ASTVผู้จัดการรายวัน - แฉ”ปลอดประสพ” พลิกลิ้น เขื่อนแม่วงก์ โยนบาป “ปราโมทย์” ทั้งที่ตัวเองเคยหนุนสมัยคุมกรมป่าไม้ หนีไม่ร่วมดีเบตนักวิชาการ "นก ฉัตรชัย" สาปส่งพวกทำลายผืนป่า ระวังนรกจะมาเยือน เผยวิชามารระดมคนเอาเขื่อนแม่วงก์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีการออกมาคัดค้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์อย่างสันติ ด้วยวิธีการเดินเท้า ที่นำโดย นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิ สืบ นาคะเสถียร โดยเฉพาะในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ขบวนได้เดินทางเข้ามาถึงกรุงเทพมหานครฯ ซึ่งได้มีประชาชนจำนวนมากไปเข้าร่วม รวมไปถึงเหล่าคนบันเทิง ทั้งที่ออกมาร่วมประท้วงไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ กันเป็นจำนวนมาก
แฉ”ปลอดประสพ” กลับคำ
ขณะที่ในโลกโซเชียลมีเดีย มีการแฉคำพูดของนายปลอดประสพ สุรัสวดี สมัยที่เป็นอธิบดีกรมป่าไม้ ที่เป็นผู้หนึ่งที่ออกมาคัดค้านการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์อย่างเด็ดเดี่ยว ผิดกับในยุคนี้ ที่เป็นรองนายกรัฐมนตรี แต่กลับเป็นผู้ที่พยายามจะให้มีการสร้างเขื่อนแม่วงก์อย่างแข็งขัน โดยไม่ฟังเสียงคำคัดค้าน ล่าสุดออกมาโยนความผิดในการสร้างเขื่อนนี้ให้กับนายปราโมทย์ ไม้กลัด
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.)กล่าวถึงกรณี นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน ออกมาระบุว่า การสร้างเขื่อนแม่วงก์ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในภาพรวมได้ ว่า ขอเวลา 1 วัน จะไปเอาจดหมายสมัยที่นายปราโมทย์ เป็นอธิบดีกรมชลประทาน ทำถึงอธิบดีกรมป่าไม้ ที่ชื่อนายปลอดประสพ สุรัสวดี เกี่ยวกับการสร้างเขื่อนแม่วงก์ มาให้ดู เนื่องจากเรื่องนี้กรมชลประทาน เป็นคนตั้งงบประมาณ เป็นคนออกแบบ ไม่ใช่ตน มีการทำกันมาเกือบ 20 ปีแล้ว
อย่างไรก็ตาม จุดยืนของตนในการบริหารประเทศคือ เอาคนส่วนใหญ่ และความเดือดร้อนของคนในพื้นที่เป็นหลัก จะเห็นว่าเวลาไม่มีเขื่อนที่ต้นน้ำ ทำให้ไม่สามารถคุมน้ำได้ เรื่องความเห็น และคำแนะนำต่างๆ ก็พร้อมรับฟัง จะพัฒนาปรับปรุงรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) อย่างไรก็ว่ามาเลย ไม่ขัดข้อง แต่ไม่ใช่มาบอกว่า ไม่ให้สร้าง
“อยู่ๆ มาบริภาษผม หาว่าผมพูดไปได้อย่างไรว่า ปลูกป่าทดแทนได้ อย่างนั้นผมจะทวงว่า รู้จักชื่อโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติหรือไม่ ที่ทำกันมา 7-8 ปี มูลนิธีสืบ นาคะเสถียร ก็มาร่วมปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติด้วย แต่มาวันนี้ท่านไม่พอใจ กลับขึ้นมาบอกว่า ปลูกไม่ได้แล้ว ทั้งๆ ที่ท่านร่วมเขียนโครงการนี้ขึ้นมา เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ทำประสบผลสำเร็จกันมาจนทุกวันนี้ เมื่อเป็นอย่างนี้ก็เหนื่อย”นายปลอดประสพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะขึ้นไปดีเบตกับนักวิชาการที่ออกมาคัดค้าน ปลอดประสพ กล่าวว่า ในการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เราใช้มหาวิทยาลัยหลายแห่ง ดังนั้นปล่อยให้คณะดังกล่าวคุยกัน ตนคงไม่ต้องไปคุย และด่านที่สอง จะต้องมีการทำ อีไอเอ และ อีเอชไอเอ อีกครั้ง อย่าลืมว่าที่ทำแล้วค้านกันอยู่ทุกวันนี้ เป็นการศึกษาของกรมชลประทาน ที่มีนายปราโมทย์ ไม้กลัด เป็นอธิบดีในขณะนั้น เป็นคนเขียนโครงการขึ้นมา เขาเอาโครงการของนายปราโมทย์ ที่เน้นเรื่องชลประทานมาวิเคราะห์ โดย กบอ. ทำแผนตามมา ในที่ใกล้เคียงกัน แต่เน้นเรื่องการระบายน้ำ ที่มีการค้านกัน ไม่ใช่เงินของกบอ.เลย แต่กรมชลประทาน เป็นคนจ้างเอง ดังนั้นกลุ่มที่ออกมาคัดค้าน ค้านผิดคน เพราะควรจะต้องค้าน นายปราโมทย์
"นก ฉัตรชัย" สาปส่งพวกทำลายผืนป่า
ล่าสุด เมื่อเช้าวานนี้ (24ก.ย. ) นักแสดงรุ่นใหญ่ "นก-ฉัตรชัย เปล่งพานิช" ก็ได้แสดงความเห็นผ่านอินสตาแกรมของตนเอง เกี่ยวกับเรื่องของธรรมชาติ ด้วยข้อความที่ค่อนข้างจะรุนแรง โดยต่อว่าไปยังพวกที่จ้องจะทำลายป่าไม้ จ้องทำร้ายธรรมชาติว่า ระวังนรกจะมาเยือนเข้าสักวัน
"ถ้ามึงจะทำร้ายผืนป่า ทำร้ายธรรมชาติ ทำร้ายบ้านเกิดเมืองนอนอยู่อย่างนี้ สัตว์นรกจะมารอรับมึงแน่ แต่มึงคงไม่ตกใจ เพราะมึงเห็นในกระจกทุกวัน คิดทำสิ่งสร้างสรรค์บ้างได้มั้ย" ซึ่งปรากฏว่าได้มีคนเข้ามาร่วมแสดงความเห็นกันมากมาย
วิชามารระดมคนเอาเขื่อนแม่วงศ์
แหล่งข่าวจาก นครสวรรค์ รายงานว่า นอกจาก นายก อบต.สระแก้วจะออกหนังสือราชการสั่งให้ อ.บต.ในเขต นครสวรรค์ พาชาวบ้านมาชุมนุมเรียกร้องเอาเขื่อนแล้ว จังหวัดยังมีคำสั่งลับ ให้ กำนัน ผญ.ใน นครสวรรค์ทั้งหมด พาชาวบ้านมา หมู่บ้านละ 10 คน เพื่อมาชุมนุมสนับสนุนการสร้างเขื่อนแม่วงก์
อีกด้านหยุดโครงการสร้างเขื่อนแม่วงก์ ผู้ใช้ชื่อว่า Smith Tungkasmit ได้ทำแคมเปญรณรงค์โดยผ่านเวปไซด์ www.change.org เรื่อง การสร้างเขื่อนแม่วงก์ไม่ได้เป็นประโยชน์ในการป้องกันน้ำท่วม อีกทั้งยังไม่สามารถเก็บน้ำได้เพียงพอกับพื้นที่เกษตรกรรม ที่สำคัญคือ เขื่อนแม่วงก์จะสร้างในเขตอุทยานแห่งชาติที่สมบูรณ์ที่สุดในเมืองไทยคือผืนป่าตะวันตก โครงการนี้ยังไม่ผ่านการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ แต่คณะรัฐมนตรีมีมติให้เดินหน้าโครงการ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญทั้งนี้ มีผู็เห็นด้วยโดยเข้ามาลงชื่อถึง 20,000 ลายเซ็นแล้ว
พนง.-ลูกจ้างสวนสัตว์ยกป้ายค้านเขื่อนแม่วงก์
