00 ผ่านมานับสิบปีที่คดีทุจริตซื้อรถและเรือดับเพลิงมูลค่ากว่า 6,600 ล้านบาทถึงบทสรุป เมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ มีคำตัดสินจำคุก ประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย ข้อหาทุจริตเป็นเวลา 12 ปี และจำคุก 10 ปี พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ในข้อหาเดียวกัน ส่วนคนอื่น เช่น โภคิน พลกุล อดีต รมว.มหาดไทย วัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ และ อภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม. หลักฐานยังไม่เพียงพอให้ยกฟ้อง คดีดังกล่าวได้สะท้อนความจริงแบบเดิมก็คือ หากนักการเมืองทำผิด หรือทุจริต แม้จะถูกศาลสั่งจำคุก ก็ไม่มีผล เพราะคนพวกนี้จะอาศัยเส้นสายหลบเลี่ยงไปได้ เริ่มตั้งแต่โกงแล้วก็จะถูก "ตัดตอนตั้งแต่ต้นน้ำ" คือ ตำรวจไม่จับ ทำสำนวนอ่อน ส่งอัยการสั่งไม่ฟ้อง แต่ถ้าหลุดรอดไปถึงศาล กว่าจะสรุปก็ใช้เวลานับสิบปี "กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้" และในที่สุดก็ลอยนวลไปอยู่ต่างประเทศสบายใจเฉิบ
00 ที่น่าแปลกใจก็คือ คนอย่าง ประชา มาลีนนท์ รู้ดีว่า "โดนแน่" ถึงได้"หนี"ไปตั้งแต่แรก ตั้งแต่ตอนที่ศาลนัดฟังคำพิพากษาตั้งแต่เมื่อเดือนก่อน แต่คำถามก็คือทำไมศาลยังอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศ ทัั้งที่เป็นคดีทุจริต มีบทลงโทษสูง ขณะเดียวกันก็ต้องตั้งคำถามไปถึง ป.ป.ช.ว่า ทำไมถึงได้ทำคดีชักช้านัก ทำไมไม่จัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง แม้จะรู้ดีว่ามีคดีที่ค้างคาอยู่ในป.ป.ช. นับหมื่นคดี แต่หากไม่แยกแยะแจกจ่ายแบ่งออกไปบ้าง บางคดีที่ชาวบ้านเขารออยู่ หรือมีผลต่อการทุจริตงบประมาณอย่าง จำนำข้าว ไม่รู้ว่าจะต้องรอไปอีกกี่ชาติหรือเปล่า เพราะความยุติธรรมที่ล่าช้าก็คือ "ไม่ยุติธรรมนั่นแหละ"
00 อย่างไรก็ยังให้เครดิตกับป.ป.ช.โดยเฉพาะ วิชา มหาคุณ ที่ตัดสินใจเดินหน้าฟ้องคดีเอง ทั้งที่อัยการสูงสุดเคยสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว ซึ่งมันก็หันกลับมา "ตบหน้าอัยการ" อีกครั้ง ถึงความน่าสงสัย ตอกย้ำความเป็นองค์กร "สีเทา"เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมันก็ช่วยไม่ได้ที่ทำให้สังคมเขาสงสัย และที่ผ่านมาอัยการก็มักเข้าไปเป็นกรรมการหรือ"บอร์ด"ในหลายหน่วยงานในลักษณะ"ผลประโยชน์ทับซ้อน" ซึ่งไม่ว่ามองมุมไหนมันก็ไม่เหมาะ แม้ไม่มีข้อห้าม แต่ก็ระดับความเหมาะสม "สปิริต" ก็ต้องมีด้วย และหวังว่าภายใต้ยุคอัยการสูงสุดคนใหม่ อรรถพล ใหญ่สว่าง ที่กำลังจะรับตำแหน่งใหม่ดังกล่าวจะเป็นพึ่ง เป็นที่หวังได้เต็มร้อยนะ
00 วกมาที่นักการเมืองโกง ในความหมายที่เป็น "นักธุรกิจการเมือง" อย่าง ประชา มาลีนนท์ ที่มีธุรกิจมากมาย เป็นหนึ่งในนายทุนให้กับพรรคไทยรักไทย เข้ามาเพื่อหวังใช้ตำแหน่งการเมืองต่อเติมหาประโยชน์เพิ่มความร่ำรวยให้กับตัวเอง มีทั้งสื่อทีวี อย่าง "ช่อง3" อยู่ในมือ มีธุรกิจสารพัด ซึ่งก็น่าสนใจว่า เขารู้ว่าคำตัดสินจำคุกล่วงหน้าใช่หรือเปล่า ถึงได้เจตนาหนีศาลมานานหลายเดือนแล้ว คนโกงพวกนี้มันก็มา "ครอกเดียวกัน" กับ ทักษิณ ชินวัตร วัฒนา อัศวเหม ที่โกง แล้วศาลตัดสินจำคุก แต่จับมาลงโทษขังคุกไม่ได้ !!
