ASTVผู้จัดการรายวัน-ปปง.เล็งยึดทรัพย์ "ประชา-อธิลักษณ์" หลังศาลตัดสินโกงซื้อรถและเรือดับเพลิง อัยการสูงสุดยันไม่เสียหน้า หลังศาลมีคำพิพากษา เผย ปปง. มีอำนาจยึดทรัพย์ แฉ "ประชา" รวยหมื่นล้าน ทั้งเงินสด ทั้งหุ้น กทม.ชี้ทั้งรถและเรือดับเพลิงยังเอามาใช้ไม่ได้ ต้องรอศาลโลกตัดสินก่อน ด้านบัวแก้วรู้งาน เมินตามล่าตัว
พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยถึงการยึดทรัพย์สินของนายประชา มาลีนนท์ อดีตรมช.มหาดไทย และพล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ซึ่งถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินลงโทษจำคุก ในคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงพร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย มูลค่า 6,600 ล้านบาท ว่า ก่อนที่จะดำเนินการตามกฎหมายฟอกเงิน ปปง.ต้องขอคัดคำพิพากษาจากศาลฎีกาว่ามีรายละเอียดและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้อย่างไร และมีคำพิพากษาเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ได้จากการทุจริตหรือไม่ หากมีรายละเอียดชัดเจนจะเสนอให้คณะกรรมการธุรกรรม ปปง. พิจารณาเพื่อมีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์ของนายประชาและพล.ต.ต.อธิลักษณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ส่วนจำเลยคนอื่นๆ รวมถึงนายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งเข้าไปเกี่ยวพันในฐานะอดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะถูกดำเนินการทางทรัพย์หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับคำพิพากษา หากศาลตัดสินว่าไม่มีความผิด ก็คงเข้าไปดำเนินการใดๆ ไม่ได้
สำหรับคดีนี้ ไม่ทราบว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ไต่สวนคดีร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ ซึ่งจะเข้าข่ายยึดทรัพย์ได้ ตามมาตรา 79 อย่างกรณีคดีนายรักเกียรติ สุขธนะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ที่ป.ป.ช.มีอำนาจดำเนินการยึดทรัพย์ตามกฎหมาย แต่หากเป็นสำนวนคดีอาญาอย่างเดียว ปปง.จะเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินที่มาจากการกระทำผิด
"คดีทุจริต มีความยุ่งยากที่ไม่ใช่ความผิดในตัวเอง อย่างคดีฆ่าคนตาย หรือคดีฉ้อโกงประชาชน แต่คดีทุจริต ต้องรอให้ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดก่อนจึงจะดำเนินการได้ ซึ่งจากนี้ไป ปปง.จะเร่งประสานกับสถาบันการเงินทุกแห่ง เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินนายประชาและพล.ต.ต.อธิลักษณ์ก่อนเสนอเข้าคณะกรรมการธุรกรรมพิจารณา"พ.ต.อ.สีหนาทกล่าว
ทั้งนี้ นายประชา ถูกตัดสินจำคุก 12 ปี และพล.ต.ต.อธิลักษณ์ 10 ปี ในคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง ของกทม. เมื่อวันที่ 10 ก.ย.2556 ที่ผ่านมา โดยทั้งคู่ได้หนีและไม่ได้มาฟังคำพิพากษาของศาล
***อัยการยืนยัน ปปง. ยึดทรัพย์ได้
ที่ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ นายอรรถพล ใหญ่สว่าง รองอัยการสูงสุด กล่าวว่า กรณีดังกล่าวไม่ใช่การเสียหน้าของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และภายหลังศาลมีพิพากษาแล้ว หาก ปปง. จะดำเนินการอายัดทรัพย์ ก็สามารถทำได้ ซึ่งเป็นไปตามกฏหมายติดตามยึดทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด
**"วัฒนา"โบ้ยฟ้องค่าเสียหายเอากับ"ประชา“
นายวัฒนา เมืองสุข ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากนี้ไปจะนำคำพิพากษาคดีทุจริตรถเรือดับเพลิง กทม. ที่ระบุว่าตนไม่มีความผิดไปแสดงยืนยันกับทาง กทม. ซึ่งเป็นผู้เสียหาย หลังจากที่ได้ดำเนินการเรียกร้องให้ตนต้องจ่ายค่าเสียหาย ส่วนนายประชา ไม่เคยเจอเลย เพราะต่างคนต่างสู้คดีตามวิถีและความเชื่อของตัวเอง และเห็นว่า เมื่อศาลฎีกามีคำตัดสินให้นายประชา มีความผิด กทม. ต้องเบนเข็มไปเรียกร้องค่าเสียหายเอากับกับนายประชาแทน
