xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” ขึงขังน้ำท่วมต้องเอาอยู่-พลาดอีกปีก็ทางใครทางมัน!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

เห็นอาการของนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ดูเอาจริงเอาจังลงมาติดตามสั่งการไล่บี้ถึงความคืบหน้ากับหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับแผนและมาตรการป้องกันน้ำท่วมในปีนี้ เรียกได้ว่าเป็นอาการ “ตื่น” ขึ้นมาอย่างผิดสังเกต

ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะนี่คืองานถนัด เป็นแบบงานอีเวนต์โชว์ลีลาไม่ต้องลงในรายละเอียดเรื่องยากๆ แค่ติดตามสอบถามว่าขุดลอกคูคลองนั้นคลองนี้เสร็จหรือยัง หรือทำไมยังไม่เสร็จ เช่น ทำไมปลูก “หญ้าแพรก” เอ้ย “หญ้าแฝก” ถึงยังไม่คืบหน้า เหมือนอย่างที่ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติโดนไล่บี้โชว์กลางที่ประชุมมาแล้ว

อย่างไรก็ดี อีกด้านหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าเรื่องน้ำท่วมนี่มันตึงเครียดจริงๆ หากมองย้อนกลับไปพิจารณาภาพเหตุการณ์เมื่อปลายปีที่แล้ว และหากในปีนี้เกิดท่วมซ้ำรอยขึ้นมาอีกรับรองว่า “ยิ่งลักษณ์ จะต้องกลายเป็นยิ่งเละ” จริงๆ แน่นอน เพราะถือว่าที่ผ่านมามีเวลาเตรียมตัว มีงบประมาณในการดำเนินการป้องกันจำนวนมาก ถึงขนาดเร่งรีบออกเป็นพระราชกำหนดเล่นกันแบบสถานการณ์ฉุกเฉินถึง 4 ฉบับ หากยังทำงานกันแบบเอ้อระเหยไปวันๆ ก็ลองหลับตานึกภาพก็แล้วกันว่าถ้าผลยังออกมาเหมือนเดิมมันจะขนาดไหน

ที่สำคัญเที่ยวนี้จะไปโทษอำมาตย์ว่ากลั่นแกล้งอีกมันก็ดูกระไรอยู่

สำหรับนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ก็ต้องเข้าใจว่ามีความ “ร้อนใจ” จริงๆ จึงได้แสดงออกมาแบบเคร่งเครียด เพราะคราวนี้ถือว่ามี “เดิมพันสูง” จากปัญหาน้ำท่วม และอีกเรื่องก็คือปัญหา “ปากท้อง” ของประชาชนนี่แหละที่เป็นจุดชี้ขาดของรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาเกือบปีแล้วยังไม่น่าพอใจเข้าขั้นห่วยแตก ความศรัทธาที่ชาวบ้านเคยมีให้กับพรรคเพื่อไทยเริ่มถดถอยลง ไม่หวือหวาร้อนแรงเหมือนเดิม

ขณะเดียวกัน สิ่งที่ยังเหลืออีกเรื่องที่ยังต้องลุ้นกันต่อก็คือเรื่องมาตรการรับมือน้ำท่วมนี่แหละว่าจะทำได้ดีแค่ไหน แม้ว่าเรื่องภัยธรรมชาติเป็นเรื่องที่รับมือลำบาก คาดเดายาก แต่การบริหารจัดการให้ปัญหาบรรเทาลงมามันย่อมทำได้ แต่หากพิจารณาจากการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยช่วงที่ผ่านมาถือว่าล้มเหลว ใช้การไม่ได้เลย วัดจากการแสดงออกของชาวบ้านที่ออกมาส่งเสียงโวยวาย มีการปิดถนนประท้วงกันแทบจะรายวัน

สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของหน่วยงานภาครัฐได้อย่างชัดเจน และที่สำคัญเป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงความไม่เอาไหนของรัฐบาล ตั้งแต่ผู้นำสูงสุดคือ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ลงมาจนถึงรัฐมนตรีก่อนหน้านี้อ้างว่ามีการบูรณาการ แบ่งกันบริหารรับผิดชอบเป็นโซนๆ ไม่ให้ตกหล่น แต่นั่นก็เป็นแค่ภาพการตลาดที่แสดงโชว์ ขณะที่ผลออกมาในทางตรงกันข้าม