00 มันก็น่าสมเพชเวทนาปนทุเรศ กับข้อกล่าวหาของพวกพรรคเพื่อไทย กรณีที่กล่าวหาว่าผู้ตรวจการแผ่นดินกลั่นแกล้ง ทักษิณ ชินวัตร ที่จี้ให้ "อ้ายปึ้ง" สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ รีบชี้แจงเหตุผลเรื่องการมอบหนังสือเดินทางให้ ทักษิณ ทั้งที่เป็นบุคคลต้องห้ามอันเนื่องมาจากเป็นนักโทษหนีคดี เพราะคนที่น่าจะถูกประณามก็คือ รมว.ต่างประเทศ นั่นแหละ ว่าทำไมถึงได้ทำทุเรศแบบนี้ มากกว่า พฤติกรรมไม่ต่างจาก "ขี้ข้าโจร" นอกจากนี้ยังตั้งคำถามไปถึง ผบ.ตร. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ว่าทำไมถึงไม่ถอดยศ พันตำรวจโท ออกจากบ่าทักษิณ เสียที ทั้งที่เรื่องผ่านมาตั้งนานแล้ว นี่แหละเขาเรียกว่า "ไร้มาตรฐาน" นะเฟ้ย !!
00 ก็น่าเห็นใจสำหรับ บรรหาร ศิลปอาชา ที่ต้องมาทำหน้าที่ "ผู้ประสานงาน" ให้กับ รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพื่อหาทางปฏิรูปการเมืองตามแบบฉบับของ "นักการเมือง" ในเมื่อดั้นด้นบากหน้ามาสนทนากับ สนธิ ลิ้มทองกุล และ จำลอง ศรีเมือง ถึงบ้านพระอาทิตย์ เมื่อวานนี้ (11 กย.) เพื่อรับฟังความเห็น มาถึงขั้นนี้ก็ขอเอาใจช่วยว่าให้เกิด "เป็นมรรคเป็นผล" เกิดประโยชน์กับชาวบ้านส่วนใหญ่ ไม่ใช่นักการเมืองส่วนใหญ่ แต่การปฏิรูปฯ จะสำเร็จได้ต้องกัน "นักการเมือง" ออกไป เพราะปัญหามาจากคนพวกนี้เพียง "หยิบมือเดียว" ที่เห็นแก่ตัว มีแต่ภาคประชาชนเท่านั้นต้องเป็นตัวกำหนด และตื่นตัวควบคุมนักการเมืองให้อยู่ในกรอบ อย่างไรก็ดีไม่อยากพูดมากให้เสียน้ำใจ แต่เอาเป็นว่า ขอให้โชคดีก็แล้วกัน ทั้งที่รู้ล่วงหน้าแล้วว่ามันเป็น "แค่ปาหี่" ของ ทักษิณ ชินวัตร ที่ต้องการซื้อเวลาให้กับรัฐบาล "หุ่นเชิด" ของตัวเองเท่านั้น ไม่อยากจะบอกว่า "หลอกใช้คนแก่" อย่างบรรหาร ให้เหนื่อยเปล่า เพราะยิ่งปฏิรูปฯดีเท่าไร ก็ยิ่งกระทบ ทักษิณ เขาก็ฉีกทิ้งอยู่ดี !!
00 ที่น่าแปลกใจก็คือ คนอย่าง ประชา มาลีนนท์ รู้ดีว่า "โดนแน่" ถึงได้"หนี"ไปตั้งแต่แรก ตั้งแต่ตอนที่ศาลนัดฟังคำพิพากษาตั้งแต่เมื่อเดือนก่อน แต่คำถามก็คือทำไมศาลยังอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศ ทัั้งที่เป็นคดีทุจริต มีบทลงโทษสูง ขณะเดียวกันก็ต้องตั้งคำถามไปถึง ป.ป.ช.ว่า ทำไมถึงได้ทำคดีชักช้านัก ทำไมไม่จัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง แม้จะรู้ดีว่ามีคดีที่ค้างคาอยู่ในป.ป.ช. นับหมื่นคดี แต่หากไม่แยกแยะแจกจ่ายแบ่งออกไปบ้าง บางคดีที่ชาวบ้านเขารออยู่ หรือมีผลต่อการทุจริตงบประมาณอย่าง จำนำข้าว ไม่รู้ว่าจะต้องรอไปอีกกี่ชาติหรือเปล่า เพราะความยุติธรรมที่ล่าช้าก็คือ "ไม่ยุติธรรมนั่นแหละ"
