหมายเลข 226 ลำน้ำชี - สุรินทร์ ท้องที่อำเภอเมืองสุรินทร์ ช่วงกม.ที่ 163 - 164 ระดับน้ำสูง  60 เซนติเมตร

    ทางหลวงหมายเลข 226 สำโรงทาบ - ห้วยทับทัน ท้องที่อำเภอสำโรงทาบ ช่วงกม.ที่ 232 - 234  ระดับน้ำขาเข้าสูง 50 เซนติเมตร จังหวัดบุรีรัมย์  ทางหลวงหมายเลข 224 หนองต้อ - ตาเมียง ท้องที่อำเภอโคกกวด ช่องน้ำชำรุด กม.ที่ 169 ให้ใช้ทาง อบต.แทน จังหวัดศรีสะเกษ  ทางหลวงหมายเลข 226 ห้วยทับทัน - ศรีสะเกษ ท้องที่อำเภอเมือง ช่วงกม.ที่ 268 - 269 ระดับน้ำสูง 45 เซนติเมตร , ทางหลวงหมายเลข 294 ทางเลี่ยงเมืองศรีสะเกษ ท้องที่อำเภอเมือง ช่วงกม.ที่ 1 - 2 ระดับน้ำสูง 35 เซนติเมตร

    ส่วนในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านยังคงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างหนัก โดยเฉพาะที่บริเวณสะพานท่าเรือ ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นจุดที่ลำห้วยสำราญไหลผ่าน ปรากฏว่า น้ำจากลำห้วยสำราญได้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านสูงกว่า 2 เมตร ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านที่อยู่ติดกับลำห้วยสำราญจมอยู่ใต้น้ำประมาณ 100 หลังคาเรือน ในจำนวนนี้มีบ้านเรือนของชาวบ้านถูกน้ำท่วมถึงหลังคาบ้านประมาณ 15 หลัง และมีรถยนต์ของชาวบ้านที่นำเอาออกมาไม่ทันจมใต้น้ำ 3 คัน ซึ่งกระแสน้ำได้ไหลเชี่ยวกรากทำให้รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ต้องใช้รถแทรกเตอร์บรรทุกชาวบ้านในการสัญจร ส่วนชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมบ้าน เกรงว่าทรัพย์สินจะถูกขโมยจึงลุยน้ำเข้าไปนำเอาทรัพย์สินขึ้นมาไว้ที่บ้านญาติพี่น้องที่ไปอาศัยอยู่เพื่อความปลอดภัย

"ปู"ย้ำเอาอยู่อีกรอบ

    น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดว่า จากที่เราได้บูรณาการการบริหารจัดการน้ำ จะชะลอน้ำไม่ให้มายังพื้นที่ปลายน้ำมากนัก     ส่วนพืนที่ที่น่าเป็นห่วงเช่น ที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ก็ลงไปในพื้นที่แล้ว โดยหลักการเบื้องต้น จะดูแลเรื่องการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำ เพื่อให้มีข้อตกลงในพื้นที่

    สำหรับนิคมอุสาหกรรม 3 แห่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ก็เป็นห่วง โดยเฉพาะที่นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนคร เนื่องจากสร้างเสร็จที่หลัง ส่วนที่อื่นน่าจะมีการเตรียมพร้อมแล้ว ทั้งนี้สถานการณ์ที่อยุธยา ยังอยู่ในสภาพที่ยังพอรับมือได้
            
ครม.ตั้งศูนย์กบอ.บูรณาการรับมือน้ำท่วม   

    นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมครม.เมื่อวานนี้ ว่า ครม.มีมติ ให้ กบอ.จัดตั้งศูนย์เตรียมความพร้อมเฉพาะกิจ รับสถานการณ์อุทกภัยปี56-57 ที่ทำเนียบรัฐบาล ตลอด 24ชั่วโมง และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งเจ้าหน้าที่มาประจำศูนย์ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงเกษตรฯ  เตรียมความพร้อม เฮลิคอปเตอร์ รวม 2 ลำ และเรือเร็ว เพื่อใช้ปฏิบัติงานได้ทันที
        

เพิ่งอนุมัติเงินพิเศษให้เกษตรกรถูกน้ำท่วมปี 54

    ร.ท.หญิงสุณิสา กล่าวด้วยว่า ครม. ยังมีมติอนุมัติเงินช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ปลูกพืชต้นทุนสูง ที่ประสบอุทกภัยปี 2554 เป็นกรณีพิเศษ จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ กทม.นนทบุรี  นครปฐม  ลพบุรี และพระนครศรีอยุธยา ให้แก่เกษตรกรจำนวน 227 ราย ภายในกรอบวงเงิน 57,146,917 บาท โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ส่วนของงบกลาง ในรายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ จำนวน 1,203,917 บาท และรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็น จำนวน 55,943,000 บาท
    

ฮอนด้าพร้อมรับน้ำท่วม

    นายสมภพ ปฏิภานธาดา ผู้จัดการส่วนงานการตลาด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมอย่างเต็มที่ และถ้าหากปริมาณน้ำมามากเท่ากับปี 2554 บริษัทยังเชื่อมั่นว่าสามารถรับมือได้อย่างแน่นอน ล่าสุดในส่วนของบรรดาผู้แทนจำหน่าย(ดีลเลอร์)รายต่างๆ ยังได้ออกไปให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยแล้ว
  “ปีนี้บริษัทเชื่อว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะไม่รุนแรง ขณะเดียวกันโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ที่กำลังสร้างอยู่ ณ จังหวัดปราจีนบุรีไม่ได้รับผลกระทบกับน้ำท่วม จึงจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดสายการผลิตได้ในปี 2558ตามแผน”

ระวัง 5 โรคมากับน้ำท่วม

    นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายจังหวัดได้รับผลกระทบและเกิดน้ำท่วมฉับพลัน จึงขอเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังป้องกันโรคที่มากับน้ำท่วม ดังนี้ 1.โรคทางเดินหายใจ  2.โรคทางเดินอาหาร   3.โรคฉี่หนู โรคน้ำกัดเท้า   4.โรคตาแดง   และ 5.โรคไข้เลือดออก
กำลังโหลดความคิดเห็น