ประกอบกับมีการพยากรณ์สภาพภูมิอากาศจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศออกมาย้ำเตือนว่าในปีนี้ทวีปเอเชียและไทยจะต้องเจอพายุในจำนวนที่มากกว่าหรือไม่น้อยกว่าปีที่แล้ว และที่ผ่านมาทางกรมอุตุนิยมวิทยาก็รายงานปริมาณน้ำฝนสะสมมีมากกว่าปีที่แล้วเมื่อเปรียบเทียบระยะเดียวกัน

มันก็ช่วยไม่ได้ที่ทำให้นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์เกิดอาการเครียดจนต้องไล่บี้สอบถามความคืบหน้าในมาตรการรับมือน้ำท่วมทั้งในพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำกันเป็นรายสัปดาห์และล่าสุดต้องลงมาลุยเอง

เพราะที่ผ่านมาอุตส่าห์ลงไปดูพื้นที่แบบทัวร์นกขมิ้นแบบค่ำไหนนอนนั่น เรียกเสียงกรี๊ดจากมวลชนตลอดเส้นทาง แต่เอาเข้าจริงเมื่อฝนฟ้ากำลังมาในช่วงเดือนกรกฎาคมต่อเนื่องไปจนถึงเดือนสิงหาคม การขุดลองคูคลอง การหาพื้นที่รับน้ำก็ยังไม่เสร็จตามเป้าหมาย บางนิคมอุตสาหกรรมที่เคยถูกน้ำท่วมก็ยังไม่พร้อม ขณะที่บางนิคมก็ใช้วิธีลงขันกันเองสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วม แต่ก็หวั่นเกรงอีกว่าเขื่อนดังกล่าวจะเป็นการขวางทางน้ำให้เบี่ยงเบนไปทางชุมชนบ้านเรือนของราษฎรไปเสียอีก

สรุปก็คือเท่าที่เห็นมาตรการในการรับมือกับปัญหาน้ำท่วมในทางปฏิบัติยังไม่ได้สร้างความมั่นใจให้กับบรรดานักลงทุน และที่ผ่านมาก็มีการสะท้อนผ่านผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการน้ำมาแล้วหลายคน

สิ่งที่สะท้อนออกมาให้เห็นความจริงถึงความไม่เอาไหนได้ดีที่สุดก็คือปรากฏการณ์ประท้วงของชาวบ้านที่จนถึงขณะนี้ก็ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่กำลังเข้าสู่ภาวะเสี่ยงน้ำท่วมในปีใหม่กันแล้ว

สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าเอาเข้าจริงรัฐบาลก็ยังไม่พร้อมสำหรับการรับมือปัญหาน้ำท่วมรอบใหม่ ทั้งที่มีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้าเป็นปี ทำให้นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ต้องตาลีตาเหลือกลงมาชี้นิ้วเร่งรัดสั่งการ เพราะถ้าพลาดอีกครั้งรับรองโดนเฉ่งเละแน่ ซึ่งก็รับรู้กันอยู่แล้วว่าพื้นที่ประสบภัยซ้ำซากล้วนแล้วแต่เป็นพื้นที่ของมวลชนสนับสนุนของรัฐบาลแทบทั้งสิ้น และที่ผ่านมายังจ่ายเงินกันไม่เสร็จ ไม่เป็นธรรม รายชื่อตกหล่น ถ้าเกิดเหตุซ้ำอีก ยังนึกภาพไม่ออกว่าจะหาทางออกแบบไหน และความเดือดร้อนแบบนี้แหละบางทีเป็นเรื่องเฉพาะหน้าชี้เป็นชี้ตายมากกว่าเรื่องอื่น เพราะมันเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ เรื่องปากท้องต้องมาก่อน!!
กำลังโหลดความคิดเห็น