นายวิมุติ ชมพานนท์ นักวิทยาศาสตร์สวนสัตว์ 3 ตัวแทนกลุ่มพนักงานและลูกจ้างสวนสัตว์เชียงใหม่ที่เคลื่อนไหวคัดค้านการโอนย้ายสวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวว่า การที่กลุ่มพนักงานและลูกจ้างจัดทำแผ่นป้ายคัดค้านโครงการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ขึ้นนั้น เนื่องจากเห็นว่าพื้นที่ที่จะใช้ก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์เป็นบริเวณที่สภาพแวดล้อมยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะการพบเสือในพื้นที่ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ประกอบกับหน้าที่หนึ่งของสวนสัตว์เชียงใหม่คือการวิจัย อนุรักษ์ และขยายพันธุ์สัตว์ป่าหายากต่างๆ แต่หากพื้นที่ป่าลดลงก็จะส่งผลกระทบต่อภารกิจดังกล่าวไปด้วย
สำหรับท่าทีของคณะกรรมการและผู้บริหารองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ระบุว่าพร้อมจะดำเนินการหากเป็นนโยบายของรัฐบาล นายวิมุติเปิดเผยว่า กลุ่มพนักงานและลูกจ้างที่ไม่เห็นด้วยกับการโอนย้ายสวนสัตว์เชียงใหม่ได้เตรียมที่จะเคลื่อนไหวโดยไม่รอดูท่าทีของผู้บริหารแล้ว
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาทางกลุ่มได้มีการพบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเครือข่ายอื่นๆ ที่มีความสนใจในแนวทางเดียวกัน เช่นกลุ่มนักอนุรักษ์หรือกลุ่มแรงงาน โดยล่าสุดได้มีการสมัครเป็นสมาชิกของสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) เพื่อเพิ่มช่องทางในการประสานกับเครือข่ายแรงงานจากองค์กรอื่นๆ
ทั้งนี้ นายวิมุติระบุว่า การออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการโอนย้ายสวนสัตว์เชียงใหม่ของกลุ่มพนักงานและลูกจ้างไม่ใช่การเคลื่อนไหวในเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวอย่างรายได้หรือสวัสดิการเป็นหลักอย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจ แต่เป็นการแสดงความไม่เห็นด้วยที่จะมีการเข้ามาควบคุมองค์กรที่พนักงานและลูกจ้างสังกัดและมีความภูมิใจในการปฏิบัติงาน เพราะหากปล่อยให้มีการเข้ามาควบคุมและแยกองค์การสวนสัตว์ออกเป็นส่วนๆ เกรงว่าในอนาคตจะนำไปสู่การเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์โดยไม่ได้คำนึงถึงหน้าที่และภารกิจในด้านอื่นๆ ที่องค์การสวนสัตว์มีต่อสังคม
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้กลุ่มผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการโอนย้ายสวนสัตว์เชียงใหม่มีความวิตกกังวลว่า การโอนย้ายสวนสัตว์เชียงใหม่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความพยายามที่จะเชื่อมโยงไปสู่การใช้พื้นที่ทั้งของสวนสัตว์เชียงใหม่ และอุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย เพื่อดำเนินโครงการด้านการท่องเที่ยวต่างๆ ที่เคยมีแนวคิดมาตั้งแต่สมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เช่น สวนสนุกธีมปาร์ก กระเช้าลอยฟ้า ซึ่งมุ่งที่จะเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวบริเวณดอยสุเทพทั้งหมดเข้าด้วยกัน เป็นต้น