**เปิดขุมทรัพย์ "ประชา" รวยหมื่นล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากรายงานของ ป.ป.ช. ระบุไว้ว่า นายประชา มีทรัพย์สินตามข้อมูลที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเมื่อครั้งพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรณีพ้นจากตำแหน่งแล้ว 1 ปี เมื่อ 19 ก.ย.2550 โดยมีทรัพย์สินจำนวน 623,983,743.77 บาท หนี้สิน 3,722,094.55 บาท มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 620,261,649.22 บาท
อย่างไรก็ตาม ยังพบว่า นายประชา ได้มีการถือหุ้นในบริษัทต่างๆ เช่น บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท พี.เอ็ม. เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด รวมถึงเป็นกรรมการในบริษัทต่างๆ อีกกว่า 20 บริษัท ซึ่งรวมๆ แล้วนายประชาน่าจะมีทรัพย์สินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
**"มาร์ค"ดีใจ"อภิรักษ์"พ้นข้อหาทุจริต
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในรายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channel ว่า ตนได้โทรศัพท์ไปหานายอภิรักษ์ เพราะเป็นห่วงว่าจะเสียกำลังใจในการทำงาน แต่พอศาลตัดสินออกมา ได้รับความเป็นธรรม ก็ดีใจที่จะทำให้นายอภิรักษ์เดินหน้า ทำงานการเมืองได้อย่างเต็มที่ ไม่มีอะไรมาบั่นทอนกำลังใจ
***ยังเอารถ-เรือดับเพลิงมาใช้ไม่ได้
พ.ต.อ.พิชัย เกรียงวัฒนศิริ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กล่าวว่า กทม.ไม่สามารถดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งกับรถและเรือดับเพลิงที่ส่งมอบมาได้ เนื่องจาก ป.ป.ช.ได้มีคำสั่งชี้มูลความผิดว่ามีการทุจริต จึงไม่สามารถนำออกมาใช้งานได้ การจะนำรถและเรือออกมาใช้ จะต้องให้คณะอนุญาโตตุลาการตัดสินคดีความเรื่องนี้ก่อน เพราะมีการต่อสู้ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา ซึ่งขณะนี้อยู่ในชั้นไต่สวนของคณะอนุญาโตตุลาการ ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ แต่ต่อไป ถ้าจะเอามาใช้ได้ ก็ต้องซ่อมแซมอย่างมาก
**กต.เผยยังไม่ได้รับหนังสือสั่งล่าตัว
นายจักรกฤษณ์ ศรีวลี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การติดตามตัวนายประชา ต้องรอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบคดีทำหนังสือร้องเข้ามา ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มี และเมื่อได้รับหนังสือแล้ว ก็ต้องพิจารณาตามระเบียบ หากไม่ขัดกับระเบียบ จะประสานไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทยในประเทศที่คาดว่าผู้ต้องหาไปอยู่อาศัย โดยขอความร่วมมือกับหน่วยงานของประเทศนั้นๆ ในการติดตามจับกุมตัว ส่วนข้อสงสัยว่านายประชาจะเดินทางออกนอกประเทศไปแล้วนั้น ต้องไปตรวจสอบกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ส่วนหนังสือเดินทาง จะยกเลิกหรือไม่นั้น ต้องรอการร้องขอจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน ทั้งนี้ หนังสือเดินทางของนายประชาจะหมดอายุวันที่ 18 มี.ค.2560
***"เอ็นพาร์ค"ยันไม่กระทบธุรกิจ
นายนคร ลักษณกาญจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทขอไม่แสดงความคิดเห็น เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัวของนายประชา โดยนายประชายังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายหนึ่งในบริษัท (ตามข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 16 พ.ค.2556 ระบุว่า นายประชา ถือ 5,950 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.94%) แต่ยืนยันได้ว่ากรณีที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งแผนการดำเนินงานในอนาคตของบริษัทแน่นอน
พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยถึงการยึดทรัพย์สินของนายประชา มาลีนนท์ อดีตรมช.มหาดไทย และพล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ซึ่งถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินลงโทษจำคุก ในคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงพร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย มูลค่า 6,600 ล้านบาท ว่า ก่อนที่จะดำเนินการตามกฎหมายฟอกเงิน ปปง.ต้องขอคัดคำพิพากษาจากศาลฎีกาว่ามีรายละเอียดและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้อย่างไร และมีคำพิพากษาเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ได้จากการทุจริตหรือไม่ หากมีรายละเอียดชัดเจนจะเสนอให้คณะกรรมการธุรกรรม ปปง. พิจารณาเพื่อมีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์ของนายประชาและพล.ต.ต.อธิลักษณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ส่วนจำเลยคนอื่นๆ รวมถึงนายสมัคร สุนทรเวช ซึ่งเข้าไปเกี่ยวพันในฐานะอดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะถูกดำเนินการทางทรัพย์หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับคำพิพากษา หากศาลตัดสินว่าไม่มีความผิด ก็คงเข้าไปดำเนินการใดๆ ไม่ได้
สำหรับคดีนี้ ไม่ทราบว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ไต่สวนคดีร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ ซึ่งจะเข้าข่ายยึดทรัพย์ได้ ตามมาตรา 79 อย่างกรณีคดีนายรักเกียรติ สุขธนะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ที่ป.ป.ช.มีอำนาจดำเนินการยึดทรัพย์ตามกฎหมาย แต่หากเป็นสำนวนคดีอาญาอย่างเดียว ปปง.จะเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินที่มาจากการกระทำผิด
"คดีทุจริต มีความยุ่งยากที่ไม่ใช่ความผิดในตัวเอง อย่างคดีฆ่าคนตาย หรือคดีฉ้อโกงประชาชน แต่คดีทุจริต ต้องรอให้ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดก่อนจึงจะดำเนินการได้ ซึ่งจากนี้ไป ปปง.จะเร่งประสานกับสถาบันการเงินทุกแห่ง เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินนายประชาและพล.ต.ต.อธิลักษณ์ก่อนเสนอเข้าคณะกรรมการธุรกรรมพิจารณา"พ.ต.อ.สีหนาทกล่าว
ทั้งนี้ นายประชา ถูกตัดสินจำคุก 12 ปี และพล.ต.ต.อธิลักษณ์ 10 ปี ในคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง ของกทม. เมื่อวันที่ 10 ก.ย.2556 ที่ผ่านมา โดยทั้งคู่ได้หนีและไม่ได้มาฟังคำพิพากษาของศาล
***อัยการยืนยัน ปปง. ยึดทรัพย์ได้
ที่ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ นายอรรถพล ใหญ่สว่าง รองอัยการสูงสุด กล่าวว่า กรณีดังกล่าวไม่ใช่การเสียหน้าของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และภายหลังศาลมีพิพากษาแล้ว หาก ปปง. จะดำเนินการอายัดทรัพย์ ก็สามารถทำได้ ซึ่งเป็นไปตามกฏหมายติดตามยึดทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด
**"วัฒนา"โบ้ยฟ้องค่าเสียหายเอากับ"ประชา“
นายวัฒนา เมืองสุข ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากนี้ไปจะนำคำพิพากษาคดีทุจริตรถเรือดับเพลิง กทม. ที่ระบุว่าตนไม่มีความผิดไปแสดงยืนยันกับทาง กทม. ซึ่งเป็นผู้เสียหาย หลังจากที่ได้ดำเนินการเรียกร้องให้ตนต้องจ่ายค่าเสียหาย ส่วนนายประชา ไม่เคยเจอเลย เพราะต่างคนต่างสู้คดีตามวิถีและความเชื่อของตัวเอง และเห็นว่า เมื่อศาลฎีกามีคำตัดสินให้นายประชา มีความผิด กทม. ต้องเบนเข็มไปเรียกร้องค่าเสียหายเอากับกับนายประชาแทน
