xs
xsm
sm
md
lg

"อีโง่"ลามถึงสนามบิน สวนพวกต้านปู “บ้องตื้น”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(15 ด.ย.56) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวสรุปถึงการเดินทางเยือนสาธารณรัฐมอนเตเนโกร อย่างเป็นทางการว่า ประเทศไทยมองว่ามอนเตเนโกร มีศักยภาพเพราะอยู่ในทวีปยุโรป และกำลังเตรียมเข้าสู่ การเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ถือเป็นประตูเข้าสู่ประเทศในคาบสมุทรบอลข่าน มอนเตเนโกร ถือเป็นประเทศใหม่ ที่มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีแผนที่จะขยายสนามบินและท่าเรือ เพื่อรองรับการลงทุน การค้าและการท่องเที่ยว ซึ่งยังต้องการนักลงทุนไทย ที่จะให้ความสำคัญเข้ามาลงทุน โดยทั้งไทยและมอนเตเนโกร เห็นโอกาสตรงกัน ในการลงทุนซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะการเป็นตลาดนำเข้าสินค้า เพื่อให้เกิดความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม จึงเห็นตรงกันให้มีการเชื่อมโยงท่าเรือระหว่างกัน ซึ่งจะเป็นการเชื่อมโยงระหว่างไทยและยุโรป
ทั้งนี้ มอนเตเนโกร ถือเป็นโอกาสของ SME ไทย ที่จะเข้ามาเปิดตลาดใหม่ โดยเฉพาะสินค้าท้องถิ่นของไทย ที่สำคัญคือการลงทุน ในผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยว ซึ่งจะมีโอกาสที่นักลงทุนไทย เข้ามาลงทุนสร้างโรงแรม สำหรับการลงนามที่เกิดขึ้นในการเยือนครั้งนี้ มีการลงนาม 2 ฉบับ คือการลงนามความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน และความร่วมมือในการยกเว้นการตกลงการตรวจลงตราสำหรับนักการทูต และยังมีการขอสนับสนุบสนุนการเป็นสมาชิกสมัชชาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังน.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวบริเวณด้านหน้าห้องรับรองพิศษ (วีไอพี) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเสร็จสิ้น และกำลังจะขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับบ้านพักซอยโยธินพัฒนา 3 ปรากฏว่าได้มีกลุ่มหน้ากากขาวประมาณ 20 คน ที่แฝงตัวเข้ามากับเจ้าหน้าที่และคณะที่มารอรับได้ตะโกนพร้อมชูป้ายล้อเลียน เสียดสีการเดินทางไปต่างประเทศของนายกฯ ท่ามกลางความตกใจของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของการท่าอากาศยาน โดยหน้ากากขาวได้ตะโกนว่า “นายกฯยิ่งลักษณ์คนสวย” “พวกเรามาต้อนรับนายกฯกลับบ้าน” ขณะที่ป้ายทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษกลับโจมตีการเดินทางไปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี อาทิ “ท่านไปอิตาลี ผลาญภาษีประชาชน คงมีความสุข์” “วอนช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ กท้องอย่างจริงจัง!! “ไปมอนเตรเนโกร ได้อะไร...เพื่อใคร?” We don’t want stupid puppet torun the country เป็นต้น โดยกลุ่มหน้ากากขาวได้ทำกิจกรรมประมาณ 5 นาที จากนั้นได้แยกย้ายเดินทางกลับ โดยไม่มีเหตุรุนแรงแต่อย่างใด
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว Noppadon Pattama แสดงความคิดเห็นกรณีกลุ่มหน้ากากขาวเดินทางไปประท้วงการเดินทางไปเยือนต่างประเทศของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีรายละเอียดดังนี้
"วันนี้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ กลุ่มหน้ากากขาวไปประท้วงการเดินทางไปต่างประเทศของท่านนายกฯ อ้างว่าเปลืองงบประมาณ ความจริงผมพูดเรื่องนี้ไปหลายครั้งว่า เป็นการโจมตีที่บ้องตื้นในความคิดจนยากที่จะเข้าใจ ทั้งๆที่ควรหาข้อมูลว่าท่านนายกไปทำอะไรบ้าง พานักธุรกิจไปกี่คน เจรจาความเมืองในเรื่องสำคัญมากมาย ผมไม่ทราบว่าคนเหล่านี้อยู่ที่ไหนเมื่อหลายปีก่อน เวลาที่ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านมีปัญหา มีการปิดด่านชายแดนทั้งพม่าและเขมรจนสินค้าไทยส่งออกไม่ได้ มีการรบกัน ทหารตาย แม่หม้ายเกิดขึ้น ชาวบ้านและนักเรียนวิ่งลงหลุมหลบภัย อดีตผู้นำของเราหลายประเทศเขาไม่เชิญ บทบาทของไทยในเวทีโลกตกต่ำ ผมว่าความเสียหายในปีนั้นมันมหาศาล ยิ่งกว่าค่าเครื่องบินของคณะท่านนายกยิ่งลักษณ์เป็นแน่"
ที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย เขต 2 จังหวัดสกลนคร นายสายัณห์ ชนะเกียรติไพศาล ชมรมคนรักสกลนครและตัวแทนสตรีจังหวัดสกลนครได้เข้าพบนายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย เพื่อยื่นหนังสือและแถลงการณ์ และมอบผ้าถุงฝากถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน
ในแถลงการณ์ระบุว่า ชมรมคนรักสกลนครและตัวแทนสตรีจังหวัดสกลนครไม่พอใจกรณีเมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะผู้นำสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคฝ่ายค้าน ได้กล่าวปราศรัยโจมตีรัฐบาลและดูหมิ่น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ด้วยคำว่า อีโง่ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันทั่วประเทศ ถึงไม่ความเหมาะสมในคำพูด เจตนาให้ร้าย แสดงถึงความสกปรก ไร้ความเป็นสุภาพบุรษ แม้จะไม่ระบุชื่อโดยตรง แต่ก็แสดงถึงวุฒิภาวะที่ต่ำต้อย ใครก็แปลออกว่าสิ่งที่นายอภิสิทธิ์พูดหมายถึงใคร ดังนั้น ในนามตัวแทนทั้งประเทศและตัวแทนชาวจังหวัดสกลนคร มีความคิดเช่นกันว่าการกล่าวถ้อยคำดังกล่าวเป็นการดูถูกเหยียดหยามสตรีผู้เป็นเพศแม่ให้เสื่อมเสีย จึงรวมตัวกันเดินทางมามอบหนังสือและมอบผ้าถุงผ่านตัวแทนรัฐบาลฝากไปถึงนายอภิสิทธิ์ เพื่อเตือนสติให้สำนึกความเป็นคนในการเคารพให้เกียรติเพศตรงข้าม และออกมาขอโทษในสิ่งที่กระทำดังกล่าว พร้อมกับวิงวอนให้ฝ่ายค้านเล่นการเมืองในกติกา เคารพกฎระเบียบในรัฐสภาให้สมกับเป็นพรรคการเมืองที่ก่อตั้งมากว่า 60 ปี ไม่ถอยหลังเข้าคลองเหมือนเช่นทุกวันนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น