แหล่งข่าวระบุว่า ขณะนี้มีความพยายามที่จะหาแนวทางในการเข้าใช้พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย ซึ่งหากสามารถดำเนินการได้แล้วเกรงว่าในอนาคตพื้นที่ของสวนสัตว์เชียงใหม่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะถูกนำมาปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการท่องเที่ยว หรือใช้เป็นจุดผ่านเพื่อเชื่อมต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ
“วรรณสิงห์”หลงประเด็น
ขณะที่ นายวรรณสิงห์ ประเสริฐกุล ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คตัวเองโดยมีเนื้อความส่วนหนึ่งว่า “อยากเห็นการเคลื่อนไหวครั้งนี้ไปถึงจุดหมายปลายทาง จึงอยากขอเสนอแนะทุกคนว่า หากจะ post เรื่องเขื่อนนี้ อย่าเน้นการวิจารณ์ ด่าว่า นักการเมืองคนไหน หรือรัฐบาลเป็นพิเศษ อยากให้เน้นเรื่องประเด็นอนุรักษ์เป็นหลัก ชี้ให้เห็นความสำคัญของป่าเป็นหลัก
ไม่เช่นนั้นแล้ว นอกจากพลังในการรณรงค์จะลดลงแล้ว ความหวังที่จะรวมคนทุกๆฝ่าย เข้ามาภายใต้ร่มไม้เดียวกัน สู้เพื่อสิ่งเดียวกัน อาจจะหลุดลอยไปจากพวกเราอีกครั้งก็ได้แม้การรวมตัวในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จะเป็นภาพที่น่าประทับใจ และเป็นการจบบทที่หนึ่งที่สวยงามแต่ตอนนี้บทที่สองกำลังจะเริ่ม และหนทางยังอีกยาวไกลนัก”
อย่างไรก็ตาม การที่นายวรรณสิงห์อ้างว่าอย่าเอาเรื่องการสร้างเขื่อนแม่วงก์นี้โยงใยกับนักการเมือหรือเป็นเรื่องการเมืองนั้น ถือเป็นการมองที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากว่า เรื่องการสร้างเขื่อนแม่วงก์นี้เกี่ยวกับการเมืองโดยตรง เพราะถือเป็นโครงการหนึ่งที่อยู่ในการกู้เงินของรัฐบาลจำนว น 3.5 แสนล้านบาทนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีการออกมาคัดค้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์อย่างสันติ ด้วยวิธีการเดินเท้า ที่นำโดย นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิ สืบ นาคะเสถียร โดยเฉพาะในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่ขบวนได้เดินทางเข้ามาถึงกรุงเทพมหานครฯ ซึ่งได้มีประชาชนจำนวนมากไปเข้าร่วม รวมไปถึงเหล่าคนบันเทิง ทั้งที่ออกมาร่วมประท้วงไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ กันเป็นจำนวนมาก
แฉ”ปลอดประสพ” กลับคำ
ขณะที่ในโลกโซเชียลมีเดีย มีการแฉคำพูดของนายปลอดประสพ สุรัสวดี สมัยที่เป็นอธิบดีกรมป่าไม้ ที่เป็นผู้หนึ่งที่ออกมาคัดค้านการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์อย่างเด็ดเดี่ยว ผิดกับในยุคนี้ ที่เป็นรองนายกรัฐมนตรี แต่กลับเป็นผู้ที่พยายามจะให้มีการสร้างเขื่อนแม่วงก์อย่างแข็งขัน โดยไม่ฟังเสียงคำคัดค้าน ล่าสุดออกมาโยนความผิดในการสร้างเขื่อนนี้ให้กับนายปราโมทย์ ไม้กลัด
