ประธานวิปรัฐบาล เตรียมยื่นตีความร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังผ่านวาระ 2 ระบุขัดมาตรา 68 ชี้ไม่เป็นกลาง มีผลประโยชน์ทับซ้อน รับใช้การเมือง พร้อมขอคุ้มครองก่อนโหวตวาระ 3
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ.... เกี่ยวกับที่มาของวุฒิสภา วาระ 2 ว่า ตนไม่สามารถตอบได้ว่าการอภิปรายจะจบในวันนี้หรือไม่ แต่หากไม่มีการปิดอภิปราย หรือสกัดการอภิปรายของผู้สงวนคำอภิปรายการประชุมก็จะราบรื่น ซึ่งในมาตรา 10 ก็มีผู้ประสงค์อภิปราย 80 คน ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ 20 คน ซึ่งตนยืนยันว่าฝ่ายค้านไม่ได้พยายามยืดเยื้อการอภิปรายแต่อย่างใด ทั้งนี้แม้ว่ารัฐบาลพยายามเร่งให้จบ แต่ทั้งหมดต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อบังคับ และกระบวนการขั้นตอนตามรัฐธรรมนูญ หากทำผิดข้อบังคับก็ถือว่าผิดรัฐธรรมนูญด้วย ซึ่งตนมองว่าประธานตั้งเงื่อนไขเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดปัญหาโดยไม่จำเป็น อย่างกรณีที่มีการนัดประชุมในห้องประชุม เวลา 09.30 น.ทั้งที่มีหนังสือนัดประชุมในเวลา 10.00 น.ก็จะทำให้เกิดคำถามว่าจะชอบโดยข้อบังคับหรือไม่ เพราะการนัดวันประชุมต้องนัดล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 1 วัน ซึ่งประธานรีบร้อนลุกลี้ลุกลนจนสร้างปัญหาให้กับการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญไปเรื่อยๆ
ส่วนที่ นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภาตัดพ้อว่า ทำหน้าที่ประธานการประชุมอย่างยากลำบากนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า หากทำหน้าที่ตรงไปตรงมาก็ไม่ยาก เพราะปัญหาคือทำอะไรไม่ตรงไปตรงมา พยายามรวบรัดให้การแก้รัฐธรรมนูญแล้วเสร็จก่อนเดือน มี.ค.ซึ่ง นายนิคม อาจมีความเข้าใจส่วนตัวว่าทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว แต่ต้องเคารพความเห็นฝ่ายอื่นด้วยว่าท่านไม่ได้ทำหน้าที่ตรงไปตรงมา ไม่เป็นกลาง พยายามเร่งรัดการพิจารณา และมีผลประโยชน์ทับซ้อนด้วยการร่วมลงชื่อในญัตติแก้รัฐธรรมนูญ และยังทำหน้าที่ประธานในการประชุม นอกจากนั้นยังมพฤติกรรมรับใช้การเมืองอีกด้วย
“หลังจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่มาของ ส.ว.ผ่านวาระ 2 ไปแล้ว ฝ่ายค้านจะไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่าการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ถือว่าผิดรัฐธรรมนูญตามมาตรา 68 หรือไม่ ในข้อหาล้มล้างการปกครอง และข้อหาแสวงหาอำนาจโดยวิถีทางที่ไม่ชอบ โดยรัฐธรรมนูญปัจจุบัน พร้อมทั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญคุ้มครองชั่วคราว ก่อนจะมีการลงมติวาระ 3” นายจุรินทร์ กล่าว