**เปิดขุมทรัพย์ "ประชา" รวยหมื่นล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากรายงานของ ป.ป.ช. ระบุไว้ว่า นายประชา มีทรัพย์สินตามข้อมูลที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเมื่อครั้งพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรณีพ้นจากตำแหน่งแล้ว 1 ปี เมื่อ 19 ก.ย.2550 โดยมีทรัพย์สินจำนวน 623,983,743.77 บาท หนี้สิน 3,722,094.55 บาท มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 620,261,649.22 บาท
อย่างไรก็ตาม ยังพบว่า นายประชา ได้มีการถือหุ้นในบริษัทต่างๆ เช่น บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท พี.เอ็ม. เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด รวมถึงเป็นกรรมการในบริษัทต่างๆ อีกกว่า 20 บริษัท ซึ่งรวมๆ แล้วนายประชาน่าจะมีทรัพย์สินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
**"มาร์ค"ดีใจ"อภิรักษ์"พ้นข้อหาทุจริต
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในรายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channel ว่า ตนได้โทรศัพท์ไปหานายอภิรักษ์ เพราะเป็นห่วงว่าจะเสียกำลังใจในการทำงาน แต่พอศาลตัดสินออกมา ได้รับความเป็นธรรม ก็ดีใจที่จะทำให้นายอภิรักษ์เดินหน้า ทำงานการเมืองได้อย่างเต็มที่ ไม่มีอะไรมาบั่นทอนกำลังใจ
***ยังเอารถ-เรือดับเพลิงมาใช้ไม่ได้
พ.ต.อ.พิชัย เกรียงวัฒนศิริ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กล่าวว่า กทม.ไม่สามารถดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งกับรถและเรือดับเพลิงที่ส่งมอบมาได้ เนื่องจาก ป.ป.ช.ได้มีคำสั่งชี้มูลความผิดว่ามีการทุจริต จึงไม่สามารถนำออกมาใช้งานได้ การจะนำรถและเรือออกมาใช้ จะต้องให้คณะอนุญาโตตุลาการตัดสินคดีความเรื่องนี้ก่อน เพราะมีการต่อสู้ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา ซึ่งขณะนี้อยู่ในชั้นไต่สวนของคณะอนุญาโตตุลาการ ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ แต่ต่อไป ถ้าจะเอามาใช้ได้ ก็ต้องซ่อมแซมอย่างมาก
**กต.เผยยังไม่ได้รับหนังสือสั่งล่าตัว
นายจักรกฤษณ์ ศรีวลี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การติดตามตัวนายประชา ต้องรอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบคดีทำหนังสือร้องเข้ามา ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มี และเมื่อได้รับหนังสือแล้ว ก็ต้องพิจารณาตามระเบียบ หากไม่ขัดกับระเบียบ จะประสานไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทยในประเทศที่คาดว่าผู้ต้องหาไปอยู่อาศัย โดยขอความร่วมมือกับหน่วยงานของประเทศนั้นๆ ในการติดตามจับกุมตัว ส่วนข้อสงสัยว่านายประชาจะเดินทางออกนอกประเทศไปแล้วนั้น ต้องไปตรวจสอบกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ส่วนหนังสือเดินทาง จะยกเลิกหรือไม่นั้น ต้องรอการร้องขอจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน ทั้งนี้ หนังสือเดินทางของนายประชาจะหมดอายุวันที่ 18 มี.ค.2560
***"เอ็นพาร์ค"ยันไม่กระทบธุรกิจ
นายนคร ลักษณกาญจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทขอไม่แสดงความคิดเห็น เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัวของนายประชา โดยนายประชายังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายหนึ่งในบริษัท (ตามข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 16 พ.ค.2556 ระบุว่า นายประชา ถือ 5,950 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.94%) แต่ยืนยันได้ว่ากรณีที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งแผนการดำเนินงานในอนาคตของบริษัทแน่นอน