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.)กล่าวถึงกรณี นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน ออกมาระบุว่า การสร้างเขื่อนแม่วงก์ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในภาพรวมได้ ว่า ขอเวลา 1 วัน จะไปเอาจดหมายสมัยที่นายปราโมทย์ เป็นอธิบดีกรมชลประทาน ทำถึงอธิบดีกรมป่าไม้ ที่ชื่อนายปลอดประสพ สุรัสวดี เกี่ยวกับการสร้างเขื่อนแม่วงก์ มาให้ดู เนื่องจากเรื่องนี้กรมชลประทาน เป็นคนตั้งงบประมาณ เป็นคนออกแบบ ไม่ใช่ตน มีการทำกันมาเกือบ 20 ปีแล้ว
อย่างไรก็ตาม จุดยืนของตนในการบริหารประเทศคือ เอาคนส่วนใหญ่ และความเดือดร้อนของคนในพื้นที่เป็นหลัก จะเห็นว่าเวลาไม่มีเขื่อนที่ต้นน้ำ ทำให้ไม่สามารถคุมน้ำได้ เรื่องความเห็น และคำแนะนำต่างๆ ก็พร้อมรับฟัง จะพัฒนาปรับปรุงรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) อย่างไรก็ว่ามาเลย ไม่ขัดข้อง แต่ไม่ใช่มาบอกว่า ไม่ให้สร้าง
“อยู่ๆ มาบริภาษผม หาว่าผมพูดไปได้อย่างไรว่า ปลูกป่าทดแทนได้ อย่างนั้นผมจะทวงว่า รู้จักชื่อโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติหรือไม่ ที่ทำกันมา 7-8 ปี มูลนิธีสืบ นาคะเสถียร ก็มาร่วมปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติด้วย แต่มาวันนี้ท่านไม่พอใจ กลับขึ้นมาบอกว่า ปลูกไม่ได้แล้ว ทั้งๆ ที่ท่านร่วมเขียนโครงการนี้ขึ้นมา เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ทำประสบผลสำเร็จกันมาจนทุกวันนี้ เมื่อเป็นอย่างนี้ก็เหนื่อย”นายปลอดประสพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะขึ้นไปดีเบตกับนักวิชาการที่ออกมาคัดค้าน ปลอดประสพ กล่าวว่า ในการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เราใช้มหาวิทยาลัยหลายแห่ง ดังนั้นปล่อยให้คณะดังกล่าวคุยกัน ตนคงไม่ต้องไปคุย และด่านที่สอง จะต้องมีการทำ อีไอเอ และ อีเอชไอเอ อีกครั้ง อย่าลืมว่าที่ทำแล้วค้านกันอยู่ทุกวันนี้ เป็นการศึกษาของกรมชลประทาน ที่มีนายปราโมทย์ ไม้กลัด เป็นอธิบดีในขณะนั้น เป็นคนเขียนโครงการขึ้นมา เขาเอาโครงการของนายปราโมทย์ ที่เน้นเรื่องชลประทานมาวิเคราะห์ โดย กบอ. ทำแผนตามมา ในที่ใกล้เคียงกัน แต่เน้นเรื่องการระบายน้ำ ที่มีการค้านกัน ไม่ใช่เงินของกบอ.เลย แต่กรมชลประทาน เป็นคนจ้างเอง ดังนั้นกลุ่มที่ออกมาคัดค้าน ค้านผิดคน เพราะควรจะต้องค้าน นายปราโมทย์
"นก ฉัตรชัย" สาปส่งพวกทำลายผืนป่า
ล่าสุด เมื่อเช้าวานนี้ (24ก.ย. ) นักแสดงรุ่นใหญ่ "นก-ฉัตรชัย เปล่งพานิช" ก็ได้แสดงความเห็นผ่านอินสตาแกรมของตนเอง เกี่ยวกับเรื่องของธรรมชาติ ด้วยข้อความที่ค่อนข้างจะรุนแรง โดยต่อว่าไปยังพวกที่จ้องจะทำลายป่าไม้ จ้องทำร้ายธรรมชาติว่า ระวังนรกจะมาเยือนเข้าสักวัน
"ถ้ามึงจะทำร้ายผืนป่า ทำร้ายธรรมชาติ ทำร้ายบ้านเกิดเมืองนอนอยู่อย่างนี้ สัตว์นรกจะมารอรับมึงแน่ แต่มึงคงไม่ตกใจ เพราะมึงเห็นในกระจกทุกวัน คิดทำสิ่งสร้างสรรค์บ้างได้มั้ย" ซึ่งปรากฏว่าได้มีคนเข้ามาร่วมแสดงความเห็นกันมากมาย
วิชามารระดมคนเอาเขื่อนแม่วงศ์