00 อย่างไรก็ยังให้เครดิตกับป.ป.ช.โดยเฉพาะ วิชา มหาคุณ ที่ตัดสินใจเดินหน้าฟ้องคดีเอง ทั้งที่อัยการสูงสุดเคยสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว ซึ่งมันก็หันกลับมา "ตบหน้าอัยการ" อีกครั้ง ถึงความน่าสงสัย ตอกย้ำความเป็นองค์กร "สีเทา"เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมันก็ช่วยไม่ได้ที่ทำให้สังคมเขาสงสัย และที่ผ่านมาอัยการก็มักเข้าไปเป็นกรรมการหรือ"บอร์ด"ในหลายหน่วยงานในลักษณะ"ผลประโยชน์ทับซ้อน" ซึ่งไม่ว่ามองมุมไหนมันก็ไม่เหมาะ แม้ไม่มีข้อห้าม แต่ก็ระดับความเหมาะสม "สปิริต" ก็ต้องมีด้วย และหวังว่าภายใต้ยุคอัยการสูงสุดคนใหม่ อรรถพล ใหญ่สว่าง ที่กำลังจะรับตำแหน่งใหม่ดังกล่าวจะเป็นพึ่ง เป็นที่หวังได้เต็มร้อยนะ
00 วกมาที่นักการเมืองโกง ในความหมายที่เป็น "นักธุรกิจการเมือง" อย่าง ประชา มาลีนนท์ ที่มีธุรกิจมากมาย เป็นหนึ่งในนายทุนให้กับพรรคไทยรักไทย เข้ามาเพื่อหวังใช้ตำแหน่งการเมืองต่อเติมหาประโยชน์เพิ่มความร่ำรวยให้กับตัวเอง มีทั้งสื่อทีวี อย่าง "ช่อง3" อยู่ในมือ มีธุรกิจสารพัด ซึ่งก็น่าสนใจว่า เขารู้ว่าคำตัดสินจำคุกล่วงหน้าใช่หรือเปล่า ถึงได้เจตนาหนีศาลมานานหลายเดือนแล้ว คนโกงพวกนี้มันก็มา "ครอกเดียวกัน" กับ ทักษิณ ชินวัตร วัฒนา อัศวเหม ที่โกง แล้วศาลตัดสินจำคุก แต่จับมาลงโทษขังคุกไม่ได้ !!
00 มันก็น่าสมเพชเวทนาปนทุเรศ กับข้อกล่าวหาของพวกพรรคเพื่อไทย กรณีที่กล่าวหาว่าผู้ตรวจการแผ่นดินกลั่นแกล้ง ทักษิณ ชินวัตร ที่จี้ให้ "อ้ายปึ้ง" สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ รีบชี้แจงเหตุผลเรื่องการมอบหนังสือเดินทางให้ ทักษิณ ทั้งที่เป็นบุคคลต้องห้ามอันเนื่องมาจากเป็นนักโทษหนีคดี เพราะคนที่น่าจะถูกประณามก็คือ รมว.ต่างประเทศ นั่นแหละ ว่าทำไมถึงได้ทำทุเรศแบบนี้ มากกว่า พฤติกรรมไม่ต่างจาก "ขี้ข้าโจร" นอกจากนี้ยังตั้งคำถามไปถึง ผบ.ตร. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ว่าทำไมถึงไม่ถอดยศ พันตำรวจโท ออกจากบ่าทักษิณ เสียที ทั้งที่เรื่องผ่านมาตั้งนานแล้ว นี่แหละเขาเรียกว่า "ไร้มาตรฐาน" นะเฟ้ย !!
00 ก็น่าเห็นใจสำหรับ บรรหาร ศิลปอาชา ที่ต้องมาทำหน้าที่ "ผู้ประสานงาน" ให้กับ รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพื่อหาทางปฏิรูปการเมืองตามแบบฉบับของ "นักการเมือง" ในเมื่อดั้นด้นบากหน้ามาสนทนากับ สนธิ ลิ้มทองกุล และ จำลอง ศรีเมือง ถึงบ้านพระอาทิตย์ เมื่อวานนี้ (11 กย.) เพื่อรับฟังความเห็น มาถึงขั้นนี้ก็ขอเอาใจช่วยว่าให้เกิด "เป็นมรรคเป็นผล" เกิดประโยชน์กับชาวบ้านส่วนใหญ่ ไม่ใช่นักการเมืองส่วนใหญ่ แต่การปฏิรูปฯ จะสำเร็จได้ต้องกัน "นักการเมือง" ออกไป เพราะปัญหามาจากคนพวกนี้เพียง "หยิบมือเดียว" ที่เห็นแก่ตัว มีแต่ภาคประชาชนเท่านั้นต้องเป็นตัวกำหนด และตื่นตัวควบคุมนักการเมืองให้อยู่ในกรอบ อย่างไรก็ดีไม่อยากพูดมากให้เสียน้ำใจ แต่เอาเป็นว่า ขอให้โชคดีก็แล้วกัน ทั้งที่รู้ล่วงหน้าแล้วว่ามันเป็น "แค่ปาหี่" ของ ทักษิณ ชินวัตร ที่ต้องการซื้อเวลาให้กับรัฐบาล "หุ่นเชิด" ของตัวเองเท่านั้น ไม่อยากจะบอกว่า "หลอกใช้คนแก่" อย่างบรรหาร ให้เหนื่อยเปล่า เพราะยิ่งปฏิรูปฯดีเท่าไร ก็ยิ่งกระทบ ทักษิณ เขาก็ฉีกทิ้งอยู่ดี !!