แหล่งข่าวจาก นครสวรรค์ รายงานว่า นอกจาก นายก อบต.สระแก้วจะออกหนังสือราชการสั่งให้ อ.บต.ในเขต นครสวรรค์ พาชาวบ้านมาชุมนุมเรียกร้องเอาเขื่อนแล้ว จังหวัดยังมีคำสั่งลับ ให้ กำนัน ผญ.ใน นครสวรรค์ทั้งหมด พาชาวบ้านมา หมู่บ้านละ 10 คน เพื่อมาชุมนุมสนับสนุนการสร้างเขื่อนแม่วงก์
อีกด้านหยุดโครงการสร้างเขื่อนแม่วงก์ ผู้ใช้ชื่อว่า Smith Tungkasmit ได้ทำแคมเปญรณรงค์โดยผ่านเวปไซด์ www.change.org เรื่อง การสร้างเขื่อนแม่วงก์ไม่ได้เป็นประโยชน์ในการป้องกันน้ำท่วม อีกทั้งยังไม่สามารถเก็บน้ำได้เพียงพอกับพื้นที่เกษตรกรรม ที่สำคัญคือ เขื่อนแม่วงก์จะสร้างในเขตอุทยานแห่งชาติที่สมบูรณ์ที่สุดในเมืองไทยคือผืนป่าตะวันตก โครงการนี้ยังไม่ผ่านการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ แต่คณะรัฐมนตรีมีมติให้เดินหน้าโครงการ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญทั้งนี้ มีผู็เห็นด้วยโดยเข้ามาลงชื่อถึง 20,000 ลายเซ็นแล้ว
พนง.-ลูกจ้างสวนสัตว์ยกป้ายค้านเขื่อนแม่วงก์
นายวิมุติ ชมพานนท์ นักวิทยาศาสตร์สวนสัตว์ 3 ตัวแทนกลุ่มพนักงานและลูกจ้างสวนสัตว์เชียงใหม่ที่เคลื่อนไหวคัดค้านการโอนย้ายสวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวว่า การที่กลุ่มพนักงานและลูกจ้างจัดทำแผ่นป้ายคัดค้านโครงการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ขึ้นนั้น เนื่องจากเห็นว่าพื้นที่ที่จะใช้ก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์เป็นบริเวณที่สภาพแวดล้อมยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะการพบเสือในพื้นที่ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ประกอบกับหน้าที่หนึ่งของสวนสัตว์เชียงใหม่คือการวิจัย อนุรักษ์ และขยายพันธุ์สัตว์ป่าหายากต่างๆ แต่หากพื้นที่ป่าลดลงก็จะส่งผลกระทบต่อภารกิจดังกล่าวไปด้วย
สำหรับท่าทีของคณะกรรมการและผู้บริหารองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ระบุว่าพร้อมจะดำเนินการหากเป็นนโยบายของรัฐบาล นายวิมุติเปิดเผยว่า กลุ่มพนักงานและลูกจ้างที่ไม่เห็นด้วยกับการโอนย้ายสวนสัตว์เชียงใหม่ได้เตรียมที่จะเคลื่อนไหวโดยไม่รอดูท่าทีของผู้บริหารแล้ว
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาทางกลุ่มได้มีการพบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเครือข่ายอื่นๆ ที่มีความสนใจในแนวทางเดียวกัน เช่นกลุ่มนักอนุรักษ์หรือกลุ่มแรงงาน โดยล่าสุดได้มีการสมัครเป็นสมาชิกของสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) เพื่อเพิ่มช่องทางในการประสานกับเครือข่ายแรงงานจากองค์กรอื่นๆ
ทั้งนี้ นายวิมุติระบุว่า การออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการโอนย้ายสวนสัตว์เชียงใหม่ของกลุ่มพนักงานและลูกจ้างไม่ใช่การเคลื่อนไหวในเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวอย่างรายได้หรือสวัสดิการเป็นหลักอย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจ แต่เป็นการแสดงความไม่เห็นด้วยที่จะมีการเข้ามาควบคุมองค์กรที่พนักงานและลูกจ้างสังกัดและมีความภูมิใจในการปฏิบัติงาน เพราะหากปล่อยให้มีการเข้ามาควบคุมและแยกองค์การสวนสัตว์ออกเป็นส่วนๆ เกรงว่าในอนาคตจะนำไปสู่การเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์โดยไม่ได้คำนึงถึงหน้าที่และภารกิจในด้านอื่นๆ ที่องค์การสวนสัตว์มีต่อสังคม
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้กลุ่มผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการโอนย้ายสวนสัตว์เชียงใหม่มีความวิตกกังวลว่า การโอนย้ายสวนสัตว์เชียงใหม่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความพยายามที่จะเชื่อมโยงไปสู่การใช้พื้นที่ทั้งของสวนสัตว์เชียงใหม่ และอุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย เพื่อดำเนินโครงการด้านการท่องเที่ยวต่างๆ ที่เคยมีแนวคิดมาตั้งแต่สมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เช่น สวนสนุกธีมปาร์ก กระเช้าลอยฟ้า ซึ่งมุ่งที่จะเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวบริเวณดอยสุเทพทั้งหมดเข้าด้วยกัน เป็นต้น
แหล่งข่าวระบุว่า ขณะนี้มีความพยายามที่จะหาแนวทางในการเข้าใช้พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย ซึ่งหากสามารถดำเนินการได้แล้วเกรงว่าในอนาคตพื้นที่ของสวนสัตว์เชียงใหม่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะถูกนำมาปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการท่องเที่ยว หรือใช้เป็นจุดผ่านเพื่อเชื่อมต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ
“วรรณสิงห์”หลงประเด็น
ขณะที่ นายวรรณสิงห์ ประเสริฐกุล ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คตัวเองโดยมีเนื้อความส่วนหนึ่งว่า “อยากเห็นการเคลื่อนไหวครั้งนี้ไปถึงจุดหมายปลายทาง จึงอยากขอเสนอแนะทุกคนว่า หากจะ post เรื่องเขื่อนนี้ อย่าเน้นการวิจารณ์ ด่าว่า นักการเมืองคนไหน หรือรัฐบาลเป็นพิเศษ อยากให้เน้นเรื่องประเด็นอนุรักษ์เป็นหลัก ชี้ให้เห็นความสำคัญของป่าเป็นหลัก
ไม่เช่นนั้นแล้ว นอกจากพลังในการรณรงค์จะลดลงแล้ว ความหวังที่จะรวมคนทุกๆฝ่าย เข้ามาภายใต้ร่มไม้เดียวกัน สู้เพื่อสิ่งเดียวกัน อาจจะหลุดลอยไปจากพวกเราอีกครั้งก็ได้แม้การรวมตัวในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จะเป็นภาพที่น่าประทับใจ และเป็นการจบบทที่หนึ่งที่สวยงามแต่ตอนนี้บทที่สองกำลังจะเริ่ม และหนทางยังอีกยาวไกลนัก”
อย่างไรก็ตาม การที่นายวรรณสิงห์อ้างว่าอย่าเอาเรื่องการสร้างเขื่อนแม่วงก์นี้โยงใยกับนักการเมือหรือเป็นเรื่องการเมืองนั้น ถือเป็นการมองที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากว่า เรื่องการสร้างเขื่อนแม่วงก์นี้เกี่ยวกับการเมืองโดยตรง เพราะถือเป็นโครงการหนึ่งที่อยู่ในการกู้เงินของรัฐบาลจำนว น 3.5 แสนล้านบาทนี้ด้วย
